ตอนสมัยเรียนเนติ
ท่านอาจารย์ เคยบรรยายและเล่าสู่กันให้ฟังว่า
มีคดีหนึ่ง โจทก์ฟ้องว่าจำเลยต่อศาลอาญารัชดาว่ากระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และฆ่าโดยวิธีทรมาน
อันเป็นความผิดที่มีอัตราโทษประหารชีวิต
ศาลอาญารัชดา มีคำพิพากษาประหารชีวิตจำเลย จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษา ยืน ประหารชีวิตจำเลย จำเลยฎีกา
ปรากฎว่าศาลฎีกายกฟ้องจำเลยและปล่อยตัวไป
เหตุที่ยกฟ้องเพราะพยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดจริงหรือไม่
ซึ่งศาลจะต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้น ให้เป็นคุณแก่จำเลย และยกฟ้องจำเลยไป
แต่ข้อเท็จจริงปรากฎว่าจำเลยนั้นเป็นผู้วางแผนและลงมือฆ่าผู้ตายจริง
การอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกานั้น กฎหมายให้ศาลชั้นต้นผู้พิจารณาคดีนี้เป็นผู้อ่านให้จำเลยฟัง
ในคดีนี้ก็คือศาลอาญารัชดา ซึ่งหากใครเคยไปจะทราบว่า บันไดสูงมากๆ
เมื่อศาลชั้นต้นอ่านเสร็จ ต้องปล่อยตัวจำเลยทันที เนื่องจากคดีถึงที่สุด
ด้วยความดีใจ เดินลงบันไดหน้าศาลอาญา พลาดสะดุด หัวพาดพื้นอย่างแรง และไถลลงมากองอยู่ด้านล่าง ตาย
ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงกุสโลบาย ของท่านอาจารย์
แต่ท่านทิ้งท้าย ไว้ว่า " เหนือกว่ากฎหมาย ยังมีกฎแห่งกรรม"
และผมก็เชื่อตามนั้นครับ