เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 15, 2024, 03:22:17 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: NGO มาเลย์เดินขบวนบอยคอตสินค้าไทย  (อ่าน 3879 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 9 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #15 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2005, 11:15:27 PM »

ปิดด่านทางเข้าออกไปเลย ไม่ติดต่อซื้อขายไปเลยได้ไหมถามหน่อย ไม่ต้องให้มันเข้ามาแล้ว จะอยู่ก็อยู่จะไปก็ไปเลย

แกนนำมาแย๊วววว ลุยเลยมั๊ยเพ่ Grin Grin Grin

ไม่ซื้อไม่สนไม่มองของมาเลย์ย์ย์
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
ต่อครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 216
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4088


(** ^0^ **)


« ตอบ #16 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2005, 11:18:16 PM »

เลิกใช้ของมันมั่งครับ ไม่ยาก...ปิโตรนาสอย่าไปเติม บอกต่อๆกัน
เฮ๊ยๆๆปิโตรนาสอย่าไปใช้มันนะ (บอกต่อละครับ) Grin Grin Grin Grin

อ่า...เอ่อ...ขอบคุณนะนายอ้น...ฮ่วยยย
หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

________________________________________

เพื่อชาติ<>ราชบัลลังค์.....ร่วมปกป้องสถาบัน.....
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #17 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2005, 11:30:48 PM »

ไม่นิยมของมาเลย์มานานแล้วคับ...

ปั๊มปิโตรนาสก็ไม่เคยเติมคับ...
บันทึกการเข้า
tim1911
Hero Member
*****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1288


« ตอบ #18 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2005, 11:35:15 PM »

เลิกใช้ของมันมั่งครับ ไม่ยาก...ปิโตรนาสอย่าไปเติม บอกต่อๆกัน

บอกลา..ปิโตรนาสอส...ถังสุดท้ายมาเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว ปัจจุบันเติม ปตท.
แต่ก็นะ ปั้มคนไทย เด็กปั้มดูคล้ายๆ เกียจคร้านยังไงก็ไม่รู้...ความนิยมไทยเลยแผ่วไปอีกหน่อย
บันทึกการเข้า

Mr_Watt
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2005, 11:38:53 PM »

เสิอเหลืองนี่แสบไม่เลิก
พยายามสร้างภาพให้เราดูน่ากลัว เพื่อนอย่างนี้คบไม่ได้ แถมต้องสั่งสอนให้หลาบจำ Angry
บันทึกการเข้า
ek_suwat
ทำซะ ! ก่อนที่จะไม่ได้ทำ.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1360



« ตอบ #20 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2005, 11:39:03 PM »

................อย่าซื้อของที่มาจากมาเลเซีย...อืม! มันมีเยอะนะพี่ที่ทำในมาเลเซีย...............................
บันทึกการเข้า

บุคคลที่มีปืนหลายกระบอก ไม่ได้หมายความว่าเป็นบุคคลที่ชอบความรุนแรง
☆ *~PLOY~* ☆
Hero Member
*****

คะแนน 62
ออฟไลน์

กระทู้: 4190



« ตอบ #21 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2005, 11:56:56 PM »

หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ตาต่อตาฟันต่อฟัน  Angry Angry Angry
บันทึกการเข้า

[URL=h
SigPro-รักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 177
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3308



« ตอบ #22 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2005, 04:02:54 AM »

  NGO  ของเขาเดินขบวนประท้วงเรา   แล้ว NGO  ของเราล่ะ.....ทำอะไรบ้าง ?? Angry
บันทึกการเข้า

แจกโคมใส ใว้ให้ครอบแทนกะลา
เบื่อเสียงหมา หาว่ากูไม่ใช่ไทย
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2005, 04:17:12 AM »

เลิกใช้ของมันมั่งครับ ไม่ยาก...ปิโตรนาสอย่าไปเติม บอกต่อๆกัน
บอกลา..ปิโตรนาสอส...ถังสุดท้ายมาเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว ปัจจุบันเติม ปตท.
แต่ก็นะ ปั้มคนไทย เด็กปั้มดูคล้ายๆ เกียจคร้านยังไงก็ไม่รู้...ความนิยมไทยเลยแผ่วไปอีกหน่อย

 :Smiley ไม่ลองเข้าบางจากดูล่ะครับ ของคนไทยเหมือนกัน Grin
 Undecided ผมรู้สึกไม่ถูกชะตากับสินค้าจากมาเลเซียมานานแล้วครับ แม้แต่ CPU คอมพิวเตอร์ มีความรู้สึกว่าที่ผลิตจากมาเลเซียจะคุณภาพสู้ที่อื่นไม่ได้ ส่วนปิโตรนาส ไม่เคยมีความคิดจะเข้าไปเลยครับ นอกจากแวะไปฉี่ครั้งนึง 555 Grin
บันทึกการเข้า

noomrider
Hero Member
*****

คะแนน 74
ออฟไลน์

กระทู้: 4574


ชีวิตไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไป


« ตอบ #24 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2005, 05:15:43 AM »

NGO ของเขาเดินขบวนประท้วงเรา แล้ว NGO ของเราล่ะ.....ทำอะไรบ้าง ?? Angry

เดินขบวนสนันสนุนพวกมาเลย์ไงครับ  แสบรักชาติปานจะกลืนกินพวกสมองวุ้นกะทิ เวง....
บันทึกการเข้า



อย่านอนตื่นสาย   อย่าอายทำกิน   อย่าหมิ่นเงินน้อย  อย่าคอยวาสนา
Wrangler 1
Hero Member
*****

คะแนน 284
ออฟไลน์

กระทู้: 2641



« ตอบ #25 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2005, 05:35:07 AM »

........หยุด(ลักลอบ)ส่งข้าวสารไปขาย กับหยุดนำเข้าไม้แปรรูปสักพัก รัฐตอนเหนือของมาเลย์ที่ติด 4-5 จังหวัดใต้.....คงไม่สบายนัก :Smiley :Smiley Lips Sealed Lips Sealed Wink Wink
บันทึกการเข้า

ยังไม่พ้นขีดอันตราย
http://www.youtube.com/watch?v=D2MG3aJQ98k
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #26 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2005, 07:47:49 AM »

รัฐบาลน่าจะเปิดให้คนจีนมาเลย สามารถโอนสัญชาติมาเป็นคนไทย เพื่อให้มาช่วย
พัฒนาภาคใต้  ส่วนพวกคนไทยมุสลิมที่ฝักใฝ่มาเลย์เชิญไปเลยครับ อยู่ไปก็ทำความ
เดือดร้อนให้แผ่นดิน Angry
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #27 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2005, 09:03:17 AM »

ยางพารา ปัจจุบันเปลียนเป็น ปาล์มน้ำมัน เพราะ การเก็บปาล์มน้ำมันใช้แรงงานน้อยกว่าการกรีดยาง ถึงแม้ว่า ปาล์มน้ำมันจะให้ผลผลิตปีละครั้งก็ตาม

เอ้ย......ปาล์มน้ำมัน ปกติ เก็บผลผลิต3ครั้ง ต่อ2เดือนครับ หรือ1ครั้งต่อ1เดือนครับ......

แต่ที่มาเลย์เซียต้องการเปลี่ยนจากยางพาราเป็นปาล์ม เพราะ โดยเนื้อที่เกษตรของเขาน้อยกว่าประเทศอื่นๆ
ที่ทำยางพาราเหมือนกัน(ดูแผนที่ประเทศมาเลเซีย เทียบกะภาคใต้ของไทยก็พอ อันไหนใหญ่กว่า)
เค้าเลยไม่สามารถกำหนดราคาในตลาดโลกได้ อย่างจริงๆ
เปลี่ยนมาเป็นปาล์ม เพราะ ตอนนั้นตลาดน้ำมันปาล์ม ยังไม่มีประเทศไหน คุมราคาได้ คือยังมีคนปลูกน้อย
เค้าเลยทำนำไปก่อนเพื่อต้องการกำหนดราคาในตลาดโลกได้......

ทุกวันนี้ ถ้านึกย้อนไปในอดีตอันใกล้ ตอนที่นายกของเราตั้งใจให้ประเทศภูมิภาค asian
เป็นกลุ่มผู้ผลิตที่กำหนดราคาผลผลิตเองได้ รวมตัวกันได้เหมือนeu แต่ล้มเหลวไปเพราะใคร คงเดาออก
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #28 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2005, 09:13:38 AM »

อย่างที่เคยพูดไว้แหละครับ สิ่งที่นำเสนอผ่านทางสือเรา กะสือเขา น่ะมันคนละมุม
เราอยู่ที่นี่ดูและรู้แต่ว่า ถูกกระทำ โดยไม่ตอบโต้ แต่ทางเขารวมถึงชาวบ้านในพื้นที่เขามองและคิดคนละด้าน
ใครถูก ใครผิด ยังตัดสินใจไม่ได้  การบอยคอตสินค้าเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามชายแดนที่จะหนักขึ้นไปเรื่อยๆ
ถ้าเรามองย้อนเข้ามาในบ้านเราเอง  เราอาจต้องไล่คนบางคนออกไปเพื่อทำให้สถานการณ์คลี่คลาย จะดีกว่าหรือไม่?
บันทึกการเข้า

                
buey76
บึ๋ย!!!
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 6
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 161


ชมรมส่งเสริมและพิทักษ์สิทธิการใช้อาวุธปืนของประชาช


« ตอบ #29 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2005, 09:14:36 AM »

ลองอ่านดูครับ Angry Angry ตกใจ

........................................................... ...............................

ในพลันที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมที่หมู่บ้านตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ก็ปรากฏข่าวจากทางด้านมาเลเซียว่ากองทัพมาเลเซียได้เคลื่อนกำลังทหารจำนวนสามกองพันมาประชิดที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยอ้างเหตุผลว่าเพื่อป้องกันสกัดกั้นไม่ให้คนไทยข้ามแดนไปมาเลเซียโดยผิดกฎหมาย

สื่อมวลชนไทยก็รายงานข่าวไปตามนี้คือเป็นการเคลื่อนกำลังมาเพื่อป้องกันคนไทยข้ามแดนไปมาเลเซียโดยผิดกฎหมาย

ความหมายมันอยู่เพียงเท่านั้นจริง ๆ หรือ? ความจริงไม่อยากกล่าวถึงเรื่องนี้เพราะมีความละเอียดอ่อนอยู่มากและเกี่ยวกับความสัมพันธ์ต่างประเทศ แต่เมื่อพิเคราะห์แล้วก็เห็นว่าจำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงเรื่องนี้สักครั้งหนึ่ง มิฉะนั้นเพื่อนร่วมชาติของเราก็จะมองข้ามหรือลืมมองเรื่องสำคัญที่อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อบ้านเมือง

คงจะจำกันได้ว่าหลังเกิดกรณีกรือเซะและตากใบแล้ว มาเลเซียได้เคลื่อนกำลังทหารขึ้นมาที่ชายแดนหลายระลอก ครั้งละสองกองพันบ้าง สามกองพันบ้าง และหลาย ๆ กองพันในแนวหลังที่พอเห็นได้ว่าพร้อมจะเป็นกำลังหนุนกำลังส่วนหน้าที่วางกำลังอยู่ตลอดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย

ไม่เคยปรากฏข่าวว่ามีการถอนกำลังทหารเหล่านั้นออกไปจากชายแดนไทย และมาบัดนี้เคลื่อนกำลังเพิ่มเติมเข้ามาอีกสามกองพันพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัย หากประมาณคร่าว ๆ ถึงแสนยานุภาพที่เคลื่อนขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วก็เห็นจะมีกำลังร่วมสองกองพลแล้ว

ไม่รวมถึงแสนยานุภาพทางนาวีที่มาเลเซียเตรียมกองเรือดำน้ำเพ่นพ่านอยู่ในทะเลหลวง ซึ่งใช้ระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถมาถึงแนวคลองกระแถวสงขลาและไม่ช้าไม่นานก็ถึงแนวคลองกระชั้นบน แม้กระทั่งถึงพังงาด้วยซ้ำไป

ไม่รวมถึงแสนยานุภาพทางอากาศที่ ณ วันนี้ใครรู้ดีช่วยบอกทีเถิดว่าหากเปรียบเทียบแสนยานุภาพทางอากาศกันแล้วระหว่างไทยกับมาเลเซียจะเป็นประการใด?

กองกำลังมากมายขนาดนี้ มันเป็นไปเพียงเพื่อสกัดกั้นคนไทยไม่ให้ข้ามแดนเท่านั้นหรือ? ตรงนี้แหละขอให้ช่วยกันคิดให้ดี

แล้วแสนยานุภาพของเราในพื้นที่นั้นละมีเท่าใด? รับมือเขาไหวหรือ?

และนี่ไม่ใช่หรือที่เป็นพลังแอบแฝงแล้วหนุนช่วยให้ปฏิบัติการก่อความไม่สงบยืดเยื้อรุนแรงอยู่จนถึงทุกวันนี้ กระทั่งบางหน่วยงานและบุคคลสำคัญบางคนของมาเลเซียถึงกับประกาศว่าจะต้องแยกดินแดนสามจังหวัดออกเป็นรัฐอิสระหรือเป็นเขตปกครองพิเศษ แล้วทำให้รัฐบาลไทยต้องกระอักกระอ่วนใจตลอดมา!

ก่อนอื่นก็ต้องขอย้ำว่าเราคัดค้านสงคราม เราต้องการสันติ เราต้องการสันติภาพ ต้องการความสงบสุข การกระทำใด ๆ ไม่ว่าของใครและของชาติใดที่เกื้อหนุนต่อการเกิดสงคราม ทำลายสันติ ขัดขวางสันติภาพ และสร้างความทุกข์ยากขึ้นแก่มนุษยชาตินั้นล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชาชาติไทยและประชาชาติใด ๆ ในภูมิภาคนี้เลย

วันก่อนได้แย้มพรายไว้บ้างแล้วว่าเมื่อราว 2 เดือนก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีของประเทศเพื่อนบ้านของเราได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยื่นต่อสภาผู้นำศาสนาอิสลามโลกที่กรุงเตหะราน กล่าวหาประเทศไทยอย่างหน้าด้าน ๆ ว่ากีดกันข่มเหงรังแกมุสลิม นั่นก็เพื่อบอกสัญญาณให้เพื่อนร่วมชาติได้รู้ว่ามีอันตรายซ่อนตัวอยู่ ควรที่พี่น้องร่วมชาติทุกคนจะตื่นตัวขึ้นมาเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจไม่คาดคิด

ทั้งยังได้เตือนด้วยว่าควรที่นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารเรื่องนี้ให้กระจ่าง เพราะคนที่รู้เรื่องนี้ในประเทศไทยของเราก็มีอยู่

ต้องบอกอีกว่าบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซียนั้นมีคนสองสัญชาติอยู่เป็นจำนวนร่วม 300,000 คน และเป็นไปในทางมากกว่า 300,000 คน ส่วนจะเป็นจำนวนแน่นอนเท่าใดนั้น ถึงวันนี้ย่อมเป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยจะต้องทำความกระจ่างและให้เกิดความชัดเจนเพื่อที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงจะได้ใช้เป็นฐานข้อมูลในการปฏิบัติการ

นายกรัฐมนตรีได้พูดถึงคนสองสัญชาติเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2548 ซึ่งค่อนข้างละเอียดอ่อนมาก แต่ก็นับว่าเป็นการเสนอประเด็นที่ถูกเป้าเข้าจุด และขออย่าให้เป็นการพูดเลื่อน ๆ ลอย ๆ เพราะนี่คือปมเงื่อนสำคัญที่เกี่ยวพันกับชะตากรรมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

ตามกฎหมายสัญชาติประเทศไทยถือหลักสองหลักคือหลักดินแดนและหลักสายเลือด นั่นคือใครเกิดในดินแดนไทยและมีพ่อหรือแม่เป็นไทยก็จะได้สัญชาติไทย แต่ขณะเดียวกันหากละสัญชาติไทยไปถือสัญชาติอื่นหรือไปถือสัญชาติอื่นโดยไม่สละสัญชาติไทยก็เป็นอันว่าสิ้นสัญชาติไทยด้วย

ทว่านั่นเป็นหลักกฎหมาย แต่ในการปฏิบัติกลับไม่มีการปฏิบัติกันเลย จึงเป็นเหตุให้คนในพื้นที่นั้นนอกจากถือสัญชาติไทยแล้วยังไปถือสัญชาติมาเลเซีย โดยได้รับการเอื้อเฟื้อเป็นพิเศษให้ถือสัญชาติมาเลเซียด้วย หากจะว่ากันตามกฎหมายคนเหล่านี้เป็นอันสิ้นสัญชาติไทยแล้ว

การที่สิ้นสัญชาติไทยเพราะถือสัญชาติใหม่แล้วฉวยโอกาสข้ามแดนไปมาเลเซียแล้วบอกว่าเป็นคนไทยอพยพหลบภัยจึงไม่เป็นธรรมกับประเทศไทย และเป็นเรื่องที่หน่วยงานด้านประชาสัมพันธ์ของรัฐพึงชี้แจงทำความเข้าใจให้ชัดเจนทั้งภายในประเทศและต่อประชาคมโลก

มิฉะนั้นก็จะมีบางชาติฉวยเป็นโอกาสกระหน่ำซ้ำตีประเทศไทยเพื่อดึงสหประชาชาติให้เข้ามาจัดการปัญหาภายในของประเทศไทย

คนที่สิ้นสัญชาติไทยไปแล้วแต่ยังแอบอิงว่าเป็นคนไทย หากยังมีสิทธิ์ลงประชามติกันในวันข้างหน้าก็พอจะคิดได้แล้วว่าอะไรจะเกิดกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

แม้ว่าโอกาสจะเกิดขึ้นได้น้อยเพราะเรายังมีมิตรประเทศในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่เข้าใจและยืนข้างประเทศไทย แต่ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ เรื่องนี้จึงต้องป้องกันเอาไว้แต่เนิ่น ๆ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม รวมทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ ควรจะได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นพิจารณาอย่างจริงจัง

ที่มันน่าเจ็บใจก็คือมีการสวมรอยเอาคนชาติอื่นทำทีมาเป็นคนไทย ทำอะไร ๆ ลงไปในพื้นที่นั้นแล้วบอกว่าเป็นการกระทำของคนไทย ทำให้คนไทยฆ่ากันเอง

กลับมาที่กองกำลังทางบกของมาเลเซียตามแนวชายแดนที่ประมาณการว่ามีจำนวนร่วมสองกองพลนั้นมันหายไปไหนเป็นส่วนใหญ่? เพราะถ้าหากไม่ถอยออกไปก่อน จำนวนที่เคยเคลื่อนขึ้นมานั้นก็พอเพียงอยู่แล้วถ้าหากจะมีบทบาทเพียงสกัดคนไทยข้ามแดน เว้นเสียแต่ว่ากำลังพลเหล่านั้นได้สลายตัวไปแล้วแปรสภาพเคลื่อนย้ายเข้ามาในแดนไทย ทำตัวเป็นคนสองสัญชาติ

แปลงตัวเป็นคนสองสัญชาติทดแทนจำนวนคนที่ย้ายถิ่นฐาน ซึ่งปรากฏตามข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยว่ามีจำนวนถึงเดือนละประมาณ 15,000 คน

คนสองสัญชาติแปลงกายที่เนื้อแท้เป็นทหารของฝ่ายตรงกันข้ามย่อมมีศักยภาพที่จะทำการสงครามทั้งนอกรูปแบบและทำสงครามแบบแผนได้โดยไม่ได้ด้อยไปกว่าทหารของไทยเลย

หรือว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอยเหมือนเมื่อครั้งที่ทหารเวียดนามสวมรอยเป็นทหารลาวแล้วเปิดศึกร่มเกล้ากับประเทศไทยในอดีต!

ดังนั้นการที่กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทวีความรุนแรงมากขึ้น ขยายตัวมากขึ้น และยืดเยื้อมากขึ้น จึงแยกไม่ออกกับการเปลี่ยนโฉมแปลงร่างดังกล่าว มันเป็นปรากฏการณ์สวมรอยและฉวยโอกาสหลังจากสถานการณ์พลิกผันจากปัญหาผู้มีอิทธิพลอำนาจมืดมาเป็นปัญหาแบ่งแยกดินแดนแล้ว

ก็อยากบอกเตือนรัฐบาลว่าการฟังรายงานที่ผิดพลาดอย่างต่อเนื่องแล้วย่อมทำให้เกิดผลเช่นนี้

ตัวอย่างล่าสุดที่นายกรัฐมนตรีแถลงว่านาวิกโยธินสองนายถูกสังหารตั้งแต่ตอนรุ่งสาง แล้วหมอพรทิพย์เผยผลการชันสูตรว่าถูกสังหาร ณ เวลา 14.00-15.00 น. ก็คือความซ้ำซากของความผิดพลาดของรายงาน และถ้าความผิดพลาดนั้นขยายไปถึงบุคคลที่ถูกระบุว่า “รู้ตัวคนร้ายหมดแล้ว” ก็จะนำไปสู่การจับกุมหรือปฏิบัติการที่ผิดพลาดและขยายผลร้ายต่อไป

และอยากจะบอกย้ำด้วยว่าอย่าไปเชื่อรายงานว่าไม่มีเขตปลดปล่อย ทั้งอยากจะถามด้วยว่าสิ่งที่เรียกว่าเขตปลดปล่อยนั้นรู้จักมันดีแล้วหรือว่ามันคืออะไร? มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? มันพัฒนาและดำเนินการไปอย่างไร? และระดับไหนที่ถือว่าเป็นเขตปลดปล่อย?

เพราะในวันนี้กว่า 760 หมู่บ้านในจำนวนทั้งหมดราว 1,500 หมู่บ้านมีแกนหลักปฏิบัติงานและเป็นเขตปฏิบัติการของฝ่ายตรงกันข้าม โดยที่เราให้ความคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินแก่ประชาชนไม่ได้ และกลไกรัฐก็ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติไม่ได้ นี่คือสิ่งที่จะต้องสะกิดใจและพิจารณาไตร่ตรองให้จงดี

การที่มีแสนยานุภาพของต่างชาติแอบแฝงเข้ามาในรูปคนสองสัญชาติก็ดี และมาประจัญอยู่ที่ชายแดนร่วมสองกองพลเป็นอย่างน้อยก็ดี มันไม่สมกับข้ออ้างที่ว่าเพื่อสกัดคนไทยข้ามแดน และความจริงก็คือมาเลเซียไม่เคยจับคนข้ามแดนเลยแม้แต่คนเดียว

แต่นั่นมันคือปรากฏการณ์ให้ความคุ้มครองกับฝ่ายที่ก่อความไม่สงบ ป้องปรามแสนยานุภาพของกองทัพไทยให้ขยับตัวไม่ได้ คิดเรื่องนี้กันบ้างหรือยัง?

ในพื้นที่นั้นแสนยานุภาพทางบกของเราก็มีเพียงบางจุด และมีอัตรากำลังไม่ถึงสองกองพล โดยยังไม่ต้องพูดถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ว่าของใครมีประสิทธิภาพกว่ากัน และยิ่งงานมวลชนด้วยแล้วก็ยิ่งไม่ต้องพูดอีกเลย

เมื่อรวมแสนยานุภาพทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ตลอดจนมวลชนของฝ่ายตรงกันข้ามแล้ว มันด้อยกว่า พอ ๆ กัน หรือเหนือกว่าแสนยานุภาพของกองทัพไทยกันแน่? ปัญหานี้จึงเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องให้ความสนใจโดยพลัน

เพราะเราอาจเสียดินแดนได้โดยพลันเหมือนกัน!

บทเรียนในอดีตที่เวียดนามเคยเสนอให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยยืมกำลังทหารร่วมสามสิบกองพันเพื่อเป็นกองหน้าตัดภาคอีสานออกจากประเทศไทย โดยมีแสนยานุภาพของนายพลเทียนวันดุง 300,000 คนหนุนอยู่ข้างหลังนั้นควรจะได้หยิบยกขึ้นพิจารณาศึกษาว่ามันกำลังเกิดขึ้นซ้ำรอยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่?

ดีที่ว่าครั้งกระโน้นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมีจิตใจรักชาติจึงปฏิเสธข้อเสนอ หาไม่แล้ววันนี้ภาคอีสานก็อาจจะไม่ใช่ของไทยอีกต่อไป

แล้วกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่นั้นน่ะหรือจะมีความคิดจิตใจแบบเดียวกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในอดีต แล้วเราจะทำกันอย่างไร?

รัฐบาลจะมัวถือว่าเรื่องนี้ไม่สร้างสรรค์ไม่ได้แล้ว และจะมัวเห็นว่าเรื่องการเร่งตัวเลขต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจสำคัญกว่าปัญหาความมั่นคงไม่ได้แล้ว

เพราะตัวเลขทางเศรษฐกิจนั้นขึ้นลงได้ ขาดดุลแล้วก็ได้ดุลได้ แต่หากเสียดินแดนแล้วก็ยากที่จะได้คืน ดังนั้นจึงควรต้องยกเอาปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาหลักเร่งด่วนที่สุดของชาติตั้งแต่บัดนี้ไป
 

 

 

 

.............คนไทยไม่สนับสนุนสินค้า Made in Malaysia กันเถอะ...........

ขณะนี้ทั้งฝ่ายค้าน ผ่ายรัฐบาล และอดีตนายกมาเลเซีย รวมพลังจะแย่งดินแดนของบรรพบุรุษ 3 จังหวัดภาคใต้ของเราไปให้ได้

เราชาวไทยจะไม่รวมใจ พิทักษ์ผืนแผ่นดิน ของปู่ ย่า ตา ยาย ที่เสียสละเลือดเนื้อ แลกมาเชียวหรือ

ทั้งทรัพยากร ก็าซ น้ำมัน ในทะเลของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มาเลเซียอยากได้ไปครองแต่เพียงผู้เดียว

ก่อนซื้อสินค้าเห็นข้างฉลาก Made in Malaysia ได้โปรดวางกับสินค้าของประเทศที่ไม่จริงใจกับเรา

เราชาวไทยมารวมใจได้โปรดอย่าไปอุดหนุน เพราะเงินเหล่านั้นจะย้อนกลับมาทำลายประเทศที่ท่านรัก

ดูรายการสินค้าได้ที่นี่
http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9480000122303

อ่านแล้วกรุณา ส่ง Forward ส่งไปยังเพื่อนชาวไทยของท่าน

เริ่มช่วยชาติด้วยตัวท่านเอง แม้มันจะเพียงเล็กน้อย ถ้าชาวไทยรวมพลังกันเยอะๆ ก็แสดงถึงอำนาจต่อรองของชาวไทยมากขี้น

ก่อนที่พ่อค้าชาวมาเลเซีย จะนั่งหัวเราะว่า คนไทยขี้ขลาด ว่านอนสอนง่าย ไม่กล้าสู้จะทำอะไร
 

 

 

 

 

 

อนึ่ง อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดร.มหาเดธ์ อยู่เบื้องหลัง ผมว่าบริษัทท่องเที่ยวในเมืองไทยควรให้ความร่วมมือ ไม่ควรจัดทัวร์ไปมาเลเซีย ทำเพื่อชาติสักครั้ง แอนตี้สินค้ามาเลเซีย 1. ปั๊มน้ำมันปิโตรนาส
2. ขนมปังยี่ห้อ Julie''''''''s
3. รถจักรยานยนต์ JRD
4. น้ำมันพืชมรกต
5. โรงแรม แชงการีล่า
6. นสพ. post to day ( หุ้น 20.28% เป็นของ นสพ. Sount China เจ้้าของคนมาเลเซีย รวยที่สุดในอาเซียน )
7. ปลากระป๋องอะยัม
8. ร้านยาง simex
9. Performance Motors หรือSime Darby Group ที่เข้ามาเป็นดีลเลอร์ขายรถในเมืองไทยก็มาเลเซีย
10. แอร์ โทรศัพท์ ทีวี อื่นๆยี่ห้อ พานาโซนิค ทำในมาเลย์
11. สายการบินแอร์เอเชีย
12. ของพานาโซนิค ผลิตในมาเลเซีย
13. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณต่างๆ น้ำหอม สบู่ โรลออน ฯลฯยี่ห้อ เอนแชนเทอร์ และ เอเวอร์ซอฟท์ ของกลุ่มอุนซ่า มาเลเซีย
14. รถยนต์ยี่ห้อ โปรตอน, เพอโรดัว, แคนชิล
15. เครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อ เพนโซนิค

เลิกไปเที่ยวมาเลเซีย เลิกซื้อของที่ขายในมาเลย์ เลิกซื้อของที่ผลิตในมาเลเซียด้วยด้วย ร้านขายขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ ที่ส่งมาจากหาดใหญ่ก็เป็นของมาเลเซีย

ขอปลุกระดมคนไทยทั้งประเทศ ช่วยกันนะครับ
 

 

 

 



บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.107 วินาที กับ 22 คำสั่ง