ในบันทึกจับกุมนั้น มี ยศ ชื่อ ของผู้จับกุม และพฤติการณ์การจับกุมอยู่แล้วครับ และท่านก็ไม่ต้องจดอะไรไปหรอกครับ
เพราะตาม ป.วิ อาญา ท่านให้มอบสำเนาให้ผู้ที่ถูกจับกุม 1 ฉบับ
ปล.ถ้ากฎหมาย ซึ่งก็ไม่ได้ออกโดย เจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติ แต่ออกโดย ฝ่ายนิติบัญญัติ เจตนาเพื่อให้ทุกคนมีกฎกติกาอยู่ร่วมกันโดยปกติสุข ถ้าไม่สามารถบังคับใช้ได้กับทุกๆบุคคลให้เท่าเทียมกัน ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมีกฎหมาย ครับ
บันทึกการจับกุมมีรายชื่อเป็นปัญชีหางว่าง มีผู้จับกุมเป็นสิบท่านนั้นผมเคยได้รับครับ
คนรู้เห็นจริงเรื่องราวจริงมีไม่กี่ท่าน แต่ต้องใส่ชื่อเป็นผลงาน ..... จึงต้องจดจำชื่อท่านไว้หากอ้างถึงต่อศาล ว่าใครเป็นใคร
อีกปัญหาคือหลักฐานและเหตุผลแวดล้อมที่จะแสดงความจำเป็นและเร่งด่วนต่อศาล เข่น ทรัพย์สิน เหตุผลการเดินทาง ฯลฯ ท่านไม่ใส่
ไม่ต้องนับเรื่องคนแบะท่าตอนมาโรงพักว่าของแค่นี้ช่วยได้ ไม่ต้องลงบันทึกประจำวัน แต่ต้อง...........
กรณีท่านKLEAW
ขออนุญาตอ้างถึง ผมว่าจนท.เถรตรงเกินไป ไม่รู้จักใช้ใจเขาใจเรา ปืนติดไปเพื่อดูแลครอบครัวตอนเดินทาง
ถามมีมาไหม มีก็บอกตรงๆ หยิบก็หยิบให้จากกระเป๋า ที่วางอยู่ห่างตัว
วิญญูชนไม่เห็นผิด ไม่ได้ล่วงละเมิดสิทธิใครหรือทำร้ายใคร ..... เจตนาบริสุทธิเพื่อป้องกันตัวและบุคคลอันเป็นที่รัก
ถ้าจะผิดก็เป็นเรื่องผิดต่อรัฐ.........ผิดเพราะกฎหมายเขียนให้ผิด.........เจตนากฎหมายไว้เพิ่มโทษลงโทษคนร้าย....ไม่ใช่เอาคนดีเข้าคุก
แต่จนท.(เคสนั้น)เหมือนคิดไม่เป็น .... แล้วต่อมาผู้ใหญ่ของท่านKLEAWเคลียร์ได้ ........
เคลียร์อย่างไร.....วิจารณาญาณของจนท.กลับเปลี่ยนไปได้เพราะอะไร
ผมไม่ได้มาเรียกร้องสิทธิให้คนร้าย แต่ขอให้จนท.ทำดีกับคนดีๆครับ
การอ้างถึง สิทธิ ของบุคคล ในรัฐธรรมนูญ
บุคคลนั้นต้องไม่ทำการ ละเมิด หรือทำผิดกฎหมาย และ ต้องไม่กระทำละเมิดสิทธิ ของบุคคลอื่น ด้วยครับ
"
ถ้าได้กระทำผิดกฎหมาย ต้องใช้ สิทธิผู้ต้องหาแทนครับ "
ขอบคุณครับ ผมยังหาตัวบทในรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวเนื่องในความที่ท่านG 99ยกมาไม่เจอ หรือไปอยู่ในกฏหมายอื่น
ขอความกรุณาช่วยชี้แนะ เนื้อหาจากที่ใด มาตราใด เพื่อผมได้ไปสืบค้นเป็นความรู้ด้วยครับ
ผมไปเห็นแค่ ในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๙ ว่า........
ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด
ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้