จริงๆแล้ว กระทู้นี้ทุกท่านได้ให้ความเห็นไว้อย่างดี และความเห็นของทุกท่าน ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นประโยชน์อย่างมากครับ
จึงมาขอเก็บความรู้อย่างเดียว
แต่ กฏหมาย ก็คือกฏหมายครับ เมื่อผ่านขั้นตอนการพิจารณาและแก้ไขตามกระบวนการ
และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ย่อมมีผลบังคับต่อทุกคน ไม่ว่า ยาก ดี มี จน หรือรวยล้นฟ้า
ส่วนกระบวนการออกกฏหมายนั้น จะออกโดยฝ่ายใด แม้ไม่ถูกใจหรือไม่อย่างไร แต่เมื่อออกมาและมีผลบังคับใช้แล้ว
ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฏหมายฉบับนั้นเหมือนกัน
ยิ่งบุคคลในกระบวนการยุติธรรมด้วยแล้ว ผู้พิพากษา อัยการ ทนาย พนักงานสอบสวน ตำรวจ แม้แต่ผู้ที่กำลังเรียนนิติศาสตร์อยู่
ก็ต้องใช้หรือศึกษา กฏหมายที่มีผลบังคับทุกฉบับ โดยไม่สามารถมานั่งเลือกใช้บังคับเฉพาะกฏหมายที่ตนเองรับได้หรือไม่ได้
หมาดๆ เลยครับ ผมเพิ่งโดนเมื่อคืนวานเอง เเบบเต็มๆครับ ผมอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายเเดนใต้ ปรกติก็โดนเป็นตรวจประจำครับเเถวบ้าน เเต่ก็นานๆครั้งที่ผมจะเอาปืนเก็บใว้ในรถ ส่วนใหญ่จะเก็บไว้ที่บ้านเสียมากกว่า ก็เพราะว่ากลัวจะโดนตรวจอาวุธ ทั้งๆที่อยากจะพามันไปด้วยทุกครั้ง เเต่ว่าหากโดนตรวจเเละหากจนท ตรวจเจอ ...หากเจอ จนท ที่ไม่เห็นใจเราก็เดือดร้อนเเน่..............
เเต่ก็ขอโทษด้วยครับหากว่าความรู้สึกส่วนต้วของผมอาจจะไม่ถูกไม่ควรอยู่บ้าง
อยู่ 3 จังหวัดภาคใต้ น่าจะลองสู้คดีนะครับ เพราะรัฐไม่สามารถคุ้มครองประชาชนได้ (ลำพังตัวเองยังเอาตัวไม่ค่อยจะรอด) การพกอาวุธจึงเป็นความจำเป็น
ด้วยความเคารพนะครับ
หากสู้คดีโดยให้ศาลพิจารณาว่าจำเป็นหรือไม่
ลองยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๑ ให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาและวินิจฉัยไปด้วยสิครับ ว่า
มาตรา ๘ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ ที่ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
เป็นกฏหมายที่ขัดและแย้งต่อรัฐธรรมนูญ
เมื่อ มาตรา ๓๒ ของรัฐธรรมนูญ กำหนดให้บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย
และมาตรา ๒๘ กำหนดบุคคลย่อมอ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน และบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญนี้รับรองไว้ สามารถยกบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้เพื่อใช้สิทธิทางศาลหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีในศาลได้
ดังนั้น การที่เราซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนจากนายทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
ย่อมมีสิทธิใช้อาวุธปืนที่ตนได้รับอนุญาตถูกต้องจากนายทะเบียนให้มีและใช้ ปกป้องชีวิตและร่างกายของตนเองและครอบครัวจากเหตุร้ายหรือภยันตรายต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้
และสามารถนำอาวุธปืนที่ตนได้รับอนุญาตให้มีและใช้ ติดตัวเพื่อป้องกันขีวิตและร่างกายจากเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่อาจจำกัดเพียงในเคหสถาน หรือที่พักอาศัยได้
เมื่อการพกพาอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง ผู้ร้องนำติดตัวไปโดยมิได้นำไปใช้ก่อเหตุใดๆ หรือนำไปละเมิดสิทธิและเสรีภาพของคนอื่น
แต่เป็นการติดตัวไว้เพื่อป้องกันสิทธิในชีวิตและร่างกายตนเองตามรัฐธรรมนูญแล้ว มาตรา ๘ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ จึงเป็นบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิของบุคคล
ในอันที่จะใช้สิทธิป้องกันชีวิตและร่างกายตามรัฐธรรมนูญแลัว ยังขัดต่อหลักศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทั้งเป็นการจำกัดการใช้สิทธิและเสรีภาพของผู้ร้อง ตามมาตรา ๓๒ และมาตรา ๒๘ อันขัดและแย้งกับรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน
ทั้งมาตรา ๘ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ เป็นกฏหมายที่ใช้จำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้
อันเป็นกฏหมายบัญญัติกระทบกระเทือนสาระสำคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพอย่างร้ายแรง ซึ่งมาตรา ๒๙ บัญญัติว่า การจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และการจำกัดสิทธิและเสรีภาพ นั้นจะกระทบกระเทือนสาระสำคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพนั้นมิได้
เมื่อมาตรา ๘ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ ขัดและแย้งกับรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
บทบัญญัติของกฎหมายมาตรา ๘ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ จึงไม่อาจนำมาใช้บังคับ และลงโทษจำเลยมิได้ ตามมาตรา ๖ แห่งรัฐธรรมนูญ
อะไรแบบนี้ น่าจะดีไหมครับ
เผื่อเป็นทางออกให้สุจริตชนได้บ้าง
_______________________________________
ปล. มาตรา ๒๑๑ ในการที่ศาลจะใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายบังคับแก่คดีใด ถ้าศาลเห็นเองหรือคู่ความโต้แย้งพร้อมด้วยเหตุผลว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา ๖ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินั้น ให้ศาลส่งความเห็นเช่นว่านั้นตามทางการเพื่อศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณาวินิจฉัย ในระหว่างนั้นให้ศาลดำเนินการพิจารณาต่อไปได้แต่ให้รอการพิพากษาคดีไว้ชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าคำโต้แย้งของคู่ความตามวรรคหนึ่งไม่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาก็ได้
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ใช้ได้ในคดีทั้งปวง แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุดแล้ว