เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 05:40:04 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 ... 29
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าคุณแน่ อย่าแพ้ ป.2 อย่างนี้ มันต้อง.... แฉ ให้หมด  (อ่าน 150418 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 13 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
จะเด็ด
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 487



« ตอบ #45 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 12:34:25 PM »

เรามาว่ากันต่อ
ปืนกระบอกนี้เป็น ปืนแข่งขันแบบ APS มีชื่อเต็มๆว่า “Air Precision Shooting” เวลามีการจัดการแข่งขันเขาจะเรียกชื่อตามนี้ว่า “APS Cup” รายการนี้รายการแข่งขันระดับโลกเป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่น ต่อเนื่องกันมากว่า 20 ปีแล้วนะครับ ไม่ใช่คี่ๆ

ส่วนปืนระดับหัวแถวที่นักกีฬา APS นิยมกันก็ได้แก่ ยี่ห้อ MARUZEN ในรุ่น APS-3 และ Grand Master นอกนั้นก็มีของ KSC รุ่น AP 200 และ GP 100 และอีกตัวก็เป็นยี่ห้อ Hudson รุ่น Preceder รุ่นที่กล่าวมานี้ จะมีความแรงอยู่ที่ประมาณ 280 F/S


* aps-3.jpg (30.05 KB, 1000x669 - ดู 4643 ครั้ง.)

* KSC-100.jpg (33.69 KB, 470x290 - ดู 3746 ครั้ง.)

* preceder.jpg (52.41 KB, 500x333 - ดู 3863 ครั้ง.)

* pss-300-1.jpg (29 KB, 600x396 - ดู 3769 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
จะเด็ด
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 487



« ตอบ #46 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 12:35:49 PM »

สำหรับผมที่เลือกซื้อรุ่น PSS-300 นี้ก็เพราะว่า ตามสป็คมันแรงกว่าชาวบ้านเขาคือ 330 F/s และอีกใจหนึ่ง ขี้เกียจรอใบป.2 เพราะไม่มั่นใจเลยว่ามันจะได้ และคิดจะเอาเจ้ากระบอกนี้มาดัดแปลงเป็น PCP เพราะดูสเป็ค กลไก กระบอกอัดลม มันเหมือน PCP อย่างกะแกะ ยิ่งตอนเปิดกล่องออกมาลูบคลำเล่น โอ้ว!! มันม่วนขนาด ยิ่งแม่นอีกต่างหาก กลุ่มกระสุนไม่เลวเลยที่ระยะ 10 เมตร สมาธินิ่งๆ ประมาณเหรียญยี่สิบ (เหรียญสิบบาทมันเล็กไปอ่ะครับ) เพียงแต่มันใช้ลูกพลาสติกเท่านั้นเอง ไม่ได้ใช้ลูกตะกั่วหัวจีบ ยิงเล่นรอใบป.2 อยู่นานพอสมควร อย่างน้อยก็เป็นเดือนล่ะครับท่านผู้ชม

ผลของการยิงที่เกิดกับทักษะและสมาธิของจะเด็ดก็คือ
1 ยิงในบ้านได้ทุกวันเวลา เสียงเหมือนใส่ที่เก็บเสียงไปในตัว ปุ๊ด ๆ แถมแก๊ซที่ใช้เป็นแก๊ซแรง ET-100 แต่ละนัดมีกลิ่นหอมตดนิดๆ ยิงแล้วได้อารมณ์ดีไปอีกแบบ
2 ยิงใหม่ๆจะเด็ดสายปืนหาเป้าไม่เจอเลย ซัดซะมุ้งลวดหลังบ้านพรุนไปเลย พอยิงไปมากๆสมาธิเลยเข้าที่ ยิงสิบเมตรมือเดียวไม่หลุดเป้าแล้วครับ หากวันไหนมาวชีวิต กลุ่มก็บานอีกเหมือนกัน
3 ก็อาศัยเจ้ากระบอกนี้แหละยิงแก้ “เสี้ยน” วัยรุ่นน้อยก็งี้แหละใจร้อน หากเป็นสมัยก่อนเสี้ยนขนาดนี้ไปชักว่าวกลางสนามแล้ว ลมพัดเย็นๆชายทุ่ง โอ้ว !! มาก๊อต เสียววาวเลยตู
4 ต้นทุนการยิงต่ำ ลูกธรรมดาพอใช้ได้ 4000 นัด 200 บาท แต่ทางการเขาแนะนำว่า ให้ใช้ลูกคุณภาพสูง อย่างเช่นลูกของ MARUZEN รุ่น Super Grand Master น้ำหนัก 0.29 กรัม หรือไม่ก็ของ MARUI รุ่น Superior Grade น้ำหนัก 0.30 กรัม แต่มีปัญหาสองรุ่นนี้ไม่มีขายบ้านเราต้องสั่งจากเมืองนอกอีกแล้ว ก็เลยใช้ของ MARUI น้ำหนัก 0.25 กรัม กลุ่มกระสุนระยะสิบเมตร กลุ่มไม่เลวหากเทียบกับฝีมือระดับบ้านๆและปลายแถวอย่างจะเด็ด วงไม่หลุดดำก็ยอดเยี่ยมแล้วสำหรับปืนกระบอกนี้


* S5029.jpg (24.6 KB, 800x600 - ดู 3688 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
จะเด็ด
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 487



« ตอบ #47 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 12:42:05 PM »

ขอบคุณมากครับ สำหรับเนื้อหาดี ๆ มีสาระ อ่านสนุกดีครับ
ว่าแต่ว่า ป2 ออกหรือยังครับ เห็นสั่งปืนมาแล้ว ถ้าผมอ่านตกหล่น ขอโทษล่วงหน้าครับ
แล้วไม่ติดศุลกากรหรือครับแบบว่าต้องเอา ป2 ไปไถ่ออกมาแล้ว+ภาษี หรือมีค่าใช้จ่ายอื่นหรือเปล่าครับ



ของผมมันยากกว่านั้นอีกครับ ขอผมรวบรวมสมาธิสักพักนะครับ เพราะตอนนี้เรื่องอะไรต่อมิอะไรยังค้างอยู่เต็มหัวผมเลย ขอเอาออกซะก่อน ไม่นานครับไกล้จะถึงไคลแม็คแล้วล่ะ


บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #48 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 01:08:01 PM »

เรามาดูกันต่อครับว่าจะเด็ดของเรา จะผ่านวิบากกรรม เอ้ย อุปสรรคในครั้งนี้ได้อย่างไร
ถ้าสิ่งที่คุณ rivison สงสัยคือคุณจะเด็ดขอใบปอ 2 แล้วหรือยัง ลำดับเหตุการณ์มันเริ่มจาก
คุณจะเด็ดไปยืนขอใบปอ 2 ที่อำเภอ ทำให้ต้องพบกันน้องตูมตึงเปรี๊ยะกลัดกระดุมสองเม็ด
ลำพังไปขอใบปอ 2 ที่อำเภอคุณจะเด็ดได้บอกว่าเกิดอาการหดขนาดต้องชะโมงมองเป้าตัวเองจึงจะเห็น
แต่คงเป็นเพราะทำบุญมาบ้าง จึงทำให้เทวดาท่านรู้เห็นอนาคตว่าถ้าปล่อยให้หดเหลือขนาดต้อง
ชะโงกมองมันคงจะหมดอาลัยในชีวิตจึงแปลงกายมาเป็นน้องตูมกระดุมสองเม็ดเพื่อสร้าง
อาการความเสี้ยนเบื้องต้นไว้ก่อนเอาไปต่อต้านอาการหดอย่างรุนแรงที่หน้าห้องนาย

ระหว่างรออนุมัติใบปอ2 ซึ่งไม่ทราบอนาคตว่าผ่านหรือไม่ผ่าน พระเอกของพวกเราก็คือคุณจะเด็ด
ก็ไปค้นหาใน google แล้วก็เอามือเหี่ยวคลิกสั่งซื้อส่งเดชไปตามเรื่องตามราว แล้วใจลอยไปชำระเงิน
ให้เขาซ้ำเข้าไปอีก จึงทำให้ปืนถูกส่งมาที่บ้านและมีคำแนะนำให้ไปเสียภาษี

เอาละซิครับท่าน ตอนนี้พระเองของเรากำลังตกอยู่ในอันตราย โดยมีคนหน้าโหลแอบสมน้ำหน้าอยู่ข้างหลัง
เรามาเอาใจช่วยพระเอกกันต่อนะว่า  ถ้าหากใบปอ 2 อนุมัติแล้วลงวันที่ช้ากว่าวันสั่งปืน อะไรจะเกิดขึ้น
พระเอกของเราจะเอาตัวรอดอย่างไร  และจะได้ไปรับน้องตูมกระดุมสองเม๊ดมาสอนยิงปืนอัดลมสั้นท่านอน
ในบ้านหรือเปล่า ติดตามกันต่อไปครับ ตระ เลง เต๊ง เต้ง.....

บันทึกการเข้า
tamma
หรอยจังหู
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 74


สู้โว้ย!!


« ตอบ #49 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 01:27:09 PM »

รอ......ครับ
บันทึกการเข้า

ใต้สุดแดนสยาม
จะเด็ด
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 487



« ตอบ #50 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 04:18:05 PM »

เรามาต่อกันครับ จะเด็ดแอบไปนอนมาครับ เมื่อคืนเป็นวันเสาร์เลยต้องทำการบ้านดึกดื่นไปหน่อย อย่าคิดอกุศลนะ ทำการบ้านของผมก็คือ กวาดเช็ดถู ทำความสะอาด บ้าน รถ ครัว ห้องน้ำ ฯลฯ จิปาทะ

เมื่อได้ปืนกระบอกนี้มา มันก็เริ่มมีปัญหาในการยิงตั้งแต่แรก เพราะด้ามของมันเป็นภาคบังคับ ต้องยิงด้วยมือเดียว อีกมือให้ล้วงกระเป๋าเกาไข่ไปพลางๆ ผมเกาไข่ผ่านไปหลานวันจนเป็นสัปดาห์ จนไข่ข้างซ้ายแสบเล็กน้อยเวลาอาบน้ำ ก็เลยมานั่งคิดว่า ตูนี่มันช่างหาเรื่องแท้ๆ ยิงปืนสองมือยังยิงไม่ค่อยถูกเลย เจือกสั่งปืนมือเดียวมาเล่น ง่าวจั๊ดขนาดนั๊กแต้ๆเฮานี่

จึงเฝ้าเวียนถามไถ่ผู้รู้ แต่พอผู้รู้เห็นหน้าผม ต่างก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมสอน จนผมซักหนักๆเข้าก็ได้ใจความว่า กลัวสอนสังฆราชว่ายน้ำ เอ้าไอ้เวร มีแต่สอนไอ้เข้ว่ายน้ำ มันประชดตูนี่หว่า หมดทางเข้าตาจน จึงให้จะเด็ดน้อยช่วยจิ้มหาจาก Google ให้หน่อย จะเด็ดน้อยบอก Yes ป๋า มันใช้เวลาแค่กลิ่นตดจาง ก็ได้ตำรามา 10 แผ่น ผมก็เอามาอ่าน เอ่อมันก็เข้าท่าดีเหมือนกันแฮะ แล้วผมก็ฝึกหายใจ เข้า ออก หัดยืน หัดยิงแห้ง แต่ฝันเปียก หัดเล็งศูนย์นั่งแท่น จนเริ่มจะปีกกล้าขาแข็ง แต่แรงอ่อน ยิงไปมาวไป

ไหนๆแล้วก็เอามาฝากท่านผู้ชมผู้มีพระคุณต่อกระผม อันนี้ลอกเขามาทั้งดุ้น ส่วนจากที่ไหนจนด้วยเกล้าจริงๆ หากเจ้าของมาอ่านเจอก็อย่าได้ถือโทษโกรธเคืองกันเลยนะ ถือเสียว่าเป็นวิทยาทานแก่สัมพเวสี อย่างพวกระผม ที่หางก็ด้วน เพื่อนก็ไม่คบ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว


* gp110-1.jpg (85.38 KB, 640x480 - ดู 3708 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
จะเด็ด
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 487



« ตอบ #51 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 04:19:29 PM »

การยิงปืน
การที่จะยิงปืนได้ดีนั้น จะมีปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยมีปัจจัยหลักๆ 3 อย่างคือ

1. พื้นฐานในการยิงปืน จะประกอบไปด้วย
   1.1ท่ายืน: มีความสมดุล นิ่ง อยู่ในแนวเป้าหมาย
   1.2การจับปืน: สบายๆ แน่ใจเสมอว่าการเล็งจะอยู่ในแนวเป้าหมาย เป็นไปอย่างธรรมชาติ
   1.3การหายใจ: พัฒนาจังหวะของการหายใจสำหรับการยิงทุกครั้ง และทุกๆการแข่งขัน การปล่อยกระสุนจะต้องเกิดขึ้นในช่วงที่มีการหยุดหายใจในสภาพธรรมชาติ
   1.4การเล็ง: จะเน้นที่ศูนย์หน้า ให้อยู่ในบริเวณเป้าหมายที่กำหนด การเคลื่อนที่จะอยู่แต่ในบริเวณนี้เท่านั้น
   1.5การควบคุมไกปืน: จะมีความสัมพันธ์กับท้ายปืน (Rear) ขณะที่การเล็งจะอยู่ในแนวเส้น ตรงระยะเวลาในการเหนี่ยวไกจะขึ้นอยู่กับชนิดการแข่งขัน
   1.6การยิง: ยิงอย่างมั่นใจโดยปฏิบัติตามขั้นตอนที่ฝึกมาอย่างเคร่งครัด
   1.7การรักษาสภาพหลังการยิง(follow through): ต้องมีความต่อเนื่องในการเล็งและการเหนี่ยวไกหลังจากการยิง
   1.8การวิเคราะห์: ต้องมีการวิเคราะห์ การยิงของเรา เพื่อเป็นตัวชี้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้เราสามารถจะแก้ไขข้อผิดพลาดได้

2. การฝึกฝน
   จะต้องมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องทั้งทางร่างกายและจิตใจ

3. เครื่องมือ , อุปกรณ์
   ปืน : ใช้ปืนที่เหมาะกับตัวเรา เตรียมตัวสำหรับการยิงแห้ง ตรวจสอบศูนย์หน้าและศูนย์หลัง น้ำหนักไกปืนต้องถูกต้อง ทดสอบกลุ่มกระสุนสำหรับปืนของเรา
   อุปกรณ์ทั่วๆไป : น้ำมัน ไขควง ที่ทำความสะอาดลำกล้อง นาฬิกา บันทึกประจำวันของการยิง แว่นสายตา ปากกา ยากันยุง และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
    เครื่องแต่งกาย : รองเท้าที่สบายและเหมาะสม เสื้อผ้าแบบสบายๆ หมวกและที่ปิดหัว



บันทึกการเข้า
จะเด็ด
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 487



« ตอบ #52 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 04:20:48 PM »

1.พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการยิงปืน

1.1   การตั้งท่าและความมั่นคง

จุดประสงค์   
1. ก่อให้เกิดความสมดุลย์ และความมั่นคงของร่างกายและมือ โดยให้มีการกระทบต่อระบบกล้ามเนื้อและโครงร่างให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
   2. รักษาระดับพื้นที่การใช้แขนและพื้นที่การยิงให้น้อยที่สุด
   3. รักษาระดับ ศีรษะและแขนให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม เพื่อให้ตามองเห็นได้ชัดที่สุดระหว่างการเล็งเป้าหมาย
   4. เพื่อที่จะทำให้มีความมั่นคงตลอดเวลาสำหรับการยิง
การเปลี่ยนแปลงหรือการแปรผัน
   น.น.และรูปร่างที่แตกต่างกัน อาจจะมีผลทำให้เกิดการแปรผัน เราจะต้องวิเคราะห์การตั้งท่าของตัวเรา และจะต้องระมัดระวัง ในที่จะเปลี่ยนแปลงแม้จะมีเหตุผลในการเปลี่ยน
การตั้งท่าที่สมบูรณ์แบบ

1.   วางเท้าให้ห่างกันประมาณ ความกว้างของไหล่และให้ขนานกันมากที่สุด ในขณะที่จะทำการยิง โดยอาจจะเคลื่อนไหวแบบช้าๆ ให้กว้างขึ้นประมาณ 10 ซ.ม.
2.   ให้ น.น.ตัว และน.น.ปืน ตกกระจายบนขาทั้ง 2 ข้าง
3.   ยืนตรงแต่มีการผ่อนคลาย ให้ น.น. ตกที่ระดับสะโพก เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบต่อร่างกายและกล้ามเนื้อหลัง
4.   แขนที่ใช้ยิงจะต้องเหยียดเต็มที่ พร้อมกับข้อมือ และข้อศอกจะต้องนิ่งที่สุด
5.   มองจากด้านบน โดยให้มุมของแขนกับไหล่อยู่ที่ประมาณ 12-20 องศา
6.   แขนที่ไม่ใช้ยิง จะต้องผ่านคลาย โดยอาจจะเหน็บอยู่ ที่กระเป๋าหรือเข็มขัดด้านหน้า เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น
7.   เงยศีรษะขึ้นและจ้องที่เป้าหมาย เพื่อที่ตาจะปรับได้อย่างถูกต้องและปราศจากการรบกวน
8.   ในจุดยิงความสมดุลที่ถูกต้องจะถูกพบ โดยการเคลื่อนไหวของแขนเข้าหาเป้าหมายอย่างช้าๆ
9.   ในจุดที่เตรียมพร้อม 45 องศากับเป้า แขนจะถูกยกขึ้นมาสู่จุดยิงโดยการบังคับของกล้ามเนื้อไหล่เท่านั้น โดยส่วนอื่นๆ จะไม่เคลื่อนไหว
บันทึกการเข้า
จะเด็ด
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 487



« ตอบ #53 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 04:22:14 PM »

การผ่อนคลายคือหลักที่สำคัญที่สุดของการพักร่างกาย

การฝึก
เราจะต้องทำตัวให้คุ้นเคยกับการตั้งท่าที่ถูกต้องในทุกๆครั้งที่เรายืนอยู่ที่เส้น หรือช่วงระหว่างการยิงแห้ง การฝึกที่ผิดๆ จะทำให้เราเคยตัวและทำให้เรายากที่จะก้าวสู่ขั้นสูงต่อไป ฉะนั้นจึงควรฝึกการตั้งให้ถูกต้องและทำให้คุ้นเคย


1.2   การจับปืน   
ทิศทางของกระสุนจะเปลี่ยนแปลงเนื่องมาจากการกำปืนที่แตกต่างกัน  การจับปืนที่ถูกแบบนั้นจะรู้สึกว่าฝืนธรรมชาติอยู่เล็กน้อย เพราะปรากฏว่าผู้ที่ยังไม่เคยฝึกมาก่อน เมื่อจับปืนมักจะจับไม่ถูกเสมอ การจับปืนในระยะแรกๆจะลำบากพอควร แต่เมื่อฝึกแล้วก็สามารถจะทำได้
การจับปืนนั้น ก่อนอื่นจะต้องทำมือให้เป็นรูปตัว V เอาด้ามปืนสอดเข้าระหว่างตัว V ให้ส่วนบนของมือเสมอกันแล้วกำปืนด้วยนิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อย นิ้วชี้ยังไม่ใช้งานให้แนบอยู่ข้างปืนเหนือโกร่งไกก่อน นิ้วหัวแม่มือเหยียดแนบข้างตัวปืนอยู่บนส่วนบนของด้ามปืน การแตะไกของนิ้วชี้ก็ให้ใช้ส่วนกลางของนิ้วข้อปลายเป็นส่วนที่แตะไก การแตะไกในลักษณะนี้ในตอนแรกๆจะขัดๆไม่สะดวก เนื่องจากนิ้วจะต้องบิดเล็กน้อย ผู้ฝึกก็จะต้องพยายามแก้ไขโดยการบิดนิ้วสักระยะหนึ่ง อย่าแก้ไขโดยการเลื่อนมือเป็นอันขาด ถ้าผู้ฝึกเลื่อนมือเพื่อให้แตะไกสะดวก การจับปืนจะผิดทันที ผลก็จะทำให้การจับปืนผิดไป ผู้ฝึกจะต้องพยายามฝึกลั่นไกให้ถูกวิธีโดยไม่เปลี่ยนการจับปืน ซึ่งจะใช้เวลา 2-3 วันก็จะสามารถทำได้

บันทึกการเข้า
จะเด็ด
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 487



« ตอบ #54 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 04:23:13 PM »

1.3   การควบคุมการหายใจ
การหายใจจะต้องอาศัยการเคลื่อนไหวของท้อง กล้ามเนื้อหน้าอกและหลัง สำหรับการยิงปืนนั้นได้มีความคิดเกิดขึ้นว่า ถ้ามีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อให้น้อยที่สุด การยิงน่าจะดีที่สุด จึงคิดว่าน่าจะมีการหายใจให้น้อยที่สุดจนกระทั่งไม่หายใจเลยในระหว่างการปล่อยกระสุนออกไป
การกลั้นหายใจ

   เมื่อทำการกลั้นหายใจ โลหิตจะขาดออกซิเจน ซึ่งถ้านานมากจะเกิดอาการหน้ามืด และสิ้นสติในที่สุด เนื่องมาจากการแตกตัวของเซลล์สมอง อันมีผลมาจากการที่เลือดไม่ได้รับออกซิเจนนั่นเอง
   เราควรจะมีการฝึกการใช้หายใจให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเรามากที่สุด โดยเฉลี่ยเราต้องการระยะเวลาประมาณ 6-10 วินาทีในการที่จะไม่ต้องหายใจ เพื่อการยิงที่แม่นยำ แต่เราจะต้องเข้าใจรูปแบบของระบบหายใจที่เหมาะสมสำหรับตัวเรา ที่จะใช้ในการแข่งขัน แต่โดยทั่วไปจะมีพื้นฐานที่คล้ายคลึงกัน
รูปแบบปกติของการหายใจ

   โดยปกติปอดของเราจะถูกใช้เพียง 1/3 ของพื้นที่เท่านั้น ดังนั้นช่วงที่มีการเรียนหรือนั่งเงียบๆเป็นเวลานาน เราจำเป็นต้องหายใจแบบลึกๆ สักครั้งเพื่อที่ขับอากาศเสียและรับอากาศใหม่
   เมื่อเราหายใจออก ระยะช่วงสุดท้ายของการหายใจออกนั้นจะมีช่วงที่มีการหยุดหายใจโดยสภาพธรรมชาติเป็นระยะเวลาสั้นๆ ช่วงที่หยุดหายใจโดยสภาพธรรมชาตินี้ สามารถที่จะยืดระยะเวลาออกไปได้หลายวินาที โดยปราศจากอันตราย ซึ่งเป็นที่มาของระยะเวลาที่มีการคาดหวังไว้ว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการยิงปืน โดยเมื่อกระสุนถูกปล่อยออกไปแล้ว ระบบหายใจก็จะเริ่มขึ้นใหม่
การพัฒนาระบบการหายใจสำหรับการยิงปืน

   หายใจออก เพื่อไล่อากาศเสียออกให้หมด จากนั้นหายใจลึกๆ ประมาณ 2-3 ครั้งก่อนจะยกปืน การหายใจออกเป็นรูปแบบหนึ่งของการผ่อนคลายทางกายภาพด้วย
บันทึกการเข้า
จะเด็ด
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 487



« ตอบ #55 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 04:24:16 PM »

การยิงที่มั่นใจ
1.   สมมุติว่าท่ายืนของเราถูกต้องแล้ว ก่อนที่จะยกปืนขึ้นจากที่วางปืน ให้หายใจเข้าลึกๆอย่างช้าๆ แล้วหายใจออก ประมาณ 2 ครั้ง
2.   ขณะยกปืนขึ้น หายใจเข้าแบบปกติ เมื่อปืนถึงจุดบริเวณที่ตั้งเป้าหมาย หายใจออกจนถึงจุดที่หยุดการหายใจ
3.   ช่วงที่หยุดการหายใจ เราสามารถทำการยิงได้ ขณะที่โครงร่างของเราจะต้องมั่นคง
4.   เมื่อกระสุนถูกยิงออกไป ทุกส่วนของร่างกายจะยังคงรักษาสภาพเช่นนั้นอยู่ระยะหนึ่ง จากนั้นจึงลดแขนลง ระบบการใจปกติจะเริ่มขึ้นใหม่
บันทึกการเข้า
จะเด็ด
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 487



« ตอบ #56 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 04:25:19 PM »

1.4   การเล็ง
 “หลับตาซ้ายเล็งด้วยสายตาข้างขวา  ให้ยอดศูนย์หน้าอยู่กึ่งกลางช่องบากศูนย์หลัง  เสมอสันบากศูนย์หลัง  วางไว้ส่วนล่างของที่หมาย”
หลับตาซ้ายเล็งด้วยสายตาข้างขวา  ให้ใช้สายตาข้างเดียวในการเล็งปืน และให้ใช้สายตาข้างเดียวกันกับมือที่ถือปืน ในกรณีนี้เป็นการถือปืนด้วยมือขวา
ให้ยอดศูนย์หน้าอยู่กึ่งกลางช่องบากศูนย์หลัง  จัดศูนย์หน้าไว้ในช่องกลางของศูนย์หลัง โดยจัดจากช่องว่างระหว่างขอบศูนย์หน้าและศูนย์หลัง ให้มีความหนาของช่องพอๆกัน ก็แปลว่าศูนย์หน้าได้อยู่กึ่งกลางช่องของศูนย์หลังแล้ว
เสมอสันบากศูนย์หลัง  จัดให้ส่วนบนของยอดศูนย์หน้าเสมอกับส่วนบนของศูนย์หลัง
วางไว้ส่วนล่างของที่หมาย  จัดศูนย์ทั้งชุดไปวางไว้ที่ส่วนล่างของเป้า (วงกลมสีดำ) เสร็จพิธีการจัดศูนย์เล็ง
การเล็งลักษณะนี้ เป็นการจักภาพศูนย์เล็งเพื่อการฝึกสำหรับการฝึกยิงเป้าวงกลมดำเท่านั้นเพราะว่าการฝึกในลักษณะนี้มีขอบเขตจำกัดอยู่ที่ว่า วงกลมดำจะต้องมีขนาดเดิมเสมอ ถ้าวงกลมดำมีขนาดเปลี่ยนไป วิถีกระสุนก็จะเปลี่ยนไปด้วย การแก้ไขแนวการเล็งก็จะต้องแก้ไขโดยการตั้งศูนย์ใหม่หรือนำเอาเป้าเดิมที่เคยเล็งอยู่ไปทับกับเป้าใหม่แล้วเล็งด้วยเป้าเดิม
การเล็งลักษณะนี้ เรียกว่าการเล็งแบบ “เล็งนั่งแท่น” คือเอาเป้าไปวางไว้บนแท่นของศูนย์ปืนนั่นเอง  ซึ่งมีการเล็งอีกลักษณะหนึ่ง ที่เรียกว่า “เล็งจี้” เอาศูนย์ปืนเล็งจี้ที่กลางเป้าไม่ว่าเป้าจะมีขนาดใดก็ตาม
การเล็งทั้งสองลักษณะนี้ขอแนะนำให้ใช้วิธีการเล็งแบบ “นั่งแท่น” เพราะจะเป็นแบบที่ปฏิบัติได้ง่ายกว่า ทั้งนี้เนื่องจากภาพของศูนย์ที่มองเห็นจะเป็นสีดำจะทับกับส่วนที่เป็นสีขาวของเป้าทำให้ตัดกันง่ายต่อการจัด ส่วนการเล็งแบบ “เล็งจี้” นั้นภาพสีดำของศูนย์ปืนจะไปทับกับวงดำซึ่งจะทำให้การจัดภาพการเล็งยากมาก ทั้งนี้เพราะขณะที่ทำการเล็งนั้น ภาพของศูนย์ปืนจะมีขนาดเท่ากับก้านไม้ขีดไฟเท่านั้น

การเล็ง
1.   ศูนย์หน้าต้องมองเห็นชัด
2.   ศูนย์หลังจะเบลอ
3.   แสง 2 ข้างของศูนย์หน้าต้องเท่ากัน
4.   ความกว้างของศูนย์หน้าขึ้นอยู่กับบุคคล
5.   ความลึกของศูนย์หลังต้องเพียงพอที่จะเห็นศูนย์หน้าชัด
จุดรวมของการเล็ง
   จะเน้นที่ศูนย์หน้า เป้าที่เห็นจะเบลอ เพราะตาของเราไม่สามารถจับจุดทั้งสองพร้อมกันได้การเน้นจุดที่ศูนย์หน้าต้องระวังความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย และต้องรีบแก้ไขอย่างทันที
   ตาทั้ง 2 ข้างต้องเปิดช่วงระหว่างการเล็ง โดยอาจจะมีการปิดตาข้างข้างหนึ่งบนแว่นที่ใช้ยิง แต่ควรจะให้แสงเข้าตาที่ไม่ได้ใช้เล็งได้บ้าง แว่นตาต้องเลือกให้เหมาะกับตัวเรา ถ้าเรามีปัญหาเรื่องสายตา ต้องปรึกษากับจักษุแพทย์
   วิธีการเล็งโดยเปิดตาทั้ง 2 ข้างโดยไม่มีการปิดตาเป็นที่ชื่นชอบมากกว่า
การเล็งที่เหมาะสม
   เปิดตาทั้งสองข้าง ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับการหาจุดที่ชัดเจน ให้ตัดสินใจว่าตาข้างไหนชัดเจนและให้ปิดตาอีกข้าง
   เลนซ์ของแว่นตาที่ใช้ยิงปืน ต้องแน่ใจว่าจะไม่ปิดตาอย่างสมบูรณ์ขณะที่ตาทั้งสองข้างต้องการแสงเพื่อที่จะเล็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   โฟกัสครึ่งหนึ่งของศูนย์หน้า ขอบของศูนย์หลังจะเบลอเล็กน้อยและเป้าหมายจะอยู่นอกโฟกัส
   ความสนใจจะอยู่แนวเส้นตรงของการเล็ง ขณะเดียวกันจะต้องรักษาพื้นที่ให้การเคลื่อนไหวน้อยที่สุด (Wobble Area) การกดไกปืนจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ขณะที่ความสนใจจะอยู่ที่แนวเล็งตลอด
การเล็งจะใช้เวลา 6-8 วินาที ถ้าไม่สามารถยิงออกไปได้ในระยะเวลานี้
ให้ยกเลิกและให้เริ่มต้นทั้งหมดใหม่อีกครั้ง
บันทึกการเข้า
จะเด็ด
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 487



« ตอบ #57 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 04:26:12 PM »

การตั้งศูนย์
   ศูนย์ปืนจะประกอบด้วยศูนย์หน้าและศูนย์หลัง ศูนย์หน้าจะติดตายตัวไม่สามารถจะปรับตั้งได้ การปรับตั้งจะปรับตั้งที่ศูนย์หลัง โดยการเลื่อนศูนย์หลังขึ้นหรือลง เลื่อนไปทางซ้ายหรือทางขวา
หลักการตั้งมีดังนี้ เมื่อเรายิงออกไป ตำบลกระสุนตกไปที่ใดก็ตาม ให้ถือหลักว่าเราต้องการจะเลื่อนตำบลกระสุนตกไปที่ใดก็ให้เลื่อนศูนย์หลังไปตามนั้น เช่น ตำบลกระสุนตกต่ำกว่าวงดำ เราต้องการเลื่อนกระสุนให้ขึ้น เราก็เลื่อนศูนย์หลังขึ้น ถ้าต้องการเลื่อนตำบลกระสุนตกลงข้างล่าง เราก็เลื่อนศูนย์หลังลงข้างล่าง ต้องการให้กลุ่มกระสุนเลื่อนไปทางขวา ก็เลื่อนศูนย์หลังไปทางขวา ต้องการให้กลุ่มกระสุนเลื่อนไปทางซ้าย ก็เลื่อนศูนย์หลังไปทางซ้าย
วิธีการเลื่อนศูนย์อย่างใดก็จะต้องศึกษาดูจากอาวุธปืนในแต่ละประเภท หรือแต่ละบริษัทผู้ผลิต แต่ส่วนมาก ถ้าตัวตั้งศูนย์อยู่ด้านบน การหมุนเกลียวเข้าเป็นการลดศูนย์ลง การหมุนเกลียวออกเป็นการยกศูนย์หลังขึ้น ตัวตั้งทางข้างถ้าหมุนเกลียวเข้าจะเลื่อนกลุ่มกระสุนไปทางขวา ถ้าหมุนเกลียวออกจะเลื่อนกลุ่มกระสุนไปทางซ้าย เหมือนกับการใช้กฎมือขวา คือให้นิ้วโป้งเป็นทิศทางของตำบลกลุ่มกระสุนที่จะเลื่อนไป และนิ้วทั้ง4 เป็นทิศทางการหมุนเกลียว
บันทึกการเข้า
จะเด็ด
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 487



« ตอบ #58 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 04:27:01 PM »

1.5   การลั่นไก

การลั่นไกปืนจะต้องค่อยๆกดไกเบาๆ จนกว่าปืนจะลั่นเอง โดยที่ผู้ยิงอาจจะยังไม่รู้สึกตัว ปืนจะไม่มีอาการเคลื่อนไหว และภาพของการเล็งเหมือนเดิม จึงจะเป็นการลั่นไกที่ถูกต้อง ซึ่งกระสุนจะถูกตรงที่เล็งเอาไว้ ผู้ยิงไม่ควรจะรีบยิงเมื่อการเล็งถูกต้องเพราะกลัวปืนจะเคลื่อนออกจากแนวเล็งเสียก่อน เพราะการรีบยิงจะทำให้การลั่นไกกระตุก ซึ่งเป็นผลทำให้แนวเล็งเคลื่อนออกจากเป้าก่อนที่กระสุนปืนจะหลุดพ้นออกจากลำกล้งปืน การที่จะลั่นไกปืนให้มีความนุ่มนวลไม่กระตุกหรือกระชากนั้น มิใช่ว่าเมื่อผู้ยิงเข้าใจแล้วก็จะสามารถกระทำได้ ผู้ยิงจำเป็นที่จะต้องฝึกลั่นไกโดยไม่ใส่กระสุนปืน (dry fire) เป็นระยะเวลานานๆจนเกิดความคุ้นเคย และเกิดความชำนาญขึ้นเอง เมื่อเกิดความชำนาญขึ้นแล้ว ก็จะสามารถลั่นไกได้นุ่มนวลโดยไม่ต้องตั้งใจมากมายนัก

การฝึกลั่นไกโดยไม่ใส่กระสุนปืนนั้น เมื่อทำการฝึกจะสามารถตรวจสอบได้ว่าการปฏิบัตินั้นถูกต้องหรือไม่ โดยการเล็งศูนย์ปืนไว้ที่เป้า และพยายามลั่นไกให้ลั่นแล้ว ถ้าแนวเล็งไม่ได้หลุดออกจากจุดที่เล็ง ก็หมายความว่าการฝึกลั่นไกนั้นถูกต้อง ถ้าการลั่นไกนัดใดเมื่อลั่นแล้ว แนวศูนย์เคลื่อนออกจากแนวเล็งก็หมายความว่าการลั่นไกในนัดนั้นไม่ถูกต้องรุนแรงเกินไปจนทำแนวเล็งเคลื่อน ถ้าการยิงในนัดนั้นมีกระสุนปืน กระสุนปืนก็จะพลาดเป้า การฝึกยิงปืนโดยไม่ใส่กระสุนปืนนี้มีความสำคัญมาก ผู้ยิงที่ยังขาดความชำนาญในการลั่นไกจะต้องพยายามฝึกลั่นไกโดยไม่ใส่กระสุนปืนให้มากๆ อย่าใช้วิธีฝึกโดยใส่กระสุนปืนตลอดเวลา การฝึกโดยใช้กระสุนตลอดเวลานั้นจะไม่ได้ผลในการฝึกการลั่นไกได้ดีเท่า ในระยะแรกๆของการฝึก ผู้ฝึกจะต้องพยายามฝึกลั่นไกโดยไม่ใส่กระสุนประมาณวันละ 70-80 ครั้ง หรือมากกว่านั้น แต่การฝึกลั่นไกโดยใช้กระสุนเพียงวันละประมาณ 20-30 นัดเท่านั้น ซึ่งการฝึกลั่นไกโดยไม่ใส่กระสุนนั้นเป็นการฝึกที่ทรมานจิตใจมาก ผู้ฝึกมักจะไม่ชอบแต่ถ้าพยายามทำให้ได้ก็ขอรับรองว่าการฝึกจะได้ผลอย่างรวดเร็ว จะสามารถยิงได้อย่างนิ่มนวลโดยไม่มีอาการกระชากหรือกระตุกไก ซึ่งการลั่นไกในลักษณะนี้จะเป็นไปโดยอัตโนมัติ เหมือนกับการลั่นไกโดยไม่ใส่กระสุน (การฝึกวิธีนี้สามารถกระทำได้เฉพาะ ปืนอัดลมแบบใช้ CO2 และแบบอัดอากาศเท่านั้น ปืนอัดลมแบบสปริงไม่สามารถฝึกแบบนี้ได้ ยกเว้นแบบที่ใช้ไกไฟฟ้า)
บันทึกการเข้า
จะเด็ด
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 487



« ตอบ #59 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2009, 04:27:54 PM »

1.6 การยิง

   การที่จะชนะการแข่งขัน เราจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆอย่างถูกต้อง การเช่นนั้นจะทำให้เราสามารถควบคุมปฏิกิริยาต่างๆของตนเองได้ และจะนำเราไปสู่ชัยชนะดังนั้นจึงควรมีลำดับการยิงดังนี้
1.   หยิบปืนขึ้นมา วางอย่างระวังในมือที่ใช้ยิง โดยมือที่ไม่ได้ใช้ยิง
2.   ตรวจสอบการกำปืน เพื่อดูว่าศูนย์ตกหรือไม่
3.   ตั้งท่าที่เราถนัดและถูกต้อง
4.   หายใจลึกๆ 1-2 ครั้ง
5.   หายใจครั้งที่ 3 พร้อมกับการยกปืนขึ้น เมื่อถึงจุดเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ หายใจออกจนถึงจุดต่ำสุดของการหายใจออก โดยเน้นที่ศูนย์หน้าเอาไว้
6.   สร้างประสาทสัมผัสกับไกปืนเบาๆเป็นครั้งแรก
7.   รักษาแนวเล็ง
8.   เพิ่มแรงกดที่ไกปืน
9.   เน้นการเล็งแนวยิง
10.   ยิงโดยรักษาแนวเล็งไว้ตลอดเวลา
11.   รักษาสภาพ ทุกขั้นตอนของพื้นฐานการยิง
12.   จับภาพในช่วงที่กระสุนถูกปล่อยออกไป
13.   วิเคราะห์ ตรวจสอบและแก้ไข
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 ... 29
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.086 วินาที กับ 24 คำสั่ง