เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 25, 2024, 09:34:27 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอถามผู้รู้เรื่อง บทลงโทษการข่มขู่ด้วยอาวุธปืน  (อ่าน 27151 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 30 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
bambie
Full Member
***

คะแนน 9
ออฟไลน์

กระทู้: 133


« ตอบ #60 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2009, 02:40:09 AM »

เรื่องจบยังไงครับ
บันทึกการเข้า
พยัคฆ์เมฆ
ไม่เหนียวอย่า...ขอร้อง !
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 42
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 479



« ตอบ #61 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2009, 06:40:51 AM »

ผมก็เคยได้รับบทเรียนเช่นกัน ดันไปส่งปืนให้พี่สาวเอาไปทะเลาะกับแม่สามี พี่สาวชักออกมาขู่ปรากฏว่าแม่สามีวิ่งจุ๊ดเลย
เดี๋ยวเดียวตำรวจมา บอกขอดูปืนหน่อย ก็เลยเอาปืน BB ส่งให้ไป ตำรวจจึงยึดเอาไปแล้วบอกว่าผิดเหมือนกัน เพราะใช้
ข่มขู่ผู้อื่น เลยเชิญตัวไป สน.ทั้งคู่ สุดท้าย ท่าน ตร.ไกล่เกลี่ย ให้บอกเป็นเรื่องในครอบครัว เลยรอดมาได้ เข็ดเลยผม
บันทึกการเข้า

ลูกตี๋ใหญ่  ดำเนินฯ
jomcz
Full Member
***

คะแนน 29
ออฟไลน์

กระทู้: 414


« ตอบ #62 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2009, 11:26:48 AM »

แย่เลยครับ การที่มีอาวุธปืนในครอบครองแล้วเอาไปข่มขู่ผู้อื่นเนี้ยเป็นเรื่องที่ไม่ควรเลยนะครับ  ความจริงมีเรื่องแบบนี้ควรใช้สติให้มากเข้าไว้ครับ แจ้งตำรวจมาดำเนินการดีกว่า  แต่หากเป็นแบบนี้ต้องลองเข้าไปคุยกับเขาดีๆ แม้จะต้องไปขอโทษเขาพาผู้ใหญ่ไปด้วยก็ได้ครับ (เพื่อตอนนี้อะไรๆอาจจะดีขึ้น)ครับ หากไม่ดีขึ้นก็ต้องศึกษาลู่ทางจากในเวปนี้ล่ะครับ เรื่องแบบนี้อาจจะไม่จบง่ายๆ นะครับ อาจจะเสียเวลาและเสียเงินเสียทองอีกตะหากครับ เศร้า เศร้า
บันทึกการเข้า
RUGER
ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี ตรองดูซีทุกคนก็มีหัวใจ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1262
ออฟไลน์

กระทู้: 23344


ฟ้าลิขิตชีวิตข้า ให้ค้าขาย


« ตอบ #63 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2009, 01:10:24 PM »

ยอมเจ็บใจ ยอมเสียหน้า และยอมเสียตังค์    น่าจะจบได้ด้วยดี

เริ่มจากเสียตังค์ซื้อของขวัญสักกล่อง 

เสียหน้าเดินเข้าไปพูดคุยขอโทษเขา

เจ็บใจยอมเขาจะถากถางเอา ......

น่าจะจบได้ครับ  ..... ไหว้
บันทึกการเข้า

http://www.youtube.com/watch?v=Ci3YXN93QEs
เนื้อร้าย  ต้องตัดทิ้ง  ... 555
oil
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 187
ออฟไลน์

กระทู้: 4146


ใครหนอ โกงข้าว ล้มเจ้า เผาเมือง


« ตอบ #64 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2009, 02:19:02 PM »

อุทาหรณ์
นาย ต.เต่า ขับขี่รถยนต์ไปในทางสาธารณะด้วยความเร็วปรกติตามกฏหมายกำกหนด นาย งี่เง่าขับขี่รถยนต์ตู้มาด้วยความเร็วสูง จี้ท้ายรถนาย ต.เต่าและกระพริบสัญญาณไฟหน้าเพื่อให้หลบทาง  แต่เนื่องจากนาย ต.เต่าเดินรถชิดขอบทางด้านซ้ายอยู่แล้วจึงไม่สามารถหลบได้อีก นาย งี่เง่า หงุดหงิดบีบแตรไล่แต่ไม่ยอมแซงรถออกไปในช่องขวา  นาย ต.เต่าจึงนำหยิบสิ่งเทียมอาวุธปืนออกมาถือไว้ที่พวงมาลัยเพื่อข่มขู่ให้นาย งี่เง่ายุติการกระทำดังกล่าว  ต่อมานาย ต.เต่าถูก จนท.ตำรวจเรียกหยุดรถเพื่อตรวจค้น พบสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจึงยึดไว้และเชิญตัวนาย ต.เต่าไป สน.บางชัน เพื่อให้ร้อยเวรสอบสวน  เมื่อไปถึง สน.ฯ นายงี่เง่าได้รออยู่และร้อยเวรได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นาย ต.เต่า ตาม ปอ. ว่าด้วยการพยายามฆ่าผู้อื่น  นาย ต.เต่าให้การปฏิเสธ โดยให้ปากคำว่าสิ่งที่ใช้ในการข่มขู่เป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน ไม่สามารถก่อเหตุได้ตามข้อกล่าวหา 

ร้อยเวรจึงปรับมาตรา ๓๐๙ ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้ กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน หกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                   ถ้าความผิดตามวรรคแรกได้กระทำโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำ ความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำ ถอน ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใดผู้กระทำต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นาย ต.เต่าให้การต่อไปว่า จำเป็นต้องกระทำความผิด เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นรอดพ้นจากภยันตราย จากการกระทำอันเป็นการขัดต่อกฏหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และภยันตรายนั้นใกล้ถึงตัว และได้กระทำสมควรแก่เหตุแล้ว   เนื่องจากนายงี่เง่าขับขี่รถยนต์ไล่ตามในระยะกระชั้นชิด นาย ต.เต่าย่อมเกรงกลัวภัยอันตรายและไม่สามารถรับรู้ได้ว่านายงี่เง่ามีประสงค์ร้ายต่อตนเองหรือไม่

เรื่องดำเนินไปอย่างเมามันตามประสาคนหัวหมองูๆปลาๆอย่างนาย ต.เต่าและนายงี่เง่า ท้ายสุดจบลงด้วยการกล่าวคำขอโทษทั้งสองฝ่ายตามคำแนะนำของร้อยเวรซึ่งพยายามยกหลักกฏหมายมาปรับใช้กับคู่กรณี  ชี้ให้เห็นว่าเรื่องราวสามารถยุติได้ในชั้นสอบสวนหากคู่กรณีไม่ติดใจเอาความ จึงขอให้ลง ปจว.ไว้  หากไม่สามารถประนีประนอมยอมความกันได้ ก็จำต้องดำเนินคดีทั้งสองฝ่ายตามมาตรา ๓๐๙ และไปต่อสู้กันในชั้นศาล

ไม่เกี่ยวกับเรื่องของ จขกท.นะครับ เกี่ยวกับตัวผมโดยตรง แต่ชี้ให้เห็นว่าการใช้อาวุธปืนในทุกกรณี ศาลถือว่ามีเจตนาฆ่าเพราะเป็นอาวุธโดยสภาพและมีความร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้  การนำ อวป.ไปใช้โดยขาดวิจารณญาณจึงเป็นความเดือดร้อนอย่างหนัก  นี่ขนาดสิง่เทียมฯนะครับ

ปล.พี่ชายคุณก็ใช้สิ่งเทียมอาวุธปืนในการข่มขู่มิใช่หรือครับ เพราะไม่มีหลักฐานบันทึกการจับกุมใดๆ รวมทั้งการเข้าค้นบ้านตามหมายศาลก็ไม่พบ อวป.ที่เป็นของกลาง  ผมก็แนะนำแบบชาวบ้านว่าให้พี่ชายคุณนำอาวุธปืนปลอมที่ใช้ก่อเหตุในวันดังกล่าว พร้อมทนายความเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้วใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกมาในวันเดียวกัน เพื่อไปต่อสู้ข้อกล่าวหาตามมาตรา ๓๐๙ โดยปรับใช้"เทคนิค"ตามที่มีผู้แนะนำไว้ก่อนนี้ว่า  "คุณปฏิเสธ พยานปฏิเสธ หลักฐานไม่เจอ พยานแวดล้อมไม่มี มีแค่คำให้การผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
มืดด้วย ก็น่าจะรอดครับ"
ปล.พี่ชายคุณก็ใช้สิ่งเทียมอาวุธปืนในการข่มขู่มิใช่หรือครับ เพราะไม่มีหลักฐานบันทึกการจับกุมใดๆ รวมทั้งการเข้าค้นบ้านตามหมายศาลก็ไม่พบ อวป.ที่เป็นของกลาง  ผมก็แนะนำแบบชาวบ้านว่าให้พี่ชายคุณนำอาวุธปืนปลอมที่ใช้ก่อเหตุในวันดังกล่าว พร้อมทนายความเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้วใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกมาในวันเดียวกัน เพื่อไปต่อสู้ข้อกล่าวหาตามมาตรา ๓๐๙ โดยปรับใช้"เทคนิค"ตามที่มีผู้แนะนำไว้ก่อนนี้ว่า  "คุณปฏิเสธ พยานปฏิเสธ หลักฐานไม่เจอ พยานแวดล้อมไม่มี มีแค่คำให้การผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
มืดด้วย ก็น่าจะรอดครับ"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 04, 2009, 02:23:43 PM โดย oil » บันทึกการเข้า

Thailand must not welcome f..cking bag packer, get lost
gto801
Jr. Member
**

คะแนน 5
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 66



« ตอบ #65 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2009, 04:06:35 PM »

อุทาหรณ์
นาย ต.เต่า ขับขี่รถยนต์ไปในทางสาธารณะด้วยความเร็วปรกติตามกฏหมายกำกหนด นาย งี่เง่าขับขี่รถยนต์ตู้มาด้วยความเร็วสูง จี้ท้ายรถนาย ต.เต่าและกระพริบสัญญาณไฟหน้าเพื่อให้หลบทาง  แต่เนื่องจากนาย ต.เต่าเดินรถชิดขอบทางด้านซ้ายอยู่แล้วจึงไม่สามารถหลบได้อีก นาย งี่เง่า หงุดหงิดบีบแตรไล่แต่ไม่ยอมแซงรถออกไปในช่องขวา  นาย ต.เต่าจึงนำหยิบสิ่งเทียมอาวุธปืนออกมาถือไว้ที่พวงมาลัยเพื่อข่มขู่ให้นาย งี่เง่ายุติการกระทำดังกล่าว  ต่อมานาย ต.เต่าถูก จนท.ตำรวจเรียกหยุดรถเพื่อตรวจค้น พบสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจึงยึดไว้และเชิญตัวนาย ต.เต่าไป สน.บางชัน เพื่อให้ร้อยเวรสอบสวน  เมื่อไปถึง สน.ฯ นายงี่เง่าได้รออยู่และร้อยเวรได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นาย ต.เต่า ตาม ปอ. ว่าด้วยการพยายามฆ่าผู้อื่น  นาย ต.เต่าให้การปฏิเสธ โดยให้ปากคำว่าสิ่งที่ใช้ในการข่มขู่เป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน ไม่สามารถก่อเหตุได้ตามข้อกล่าวหา 

ร้อยเวรจึงปรับมาตรา ๓๐๙ ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้ กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน หกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                   ถ้าความผิดตามวรรคแรกได้กระทำโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำ ความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำ ถอน ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใดผู้กระทำต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นาย ต.เต่าให้การต่อไปว่า จำเป็นต้องกระทำความผิด เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นรอดพ้นจากภยันตราย จากการกระทำอันเป็นการขัดต่อกฏหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และภยันตรายนั้นใกล้ถึงตัว และได้กระทำสมควรแก่เหตุแล้ว   เนื่องจากนายงี่เง่าขับขี่รถยนต์ไล่ตามในระยะกระชั้นชิด นาย ต.เต่าย่อมเกรงกลัวภัยอันตรายและไม่สามารถรับรู้ได้ว่านายงี่เง่ามีประสงค์ร้ายต่อตนเองหรือไม่

เรื่องดำเนินไปอย่างเมามันตามประสาคนหัวหมองูๆปลาๆอย่างนาย ต.เต่าและนายงี่เง่า ท้ายสุดจบลงด้วยการกล่าวคำขอโทษทั้งสองฝ่ายตามคำแนะนำของร้อยเวรซึ่งพยายามยกหลักกฏหมายมาปรับใช้กับคู่กรณี  ชี้ให้เห็นว่าเรื่องราวสามารถยุติได้ในชั้นสอบสวนหากคู่กรณีไม่ติดใจเอาความ จึงขอให้ลง ปจว.ไว้  หากไม่สามารถประนีประนอมยอมความกันได้ ก็จำต้องดำเนินคดีทั้งสองฝ่ายตามมาตรา ๓๐๙ และไปต่อสู้กันในชั้นศาล

ไม่เกี่ยวกับเรื่องของ จขกท.นะครับ เกี่ยวกับตัวผมโดยตรง แต่ชี้ให้เห็นว่าการใช้อาวุธปืนในทุกกรณี ศาลถือว่ามีเจตนาฆ่าเพราะเป็นอาวุธโดยสภาพและมีความร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้  การนำ อวป.ไปใช้โดยขาดวิจารณญาณจึงเป็นความเดือดร้อนอย่างหนัก  นี่ขนาดสิง่เทียมฯนะครับ

ปล.พี่ชายคุณก็ใช้สิ่งเทียมอาวุธปืนในการข่มขู่มิใช่หรือครับ เพราะไม่มีหลักฐานบันทึกการจับกุมใดๆ รวมทั้งการเข้าค้นบ้านตามหมายศาลก็ไม่พบ อวป.ที่เป็นของกลาง  ผมก็แนะนำแบบชาวบ้านว่าให้พี่ชายคุณนำอาวุธปืนปลอมที่ใช้ก่อเหตุในวันดังกล่าว พร้อมทนายความเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้วใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกมาในวันเดียวกัน เพื่อไปต่อสู้ข้อกล่าวหาตามมาตรา ๓๐๙ โดยปรับใช้"เทคนิค"ตามที่มีผู้แนะนำไว้ก่อนนี้ว่า  "คุณปฏิเสธ พยานปฏิเสธ หลักฐานไม่เจอ พยานแวดล้อมไม่มี มีแค่คำให้การผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
มืดด้วย ก็น่าจะรอดครับ"
ปล.พี่ชายคุณก็ใช้สิ่งเทียมอาวุธปืนในการข่มขู่มิใช่หรือครับ เพราะไม่มีหลักฐานบันทึกการจับกุมใดๆ รวมทั้งการเข้าค้นบ้านตามหมายศาลก็ไม่พบ อวป.ที่เป็นของกลาง  ผมก็แนะนำแบบชาวบ้านว่าให้พี่ชายคุณนำอาวุธปืนปลอมที่ใช้ก่อเหตุในวันดังกล่าว พร้อมทนายความเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้วใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกมาในวันเดียวกัน เพื่อไปต่อสู้ข้อกล่าวหาตามมาตรา ๓๐๙ โดยปรับใช้"เทคนิค"ตามที่มีผู้แนะนำไว้ก่อนนี้ว่า  "คุณปฏิเสธ พยานปฏิเสธ หลักฐานไม่เจอ พยานแวดล้อมไม่มี มีแค่คำให้การผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
มืดด้วย ก็น่าจะรอดครับ"


ชัดเจนดีครับ ที่ว่าหลักฐานไม่เจอนี่ถึง เขาตรวจสอบได้ว่าเรามี(จาก ป.4) แต่ตัวอาวุธไม่ได้อยู่บ้านที่เกิดเหตุก็ใช้อ้างได้ใช่ไหมครับ
บันทึกการเข้า

Tืa์M๊ ┇รัnใuxaวJ
T็a๋kํk็y็l๊i็v์e์
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 64
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 721


2341E51F


« ตอบ #66 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2009, 10:06:07 PM »

ปืนมีไว้ยิง ไม่ได้มีไว้ขู่ครับ  (ยิงโจรเท่านั่น)
บันทึกการเข้า


www.gunsandgames.com

-๊S็a๊F๋e์T๋Y์   A๋c๊c๋u๊r๋aํt๋Eื   S๊m์o๊o่TัH์   F๊a๋s๋T๊-๊
dignitua-รักในหลวง
เราจะสู้เพื่อในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1414
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8341


จะมีพรุ่งนี้ ได้อีกกี่วัน...


« ตอบ #67 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2009, 10:25:54 PM »

ได้ข้อเตือนสติอีกอย่างแล้วครับ ผมก็เกือบไปเหมือนกันครับ Smiley (แอบเหล่ๆคุณสมชาย ^^! )
บันทึกการเข้า

น้าทู...รักในหลวง...
Full Member
***

คะแนน 14
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 206


นกเอี่ยงผู้หน้ารัก


« ตอบ #68 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 07:41:24 AM »

ขอเอาประสพการณ์ของบุคคลอื่น เป็นเครื่องเตือนใจครับ.. ไหว้ ไหว้..

แล้ว ขอให้จบลงด้วยดีน๊ะครับ..

บันทึกการเข้า

.....รักทุกคนที่รัก gun..

.....เอี้ยงน้อยตัวหนึ่ง....
questionmark
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4



« ตอบ #69 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 08:41:45 AM »



[/quote]
ถ้าเราอยู่ในเขตบ้านของเราและมีปืนด้วยได้เปรียบในเชิงกฎหมายครับ   Wink



ถามต่อนิดนึงครับ แล้วถ้าปืนเราขึ้นทะเบียนในจังหวัดนึง ยกตัวอย่าเช่นปืนทะเบียน จังหวัดปัตตานี



แล้วเรามาเช่าบ้าน อยู่ที่ จังหวัด กรุงเทพ แล้วเกิดทีเรื่องมีราว เราสามารถ พกปืน(แหนบแบบให้เห็นจะๆ)ในเขตบ้านของเรา ที่เราเช่าที่ กรุงเทพ




แบบนี้ ผิดกฏหมายไหมครับ
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #70 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 09:22:16 AM »

ได้ข้อเตือนสติอีกอย่างแล้วครับ ผมก็เกือบไปเหมือนกันครับ Smiley (แอบเหล่ๆคุณสมชาย ^^! )

แฮ่ๆ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #71 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 09:24:39 AM »

อุทาหรณ์
นาย ต.เต่า ขับขี่รถยนต์ไปในทางสาธารณะด้วยความเร็วปรกติตามกฏหมายกำกหนด นาย งี่เง่าขับขี่รถยนต์ตู้มาด้วยความเร็วสูง จี้ท้ายรถนาย ต.เต่าและกระพริบสัญญาณไฟหน้าเพื่อให้หลบทาง  แต่เนื่องจากนาย ต.เต่าเดินรถชิดขอบทางด้านซ้ายอยู่แล้วจึงไม่สามารถหลบได้อีก นาย งี่เง่า หงุดหงิดบีบแตรไล่แต่ไม่ยอมแซงรถออกไปในช่องขวา  นาย ต.เต่าจึงนำหยิบสิ่งเทียมอาวุธปืนออกมาถือไว้ที่พวงมาลัยเพื่อข่มขู่ให้นาย งี่เง่ายุติการกระทำดังกล่าว  ต่อมานาย ต.เต่าถูก จนท.ตำรวจเรียกหยุดรถเพื่อตรวจค้น พบสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจึงยึดไว้และเชิญตัวนาย ต.เต่าไป สน.บางชัน เพื่อให้ร้อยเวรสอบสวน  เมื่อไปถึง สน.ฯ นายงี่เง่าได้รออยู่และร้อยเวรได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นาย ต.เต่า ตาม ปอ. ว่าด้วยการพยายามฆ่าผู้อื่น  นาย ต.เต่าให้การปฏิเสธ โดยให้ปากคำว่าสิ่งที่ใช้ในการข่มขู่เป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน ไม่สามารถก่อเหตุได้ตามข้อกล่าวหา 

ร้อยเวรจึงปรับมาตรา ๓๐๙ ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้ กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน หกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                   ถ้าความผิดตามวรรคแรกได้กระทำโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำ ความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำ ถอน ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใดผู้กระทำต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นาย ต.เต่าให้การต่อไปว่า จำเป็นต้องกระทำความผิด เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นรอดพ้นจากภยันตราย จากการกระทำอันเป็นการขัดต่อกฏหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และภยันตรายนั้นใกล้ถึงตัว และได้กระทำสมควรแก่เหตุแล้ว   เนื่องจากนายงี่เง่าขับขี่รถยนต์ไล่ตามในระยะกระชั้นชิด นาย ต.เต่าย่อมเกรงกลัวภัยอันตรายและไม่สามารถรับรู้ได้ว่านายงี่เง่ามีประสงค์ร้ายต่อตนเองหรือไม่

เรื่องดำเนินไปอย่างเมามันตามประสาคนหัวหมองูๆปลาๆอย่างนาย ต.เต่าและนายงี่เง่า ท้ายสุดจบลงด้วยการกล่าวคำขอโทษทั้งสองฝ่ายตามคำแนะนำของร้อยเวรซึ่งพยายามยกหลักกฏหมายมาปรับใช้กับคู่กรณี  ชี้ให้เห็นว่าเรื่องราวสามารถยุติได้ในชั้นสอบสวนหากคู่กรณีไม่ติดใจเอาความ จึงขอให้ลง ปจว.ไว้  หากไม่สามารถประนีประนอมยอมความกันได้ ก็จำต้องดำเนินคดีทั้งสองฝ่ายตามมาตรา ๓๐๙ และไปต่อสู้กันในชั้นศาล

ไม่เกี่ยวกับเรื่องของ จขกท.นะครับ เกี่ยวกับตัวผมโดยตรง แต่ชี้ให้เห็นว่าการใช้อาวุธปืนในทุกกรณี ศาลถือว่ามีเจตนาฆ่าเพราะเป็นอาวุธโดยสภาพและมีความร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้  การนำ อวป.ไปใช้โดยขาดวิจารณญาณจึงเป็นความเดือดร้อนอย่างหนัก  นี่ขนาดสิง่เทียมฯนะครับ

ปล.พี่ชายคุณก็ใช้สิ่งเทียมอาวุธปืนในการข่มขู่มิใช่หรือครับ เพราะไม่มีหลักฐานบันทึกการจับกุมใดๆ รวมทั้งการเข้าค้นบ้านตามหมายศาลก็ไม่พบ อวป.ที่เป็นของกลาง  ผมก็แนะนำแบบชาวบ้านว่าให้พี่ชายคุณนำอาวุธปืนปลอมที่ใช้ก่อเหตุในวันดังกล่าว พร้อมทนายความเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้วใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกมาในวันเดียวกัน เพื่อไปต่อสู้ข้อกล่าวหาตามมาตรา ๓๐๙ โดยปรับใช้"เทคนิค"ตามที่มีผู้แนะนำไว้ก่อนนี้ว่า  "คุณปฏิเสธ พยานปฏิเสธ หลักฐานไม่เจอ พยานแวดล้อมไม่มี มีแค่คำให้การผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
มืดด้วย ก็น่าจะรอดครับ"
ปล.พี่ชายคุณก็ใช้สิ่งเทียมอาวุธปืนในการข่มขู่มิใช่หรือครับ เพราะไม่มีหลักฐานบันทึกการจับกุมใดๆ รวมทั้งการเข้าค้นบ้านตามหมายศาลก็ไม่พบ อวป.ที่เป็นของกลาง  ผมก็แนะนำแบบชาวบ้านว่าให้พี่ชายคุณนำอาวุธปืนปลอมที่ใช้ก่อเหตุในวันดังกล่าว พร้อมทนายความเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้วใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกมาในวันเดียวกัน เพื่อไปต่อสู้ข้อกล่าวหาตามมาตรา ๓๐๙ โดยปรับใช้"เทคนิค"ตามที่มีผู้แนะนำไว้ก่อนนี้ว่า  "คุณปฏิเสธ พยานปฏิเสธ หลักฐานไม่เจอ พยานแวดล้อมไม่มี มีแค่คำให้การผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
มืดด้วย ก็น่าจะรอดครับ"


ตาม Post ข้างบนอาจโดน ม.81 และต้องสู้ให้หลุดออกมาเป็นวรรค 2 ครับ... เย้

ปอ. 81 บัญญัติว่า "ผู้ใดกระทำการโดยมุ่งต่อผลซึ่งกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด แต่การกระทำนั้นไม่สามารถจะบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำหรือเหตุแห่งวัตถุที่มุ่งหมายกระทำต่อ ให้ถือว่าผู้นั้นพยายามกระทำความผิด แต่ให้ลงโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น"

มาตรา 81 วรรค 2 "ถ้าการกระทำดังกล่าวในวรรคแรกได้กระทำไปโดยความเชื่ออย่างงมงาย ศาลจะไม่ลงโทษก็ได้"

เย้...
บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #72 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 10:02:29 AM »

ปล.พี่ชายคุณก็ใช้สิ่งเทียมอาวุธปืนในการข่มขู่มิใช่หรือครับ เพราะไม่มีหลักฐานบันทึกการจับกุมใดๆ รวมทั้งการเข้าค้นบ้านตามหมายศาลก็ไม่พบ อวป.ที่เป็นของกลาง  ผมก็แนะนำแบบชาวบ้านว่าให้พี่ชายคุณนำอาวุธปืนปลอมที่ใช้ก่อเหตุในวันดังกล่าว พร้อมทนายความเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้วใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกมาในวันเดียวกัน เพื่อไปต่อสู้ข้อกล่าวหาตามมาตรา ๓๐๙ โดยปรับใช้"เทคนิค"ตามที่มีผู้แนะนำไว้ก่อนนี้ว่า  "คุณปฏิเสธ พยานปฏิเสธ หลักฐานไม่เจอ พยานแวดล้อมไม่มี มีแค่คำให้การผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
มืดด้วย ก็น่าจะรอดครับ"


อีกนิดหนึ่งครับ Cheesy
 การที่ศาลจะพิจารณาว่าจำเลยได้กระทำความผิดหรือไม่อย่างไร
ขึ้นอยู่พยานหลักฐานของโจทก์ (พนักงานอัยการ ) ว่ามีน้ำหนัก น่าเชื่อถือ และสามารถพิสูจน์ว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงตามฟ้องโจทก์ด้วย

เป็นไปตามหลักประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา มาตรา ๒๒๗ ที่ว่า
      ให้ศาลใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน ทั้งปวงอย่าพิพากษาลงโทษจนกว่าจะแน่ใจว่ามีการกระทำผิดจริง และจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดนั้น
       เมื่อมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำผิดหรือไม่ (โจทก์ไม่มีหลักฐาน หรือพยานโจทก์ไม่อาจยืนยันได้อย่างมั่งคงว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดจริง ) ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลย

ดังนั้น ในเรื่องการต่อสู้คดี คงต้องแยกออกเป็น ๒ ส่วน ว่าผู้ต้องหาจะสู้แบบไหน คือ
๑.รับว่าทำการข่มขู่จริง แต่ปืนที่ใช้เป็นปืนปลอมโดยนำไปมอบให้พนักงานสอบสวน และเป็นการป้องกัน จำเป็น ฯลฯ
๒.ไม่ได้ทำการข่มขู่ใดๆทั้งสิ้น เพียงแค่เดินไปพูดคุยเท่านั้น

เมื่อสถานที่เกิดเหตุ ค่อนข้างมีแสงสว่างน้อย ย่อมทำให้การมองเห็นของบุคคล ด้อยลงไปด้วย
ทั้งในการเข้าค้นบ้าน ยังไม่พบสิ่งใดๆเลย  ลองเลือกดูละกันครับว่าจะไปแนวทางใดครับ Grin
บันทึกการเข้า
oil
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 187
ออฟไลน์

กระทู้: 4146


ใครหนอ โกงข้าว ล้มเจ้า เผาเมือง


« ตอบ #73 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 01:05:15 PM »

ดังนั้น ในเรื่องการต่อสู้คดี คงต้องแยกออกเป็น ๒ ส่วน ว่าผู้ต้องหาจะสู้แบบไหน คือ
๑.รับว่าทำการข่มขู่จริง แต่ปืนที่ใช้เป็นปืนปลอมโดยนำไปมอบให้พนักงานสอบสวน และเป็นการป้องกัน จำเป็น ฯลฯ
๒.ไม่ได้ทำการข่มขู่ใดๆทั้งสิ้น เพียงแค่เดินไปพูดคุยเท่านั้น

เมื่อสถานที่เกิดเหตุ ค่อนข้างมีแสงสว่างน้อย ย่อมทำให้การมองเห็นของบุคคล ด้อยลงไปด้วย
ทั้งในการเข้าค้นบ้าน ยังไม่พบสิ่งใดๆเลย  ลองเลือกดูละกันครับว่าจะไปแนวทางใดครับ

ผมสนใจแนวที่คุณสิงห์กลิ้งแนะนำมาครับ แต่ถ้ามีทางเลือกที่สามว่า ไม่ได้ข่มขู่แค่เดินไปคุยเฉย โดยนำอาวุธปืนปลอมไปด้วยเพื่อป้องกันตัวหากคู่กรณีมีเจตนาเข้ามาทำร้าย ตามข้อเท็จจริงปรากฏว่าคู่กรณีเมาสุราไม่คุยด้วยดีๆ มีท่าทางจะเข้ามาทำร้ายจึงต้องนำอาวุธปืนปลอมออกมาเพื่อยุติการกระทำของคู่กรณีอันเป็นภัยันตรายใกล้ถึงตัว จากนั้นก็รีบเดินกลับเข้าบ้าน เหตุการณ์นั้นได้ยุติแล้ว

ที่ผมไม่เลือกทางเลือกที่สองเพราะคู่กรณีมีมากกว่าหนึ่งคน และยืนยันการเห็นจำเลยถือ อวป.อยู่ในมือ หากดันทุรังบอกว่าไม่มีปืน   ศาลท่านจะให้น้ำหนักพยานบุคคลฝ่ายผู้เสียหาย(ถ้ามีแค่คู่กรณีคนเดียว ผมเชียร์ให้บอกว่ามันเมา เราคุยด้วยดีๆ ไม่มีอาวุธใดๆทั้งสิ้น)

อย่างกรณีของนาย ต.เต่าข้างต้น ถ้าอ้างว่าไม่มีปืน คงจะโดนด่านที่สกัดจับค้นรถแหลกราญเพื่อหาของกลาง  แต่นาย ต.เต่าตัดสินใจบอกไปเลยว่ามีสิ่งเทียมอาวุธปืนและพร้อมให้ตรวจสอบแต่โดยดี  การควบคุมตัวจึงเปลี่ยนเป็นการเชิญตัวไปให้ปากคำแทน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 05, 2009, 01:12:04 PM โดย oil » บันทึกการเข้า

Thailand must not welcome f..cking bag packer, get lost
D.Thanakorn +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 951
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2122



« ตอบ #74 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2009, 01:55:40 PM »

ขอบคุณครับได้ความรู้จากกระทู้นี้มากๆเลยครับ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

จงมีน้ำใจต่อกัน
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.093 วินาที กับ 22 คำสั่ง