เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 16, 2024, 11:06:25 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาทำ Zero setting สำหรับยิง field target กันดีกว่าครับ  (อ่าน 34292 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 14 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
montri.7
Anschutz 2025
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 889
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4480



เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 12:01:44 AM »

ปืนผมฮัทซานติดขาสูง กล้องบุชแนล โทรฟี่ จะปรับโฟกัสเพื่อไม่ให้มีพาราแล็ก ที่เลนตาถูกต้องไหมครับ

เออกล้องบุชแนล โทรฟี่ของคุณมีกำลังขยายเท่าไรครับเพราะรุ่น โทรฟี่ ก็มีหลายร่นหลายกำลังขยายนะครับท่าเป็นรุ่นกำลังขยายน้อยเช่น Bushnell Trophy 3-9x40 ตัวนี้จะไม่มีตัวปรับโฟกัสพาราแล็คมาให้ครับแต่ท่าเป็นรุ่น 4-12x40 ขึ้นไปถึงจะมีให้ครับปรับที่ด้านหน้าครับ

ตัวนี้  3-9x40 ครับ


ส่วนตัวนี้  4-12x40 ครับ

บันทึกการเข้า

komatsu
Hero Member
*****

คะแนน 319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4139


How far is near??


« ตอบ #31 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 06:47:25 AM »

สงสัยต้องซื้อกล้องอีกตัว
กล้องแบบคุณต๋องซื้อที่ใหนครับราคาเท่าไร
ใช้แทนโทรฟี่ของผมได้ใหม
กากะบาทเลื่อนตลอดแต่สามารถยิงเข้าจุดที่ 10 ม. ได้นะครับ
อย่าพึ่งใจร้อนเปลี่ยนกล้องครับ ลองตรวจสอบขากล้องดูว่าขันยึดแน่นแล้วหรือยัง
บันทึกการเข้า

MAGNUM-60
Hero Member
*****

คะแนน 346
ออฟไลน์

กระทู้: 2329


« ตอบ #32 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 09:00:53 AM »

ให้ความสำคัญกับกล้องติดปืนมากไปหรือเปล่า  ปืนอัดอากาศพวกนี้  มีแรงรีคอยร์  ต่ำมาก  ผมว่ากล้องจีนก็เอาอยู่แล้ว  ขอให้หาระยะยิงที่ต้องการจะยิงว่าอยู่ระยะไหน  แล้วจึงจัดหากล้องให้ถูกกับระยะยิง  เช่น  ศูนย์เปิด  10-20 เมตร   กล้อง3*9  ระยะ20-40 เมตร   6*18  40-70 เมตร   24เท่าขึ้นไป  70-100  เมตร  แค่นี้ผมว่าก็เกินพอแล้วนะครับ  ไกลกว่านั้นพวกเราคงหาที่ยิงหรือเป้าที่จะยิงลำบากแล้วนะครับ  ถ้าเป็นผมนะ  3000  บาท  ก็คิดว่าหรูแล้วครับ
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #33 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 02:22:05 PM »

ให้ความสำคัญกับกล้องติดปืนมากไปหรือเปล่า  ปืนอัดอากาศพวกนี้  มีแรงรีคอยร์  ต่ำมาก  ผมว่ากล้องจีนก็เอาอยู่แล้ว  ขอให้หาระยะยิงที่ต้องการจะยิงว่าอยู่ระยะไหน  แล้วจึงจัดหากล้องให้ถูกกับระยะยิง  เช่น  ศูนย์เปิด  10-20 เมตร   กล้อง3*9  ระยะ20-40 เมตร   6*18  40-70 เมตร   24เท่าขึ้นไป  70-100  เมตร  แค่นี้ผมว่าก็เกินพอแล้วนะครับ  ไกลกว่านั้นพวกเราคงหาที่ยิงหรือเป้าที่จะยิงลำบากแล้วนะครับ  ถ้าเป็นผมนะ  3000  บาท  ก็คิดว่าหรูแล้วครับ

ถูกต้องที่สุดครับ  3000 บาท ผมก็ว่าหรูสุดแล้วสำหรับปืนอัดลมยิงระยะ 10 - 50 เมตร
เมื่อเชื่อลองหาถามคนที่ใช้กล้องราคา 2-3 หมื่นดูสิครับ ว่ามันต่างกันตรงไหน ยกเว้นเลนส์ใสแจ๋ว
บันทึกการเข้า
komatsu
Hero Member
*****

คะแนน 319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4139


How far is near??


« ตอบ #34 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 04:50:51 PM »

ให้ความสำคัญกับกล้องติดปืนมากไปหรือเปล่า  ปืนอัดอากาศพวกนี้  มีแรงรีคอยร์  ต่ำมาก  ผมว่ากล้องจีนก็เอาอยู่แล้ว  ขอให้หาระยะยิงที่ต้องการจะยิงว่าอยู่ระยะไหน  แล้วจึงจัดหากล้องให้ถูกกับระยะยิง  เช่น  ศูนย์เปิด  10-20 เมตร   กล้อง3*9  ระยะ20-40 เมตร   6*18  40-70 เมตร   24เท่าขึ้นไป  70-100  เมตร  แค่นี้ผมว่าก็เกินพอแล้วนะครับ  ไกลกว่านั้นพวกเราคงหาที่ยิงหรือเป้าที่จะยิงลำบากแล้วนะครับ  ถ้าเป็นผมนะ  3000  บาท  ก็คิดว่าหรูแล้วครับ

ถูกต้องที่สุดครับ  3000 บาท ผมก็ว่าหรูสุดแล้วสำหรับปืนอัดลมยิงระยะ 10 - 50 เมตร
เมื่อเชื่อลองหาถามคนที่ใช้กล้องราคา 2-3 หมื่นดูสิครับ ว่ามันต่างกันตรงไหน ยกเว้นเลนส์ใสแจ๋ว
หลังจากลังเลอยู่หลายคืนเพื่อหาข้อมูล
ผมขอจบที่ ZOS 6-24x50 ละกัน เพราะได้ลองใช้แล้วก็พอใจมาก เยี่ยม
เดี๋ยวค่อยสั่งมาใช้เองอีกซักอันดีกว่า
บันทึกการเข้า

POM_PHIMAI
มีฝีมืออย่างเดียวยังไม่พอ!
Jr. Member
**

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22

ต้องทำดีเพื่อประเทศชาติ


« ตอบ #35 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 08:36:33 PM »

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ กล้องผม โทรฟี่ 3-9*40 ปรับไว้ที่10 เมตร ผมคงต้องปรับศูนย์ มาที่ 25 เมตร  เพราะเป้าที่จะยิงอยู่ที่ประมาณนี้
ที่ 25 เมตร คงไม่มีพาราแล็ก  และกลุ่มกระสุนจะกินต่ำ ที่ 10 เมตร และที่ประมาณ 35-40 เมตร กลุ่มกระสุนก็คงจะกินต่ำอีก ถูกต้องหรือเปล่าครับ
ขอข้อมูลไปปรับกล้องพรุ่งนี้อีกทีครับ

 Grin Grin
บันทึกการเข้า
POM_PHIMAI
มีฝีมืออย่างเดียวยังไม่พอ!
Jr. Member
**

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22

ต้องทำดีเพื่อประเทศชาติ


« ตอบ #36 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 08:57:26 PM »

ผมขอจบที่ ZOS 6-24x50 ละกัน เพราะได้ลองใช้แล้วก็พอใจมาก
เดี๋ยวค่อยสั่งมาใช้เองอีกซักอันดีกว่า

สั่งได้ที่ไหนครับคุณ komatsu ราคาเท่าไรช่วยบอกหน่อยครับ
บันทึกการเข้า
ต๋อง_commander
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 25
ออฟไลน์

กระทู้: 551



« ตอบ #37 เมื่อ: มีนาคม 01, 2010, 10:27:10 AM »

oน้อง สุดสวย โค ตะ ระ แม่น   มากันแล้ว  เยี่ยม  พี่ๆ ทำsetting กล้องเล็ง สำหรับยิง field target กันหรือยังครับ 

พอทำเสร็จแล้ว จะทราบว่าการยิงปืนลม ที่ ระยะทางและ ลม เป็น ตัวแปรที่สำคัญนั้น  การ เซ็ต พาราแล็ก กล้องนั้น

มันสำคัญมาก จริงๆครับ ........... ขอให้สนุกกับปืนกระบอกใหม่กันทุกคนนะครับ  ไหว้   
บันทึกการเข้า
AJ_6080
พระราม2 กทม.
Hero Member
*****

คะแนน 1600
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5415


บารมี-มีได้เพราะความดี...


« ตอบ #38 เมื่อ: มีนาคม 01, 2010, 11:13:33 AM »

ลองแล้วครับ สนามเปิดลมแรงพอควร 45 เมตร ลูกวิ่งไปขวาห่างเป้า  0.5 เมตรครับส่วนในระดับแนวสูงต่ำ ใกล้เคียงครับ
ผมว่ากระแสลมเดายากมากๆ เลยครับ กว่าจะโดนเป้า หมดไป 20 กว่านัด โดนเป้าสามนัด ...เล่นลมเกือบหมดกระบอกเลย

ต้องลองสนามเปิด  ระยะ 40 เมตร+    แล้วจะสนุกครับ::002:: เยี่ยม
บันทึกการเข้า

  ผมรักในหลวง...ครับ
MarshalLek
Jr. Member
**

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 40


« ตอบ #39 เมื่อ: มีนาคม 01, 2010, 03:59:18 PM »

ได้ความรู้มากเลยครับพี่ๆ ส่วนกล้องผมใช้รุ่นถูกๆ จะปรับบนล่าง ก็ต้องเปิดฝา ยุ่งยาก ผมก็เลยซ้อมบ่อยๆหาระยะกระสุนจนขึ้นใจ เวลายิงผมก็เลยไม่ต้องปรับเพราะจำวิถีกระสุนปืนตัวเองได้ ถ้า 30เมตร 50เมตร   ผมก็ใช้วิธีเล็งเผื่อ จะให้มานั่งปรับกี่่คลิกต่อกี่คลิก กล้องผมไม่ทันกิน อิอิ(ส่วนใหญ่ผมใช้ล่า ลงสนามคงสู้ใครไม่ไหว)
ส่วนคนที่ใช้ Air arm s410 ถ้าใช้กล้องรุ่นที่มี Wheel  ปรับโฟกัส บางทีอาจจะวงใหญ่มากทำให้มีปัญหาในการบันจุกระสุน ผมไปเจอวิธีแก้แบบง่ายๆ อิอิ ไม่รู้จะกล้าทำป่าว แต่ไม่น่าจะเสียหายต่อกล้องนะว่าใหมพี่
Air Arms S410 Parallex Wheel & Cartridge Mod
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2010, 04:02:39 PM โดย MarshalLek » บันทึกการเข้า
toey(OSK119) รักในหลวงครับ
คนเราถ้าไม่ลองทำสิ่งใหม่ๆ ก็ไม่มีการพัฒนา
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 101
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 669



« ตอบ #40 เมื่อ: มีนาคม 01, 2010, 05:43:50 PM »

ให้ความสำคัญกับกล้องติดปืนมากไปหรือเปล่า  ปืนอัดอากาศพวกนี้  มีแรงรีคอยร์  ต่ำมาก  ผมว่ากล้องจีนก็เอาอยู่แล้ว  ขอให้หาระยะยิงที่ต้องการจะยิงว่าอยู่ระยะไหน  แล้วจึงจัดหากล้องให้ถูกกับระยะยิง  เช่น  ศูนย์เปิด  10-20 เมตร   กล้อง3*9  ระยะ20-40 เมตร   6*18  40-70 เมตร   24เท่าขึ้นไป  70-100  เมตร  แค่นี้ผมว่าก็เกินพอแล้วนะครับ  ไกลกว่านั้นพวกเราคงหาที่ยิงหรือเป้าที่จะยิงลำบากแล้วนะครับ  ถ้าเป็นผมนะ  3000  บาท  ก็คิดว่าหรูแล้วครับ

ถูกต้องที่สุดครับ  3000 บาท ผมก็ว่าหรูสุดแล้วสำหรับปืนอัดลมยิงระยะ 10 - 50 เมตร
เมื่อเชื่อลองหาถามคนที่ใช้กล้องราคา 2-3 หมื่นดูสิครับ ว่ามันต่างกันตรงไหน ยกเว้นเลนส์ใสแจ๋ว

เรืองกล้องเล็งนี้น้องขออนุญาตตอบแทนละกันนะครับว่ามีข้อแตกต่างกันตรงไหน อย่างไร ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลยว่าเต้ยเคยใช้และได้มีโอกาสลองส่องทั้งกล้องจีน และ กล้องแบรนด์ต่างๆที่คุณภาพสูงๆมาแล้วจึงสามารถบอกความแตกต่างได้ค่อนข้างชัดเจน และการเปรียบเทียบนี้ไม่ได้เป็นการบอกว่า กล้องจีนไม่ดี ควรใช้กล้องราคาแพงๆ เพราะกล้องที่ดีนั้น จะแปรเปลี่ยนไปตามวัตถุประสงค์หลักของผู้ใช้ เช่นเน้นการล่าสัตว์ ไม่เน้นปั้นX ไม่ต้องการความแม่นยำมาก เอาแค่สามารถมองเห็นเป้าหมายได้ชัดเจนภายในระยะสังหารเท่านั้น ถ้าความต้องการใช้งานหลักๆมีเท่านี้ กล้องจีนก็เป็นคำตอบที่ดีสำหรับงานนี้ครับ แต่ถ้าวัตถุประสงค์หลักของผู้ใช้ คือเน้นยิงเป้า ปั้นX ต้องการความแม่นยำสูงๆ และต้องการมองเห็นเป้าหมายได้ชัดเจนที่ระยะต่างๆกัน คำว่าชัดเจนในที่นี้ เต้ยหมายความว่า ชัดเจนจริงๆนะครับ คือเห็นเป้า X ขนาดเล็กกว่าเหรียญ 25 สตางค์ที่ระยะ 25-50 เมตร หรือเห็น X ที่เป้าปืนไรเฟิลที่ระยะไกลๆ เช่น 200/400/600/800/1000 หลาได้ชัดเจน ก็ต้องใช้กล้องที่สามารถปรับกำลังขยายได้สูงๆหน่อย และคุณภาพเลนส์ดีๆ ถ้าเป็นความต้องการใช้งานแบบนี้กล้องจีนก็ไม่อาจจะตอบโจทย์ข้อนี้ของท่านได้แน่ๆ ลองมาพูดถึงข้อแตกต่างหลักๆเปรียบเทียบกันดูนะครับว่ามีอะไรบ้าง

1. การปรับคลิก สูง-ต่ำ ซ้าย-ขวา ของกล้องคุณภาพสูง สมมุติถ้าปรับset 0 ไว้ที่ระยะ 25 เมตรยิงเข้าเป้า X ได้แล้ว ลองเปลี่ยนระยะไปยิงที่ 50/100/200/400เมตร ทำการปรับกล้องให้กลุ่มกระสุน เข้าที่ X ในระยะต่างๆแล้ว สมมุติว่าปรับคลิกขึ้นบนไปทั้งหมด 50 คลิก พอคุณต้องการกลับมายิงที่ระยะ 25 เมตรเหมือนเดิม คุณปรับคลิกลงล่างมา 50 คลิกและทำการยิง กลุ่มกระสุนจะต้องเข้า X ที่เดิม จะต้องไม่กินสูง ต่ำ ซ้ายหรือขวาแต่อย่างใด ซึ่งความสามารถตรงนี้ กล้องจีนไม่สามารถทำได้ครับ

2. กล้องจีนไม่สามารถรับแรงถีบหนักๆของพวกปืนอัดลมสปริง หรือ ปืนดินขับขนาดต่างๆได้มากนัก ใช้งานไปซักพักเส้นเล็งก็จะเคลื่อน พลิก หรือ ขาดในที่สุด กล้องจีนถ้าเราset 0 ไว้แล้ว เก็บปืนเข้ากระเป๋า ส่วนใหญ่เวลานำออกมาใช้งานอีกครั้ง กล้องก็จะเคลื่อนต้องมานั่งปรับศูนย์กันใหม่เกือบทุกครั้งที่ทำการยิง แต่ถ้าเอาไว้ยิงเป้าใหญ่ๆเช่นล่าสัตว์ต่างๆ ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งปรับศูนย์ใหม่ก็ได้เพราะกล้องไม่ได้เคลื่อนเยอะขนาดนั้น แต่ถ้าจะยิงปั้น X รับรองได้ว่าคงต้องปรับศูนย์กันใหม่ทุกครั้งอย่างแน่นอน ซึ่งกล้องคุณภาพดีๆ หลังจากท่านทำการปรับศูนย์เรียบร้อยแล้ว ท่านเก็บปืนเข้ากระเป๋าไม่ว่าจะนานแค่ไหน หรือ มีแรงกระทบกระเทือนอย่างไรกล้องก็จะไม่มีการเคลื่อนตัว เมื่อนำออกมายิงครั้งต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งปรับศูนย์ทุกครั้งครับ

3. ลองดูวิธีง่ายๆที่สุด นำกล้องจีนไปใส่ตู้เย็นไว้ซัก 20 นาทีแล้วนำออกมาเจออุณหภูมิห้องปกติลองส่องดูจะเห็นได้ทันทีว่าเกิดฝ้า หรือ ไอน้ำขึ้นภายในกล้องเล็ง แต่ถ้าเป็นกล้องคุณภาพดีๆ จะไม่มีฝ้าและไอน้ำเกิดขึ้นภายในตัวกล้องเลย ข้อนี้เต้ยเจอกับตัวเองโดยตรงคือ นำปืนเก็บไว้ในห้องนอน เปิดแอร์ตามปกติ พรุ่งนี้เช้าตื่นมา นำปืนออกจากห้องแอร์ มาเจอกับอากาศอุณหภูมิปกติ เกิดฝ้าด้านในกล้องเต็มเลยครับ

4. เรืองความใส และ รายละเอียดของภาพไม่ต้องพูดถึงข้อนี้ครับ เทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว

นี่เป็นเพียงเหตุผลไม่กี่ข้อครับสำหรับความแตกต่างระหว่างกล้องจีน กับ กล้องคุณภาพสูงๆ ถ้าจะให้พูดกันเรืองนี้จริงๆต้องคุยกันยาวครับ หลักๆก็อย่างที่ว่าไปคือ กล้องดีไม่ดีนั้นหลักๆขึ้นอยู๋กับวัตถุประสงค์การใช้งานของผู้เป็นเจ้าของครับว่าต้องการอะไร เท่านั้นเองครับพี่  ไหว้
บันทึกการเข้า

OSK119 (๓๙๗๘๒)
ต๋อง_commander
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 25
ออฟไลน์

กระทู้: 551



« ตอบ #41 เมื่อ: มีนาคม 02, 2010, 09:03:47 AM »

ให้ความสำคัญกับกล้องติดปืนมากไปหรือเปล่า  ปืนอัดอากาศพวกนี้  มีแรงรีคอยร์  ต่ำมาก  ผมว่ากล้องจีนก็เอาอยู่แล้ว  ขอให้หาระยะยิงที่ต้องการจะยิงว่าอยู่ระยะไหน  แล้วจึงจัดหากล้องให้ถูกกับระยะยิง  เช่น  ศูนย์เปิด  10-20 เมตร   กล้อง3*9  ระยะ20-40 เมตร   6*18  40-70 เมตร   24เท่าขึ้นไป  70-100  เมตร  แค่นี้ผมว่าก็เกินพอแล้วนะครับ  ไกลกว่านั้นพวกเราคงหาที่ยิงหรือเป้าที่จะยิงลำบากแล้วนะครับ  ถ้าเป็นผมนะ  3000  บาท  ก็คิดว่าหรูแล้วครับ

ถูกต้องที่สุดครับ  3000 บาท ผมก็ว่าหรูสุดแล้วสำหรับปืนอัดลมยิงระยะ 10 - 50 เมตร
เมื่อเชื่อลองหาถามคนที่ใช้กล้องราคา 2-3 หมื่นดูสิครับ ว่ามันต่างกันตรงไหน ยกเว้นเลนส์ใสแจ๋ว

เรืองกล้องเล็งนี้น้องขออนุญาตตอบแทนละกันนะครับว่ามีข้อแตกต่างกันตรงไหน อย่างไร ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลยว่าเต้ยเคยใช้และได้มีโอกาสลองส่องทั้งกล้องจีน และ กล้องแบรนด์ต่างๆที่คุณภาพสูงๆมาแล้วจึงสามารถบอกความแตกต่างได้ค่อนข้างชัดเจน และการเปรียบเทียบนี้ไม่ได้เป็นการบอกว่า กล้องจีนไม่ดี ควรใช้กล้องราคาแพงๆ เพราะกล้องที่ดีนั้น จะแปรเปลี่ยนไปตามวัตถุประสงค์หลักของผู้ใช้ เช่นเน้นการล่าสัตว์ ไม่เน้นปั้นX ไม่ต้องการความแม่นยำมาก เอาแค่สามารถมองเห็นเป้าหมายได้ชัดเจนภายในระยะสังหารเท่านั้น ถ้าความต้องการใช้งานหลักๆมีเท่านี้ กล้องจีนก็เป็นคำตอบที่ดีสำหรับงานนี้ครับ แต่ถ้าวัตถุประสงค์หลักของผู้ใช้ คือเน้นยิงเป้า ปั้นX ต้องการความแม่นยำสูงๆ และต้องการมองเห็นเป้าหมายได้ชัดเจนที่ระยะต่างๆกัน คำว่าชัดเจนในที่นี้ เต้ยหมายความว่า ชัดเจนจริงๆนะครับ คือเห็นเป้า X ขนาดเล็กกว่าเหรียญ 25 สตางค์ที่ระยะ 25-50 เมตร หรือเห็น X ที่เป้าปืนไรเฟิลที่ระยะไกลๆ เช่น 200/400/600/800/1000 หลาได้ชัดเจน ก็ต้องใช้กล้องที่สามารถปรับกำลังขยายได้สูงๆหน่อย และคุณภาพเลนส์ดีๆ ถ้าเป็นความต้องการใช้งานแบบนี้กล้องจีนก็ไม่อาจจะตอบโจทย์ข้อนี้ของท่านได้แน่ๆ ลองมาพูดถึงข้อแตกต่างหลักๆเปรียบเทียบกันดูนะครับว่ามีอะไรบ้าง

1. การปรับคลิก สูง-ต่ำ ซ้าย-ขวา ของกล้องคุณภาพสูง สมมุติถ้าปรับset 0 ไว้ที่ระยะ 25 เมตรยิงเข้าเป้า X ได้แล้ว ลองเปลี่ยนระยะไปยิงที่ 50/100/200/400เมตร ทำการปรับกล้องให้กลุ่มกระสุน เข้าที่ X ในระยะต่างๆแล้ว สมมุติว่าปรับคลิกขึ้นบนไปทั้งหมด 50 คลิก พอคุณต้องการกลับมายิงที่ระยะ 25 เมตรเหมือนเดิม คุณปรับคลิกลงล่างมา 50 คลิกและทำการยิง กลุ่มกระสุนจะต้องเข้า X ที่เดิม จะต้องไม่กินสูง ต่ำ ซ้ายหรือขวาแต่อย่างใด ซึ่งความสามารถตรงนี้ กล้องจีนไม่สามารถทำได้ครับ

2. กล้องจีนไม่สามารถรับแรงถีบหนักๆของพวกปืนอัดลมสปริง หรือ ปืนดินขับขนาดต่างๆได้มากนัก ใช้งานไปซักพักเส้นเล็งก็จะเคลื่อน พลิก หรือ ขาดในที่สุด กล้องจีนถ้าเราset 0 ไว้แล้ว เก็บปืนเข้ากระเป๋า ส่วนใหญ่เวลานำออกมาใช้งานอีกครั้ง กล้องก็จะเคลื่อนต้องมานั่งปรับศูนย์กันใหม่เกือบทุกครั้งที่ทำการยิง แต่ถ้าเอาไว้ยิงเป้าใหญ่ๆเช่นล่าสัตว์ต่างๆ ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งปรับศูนย์ใหม่ก็ได้เพราะกล้องไม่ได้เคลื่อนเยอะขนาดนั้น แต่ถ้าจะยิงปั้น X รับรองได้ว่าคงต้องปรับศูนย์กันใหม่ทุกครั้งอย่างแน่นอน ซึ่งกล้องคุณภาพดีๆ หลังจากท่านทำการปรับศูนย์เรียบร้อยแล้ว ท่านเก็บปืนเข้ากระเป๋าไม่ว่าจะนานแค่ไหน หรือ มีแรงกระทบกระเทือนอย่างไรกล้องก็จะไม่มีการเคลื่อนตัว เมื่อนำออกมายิงครั้งต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งปรับศูนย์ทุกครั้งครับ

3. ลองดูวิธีง่ายๆที่สุด นำกล้องจีนไปใส่ตู้เย็นไว้ซัก 20 นาทีแล้วนำออกมาเจออุณหภูมิห้องปกติลองส่องดูจะเห็นได้ทันทีว่าเกิดฝ้า หรือ ไอน้ำขึ้นภายในกล้องเล็ง แต่ถ้าเป็นกล้องคุณภาพดีๆ จะไม่มีฝ้าและไอน้ำเกิดขึ้นภายในตัวกล้องเลย ข้อนี้เต้ยเจอกับตัวเองโดยตรงคือ นำปืนเก็บไว้ในห้องนอน เปิดแอร์ตามปกติ พรุ่งนี้เช้าตื่นมา นำปืนออกจากห้องแอร์ มาเจอกับอากาศอุณหภูมิปกติ เกิดฝ้าด้านในกล้องเต็มเลยครับ

4. เรืองความใส และ รายละเอียดของภาพไม่ต้องพูดถึงข้อนี้ครับ เทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว

นี่เป็นเพียงเหตุผลไม่กี่ข้อครับสำหรับความแตกต่างระหว่างกล้องจีน กับ กล้องคุณภาพสูงๆ ถ้าจะให้พูดกันเรืองนี้จริงๆต้องคุยกันยาวครับ หลักๆก็อย่างที่ว่าไปคือ กล้องดีไม่ดีนั้นหลักๆขึ้นอยู๋กับวัตถุประสงค์การใช้งานของผู้เป็นเจ้าของครับว่าต้องการอะไร เท่านั้นเองครับพี่  ไหว้

เต้ย ตอบได้ดีมากครับ ....  ไหว้   คุณภาพกล้อง (คุณภาพดีราคาแพง) ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ และลักษณะของการใช้

งานของผู้ใช้ปืนเป็นหลัก  ไม่จำเป็นต้องกำหนดว่า ปืนประเภทนี้ ใช้กล้องราคาถูก ๆก็พอ  หรือ ปืนประเภทนี้ ต้องใช้กล้องราคาแพง

สุดๆ ซึ้งมันก็เกินความสามารถของตัวปืนไป   ไหว้   เอาเป็นว่าทางสายกลาง  ตามแนวพอเพียง  ก็ดีนะครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า
komatsu
Hero Member
*****

คะแนน 319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4139


How far is near??


« ตอบ #42 เมื่อ: มีนาคม 02, 2010, 08:29:08 PM »

กล้องอะไรก็ตามสะดวก และตามความต้ิองการของแต่ละท่านก็แล้วกันนะครับ Grin Grin
บันทึกการเข้า

komatsu
Hero Member
*****

คะแนน 319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4139


How far is near??


« ตอบ #43 เมื่อ: มีนาคม 02, 2010, 08:32:01 PM »

ผมขอจบที่ ZOS 6-24x50 ละกัน เพราะได้ลองใช้แล้วก็พอใจมาก
เดี๋ยวค่อยสั่งมาใช้เองอีกซักอันดีกว่า

สั่งได้ที่ไหนครับคุณ komatsu ราคาเท่าไรช่วยบอกหน่อยครับ

ตอนนั้นรวมกันสั่งมาใช้ครับ ราคาจำไม่ค่อยได้แล้วแต่คงประมาณ 6000 บาทครับ
บันทึกการเข้า

ruger40 years
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #44 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 06:30:06 PM »

ขออนุญาต..นำกระทู้เก่าเกือบสุดมานำเสนออีกครั้ง ครับ  เผื่อจะเป็นประโยชน์กับสมาชิกชมรมฯโดยท้่วไป...
   ด้วยเหตุที่ผมเห็นว่า..พวกเรากำลังสั่งทำวงล้อ Side Wheel(ผมก็สั่งด้วย) เพื่อเตรียมแข่งขัน Field Target กันในเร็วนี้  ขณะนี้ผมได้รับวงล้อ Side Wheel มาเรียบร้อยแล้ว จึงอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ถึงวิธีการ Zero setting กับกล้อง Falcon 5-25X50 ครับ ขอรบกวน Up date วิธีการ Zero setting อีกครั้งด้วย ไหว้
                                                                                                                                                          ขอบคุณมาก
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.312 วินาที กับ 25 คำสั่ง