เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 29, 2024, 10:50:02 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 8
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ในที่สุดก็ได้ MORINI CM162 EI มาครอง เพิ่มรูปให้แล้วครับ  (อ่าน 30875 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
vornus@รักประเทศไทย@รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 19
ออฟไลน์

กระทู้: 372


« ตอบ #30 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2009, 09:17:20 AM »

ได้เพื่อน morini อีกคนละครับ  ผมก็ใช้อยู่แต่เป็นรุ่นเก่าครับ 

คนใช้โมรินี่รายงานตัวกันหน่อยครับ อิอิ

เป็นเพื่อนร่วม ยี่ห้อครับ แต่ฝีมือผมไม่เอาอ่าวเลยนะขอบอก

ยิงดีที่สุดก็ 90 คะแนนเอง  ยังยังหลุดวงดำอยู่เลยครับ

ผมยิงมาก็หลายปี ก็ยัง 90 อยู่เลยครับ  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
ผมเกรงว่าจะเป็นแบบพี่จัง
ได้เพื่อน morini อีกคนละครับ  ผมก็ใช้อยู่แต่เป็นรุ่นเก่าครับ 

คนใช้โมรินี่รายงานตัวกันหน่อยครับ อิอิ

เป็นเพื่อนร่วม ยี่ห้อครับ แต่ฝีมือผมไม่เอาอ่าวเลยนะขอบอก

ยิงดีที่สุดก็ 90 คะแนนเอง  ยังยังหลุดวงดำอยู่เลยครับ

ยิง 10 นัดได้ 90 คะแนน มันสุดยอดแล้วครับ สำหรับปืนใหม่แกะกล่อง  ยังว่าฝีมือไม่เอาอ่าวอีกเหรอ

90 คะแนน หมายถึงคะแนนดีที่สุดนะครับ ไม่ใช่ยิงทุกครั้งแล้วได้90 ตกใจหน้าซีด

แล้ว ส่วนมากต้องยิงหลุดดำ เป้าละลูก เช็งจัง ครับ สงสัยกำลังแขนยังไม่พอ ต้องซ้อมๆๆๆๆ เศร้า

ถ้ายิงได้ 90 เป็น ขั้น ต่ำเมื่อไหร่เดี๋ยวเอา เป้ามาโชว์ครับ

ตอนนี้เป้ามันไม่สวยไม่กล้าโชว์อายเค้า  ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

codemann
Newbie
*

คะแนน 2
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16



« ตอบ #31 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2009, 01:10:18 PM »

ได้เพื่อน morini อีกคนละครับ  ผมก็ใช้อยู่แต่เป็นรุ่นเก่าครับ 

คนใช้โมรินี่รายงานตัวกันหน่อยครับ อิอิ

เป็นเพื่อนร่วม ยี่ห้อครับ แต่ฝีมือผมไม่เอาอ่าวเลยนะขอบอก

ยิงดีที่สุดก็ 90 คะแนนเอง  ยังยังหลุดวงดำอยู่เลยครับ

ผมยิงมาก็หลายปี ก็ยัง 90 อยู่เลยครับ  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
ผมเกรงว่าจะเป็นแบบพี่จัง
ได้เพื่อน morini อีกคนละครับ  ผมก็ใช้อยู่แต่เป็นรุ่นเก่าครับ 

คนใช้โมรินี่รายงานตัวกันหน่อยครับ อิอิ

เป็นเพื่อนร่วม ยี่ห้อครับ แต่ฝีมือผมไม่เอาอ่าวเลยนะขอบอก

ยิงดีที่สุดก็ 90 คะแนนเอง  ยังยังหลุดวงดำอยู่เลยครับ

ยิง 10 นัดได้ 90 คะแนน มันสุดยอดแล้วครับ สำหรับปืนใหม่แกะกล่อง  ยังว่าฝีมือไม่เอาอ่าวอีกเหรอ

90 คะแนน หมายถึงคะแนนดีที่สุดนะครับ ไม่ใช่ยิงทุกครั้งแล้วได้90 ตกใจหน้าซีด

แล้ว ส่วนมากต้องยิงหลุดดำ เป้าละลูก เช็งจัง ครับ สงสัยกำลังแขนยังไม่พอ ต้องซ้อมๆๆๆๆ เศร้า

ถ้ายิงได้ 90 เป็น ขั้น ต่ำเมื่อไหร่เดี๋ยวเอา เป้ามาโชว์ครับ

ตอนนี้เป้ามันไม่สวยไม่กล้าโชว์อายเค้า  ขำก๊าก

สู้ๆ ครับ  ฝึกซ้อมยิงแห้งบ่อยๆ ให้คิดว่าทุกลูกที่ยิงแห้ง ต้องให้ความรู้สึกเหมือนยิงลูกจริงๆครับ  ละก็ฝึกกำลังแขนด้วยครับ 
บันทึกการเข้า
ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 1428
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6023



« ตอบ #32 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2009, 11:47:03 PM »

ขอแนะนำให้ฝึก "ยิงหลังเป้า" มากๆ ครับ  จะช่วยสร้างนิสัยมองศูนย์ให้ชัด  กลุ่มกระสุนจะแน่นขึ้นเร็วกว่าฝึกยิงเป้าแบบหันหน้ามาเห็นวงดำ   มือใหม่มักสนใจคะแนนบนเป้ามากเกินไปทำให้ไม่รวมสมาธิไว้ที่ศูนย์

และอย่าพยายามถือปืนเล็งนานๆ นะครับ  การ "ปั้น" คือรวบรวมสมาธิให้แน่วแน่ก่อนยกปืนขึ้น  ยกขึ้นมาแล้วก็เล็ง-ยิง ให้ได้ในเวลาไม่เกินครึ่งนาที  ไม่ใช่ยกปืนแล้วค่อยตั้งสมาธิ
บันทึกการเข้า

ผมเป็นลูกหลานจีนอพยพ  ทวดแซ่อิ๊ว ตาแซ่เล้า ปู่แซ่อึ๊ง   
เมืองไทยให้โอกาสทุกอย่าง  ไม่มีข้ออ้างเรื่องชนชั้น
ผมได้กราบแทบพระบาทในหลวงเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต
vornus@รักประเทศไทย@รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 19
ออฟไลน์

กระทู้: 372


« ตอบ #33 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 09:08:57 AM »

ขอแนะนำให้ฝึก "ยิงหลังเป้า" มากๆ ครับ  จะช่วยสร้างนิสัยมองศูนย์ให้ชัด  กลุ่มกระสุนจะแน่นขึ้นเร็วกว่าฝึกยิงเป้าแบบหันหน้ามาเห็นวงดำ   มือใหม่มักสนใจคะแนนบนเป้ามากเกินไปทำให้ไม่รวมสมาธิไว้ที่ศูนย์

และอย่าพยายามถือปืนเล็งนานๆ นะครับ  การ "ปั้น" คือรวบรวมสมาธิให้แน่วแน่ก่อนยกปืนขึ้น  ยกขึ้นมาแล้วก็เล็ง-ยิง ให้ได้ในเวลาไม่เกินครึ่งนาที  ไม่ใช่ยกปืนแล้วค่อยตั้งสมาธิ

ขอบคุณอาจารย์มากครับ เดี๋ยวผมจะลองดูครับ

ยิงหลังเป้า  ได้ผลยังไงเดี๋ยวขอตัวไปแอบซุ่มฝึกแล้วจะมารายงานผลครับ

ขอบพระคุณครับ
บันทึกการเข้า

size s
Full Member
***

คะแนน 20
ออฟไลน์

กระทู้: 358



« ตอบ #34 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 10:08:32 AM »

  การฝึกซ้อมโดยมีการวางเป้าหมายไว้ล่วงหน้า ก็ทำให้ได้ผลมากขึ้น เช่นหากเราต้องการยิงเพื่อสันทนาการก็ไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดมากนัก หากต้องต้องการพัฒนาฝีมือสู่การแข่งขันจำต้องสร้างความอดทนและวินัยให้ตัวเอง
   การยิงปืนในระดับนี้มิได้เป็นเพียงการใช้ทักษะและความชำนาญอย่างเดียว  แต่ยังต้องการกล้ามเนื้อ การฝึกซ้อม เป็นองค์ประกอบร่วมด้วย
   ทำได้หรือไม่
  -  ระยะเวลาในช่วงแรก 2-3 เดือน เป็นไปได้ไหมที่จะไม่ลั่นกระสุนเลย หรือหากจำเป็น ก็เพียงเพื่อคลายความเบื่อและความอยาก  ในช่วงนี้ควรปล่อยเป็นเรื่องของการเตรียมการในการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อรองรับกับการฝึกซ้อม   สังเกตได้ว่าในระยะนี้เราไม่สามารถถือปืนได้นานและการถื่อปืนก็จะเกิดความเหมื่อยล้า เจ็บปวด และผลสุดท้ายอาจเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อเกิดขึ้น
      การเตรียมการในช่วงนี้ หลังจากมีการ วอมกล้ามเนื้อส่วนใช้งานแล้วอาจหาพื้นที่ หรือผนังสีขาว อาจใช้จุดเล็กๆเพื่อเป็นจุดเล้งหรือไม่ก็ได้  ฝึจัดศูนย์และประคงภาพศุนย์ให้สมดุลย์ตลอด พร้อมทั้ง ฝึกเหนี่ยวไก ในขณะภาพศูนย์สมบูรณ์ พยายามรักษาภาพศูนย์ทุกครั้งที่เหนี่ยวไกและฝึกสังเกตุข้อผิดพลาด  แรกๆอาจเริ่มจากพอเหมื่อยแล้วพัก หายเริ่มใหม่ และค่อยเพิ่มเวลาให้มากเรื่อยๆ  ถ้าว่างวัน 2 ชั่วโมงกำลังดี   
       ขั้นตอนนี้จะได้ในเรืองทักษะเหนี่ยวไกที่ประณีต การจัดภาพศุนย์   ได้กล้ามเนือที่จะทำให้เราถือปืนได้นิ่งและนาน  การหายใจ  อย่าลืมออกกำลังช่วงล่าง ( ขา) ครับ เพราะฐานก็เป็นสิ่งสำคัญ
     - ผ่านขั้นตอนข้างต้นไปได้ ก็มาเริ่มด้วย วิธีการที่ ท่านอาจารย์ ผนิศวร แนะนำ  การยิงหลังเป้าให้อะไรเราบ้าง
ธรรมชาติคนเราเมื่อเห็นสิ่งที่ตัวเองอยากได้ จิตหรือสมาธิ ก็จะไปอยู่กับสิ่งนั้น จนลืมวีธีการที่จะทำให้ได้สิ่งนั้น   เพราะฉนั้นการปิดเป้าหมายซะ จิตหรืสมาธิก็จะมาอยู่แต่วิธีการ  นั้นคือการมองศูนย์ วาดปืนเหนี่ยวไก  หายใจ จนเกิดเป็นทักษะความชำนาญ ว่าภาพศูนย์อย่างนี้  ลหายใจอย่างนี้ เราพร้อมที่จะลั่นกระสุนแล้ว  น่าแปลกยิ่งนักถ้าหากเราฝึกฝนบ่อยครั้งจนชำนาญ  ลองเอาคนมาจับเวลาตั้งแต่ที่เราเริ่มจนลั่นไก แต่ละนัดเวลาใกล้กันมาก  และน่าแปลกใจไหมว่าฝึกไปฝึกมาหลังเป้าไม่มีอะไรเป็นจุดเล็งแต่กลับยิงเกาะกลุ่มได้ดีมาก  อันนี้กล้ามเนื้อมันจำได้วงสวิงได้ครับ (พูดให้เข้าใจง่าย จริงแล้วมันไม่มีสมองจำไม่ได้หรอก)   หากเบื่อก็ลองยิงหน้าเป้าได้บ้าง
    - เมื่อฝึกได้ซักระยะเราลองมายิงตามปกติดู ส่วนพืนที่การเล็งหน้าเป้าก็แล้วแต่แต่ละคนที่ฝึกครับ แต่โดยส่วนใหญ่ก็มีพื้นที่การเล็งที่ค่อนข้างเป็นสากลอยู่แล้วครับ   มาถึงขั้นนี้ก็ทำเหมือนเดิม ไม่ต้องสนใจแต้มหรืองดำ นึกอย่างเดียว วิธีการดีถูก ผลยอมดี
       ดังพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า  "จงทำปัจจุบันให้สมบูรณ์เถิด"


    ลองนำไปปฏิบัติดูครับ  ขออนุญาติแนะนำตามปัญญาและประสบการณ์ที่มีครับ
     
บันทึกการเข้า
MAGNUM-60
Hero Member
*****

คะแนน 346
ออฟไลน์

กระทู้: 2329


« ตอบ #35 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 11:10:23 AM »

ได้ผู้แนะนำแบบนี้  ก็เลิศแล้วครับ  ไม่มีปืนลมสั้น  เอา 9 มมสั้นไปลองก็แล้วกัน  ขอบคุณครับท่านทั้งหลาย
บันทึกการเข้า
ต๋อง_commander
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 25
ออฟไลน์

กระทู้: 551



« ตอบ #36 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 12:35:19 PM »

  การฝึกซ้อมโดยมีการวางเป้าหมายไว้ล่วงหน้า ก็ทำให้ได้ผลมากขึ้น เช่นหากเราต้องการยิงเพื่อสันทนาการก็ไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดมากนัก หากต้องต้องการพัฒนาฝีมือสู่การแข่งขันจำต้องสร้างความอดทนและวินัยให้ตัวเอง
   การยิงปืนในระดับนี้มิได้เป็นเพียงการใช้ทักษะและความชำนาญอย่างเดียว  แต่ยังต้องการกล้ามเนื้อ การฝึกซ้อม เป็นองค์ประกอบร่วมด้วย
   ทำได้หรือไม่
  -  ระยะเวลาในช่วงแรก 2-3 เดือน เป็นไปได้ไหมที่จะไม่ลั่นกระสุนเลย หรือหากจำเป็น ก็เพียงเพื่อคลายความเบื่อและความอยาก  ในช่วงนี้ควรปล่อยเป็นเรื่องของการเตรียมการในการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อรองรับกับการฝึกซ้อม   สังเกตได้ว่าในระยะนี้เราไม่สามารถถือปืนได้นานและการถื่อปืนก็จะเกิดความเหมื่อยล้า เจ็บปวด และผลสุดท้ายอาจเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อเกิดขึ้น
      การเตรียมการในช่วงนี้ หลังจากมีการ วอมกล้ามเนื้อส่วนใช้งานแล้วอาจหาพื้นที่ หรือผนังสีขาว อาจใช้จุดเล็กๆเพื่อเป็นจุดเล้งหรือไม่ก็ได้  ฝึจัดศูนย์และประคงภาพศุนย์ให้สมดุลย์ตลอด พร้อมทั้ง ฝึกเหนี่ยวไก ในขณะภาพศูนย์สมบูรณ์ พยายามรักษาภาพศูนย์ทุกครั้งที่เหนี่ยวไกและฝึกสังเกตุข้อผิดพลาด  แรกๆอาจเริ่มจากพอเหมื่อยแล้วพัก หายเริ่มใหม่ และค่อยเพิ่มเวลาให้มากเรื่อยๆ  ถ้าว่างวัน 2 ชั่วโมงกำลังดี  
       ขั้นตอนนี้จะได้ในเรืองทักษะเหนี่ยวไกที่ประณีต การจัดภาพศุนย์   ได้กล้ามเนือที่จะทำให้เราถือปืนได้นิ่งและนาน  การหายใจ  อย่าลืมออกกำลังช่วงล่าง ( ขา) ครับ เพราะฐานก็เป็นสิ่งสำคัญ
     - ผ่านขั้นตอนข้างต้นไปได้ ก็มาเริ่มด้วย วิธีการที่ ท่านอาจารย์ ผนิศวร แนะนำ  การยิงหลังเป้าให้อะไรเราบ้าง
ธรรมชาติคนเราเมื่อเห็นสิ่งที่ตัวเองอยากได้ จิตหรือสมาธิ ก็จะไปอยู่กับสิ่งนั้น จนลืมวีธีการที่จะทำให้ได้สิ่งนั้น   เพราะฉนั้นการปิดเป้าหมายซะ จิตหรืสมาธิก็จะมาอยู่แต่วิธีการ  นั้นคือการมองศูนย์ วาดปืนเหนี่ยวไก  หายใจ จนเกิดเป็นทักษะความชำนาญ ว่าภาพศูนย์อย่างนี้  ลหายใจอย่างนี้ เราพร้อมที่จะลั่นกระสุนแล้ว  น่าแปลกยิ่งนักถ้าหากเราฝึกฝนบ่อยครั้งจนชำนาญ  ลองเอาคนมาจับเวลาตั้งแต่ที่เราเริ่มจนลั่นไก แต่ละนัดเวลาใกล้กันมาก  และน่าแปลกใจไหมว่าฝึกไปฝึกมาหลังเป้าไม่มีอะไรเป็นจุดเล็งแต่กลับยิงเกาะกลุ่มได้ดีมาก  อันนี้กล้ามเนื้อมันจำได้วงสวิงได้ครับ (พูดให้เข้าใจง่าย จริงแล้วมันไม่มีสมองจำไม่ได้หรอก)   หากเบื่อก็ลองยิงหน้าเป้าได้บ้าง
    - เมื่อฝึกได้ซักระยะเราลองมายิงตามปกติดู ส่วนพืนที่การเล็งหน้าเป้าก็แล้วแต่แต่ละคนที่ฝึกครับ แต่โดยส่วนใหญ่ก็มีพื้นที่การเล็งที่ค่อนข้างเป็นสากลอยู่แล้วครับ   มาถึงขั้นนี้ก็ทำเหมือนเดิม ไม่ต้องสนใจแต้มหรืองดำ นึกอย่างเดียว วิธีการดีถูก ผลยอมดี
       ดังพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า  "จงทำปัจจุบันให้สมบูรณ์เถิด"


    ลองนำไปปฏิบัติดูครับ  ขออนุญาติแนะนำตามปัญญาและประสบการณ์ที่มีครับ
     


ขอบคุณมากครับพี่  ไหว้   สำหรับวิธีการฝึก ทักษะ การยิงปืน ดีดี แบบนี้   เยี่ยม 
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #37 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 01:54:08 PM »

  การฝึกซ้อมโดยมีการวางเป้าหมายไว้ล่วงหน้า ก็ทำให้ได้ผลมากขึ้น เช่นหากเราต้องการยิงเพื่อสันทนาการก็ไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดมากนัก หากต้องต้องการพัฒนาฝีมือสู่การแข่งขันจำต้องสร้างความอดทนและวินัยให้ตัวเอง
   การยิงปืนในระดับนี้มิได้เป็นเพียงการใช้ทักษะและความชำนาญอย่างเดียว  แต่ยังต้องการกล้ามเนื้อ การฝึกซ้อม เป็นองค์ประกอบร่วมด้วย
   ทำได้หรือไม่
  -  ระยะเวลาในช่วงแรก 2-3 เดือน เป็นไปได้ไหมที่จะไม่ลั่นกระสุนเลย หรือหากจำเป็น ก็เพียงเพื่อคลายความเบื่อและความอยาก  ในช่วงนี้ควรปล่อยเป็นเรื่องของการเตรียมการในการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อรองรับกับการฝึกซ้อม   สังเกตได้ว่าในระยะนี้เราไม่สามารถถือปืนได้นานและการถื่อปืนก็จะเกิดความเหมื่อยล้า เจ็บปวด และผลสุดท้ายอาจเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อเกิดขึ้น
      การเตรียมการในช่วงนี้ หลังจากมีการ วอมกล้ามเนื้อส่วนใช้งานแล้วอาจหาพื้นที่ หรือผนังสีขาว อาจใช้จุดเล็กๆเพื่อเป็นจุดเล้งหรือไม่ก็ได้  ฝึจัดศูนย์และประคงภาพศุนย์ให้สมดุลย์ตลอด พร้อมทั้ง ฝึกเหนี่ยวไก ในขณะภาพศูนย์สมบูรณ์ พยายามรักษาภาพศูนย์ทุกครั้งที่เหนี่ยวไกและฝึกสังเกตุข้อผิดพลาด  แรกๆอาจเริ่มจากพอเหมื่อยแล้วพัก หายเริ่มใหม่ และค่อยเพิ่มเวลาให้มากเรื่อยๆ  ถ้าว่างวัน 2 ชั่วโมงกำลังดี  
       ขั้นตอนนี้จะได้ในเรืองทักษะเหนี่ยวไกที่ประณีต การจัดภาพศุนย์   ได้กล้ามเนือที่จะทำให้เราถือปืนได้นิ่งและนาน  การหายใจ  อย่าลืมออกกำลังช่วงล่าง ( ขา) ครับ เพราะฐานก็เป็นสิ่งสำคัญ
     - ผ่านขั้นตอนข้างต้นไปได้ ก็มาเริ่มด้วย วิธีการที่ ท่านอาจารย์ ผนิศวร แนะนำ  การยิงหลังเป้าให้อะไรเราบ้าง
ธรรมชาติคนเราเมื่อเห็นสิ่งที่ตัวเองอยากได้ จิตหรือสมาธิ ก็จะไปอยู่กับสิ่งนั้น จนลืมวีธีการที่จะทำให้ได้สิ่งนั้น   เพราะฉนั้นการปิดเป้าหมายซะ จิตหรืสมาธิก็จะมาอยู่แต่วิธีการ  นั้นคือการมองศูนย์ วาดปืนเหนี่ยวไก  หายใจ จนเกิดเป็นทักษะความชำนาญ ว่าภาพศูนย์อย่างนี้  ลหายใจอย่างนี้ เราพร้อมที่จะลั่นกระสุนแล้ว  น่าแปลกยิ่งนักถ้าหากเราฝึกฝนบ่อยครั้งจนชำนาญ  ลองเอาคนมาจับเวลาตั้งแต่ที่เราเริ่มจนลั่นไก แต่ละนัดเวลาใกล้กันมาก  และน่าแปลกใจไหมว่าฝึกไปฝึกมาหลังเป้าไม่มีอะไรเป็นจุดเล็งแต่กลับยิงเกาะกลุ่มได้ดีมาก  อันนี้กล้ามเนื้อมันจำได้วงสวิงได้ครับ (พูดให้เข้าใจง่าย จริงแล้วมันไม่มีสมองจำไม่ได้หรอก)   หากเบื่อก็ลองยิงหน้าเป้าได้บ้าง
    - เมื่อฝึกได้ซักระยะเราลองมายิงตามปกติดู ส่วนพืนที่การเล็งหน้าเป้าก็แล้วแต่แต่ละคนที่ฝึกครับ แต่โดยส่วนใหญ่ก็มีพื้นที่การเล็งที่ค่อนข้างเป็นสากลอยู่แล้วครับ   มาถึงขั้นนี้ก็ทำเหมือนเดิม ไม่ต้องสนใจแต้มหรืองดำ นึกอย่างเดียว วิธีการดีถูก ผลยอมดี
       ดังพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า  "จงทำปัจจุบันให้สมบูรณ์เถิด"


    ลองนำไปปฏิบัติดูครับ  ขออนุญาติแนะนำตามปัญญาและประสบการณ์ที่มีครับ
     


ขอบคุณ คุณไซส์เล็กครับ ผมว่าเคยเห็นคุณลงรูปปืนแข่งขันด้ามปืนติดสติกเกอร์ชาติไทย
อยู่ที่หน้าไหนในกระทู้นี้หละจำไม่ได้ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ

บันทึกการเข้า
ผีซอกตึก
Full Member
***

คะแนน 7
ออฟไลน์

กระทู้: 103


« ตอบ #38 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 02:41:19 PM »

     

[/quote]

ขอบคุณ คุณไซส์เล็กครับ ผมว่าเคยเห็นคุณลงรูปปืนแข่งขันด้ามปืนติดสติกเกอร์ชาติไทย
อยู่ที่หน้าไหนในกระทู้นี้หละจำไม่ได้ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ


[/quote]

 Grin Grin  นามแฝง ท่านนี้ อาจมาจาก ไซส์ ซูเปอร์ ก็เป็นได้นะครับ ทำเป็นเล่นไป   ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #39 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 04:06:12 PM »

     


ขอบคุณ คุณไซส์เล็กครับ ผมว่าเคยเห็นคุณลงรูปปืนแข่งขันด้ามปืนติดสติกเกอร์ชาติไทย
อยู่ที่หน้าไหนในกระทู้นี้หละจำไม่ได้ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ


[/quote]

 Grin Grin  นามแฝง ท่านนี้ อาจมาจาก ไซส์ ซูเปอร์ ก็เป็นได้นะครับ ทำเป็นเล่นไป   ยิ้มีเลศนัย
[/quote]

หรืออาจเป็น ไซส์ เซกส์ ก็เป็นได้
บันทึกการเข้า
ผีซอกตึก
Full Member
***

คะแนน 7
ออฟไลน์

กระทู้: 103


« ตอบ #40 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 04:30:59 PM »

     


ขอบคุณ คุณไซส์เล็กครับ ผมว่าเคยเห็นคุณลงรูปปืนแข่งขันด้ามปืนติดสติกเกอร์ชาติไทย
อยู่ที่หน้าไหนในกระทู้นี้หละจำไม่ได้ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ



 Grin Grin  นามแฝง ท่านนี้ อาจมาจาก ไซส์ ซูเปอร์ ก็เป็นได้นะครับ ทำเป็นเล่นไป   ยิ้มีเลศนัย
[/quote]

หรืออาจเป็น ไซส์ เซกส์ ก็เป็นได้
[/quote]

ท่านเป็นคนตรง ไม่อ้อมเลยนะท่าน เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีกหรอกนะจ๊ะ จะบอกให้   หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #41 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 04:37:06 PM »

     


ขอบคุณ คุณไซส์เล็กครับ ผมว่าเคยเห็นคุณลงรูปปืนแข่งขันด้ามปืนติดสติกเกอร์ชาติไทย
อยู่ที่หน้าไหนในกระทู้นี้หละจำไม่ได้ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ



 Grin Grin  นามแฝง ท่านนี้ อาจมาจาก ไซส์ ซูเปอร์ ก็เป็นได้นะครับ ทำเป็นเล่นไป   ยิ้มีเลศนัย

หรืออาจเป็น ไซส์ เซกส์ ก็เป็นได้
[/quote]

ท่านเป็นคนตรง ไม่อ้อมเลยนะท่าน เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีกหรอกนะจ๊ะ จะบอกให้   หัวเราะร่าน้ำตาริน
[/quote]

ผมรำพึงกับตัวเองครับ
บันทึกการเข้า
มือใหม่ปืนอัดลม
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #42 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 08:31:16 PM »

อยากทราบข้อดีข้อเสียเปรียบเทียบกันระหว่างไกไฟฟ้า กับไกธรรมดาครับ ขอขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
size s
Full Member
***

คะแนน 20
ออฟไลน์

กระทู้: 358



« ตอบ #43 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2009, 01:42:47 AM »

อยากทราบข้อดีข้อเสียเปรียบเทียบกันระหว่างไกไฟฟ้า กับไกธรรมดาครับ ขอขอบคุณครับ



 เราเริ่มจากจุดไหน?   
  ตอนนี้เราเริ่มยิงปืนแล้วหรือยัง   ถ้าเคยยิงมาแล้วตอนนี้เรายืนตรงจุดไหน  แล้วเราจะไปตรงจุดไหน

 คำถามนำทางอย่างนี้คงทำให้เจ้าของคำถามนี้คิดอะไรได้ขึ้นมา ผมฟังคำถามแล้วพอเดาในใจของท่านได้ว่านคิดอะไรอยู่
 ผมถามท่านครับว่า รถเกียร์ธรรมดากับรถเกีย์โต้ขับจากบ้านท่านไปเชียงใหม่ได้หรือไม่   ทั้งสองระบบไปถึงได้เหมือนกันเช่นเดียวกัน ถ้าหากเรายังไม่เคยยิงปืนหรือยังไม่เคยขับรถเป็นเลย  แล้วจะทราบข้อแตกต่างได้อย่างไร นั้นหมายถึงท่านไม่เคยยิงปืนในระบบนี้มาก่อน 
    แต่ถ้าท่านซ้อมมาและผ่านการแข่งขันมามีประสบการณ์มาพอสมควร ท่านอาจเกิดความรู้สึกว่ามันเป็นที่สุดแล้วเมื่อนั้นเองที่นักกีฬาหรือผู้ใกล้ชิดปืนหลายท่านอยากเติมเต็มด้วยสิ่งภายนอก เปรียบเหมือนท่านขับรถทั้สองระบบเมื่อถึงเวลาท่านก็จะทราบว่าเราน่าจะหาเครื่องทุ่นแงตัวเองนะ
     แต่ที่สุดของกีฬาประเภทนี้คือจิตใจมากกว่าอุปกรณ์  อย่าลืมว่าหลายประเภทการแข่งขันก็ยังเป็นปืนไกแมกกานิคคอล แล้วเป็นรุ่นเก่าอยู่นะครับ ที่เป็นเจ้าของสถิติโลกอยู่

       ถ้าเปรียบเทียบโดยทั่วไปแล้วน่าจะพอสรุปได้ดังนี้

             ข้อดี                                                                                                                                               ข้อเสีย
     

 -  ไกไฟฟ้ามีความเฉียบคมทั้งในแง่การตัดสินใจลั่นไก และระยะเวลาในการลั่นไก                                 - ความสมำเสมอในนำหนักไกแต่ละนัดอาจเกิ
                                                                                                                                                     ดข้อผิดพลาดได้ เนื่องจากระบบไฟฟ้า จน
                                                                                                                                                     ทำให้ผู้ยิงเกิดความลังเล

  -  ไกธรรมดาดูแลรักษาง่ายสะดวก                                                                                                  -  ไกไฟฟ้าต้องดูแล
                                                                                                                                                        เอาใจใส่เป็นพิเศษ
                                                                                                                                                    โดยเฉพาะเรื่องความชื้น
  -   อายุการใช้งานและค่าบำรุงรักษาถูกกว่า                                                                       - อายุการใช้งานของแผงวงจรมีอายุการใช้งานสั้นกว่า
                                                                                                                                      ระบบไกธรรมดา เมื่อแผงวงจรเสียหรือหมดอายุต้อง
                                                                                                                                       เปลี่ยนใหม่ ถ้าเป็นต่างประเทศเขาเปลี่ยนตามอายุ
                                                                                                                                       การใชงาน แต่บ้านเราเปลี่ยนตามอาการคือรอเสียก่อน


  - ถ้าเป็นปืนแข่งขันในบางประเภทของการแข่งขันไกไฟฟ้าให้ความรู้สึก                                   -  นำหนักไกนัดแรกที่ยิงแห้งกับนัดที่สองต่างกันหาก
    เวลาซ้อมยิงแห้งได้ดีกว่า โดยเฉพาะประเภทที่ต้องเหนี่ยวไกตอเนื่อง                                       จะให้เหมือนกันต้องเสียเวลาขึ้นลำใหม่
    เช่น ปืนสั้นยิงเร็ว ส้นมาตรฐาน ชนวนกลาง สั้นสตรี
 
   
  -  ราคาปืนไกธรรมดาถูกกว่าประมาณ 5,000-10,000                                                    - ไกไฟฟ้าแพงกว่าบาท                                                                                                                                                                                                                         
   - ไกไฟฟ้าขายต่อง่ายด้วยค่านิยม                                                                               - ค่านิยมน้อยกว่า



          บางท่านอาจมีประสบกรณ์หรือความรู้เป็อย่งอืนช่วยกันแชร์ความรู้ครับ

                                                       
   
บันทึกการเข้า
size s
Full Member
***

คะแนน 20
ออฟไลน์

กระทู้: 358



« ตอบ #44 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2009, 01:45:38 AM »

ได้ผู้แนะนำแบบนี้  ก็เลิศแล้วครับ  ไม่มีปืนลมสั้น  เอา 9 มมสั้นไปลองก็แล้วกัน  ขอบคุณครับท่านทั้งหลาย



   9 มม ก็ไม่ได้ใช่กล้ามเนื้อถึงขนาดนั้นแค่ลูกดัมมี่ เหนี่ยวไกนิ่มๆ รักษาภาพศูนย์ให้ได้  ตังส์เหลือลองไปสัดลูกจริงดูครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 8
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.089 วินาที กับ 24 คำสั่ง