เรื่องนี้ผ่านมาแล้ว จะต้องจัดการเผือกร้อนนี้ ให้ดี คงต้องสนับสนุน รัฐบาล ที่เลือกใช้ กระบวนการทางกฎหมายตามปรกติ
อย่างเปิดเผย อย่าเผลอไป เข้าร่อง ของ เมกา ซ้ำซากอีก ผลประโยชน์ ความปลอดภัยของคนในชาติ จะต้องมาก่อนชาติอื่น
อย่าต้องให้ความฉิบ.. มันเกิดขึ้นกับประเทศชาติขึ้นมาก่อน จึงจะรู้สึกตัว มันจะเกินขีดความสมารถที่จะมาแก้ไข
ระวังความใสซื่อ บริสุทธิ์ แล้วกลับเป็นการหาเรื่องเข้าตัว
ขอสนับสนุนกับโพสของคุณ Ro@d ทั้ง ๓ โพสครับ
เรื่องนี้ถ้าอ้างมติ UN ก็ต้องบอกว่าประเทศไทยทำถูกต้องแล้ว ข้อนี้คงไม่มีใครเถียง...
แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง การที่ใครเขาจะรบกับใคร หรือชาติมหาอำนาจจะขัดแย้งกับกลุ่มใด
มันไม่เกี่ยวกับเรา ไม่ใช่ธุระของเรา เราจะเอาตัวเข้าไปยุ่งให้เปลืองตัวทำไม
ผลกระทบอาจจะไม่ถึงขนาดคนที่เสียประโยชน์จะมาถล่มประเทศเราคืน
แต่เชื่อว่าลึก ๆ เค้าก็คงจะไม่ชอบใจเราเหมือนกัน นั่นเท่ากับว่าเรากำลังสร้างศัตรูเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง หรือมากกว่า
เหมือนเรากำลังลากตัวเองเข้าไปอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง ทั้งที่ไม่ใช่ความขัดแย้งของเรา
ซึ่งไม่เป็นผลดีกับประเทศไทยในระยะยาว
สิ่งที่ประเทศไทยได้ในตอนนี้ก็คือเสียงชื่นชมจาก UN และนานาประเทศ
แล้วสิ่งที่เสียไป กับความเสี่ยงของประเทศในระยะยาว สามารถเทียบกับสิ่งที่ได้มาหรือไม่...
ต้องรับว่าบางครั้งเราก็แยกไม่ออกเหมือนกันว่า UN กับ USA แตกต่างกันอย่างไร
บางครั้งผมก็มองว่า UN เป็นตัวแทนของ USA ที่คอยออกกฎกำหนดควบคุมประเทศต่าง ๆ
ว่าห้ามทำอย่างนู้น ห้ามทำอย่างนี้ ห้ามประเทศนั้นค้าขายอาวุธ ห้ามประเทศนั้นมีอาวุธนิวเคลียร์
ทั้ง ๆ ที่ทุกวันนี้เราก็รู้กันอยู่ว่าใครเป็นผู้ค้าอาวุธรายใหญ่ของโลก ใครมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองมากที่สุด
คิดกันง่าย ๆ ว่าถ้าห้ามการซื้อขายอาวุธ ท้ายที่สุดใครเป็นคนได้ประโยชน์ที่สุด
เรื่องไหนถ้าเมกาไม่ได้ประโยชน์ เมกาไม่เข้าไปยุ่งหรอก ถามเล่น ๆ เชื่อเหรอว่าเมการบกับอิรัคเพราะต้องการ
ปลดปล่อยประชาชนอิรัคผู้น่าสงสาร...
น่าแปลกที่เราได้บทเรียนมาหลายครั้งจากเมกา แต่เราก็ไม่เคยเข็ดสักที...