จริงๆแล้วการยิงลมทิ้งในช่วงก่อนการแข่งขันั้นในสมัยนี้ไม่จำเป็นเลยครับเพราะส่วนใหญ่เป็นระบบอากาศซึ่งมี เกย์วัดทั้ที่ทั้งเติมและที่ท่อเติมลม แต่ในอดีต สวนใหญ่เป็น co2 ซึ่งนักกีฬายิงทิ้งเพื่อให้ co2 ส่วนเกินออกไป โดยนักกีฬาจะสังเกตจนลำ co2 ที่ออกจากลำกล้องเป็นลำตรง จึงเริ่มยิง
แต่หลายคนไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงก็ยิงตามเขาไป
สำหรับระบบอากาศดูที่บาร์ดเอาก็ okแล้วครับ การยิงลมออกบ่อยๆโดยไม่มีกระสุนก็ไม่ได้ดีเสมอไป สำหรับบางยี่ห้อหรอกครับ ควรศึกษาแต่ละรุ่นแต่ละระบบไป มิฉนั้นคงไม่ต้องออกแบบให้มีตัวปรับเพื่อ dry fire หรอกครับ
ผมชอบยิงที่แรงดันระหว่าง 50 -100 บาร์
เพราะอะไรหรอครับพี่ sitta
1. เสียงไม่ดัง
2. กระสุนไม่แรงเกินไป ไม่ต้องซ่อมรั้ว ซ่อมหลังคาบ่อย
เพราะเป็นแรงดันตกต่ำแล้วในแถบเหลือง ที่คู่มือบอกว่าถ้าไม่เติมความเร็วกระสุนจะไม่ได้ตามสเปค
3. เหมาะสำหรับกระสุนปืนอัดลมในตลาดบ้านเรา ทำให้มีความแม่นยำดีกว่าเติมลมเต็ม
4. ถนอมซีล และเกลียวท่ออัดลม เพราะไม่ต้องรับแรงเค้นมาก
5. เกจวัดแรงดันอายุยืนเพราะโลหะท่อรูลมไม่ต้องง้างตัวดีดออกมาก
ทำเป็นยกเหตุผลไปงั้นหละครับ ที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยครับ ผมคำนึงมาก่อนสิ่งอื่นใด
เพราะผมยิงนกพิราบแนวกระสุนขึ้นบนหลังคา แล้วความดันระหว่างนี้มันให้ความแม่นยำที่
คงเส้นคงวา ไม่พลาดสักนัด จึงหมดห่วงว่ากระสุนจะพลาดหรือจะเลยไปโดนอะไรเข้า
แรงดันลมกระสุนระหว่าง 50-100 บาร์จะยิงกระสุนได้ราว 15 นัด ยิงไป 10 นัด ก็ได้ 10 ตัวครับ
แต่ยิง 10 นัด ผมใช้เวลาเกือบเดือนนะครับ แบบว่า 5 นัดอยู่ได้ 2 อาทิตย์ประมาณนั้น แบบที่เอา
มายิงเป้าให้ชม ผมไม่ค่อยได้ยิงหรอกครับ
hw97k ผมใช้กระสุนแถมยังไม่หมดตลับ แต่ก็ประมาณว่ามากที่สุดยิงไม่ถึง 3 ตลับ
hw 100 รุ่นนี้เปลืองหน่อย ได้มา 1 ปี ยิงไป 3 ตลับแล้วครับ
ปืนอัดลมซังกะบ๊วยก็เคยยิงครับ ยิงไปต้องเสี่ยงดวงวัดเอา ก็มันส์ไปอีกแบบ
ปืนพวกนั้นโดยมากจะเน้นกระป๋องนมข้ม หรือ สีสเปร์ย ถ้าเอามายิงเป้าเครียดเปล่า ๆ