ราคาน้ำมันวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๓
<<< ปตท.
<<< บางจาก04 ต.ค. 2553 ราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่งสูงต่อเนื่อง ปตท. จำต้อง ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิด 60 สตางค์/ลิตร (เว้น E85 ปรับขึ้น 30 สตางค์/ลิตร) นาย สรัญ รังคสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับจากที่
ปตท. ได้ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันครั้งล่าสุดไปเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 53 ที่ผ่านมานั้น ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นลงอยู่ในกรอบแคบๆ
โดยมีแนวโน้มในภาพรวมเป็นทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ราคาขายปลีกน้ำมันในบ้านเราไม่ได้มีการปรับขึ้น
ตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ตลอดกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ก็เนื่องมาจากค่าเงินบาทที่ได้แข็งค่าขึ้นนั้น ได้มีส่วนสำคัญในการช่วยลดต้นทุน
และชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกไว้ มิฉะนั้น ราคาขายปลีกบ้านเราจะต้องถูกปรับขึ้นไปแล้วมากกว่า 1.50 บาท/ลิตร
ทั้งนี้ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นรุนแรง จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบเงินยูโรได้อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับมีการปรับเพิ่มอัตราเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาส 2/2553 ของสหรัฐฯ เป็นขยายตัวที่ 1.7% ดีขึ้นกว่าตัวเลขที่ประกาศไว้ในคราวก่อน
ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดวันนี้ (4 ต.ค. 53) ราคาปิดตลาดสิงคโปร์ น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 79.60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 อยู่ที่ 87.32 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 91.89 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และเมื่อเปรียบเทียบราคาน้ำมันในตลาดโลก
ในปัจจุบันกับเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 53 ซึ่งเป็นวันที่มีการปรับราคาขายปลีกครั้งล่าสุดนั้น ราคาน้ำมันเบนซิน 95 ได้ปรับตัวสูงขึ้นไปแล้วถึงกว่า 8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ส่วนน้ำมันดีเซลหมุนเร็วได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล คิดเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 1.40 -1.60 บาท/ลิตร โดยค่าเงินบาทที่ได้แข็งค่าขึ้น
1.17 บาท/เหรียญสหรัฐฯ นั้น ได้มีส่วนช่วยลดต้นทุนน้ำมันลงไปได้ 0.60 บาท/ลิตร ทำให้ต้นทุนสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ระหว่าง 0.80-1.00 บาท/ลิตร
ปตท. จึงจำเป็นต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดขึ้นลิตรละ 60 สตางค์/ลิตร เว้น E85 ปรับขึ้น 30 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีก
ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (5 ต.ค. 53) เป็นต้นไป ราคาเป็นดังนี้
หน่วย: บาท/ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 (บลู แก๊สโซฮอล E85) 18.72
น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 (บลู แก๊สโซฮอล E20) 28.94
น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 (บลู แก๊สโซฮอล 95) 31.24
น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 (บลู แก๊สโซฮอล 91) 29.74
น้ำมันเบนซิน 91 (บลู แก๊สโซลีน 91) 35.04
น้ำมันไบโอดีเซล (บลู ดีเซล บี5) 27.19
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (บลู ดีเซล) 28.39
นาย สรัญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงแม้ว่าต้นทุนสุทธิจะเพิ่มขึ้นในระดับ 0.80-1.00 บาท/ลิตร แต่การปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในครั้งนี้
ยังคงปรับขึ้นในอัตราเพียง 0.60 บาท/ลิตร เพื่อมิให้ผู้บริโภคต้องรับผลกระทบมากจนเกินไป โดย ปตท. ได้แบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวไว้บางส่วน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันยังคงมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นตามฤดูกาลที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งจะมีความต้องการใช้น้ำมันเพื่อทำความอบอุ่นมากขึ้น
จึงขอให้ผู้บริโภควางแผนการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า และหันมาใช้พลังงานทดแทน ทั้งแก๊สโซฮอลและไบโอดีเซล ซึ่งจะช่วยลดภาระการนำเข้าของประเทศ
และขอให้เชื่อมั่นว่า
ปตท. ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศให้อยู่ระดับที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย 
ที่มา :
http://www.pttplc.com/TH/news-energy-fact-business-social-news-detail.aspx?id_=Mzc4Mg==
