ผมก็มีอีกเรื่องหนึ่งมาเล่าสู่กันฟังครับ เมื่ออ่านแล้วจะช่วยอะไร หรือว่าเราจะทำอะไรกันได้บ้างครับ
มีไซท์งานก่อสร้างแห่งหนึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ธรรมชาติของไซท์งานก่อสร้างเราก็จะเห็นกันว่า
ปลูกห้องพักคนงานเป็นเรือนแถวชั้นเดียว หลังคาพอกันฝน กันแดดได้
ไซท์งานแห่งนี้มีคนงานพักอยู่ประมาณเกือบๆ 100 คน
แล้วก็จะมีห้องหนึ่งที่เป็นที่พักของหัวหน้าคนงาน หรือที่เรียกว่าเฮดแมน
ทุกไซท์งานเฮดแมนก็จะจัดส่วนหนึ่งของที่พักตัวเองเป็นร้านค้า วางขายเครื่องดื่ม สุรา(เหล้าขาว)
ขนม บุหรี่ ไข่ บะหมี่สำเร็จรูป พริก หอม กระเทียม ฯลฯ ขายเงินสดบ้าง เงินเซ็นบ้าง กับลูกน้องในไซท์
เฮดแมนคนนี้ไปติดต่อสำนักงานเขตเพื่อขอใบอนุญาต ขายบุหรี่ และใบอนุญาตขายสุรา
ได้รับคำตอบกลับมาว่าสถานประกอบการไม่มีบ้านเลขที่ เป็นที่อยู่ชั่วคราวไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้
ก็ไปขายตามปกติเถิด
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2553 เวลาประมาณ 09.00 น. มีรถเก๋งคันหนึ่งมาจอดในไซท์งาน
มีชายฉกรรจ์ 3 คน ลงจากรถ แจ้งกับเฮดแมนว่า สงสัยว่ามีของผิดกฎหมาย ขอดูสินค้าในร้านหน่อย
ด้วยความงง ตั้งหลักไม่ทัน ก็ปล่อยให้เขาดูกันตามสบาย ลืมแม้กระทั่งถามชื่อแซ่ ขอดูบัตรประจำตัว
คนหนึ่งคว้าบุหรี่ สายฝน มาได้ 3 ห่อ แล้วบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิต บุหรี่ 3 ห่อที่คุณขายอยู่นี่เป็นบุหรี่ปลอม
เฮดแมนก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ บอกไปว่า "ผมก็ไม่รู้หรอกว่าปลอมหรือไม่ปลอม แต่ของที่วางขายในร้านนี่ผมก็ไปซื้อมา
จากร้านขายส่งเจ้าใหญ่ที่........" (หมายเหตุ ร้านขายส่งเจ้านี้ก็เป็นร้านเก่าแก่ เปิดมานาน อยู่ห่างไปสัก 2 - 3 กม.
คนในพื้นที่รู้จักกันดี)
"เพื่อเป็นการพิสูจน์ คุณเฮดแมนช่วยพาพวกผมไปล่อซื้อจากร้านนี้หน่อย"
เฮดแมนก็ขึ้นรถไปกับ 3 คนนั่น ไปถึงร้านก็จอดรถห่างๆ หน่อย แล้วให้เฮดแมนลงไปซื้อคนเดียว คนอื่นรออยู่ในรถ
คุณเฮดแมนก็ไปซื้อบุหรี่มาอีก 2 แถว แล้วกลับมานั่งในรถ
คราวนี้บุหรี่ที่ซื้อมาใหม่อีก 2 ห่อนี้เป็นของจริง แสดงว่า 3 ห่อที่เอามาจากร้านของเฮดแมนเป็นของปลอม
เพราะฉนั้นเฮดแมนถูกจับ แจ้งข้อหาขายบุหรี่ปลอม แล้วพาไปที่กรมฯ อยู่แถวๆ สามเสน
ถูกเรียกค่าปรับ ซองละ 750 บาท คูณด้วย 30 ซอง ต้องจ่าย สองหมื่นกว่าบาท
ด้วยความมึนหนักขึ้นไปอีก และกลัวความผิดตามที่โดนเจ้า 3 คนนั้นเป่าหูมา จึงต้องยอมจ่าย
จ่ายไปแล้ว ได้หลักฐานมาเป็นสำเนา(ถ่ายเอกสาร)ใบเสร็จรับเงินมา 1 ใบ ไม่มีบันทึกจับกุม ไม่มีให้เซ็นชื่อตรงไหนทั้งนั้น
นอกจากเซ็นชื่อในใบเสร็จตัวจริงอย่างเดียว แล้วเขาก็ถ่ายเอกสาร แล้วก็รับสำเนาถ่ายเอกสารกลับมาใบเดียว
ผมโพสท์ตามคำบอกเล่าของคุณเฮดแมน ถ้าไม่ครบถ้วน ผมยังสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ครับ
แต่ที่ผมผิดสังเกตุว่างานนี้มีกลิ่นตุๆ ก็คือใบเสร็จรับเงินของหลวง ถ้าเงินเข้าหลวงจริงต้องให้ใบเสร็จตัวจริงมาใช่ไหมครับ?
แล้วบุหรี่ ตอนเขาไปซื้อครั้งแรกที่มันปลอมก็หยิบมาจากกองนั้น ตอนหลังที่เป็นของจริงก็หยิบมาให้จากกองนั้นอีกนั่นแหละ