สองปีที่ผ่านมา 14 ม.ค. 05.30 น.
แม้จะเป็นหน้าหนาว แต่วันนี้อากาศเย็นสบายไม่ถึงกับต้องใส่เสื้อกันหนาว
เป็นปกติของเมืองนี้ตั้งแต่อยู่มายังไม่เคยเจอความหนาวจริง ๆ จัง ๆ เหมือนกับเมืองทางเหนือ
ผมแต่งตัวด้วยชุดแต่งกายกางเกงวอร์มแอร์โร่สีน้ำเงิน ใส่เสื้อยืดแจกสีขาวราคาถูก
กลางอกเสื้อมีข้อความพออ่านจับใจความได้ว่าเป็นเสื้อกิจกรรมวิ่งเฉลิมพระเกียรติประจำปี
ของสถาบันราชภัฏนครราชสีมา เสื้อตัวนี้ผมได้รับแจกตอนไปลงสมัครร่วมวิ่งมินิมาราธอน
เมื่อหลายปีก่อน
ผมขับรถเลียบไปตามถนนรอบคูเมือง ปุ่มควบคุมความเย็นในรถถูกหมุนไปหมายเลข 1 ปุ่มพัดลม
หมุนไว้ที่เลข 1 เช่นเดียวกัน ทำให้ภายในรถมีลมเย็นเบา ๆ บางครั้งจะเห็นคนที่รักสุขภาพ
วิ่งออกกำลังกายสวนมาตามอิฐปูเป็นทางวิ่งในสนามหญ้าริมคูเมืองที่เทศบาลเมืองทำไว้
ใต้หมอนพิงที่ทับแจ๊กเก็ตตัวใหญ่ตรงเบาะหลังข้างใต้แจ็กเก็ตมีปืนอัดลมยาว HW97K
สภาพใหม่เอี่ยม ผมได้ปรับศูนย์ยิงระยะ 25 เมตรไว้แล้ว เหตุที่ผมพามันมาด้วยเพราะ
มีภาระกิจส่องนกพิราบที่อาคารพาณิชย์ของเฮียคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ผมสำรวจมาหลายวันแล้ว
ขับมาไม่นานผมรถจอดที่ริมฟุตบาทใต้เงามืดร่มไม้ ตรงข้ามสวนหย่อมออกกำลังกายข้ามถนน
เยื้องไปด้านหน้ารถเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น หลายวันก่อนคุยกับเฮียที่เป็นเจ้าของอาคาร
ได้เปรยว่ารำคาญนกพิราบมาหลายปีแล้วไล่ยังไงก็ไม่ไป ผมก็บอกไปว่าถ้ามาไล่ให้จะได้ไหม
เฮียบอกว่าเอาเลยถ้าจะมาก็บอกด้วยจะได้เตรียมสถานที่เตรียมของไว้ให้ แต่ภาระกิจแบบนี้
ผมชอบไปแบบไม่ต้องนัดล่วงหน้าไปแบบไม่ให้รู้ตัว จึงเงียบ ๆ ไปก่อนพอให้ลืมแล้ว
จึงย่องมาหาในภายหลัง
จอดรถแล้วเครื่องยนต์สตาร์ทยังติดเครืองเดินเบาไว้อย่างนั้น เผื่อฉุกเฉินจะได้ออกตัวทันที
.38 สเปเชียส ซุกไว้ใต้เบาะพิงห่างไปพอเอื้อมมือคว้าได้สะดวก ผมมักบรรจุกระสุนในโม่ให้เหลือ
ช่องว่างไว้ 1 นัด จัดช่องว่างให้ตรงกับรูลำกล้องเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุแบบไม่คาดฝัน
เพราะเรื่องปืนผาหน้าไม้แม้จะมีกลไกป้องกันแต่ไม่ควรไว้ใจเป็นอันขาด หลายคนที่เชื่อมั่นในกลไก
ของปืนต้องมีอาการน้ำตาตกเมื่อคนทีรักในครอบครัวประสบอุบัติเหตุปืนลั่นมาหลายรายแล้ว
เท่าที่เห็นมามีปืนที่ผมไว้ใจที่สุดมียี่ห้อเดียวคือกล๊อก เมื่อก่อนมีใครบอกว่าปืนกล๊อกแม้ขี้นลำ
มีกระสุนในรังเพลิงไว้ เอาปืนขว้างกำแพงพื้นปืนก็ไม่มีทางลั่นก็คงเห็นจะจริง ตราบใดที่นิ้วคน
ถือปืนยังไม่เข้าไปในโกร่งไก ด้วยเข็มแทงชนวนของกล๊อกมันจะถอยหลังก็ต่อเมื่อมีการ
เหนี่ยวไก ดังนั้นถ้าใครคิดจะลดนกปืนกล๊อกคงจะต้องเสียเวลาตลอดชีวิตเป็นแน่แท้
อีกยี่ห้อหนึ่งผมก็ชอบในรูปร่างของมันที่ดูคล้ายคลึงกับกล๊อกมีตัวอักษร XD ผมจำยี่ห้อปืนไม่ค่อยได้
แต่ถ้าได้เห็นก็จะบอกว่าใช่ หรือไม่ใช่ ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นยี่ห้อสปริงฟิลด์ รุ่น XD หรือเปล่า
ปืนรุ่นนี้เมื่อขึ้นลำเข็มแทงชนวนจะง้างไว้หากเหนี่ยวไกจะเป็นการปลดล๊อกเข็มแทงชนวนพร้อมยิง
แม้ยิงได้นิ่มนวลกว่าแต่ดูแล้วมันก็ไม่น่าไว้วางใจเหมือนกล๊อก ปืนทั้งสองรุ่นแม้จะ
มีรูปร่างที่โดนใจผมมากแต่พอดีมันเป็นปืนทิ้งปลอกตกเรี่ยราดรกพื้นซึ่งผมไม่ชอบ
จึงต้องหันมาใช้ปืนไม่ทิ้งปลอกดีกว่า ลูกเดิกลูกดกไม่สนใจเพราะร้อยทั้งร้อยโป้งป้างสักนัดสองนัด
พากันวิ่งกันป่าราบไม่เคยใช้หมดโม่สักที ข้อดีของปืนลูกโม่ก็มีนะคือชักแล้วยิงได้เลย ปืนลูกโม่
กระบอกนี้เองที่ผมเอาไปให้น้องที่ทำงานดู เป็นเหตุทำให้น้องทีทำงานขนเงินออกมาเข้าคิวซื้อปืน
โครงการกันยกใหญ่ ทุกวันนี้กลายเป็นว่าผมมีปืนน้อยกว่าน้อง ๆ ซะอีก
เหตุที่เช้านี้ผมพกปืนสั้นมาด้วยไม่ใช่เพราะกะเอาไปสู้รบตบมือกับใครหรอก แต่เผื่อเอาไว้ยิง
หมาตัวใหญ่ ๆ ประเภทน้ำหนักตัว 40 ถึง 60 กิโลกรัม ที่เจ้าของควบคุมไม่ได้ แท้ที่จริงเกิดมาผม
ก็ยังไม่เคยยิงหมาสักตัว วันก่อนเห็นซอยข้างบ้านเอาหมาพิบูลเทอเรียตัวเล็ก ๆ ออกมาวิ่ง
ผมเห็นก็กลุ้มใจหมาพวกนี้มาก ถ้ามันโตเต็มที่มีอาการติดสัตว์จะน่ากลัวมากกว่ากลุ่มจิ๊กโก๋หน้า
ปากซอยซะอีก เพราะตอนมันดุมันไม่ฟังใคร หมาพวกนี้มันก็แปลกนะชอบกัดแต่เด็กตัวเล็กๆ
รถจอดสนิทดึงเบรคมือเสร็จผมเหลือบมองสูงไปตามสันระเบียงชั้นสองและชั้นสามของอาคารพาณิชย์
ท้องฟ้ายังมืดอยู่แต่ก็พอมองเห็นเงาดำ ฟ้องว่าเป็นนกพิราบเกาะนอนเรียงรายหลายสิบตัว
บางมุมระเบียงก็มองเห็นเงาดำเดี่ยว ๆ แสดงว่าบางตัวก็แยกนอนตัวเดียว
ผมเปิดกระจกหน้ารถด้านคนขับลงสุด แล้วปรับพนังผิงเบาะคนขับเอนลง เลื่อนเบาะไปด้านหลัง
จากนั้นจึงลงจากรถเดินอ้อมหลังรถมาที่ประตูหลังเปิดประตูค้างไว้ ด้วยความสูงของรถโฟลวีล
ผมจึงไม่ต้องก้มตัวมากนัก ยืนนอกรถเอาพุงพาดกับเบาะนั่งหลัง เปิดหมอนพิงสองใบออกไป
และพลิกเสื้อแจ็กเก็ตกันหนาวตัวใหญ่ออก มองเห็นปืนอัดลมวางตามแนวยาวเบาะหลัง
หันปลายลำกล้องออกไปนอกตัว ผมหยิบตลับพลาสติกแบ่งกระสุนปืนผมเปิดฝาวางไว้บน
เบาะนั่ง แล้วหงายฝ่ามือขวาช้อนจับกระโจมปืนหันโกร่งไกไปด้านซ้าย อัดพานท้ายกดกับ
ท้องไว้ไม่ให้ปืนดิ้น มือซ้ายกดปลดล๊อกก้าน uder level และดึงง้างจนล๊อกและค้างไว้อย่างนั้น
จากนั้นจึงละมือขวาจากกระโจมปืนมาหยิบกระสุนและบรรจุกระสุนแบบหัวแบนน้ำหนัก 11.9 gr
เสร็จแล้วจึงย้อนไปจับกระโจมปืน มือซ้ายจึงดันคันง้านกลับคืนล๊อกที่เดิม
การบรรจุกระสุนแต่ละนัดผมบรรจุในท่ายืนโดยปืนยังอยู่ในรถ ใช้เวลาไม่มากนัก
บรรจุกระสุนเสร็จ ผมเงยหน้ามองดูผ่านกระจกหน้าและหลัง เพื่อดูว่ามีรถหรือคนผ่านมาหรือไม่
ขณะนี้เวลา 05:40 น. ทุกอย่างบนท้องถนนเงียบเชียบ ผมกำลังจะเริ่มกิจกรรมลับสุดยอด
เมือไม่เห็นรถวิ่งผ่านมา ผมจึงยกปืนพาดปืนกับพนักพิงหน้าคนขับที่เอนไว้ตอนนี้พนักพิงทำหน้าที่
เป็นที่พาดกระโจมปืนอย่างดี ข้อศอกขวาค้ำกับเบาะนั่งหลัง มือซ้ายกระคองกระโจมปืน
ให้พาดกับพนักผิงคนขับที่เอนหลังอยู่กดเน้นไว้ไม่ให้ปืนไหวสั่น ถ้าเป็นเครืองยนต์ดีเซล
รุ่นเก่าผมคงทำอย่างนี้ไม่ได้แน่ ปืนคงสั่นเป็นจ้าวเข้า ยิงยังไงก็ยิงไม่โดน แต่รถคันนี้ใช้
เครืองยนต์ ดีโฟดี คอมมอลเรลรุ่นใหม่ เครืองเดินเบาเรียบนิ่งไม่แพ้เครื่องยนต์เบนซิน
ผมชโงกดูความปลอดภัยอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยให้แน่ใจ อ้าวรถมอเตอรไซต์ใครหว่า
วิ่งเปิดไฟหน้ามาจากด้านหลัง ผมรอให้มอเตอร์ไซต์ผ่านไปก่อนแล้วประทับเล็งไปยังเงาดำ
ที่อยู่โดดเดี่ยวอยู่บนมุมระเบียงไกลสุด ภาพจากกล้องเล็งยี่ห้อทาสโก้ หน้าเลนส์ 50 มม. กำลังขยาย 3-9 เท่า
ผมปรับกำลังขยายไว้ที่ 9 เท่า โฟกัสระยะ 25 เมตร พร้อมปรับศูนย์ไว้แล้วที่ระยะเดียวกัน พยายามจัด
กากะบาทให้ตรงตำแหน่งเงาดำ มันเล็งยากพอสมควรเพราะความสว่างยังไม่มากพอ กากะบาทจึงกลื่นไปกับ
เงาดำทำให้มองไม่ให้ว่าตอนนี้ศูนย์เล็งอยู่ตรงไหน ผมจึงใช้ละมือซ้ายมาหมุนปุ่มไฟเส้นเล็งแบบสว่างน้อยสุด
เส้นเล็งกากะบาทเป็นสีแดงเรื่อขึ้นมาทำให้เล็งได้ง่ายกว่าเดิมมาก ผมชโงกดูความปลอดภัยอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าถนนโล่งปลอดคนดี จึงรีบประทับเล็งกากะบาทสีแดงเข้ากลางเงาดำ หัวแม่มือขวากดปลด
เซพไกโดยอัตโนมัติด้วยความเคยชิน บรรจงลากไกจนสุดสเต็ปที่หนึ่งพอรู้สึกว่าไกแข็งก็ค้างน้ำหนัก
เหนี่ยวไกไว้อย่างนั้น ต่อมาก็กระชับกระโจมปืนกากะบาทให้นิ่งที่สุดวาดเข้าหาเงาดำที่คาดว่ากำลังนอนหลับ
อย่างมีความสุข มือขวากำคอปืนแน่นล๊อกข้อมือให้เป็นส่วนเดียวกับคอปืนให้นิ่งที่สุดแล้วเพิ่มน้ำหนักนิ้วชี้ลากไก
เข้าสู่สเต็ปที่สองทำให้ปืนอัดลมลั่นออกไปแบบไม่รู้ตัว
ภาพในเลนส์กล้องเล็ง เห็นเงาดำที่ตกเป็นเป้าที่หนึ่งมีอาการตีปีกและร่วงหล่นหายไปในหลังเงามืด
ของระเบียงอาคารพาณิชย์ ผมละสายตามองดูเงาดำทีเหลือที่ยังนิ่งอยู่ไม่มีอาการรู้ว่ากำลัง
มีสิ่งผิดปกติอย่างกรายเข้ามา มีบางเงาดำที่กระพือปีกและสงบลงคงตกใจที่ได้ยินเสียงเพือนตก
ลงสู่พื้นระเบียง
เป้าหมายต่อไปเป็นเงาดำบนตู้คอมเพสเซอร์แอร์ ผมรีบบรรจุกระสุนนัดที่สอง แล้วประทับเล็ง
ทดสอบให้พอจับแนวปืน แล้วชโงกหัวดูรถราบนท้องถนนเพื่อความปลอดภัย เมื่อเห็นถนน
หน้าหลังโล่ง จึงรีบประทับปืนพาดกับพนักพิงอีกครั้งเล็งด้วยความรวดเร็ว ปลดเซพด้วยหัวแม่
มือขวา จัดกากะบาทสีแดงอยู่กลางเงาดำบนคอมเพรสเซอร์แล้วเหนี่ยวไกจนปืนอัดลมลั่น
คราวนี้เจ้าของเงาดำมีอาการตีปีกทุรนทุรายบินออกมานอกระเบียงและตกลงมาตายหน้าอาคาร
พาณิชย์ ทำให้เจ้าของเงาดำอื่น ๆ พากันบินออกมาแต่ก็พากันบนวนกลับไปเกาะระเบียงอีกเพราะ
คงบินไปไหนไม่ได้ด้วยแสงกลางวันยังไม่มีพอที่จะเห็นหนทางคราวนี้ผมเห็นตัวนกพิราบหลาย
ตัวชัด ๆ เป็น ๆ เพราะมันพากันมาเกาะนอกระเบียงอาคารแสงไฟข้างถนนส่องถึงพอดี
ผมรีบบรรจุกระสุนนัดที่สาม มีรถรับจ้างวิ่งสวนมาพอดีกับมีคนจ๊อกกิ้งวิ่งผ่านด้านหลังไปสองคน
เขาคงสงสัยว่าผมมาทำอะไรอยู่ข้างถนน ก็รอจนรถวิ่งผ่านไปแต่คนจ๊อกกิ้งดันเปลี่ยนเป็นเดินผ่าน
ผมจึงต้องรอให้เขาเดินผ่านไปไกลพอสมควรจึงรีบประทับปืนเพราะกลัวสปริงปืนอัดลมล้า นี้เป็น
จุดอ่อนของปืนสปริงอัดลม คราวนี้ผมเล็งไปทีตัวเบิ้มใหญ่สุดที่เกาะริมระเบียง สต๊อกปืนพาดกับ
พนักผิง ย้ายจุดเล็งจากสุดตัวอาคารคูหาที่สี่มาที่คูหาที่สอง กล้องโฟกัสหน้าระยะ 25 เมตรแบบ
ท่อรับแสงขนาด 1 นิ้วให้ความชัดลึกได้ดีพอสมควรทำให้ไม่ต้องปรับโฟกัสบ่อยเหมือนกับกล้องเล็ง
แบบโฟกัสด้านข้าง ไฟแสงสว่างจากเสาไฟฟ้าทำให้มองเห็นขนสีเทาของนกพิราบโชคร้ายตัวที่สาม
กากะบาทสีแดงจับเข้าที่อกนูนใหญ่ของมัน พร้อมกับปลดเซพไก ผมจัดกากะบาทให้ทาบกินต่ำกว่า
ทรวงอกลงมานิดหน่อย เพราะธรรมชาติของปืนอัดลมเมื่อยิงแนวสูงกระสุนจะกินสูงกว่าจุดเล็ง
ทำไมถึงเป็นแบบนี้เรืองนี้ค่อยคุยในภายหลังก็แล้วกัน ใครที่เคยลองยิงแนวสูงมาบ้างมักจะ
พบว่ากระสุนกินสูงกว่ายิงแนวราบเมื่อกากะบาททาบตรงตำแหน่งดีแล้ว กลั้นใจล๊อกข้อมือแล้วเหนี่ยว
ลากไกอย่างบรรจงที่สุด
ภาพในกากะบาทผมมองเห็นขนบริเวณทรวงอกฟุ้งสวนกระสุนปืนออกมา แล้วนกพิราบตัวใหญ่ทีสุด
ก็มีอาการทิ้งดิ่งตัวเองลงสู่ริมฟุตบาทหน้าอาคารเหมือนกับนักกีฬาว่ายน้ำปล่อยตัวจากที่กระโดด
สปริงบอร์ดโดยไม่กระโดด พร้อมกับนกพิราบที่เกาะขนาบข้างตีบิกบินออกมาและก็วนกลับไปเกาะ
ริมระเบียงอีกคูหาหนึ่ง บางตัวก็ย้อนกลับมาเกาะที่เดิม ในขณะเดียวกันเสียงนกพิราบตัวใหญ่
ตกกระทบพื้นดังสนั่นท่ามกลางในความมืด ผมรีบวางปืนและออกมาเดินนอกรถเพื่อดูความเปลี่ยน
แปลงผิดปกติรอบข้าง และเพื่อสังเกตการณ์ว่าทุกอย่างอยู่ในความสงบเรียบร้อยดี
เมื่อเห็นทุกอย่างยังอยู่ในความปกติ ผมจึงมองดูนกพิราบตัวต่อไป ตำแหน่งเดิมที่นกพิราบตัวใหญ่เพิ่ง
ตกลงมายังมีนกพิราบเกาะอยู่อีกสองตัว ตกลงว่าต้องเป็นตัวใดตัวหนึ่งต่อไปแน่นอน ผมรีบโอนตัวเข้า
ไปในรถบรรจุกระสุนนัดที่สี่เสร็จแล้วจึงชโงกดูความปลอดภัยบนท้องถนน เมือเห็นว่าถนนว่างอยู่
ก็รีบพาดกระโจมปืนกับพนักพิงแล้วประทับปืนเล็ง ก่อนเล็งก็ชโงกดูความปลอดภัยอีกครั้งเพื่อความ
แน่ใจ แล้วประทับปืน ปลดเซพและเล็งกากะบาทสีแดงไปที่ตัวซ้ายสุดซึ่งเป็นนกพิราบตัวใหญ่กว่าตัว
ด้านข้างของมันผมเล็งกากะบาทกินต่ำเล็กน้อย แล้วกลั้นหายใจนิ่งที่สุดล๊อกข้อมือนิ้วชี้ลากไกจนปืนลั่น
ขณะที่ปืนลั่นผมมักจะมองภาพในเลนส์ไปด้วย ทำให้เห็นขนทรวงอกของนกพิราบตัวที่สี่กระจุยฟุ้งสวน
แรงปืนออกมา ทุกตัวที่โดนกระสุนสวนเข้าบริเวณทรวงอกตรง ๆ จะมีอาการช๊อกนิ่งไม่ดิ้นทุรนทุราย
เหมือนตัวที่โดนยิงด้านข้าง ตัวนี้ก็เช่นเดียวกันขนปุยฟุ้งออกมาแล้วตัวมันเองก็หงายหลังหลายเข้าไป
ในเงามืดหลังระเบียง คราวนี้มันทำให้ผมได้รู้ว่าด้านในของระเบียงยังมีนกพิราบนอนอยู่อีกมาก
ฝูงนกพิราบตกใจพากันบินออกจากระเบียง มาเกาะที่ราวระเบียงเต็มไปหมด
ผมรีบบรรจุกระสุนนัดที่ห้า โบราณว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก ตอนนี้นกพิราบมายืนเกาะกันแน่นระเบียง
บรรจุกระสุนเสร็จแล้วก็ชโงกมองดูความปลอดภัยหน้าหลังบนท้องถนน แล้วประทับเล็ง เวลานก
พิราบมีมากมายมันก็ทำให้เราลังเลที่จะยิงตัวนั้นตัวนี้เหมือนกัน ฉับพลันความคิดก็แวบเข้ามา
ผมจะลองยิงนัดเดียวได้นกสองตัว นัดนี้จึงเล็งไปยังอาคารคูหาที่สามทำให้มุมยิงเฉียงกับแนว
ระเบียงได้มากกว่า หากมองจากแนวเล็งนกพิราบจะยืนบังแนวกระสุนให้กัน กากะบาทสีแดงเรื่อ
วาดนิ่งอยู่ลึกทรวงอกนกตัวหนึ่ง หลังแนวกระสุนหากผ่านทรวงอกจะเป็นลำตัวนกพิราบอีกตัว
นัดนี้ผมต้องยิงปราณีตที่สุด มือซ้ายกุมกระโจมปืนอัดแน่นจมกับพนักผิงที่เอนอยู่ ผมย้ำมองแนว
ลำกล้องว่าไม่ตรงกับพลาสติกกันลมหน้าต่างของรถ อันจะทำให้กลายเป็นเรื่องเล่าในภายหลัง
ว่าผมยิงรถตัวเอง สูดหายใจลึกแล้วผ่อนลมหายใจจนระดับหนึ่งที่ไม่มีแรงอั้นในอกจึงหยุดหายใจ
ลากไกจนสุดสเต็บหนึ่ง จากนั้นจึงจัดกากะบาทกินลึกขอบทรวงอกของนกพิราบตัวแรก แล้วลากไก
ของสเต๊ปสอง ปืนอัดลมลั่นส่งกระสุนออกไป ผมเห็นความวุ่นวายในกล้องเล็ง จึงวางปืนและมองด้วย
สายตาไปยังฟุตบาทมองเห็นนกพิราบสองตัวตกลงมา ตัวหนึ่งนอนแน่นิ่งไปแล้ว อีกตัวยังเดินได้
มันเดินไปซุกนิ่งที่มุมเสาปูนหน้าร้านในเงามืด เอายังไงดี
ผมรีบบรรจุกระสุนนัดที่หก คราวนี้ต้องยิงนอกรถเพราะนกตัวที่เดินหน้าอาคารพาณิชย์มันอยู่มุมต่ำ
ยิ่งจากในรถไม่ได้ เมื่อเห็นถนนโล่ง สนามหญ้าไม่มีคนวิ่ง ผมจึงนำปืนออกมานอกรถ เดินเป็นปกติ
โดยเอาปืนแนบยาวชี้ปลายลำกล้องลงดิน มือขวากำคอปืนให้พานท้ายอยู่บริเวณทรวงอก ผมพาตัวเอง
เดินห่างรถออกมาให้อยู่ในเงามืดใต้ต้นไม้ ดูไปรอบ ๆตัวทุกอย่างเงียบไม่มีคน จึงนั่งข้างต้นไม้โดยให้
ต้นไม้อยู่ด้านขวาลำไปด้านหน้าเล็กน้อย ผมเหยียดขาซ้ายให้เท้าซ้ายชี้ไปด้านหน้าช่วยค้ำไม่ตัวถลำไป
ด้านหน้าโดยใช้ส้นเท้ากดพื้น ก้นนั่งบนส้นเท้าขวา เข่าขวากดลงบนพื้นสนามหญ้า มือซ้ายยันลำต้นไม้
ใหญ่ไว้แน่น เอากระโจมปืนพาดกับท่อนแขนซ้าย ประทับเล็งวาดกากะบาทไปหาเงาดำที่ซุกตัวนิ่งข้างเสา
หน้าอาคาร หัวแม่มือขวาปลดเซพปืน จัดละเอียดกากะบาทสีแดงจับไปที่เงาดำที่ซุกตัวนิ่งกับมุม
เสาประตูเหล็กอีกครั้ง ผมละสายตามองซ้ายขวาไปตามแนวถนนหน้าหลังใกล้ไกลอีกครั้ง ตรวจเพื่อ
เพื่อความปลอดภัยและกลับประทับเล็ง กากะบาทยังจับที่เงาดำเหมือนเดิม ผมลากไกรวดเดียวจนปืนลั่น
เงาดำทรุดตัวอย่างสงบตรงตำแหน่งเดิม ผมเลิกให้ความสนใจแล้วรีบนำปืนเอาไปเก็บที่รถ
หมุนปุ่มไฟเส้นเล็งมาที่เลขศูนย์ วางปืนลงบนเบาะหลังเอาเสื้อแจ๊กเก็ตคลุมไว้เหมือนเดิม เอาหมอน
พิงวางปรกไว้อีกที ปิดประตูหลังและเดินอ้อมมานั่งในต่ำแหน่งคนขับ
ปิดกระจกปรับพนังผิงแล้วเคลื่อนรถออกไป
05: 55 ท้องฟ้าเริ่มสางแล้ว พอมองเห็นไกล ๆ ได้ แต่ท้องถนนยังว่าง กระสุนที่เตรียมมาใน
ตลับแบ่งจำนวน 20 นัด เหลืออยู่อีกนับสิบนัด ผมมองเห็นนกพิราบหล่นมาตาย บนฟุตบาทหน้า
อาคารพาณิชย์เกลื่อนไปหมด จึงคิดว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อน
ขณะขับรถผ่านโกดังเก็บของ พลันสายตามองข้ามถนนไป ก็เห็นนกพิราบตัวใหญ่สีเทาเกาะ
สันซีเมนต์หลังคาโกดังตัดขอบฟ้าเด่นเป็นสง่า จึงคิดว่าขอเป็นตัวสุดท้ายของวันนี้ก็แล้วกัน
จึงถอยรถเข้าจอดริมฟุตบาท โดยให้ขอบซีเมนต์โกดังเยื้องไปด้านหน้า เสร็จแล้วก็เอนพนักพิง
เลื่อนเก้าอี้มาด้านหลัง เปิดกระจกคนขับจนสุด แล้วก็อ้อมมาเปิดประตูหลัง บรรจุกระสุนปืน
อัดลมเบอร์สองหัวตัดอีกครั้ง บรรจุเสร็จก็ชโงกหัวมองดูหน้าหลังเพื่อความปลอดภัยที่ผมคำนึง
เป็นอันดับต้น เมือเห็นถนนยังว่างก็ยกปืนพาดกับพนักพิงคนขับที่เอนอยู่ ประทับเล็งกากะบาท
สีดำตอนนี้ไม่มีไฟแล้วเพราะท้องฟ้ามีแสงสว่างพอ กากะบาทจับที่ตัวนกพิราบมันกำลังเดิน
ไปตามสันคอนกรีตผมยังยิงไม่ได้เพราะเป้ากำลังเคลื่อนที่ จึงวาดกากะบาทตามมันไปเรื่อย ๆ
อ้าว นั้นมันกำลังเดินลับลงไปหลังสันคอนกรีต เหลือแต่หัวที่ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ขึ้นมาเป็นระยะ ๆ
หลังสันคอนกรีตเป็นกำแพงอิฐก่อสูงพอสมควร มุมยิงตรงจุดนี้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์
ผมชโงกมองหน้าหลังรถอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย ท้องถนนยังว่าง นี้ถ้ามากันสองคนคงจะดีกว่า
นี้เพราะไม่ต้องผวงหน้าหลังโดยให้อีกคนดูต้นทางให้ เมื่อเห็นท้องถนนโล่งไกลกะเวลาพอประทับเล็ง
ได้เกินสิบวินาที ผมจึงรีบประทับเล็งอีกครั้ง กากะบาทนิ่งตรงตำแหน่งทีหัวนกผลุบโผล่
หัวแม่มือขวาปลดเซพ นิ้วชี้ขวาลากไกจนสุดสเต็ปแรก จัดกากะบาทให้นิ่งที่สุดตรงตำแหน่งเดิม
ในใจนับวินาทีหากนับถึงสิบก่อนจะเลิกประทับและชโงกดูความปลอดภัยอีกครั้ง ผมนับได้แค่ห้าวิ
นกพิราบตัวนั้นก็ผงกหัวขึ้นมาแต่ไม่อยู่กลางกากะบาท ผมวาดกากะบาทเข้าทาบกลางหัวมันนิ่ง
แล้วลากไกเข้าสู่สเต็ปที่สอง ปืนอัดลม HW97K พ่นกระสุนน้ำหนัก 11.9 gr ความเร็ว
ประมาณ 800 ฟุตต่อวินาที ออกไปในทันทีสิ้นเสียงปืนอัดลมดัง ภาพในกล้องเล็งผมก็เห็นขนปุยของ
หัวนกพิราบตัวนั้นฟุ้งกระจายลอยกลางอากาศ ไม่มีอาการดิ้นทุรนทุราย มีแต่ความเงียบหลังสัน
คอนกรีต ผมวางปืนตามยาวบนเบาะหลังใช้เสื้อแจ๊กเก็ตสองตัวคลุมปืน แล้วนำหมอนพิงวางทับ
ปิดประตูหลังแล้วเดินอ้อมไปนั่งตำแหน่งคนขับจัดเก้าอี้ตามปกติแล้วออกรถไป ขณะรถกำลังจะเลย
โกดังผมจอดแล้วมองย้อนไปด้านหลังสันคอนกรีตเห็นนกพิราบตัวนั้นนอนนิ่งอยู่หลังสันคอนกรีต
ผมใช้กล้องส่องทางไกลแพนแท็กกำลังขยายสิบสองเท่าหน้าเลนส์ยี่สิบสี่ สำรวจดูก็เห็นนกพิราบ
สีเทาใหญ่นอนพาดคอห้อยไปตามแนวกระเบื้องหลังคาขนหัวของมันดูเปียกและหยุ่งเหยิง
กระสุนนัดสุดท้ายคงเจาะเข้าบริเวณหัวอย่างแม่นยำ ที่เปียกขนคงเป็นมันสมองและเลือด
เจ้านกพิราบมันคงไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำไปว่าตัวเองถูกยิง
กล้องส่องทางไกลคู่ทุกข์คู่ยาก ซื้อมาตั้งแต่ปี 2532 ราคาเกือบเท่าเงินเดือนวุฒิปริญญาตรี มาวันนี้ก็ 20 ปีแล้วนะ