มีปืนแล้วต้องเป็นกังวล ผมคิดมากไปหรือเปล่า...

[naisomchai]

เรื่องนี้เป็นตัวอย่างว่าแต่ละคนคิดไม่เหมือนกันครับ... ไม่ฮาเลย...

นายสมชายกลัวว่าลูกปืนน้อยไป ก็เลยบรรจุเสียเต็ม แล้วระวังปืนตัวเองด้วยการเก็บให้พ้นมือ พ้นหูพ้นตาคนที่ไม่อยากให้ยุ่งเกี่ยวครับ คือป้องกันตรงที่ไม่ให้มีใครเห็น+ไม่ให้ใครถือปืนเรา... แต่ จขกท. คิดไปว่าหากมีใครแย่งปืนจะได้แย่งกลับมาทันในระหว่างเหนี่ยวไกแชะแรก เผื่อว่าคนแย่งปืนจะไม่เหนี่ยวแชะสอง(โป้งเลยครับ ไม่แชะแล้ว)จะได้แย่งปืนกลับมาทัน และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือมีครูฝึกที่สนามทหารก็สอนแบบนี้ แถมอีกว่ามีอีกท่านหนึ่งเป็นตำรวจก็คิดแบบนี้ด้วยแน่ะ ซึ่งแต่ละท่านก็มีความคิดเป็นของตัวเอง...

นายสมชายนึกถึงเพื่อนคนนึง เขาชอบขับรถชลอ+แตะเบรคทุกครั้งที่กำลังจะผ่านสี่แยกไฟเขียวไฟแดง ทั้งที่ขณะนั้นเป็นสัญญาณไฟเขียว ซึ่งไม่เหมือนนายสมชายที่เมื่อมองซ้ายมองขวาครบถ้วนแล้ว รีบเร่งเครื่องตามคันหน้าให้พ้นสี่แยกไปให้เร็วที่สุด เพราะถือว่าพื้นที่กลางสี่แยกมันอันตราย... จะไปให้พ้นๆเร็วที่สุด"กลัวโดนชนจากด้านข้าง"...

เพื่อนนายสมชายคนนี้เขาให้เหตุผลว่าเตรียมพร้อม"กลัวรถคันอื่นฝ่าสัญญาณไฟแดงมาชนด้านข้าง"ก็เลยเตรียมเบรค+แตะเบรคให้คันหลังเห็นสัญญาณไฟเตรียมตัวเบรคจะได้ไม่โดนชนฯ และเผื่อว่าสัญญาณไฟเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง จะได้จอดทันไม่ต้องกระแทกเบรคให้เสี่ยงโดนคันหลังชนท้าย... แล้วนายสมชายก็สัวงเกตว่าบนถนนจะมีรถยนต์จำนวนหนึ่งเป็นอย่างนี้ไม่น้อยครับ เมื่อกำลังจะผ่านสี่แยกไฟเขียวไฟแดงจะชลอ ขับช้าๆ...

โอ้... ต่างคนต่างความคิดกันจริงๆ...

[khwanphet_NAVY 39]

.................................มันเป็นสัญชาตญาณของการระวังภัยมากกว่าครับผมว่า............................

[แสนสุข]

ไม่มีความเห็นครับท่าน

[rute - รักในหลวง]

เมื่อก่อนผมเคยใช้ปืนลูกโม่เฝ้าบ้าน...

ก็ใส่กระสุนครบหกนัดนะครับ...

แต่ตอนหลังหันมาใช้ปืนกึ่งอัตโนมัติแทน...

ผมกลับไม่โหลดกระสุนไว้ในรังเพลิง...

สงสัยจะสองมาตรฐานครับ...

[ลุมพินี08]

เรื่องนี้เป็นตัวอย่างว่าแต่ละคนคิดไม่เหมือนกันครับ... ไม่ฮาเลย...

นายสมชายกลัวว่าลูกปืนน้อยไป ก็เลยบรรจุเสียเต็ม แล้วระวังปืนตัวเองด้วยการเก็บให้พ้นมือ พ้นหูพ้นตาคนที่ไม่อยากให้ยุ่งเกี่ยวครับ คือป้องกันตรงที่ไม่ให้มีใครเห็น+ไม่ให้ใครถือปืนเรา... แต่ จขกท. คิดไปว่าหากมีใครแย่งปืนจะได้แย่งกลับมาทันในระหว่างเหนี่ยวไกแชะแรก เผื่อว่าคนแย่งปืนจะไม่เหนี่ยวแชะสอง(โป้งเลยครับ ไม่แชะแล้ว)จะได้แย่งปืนกลับมาทัน และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือมีครูฝึกที่สนามทหารก็สอนแบบนี้ แถมอีกว่ามีอีกท่านหนึ่งเป็นตำรวจก็คิดแบบนี้ด้วยแน่ะ ซึ่งแต่ละท่านก็มีความคิดเป็นของตัวเอง...

นายสมชายนึกถึงเพื่อนคนนึง เขาชอบขับรถชลอ+แตะเบรคทุกครั้งที่กำลังจะผ่านสี่แยกไฟเขียวไฟแดง ทั้งที่ขณะนั้นเป็นสัญญาณไฟเขียว ซึ่งไม่เหมือนนายสมชายที่เมื่อมองซ้ายมองขวาครบถ้วนแล้ว รีบเร่งเครื่องตามคันหน้าให้พ้นสี่แยกไปให้เร็วที่สุด เพราะถือว่าพื้นที่กลางสี่แยกมันอันตราย... จะไปให้พ้นๆเร็วที่สุด"กลัวโดนชนจากด้านข้าง"...

เพื่อนนายสมชายคนนี้เขาให้เหตุผลว่าเตรียมพร้อม"กลัวรถคันอื่นฝ่าสัญญาณไฟแดงมาชนด้านข้าง"ก็เลยเตรียมเบรค+แตะเบรคให้คันหลังเห็นสัญญาณไฟเตรียมตัวเบรคจะได้ไม่โดนชนฯ และเผื่อว่าสัญญาณไฟเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง จะได้จอดทันไม่ต้องกระแทกเบรคให้เสี่ยงโดนคันหลังชนท้าย... แล้วนายสมชายก็สัวงเกตว่าบนถนนจะมีรถยนต์จำนวนหนึ่งเป็นอย่างนี้ไม่น้อยครับ เมื่อกำลังจะผ่านสี่แยกไฟเขียวไฟแดงจะชลอ ขับช้าๆ...

โอ้... ต่างคนต่างความคิดกันจริงๆ...

เป็นเพราะบ้านเรามีคนไม่น้อยที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจารจรเลยทำให้คนอื่นๆต้องระวังมากขึ้นครับ ผมเคยไปประเทศที่เจริญแล้วแค่เราย่างเท้าเข้าใกล้ทางม้าลายเขาจะจอดรถหลังเส้นให้หยุดแล้วครับไม่ต้องเดาใจแบบบ้านเรา ขออนุญาตินอกเรื่องนิดนึงครับ

[Choro - รักในหลวง]

การไม่ประมาทเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่บางที่มากไปกลับกลายเป็นกังวลครับ

[pasuta]

เมื่อก่อนผมพกเกือบทุกวันกระสุนเต็มและพร้อมยิง ถ้าพกเมื่อไหร่ก็จะเต็มอัตราศึกไม่งั้นจะพกมาให้มันเมื่อยเอวทำไม เมื่อก่อนผมคิดแบบนี้แหละครับแต่ปัจจุบันถ้าไม่กังวลอะไรก็จะไม่พกใว้บ้านแต่จะซ่อนใว้ เพราะคิดแล้วพกทำไมทุกวันหนักก็หนักแถมต้องคอยกังวลหลายอย่าง แต่ถ้าไปในพื้นที่ที่เราไม่แน่ใจก็จะพกเป็นบางครั้ง

[เมียหลวงสั่งถอย เมียน้อยสั่งลุย]

ใส่ไว้เต็มโม่นะแหละครับ แต่เก็บตัวปืนให้ดี อย่าให้เด็กหยิบง่าย แต่เราหยิบได้เร็ว ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหน

[outpost 1969 รักในหลวง]

 สวัสดีครับ

 ระวังเป็นโรค"วิตกจริต"นะครับ แฮ่!..แฮ่! โรคนี้ผมเคยเป็นเมื่อตอนได้ปืนกระบอกแรกมาใหม่ๆ แทบไม่แตกต่างกันเลยครับ

ผมอาการหนักกว่าด้วยครับ แต่ไม่ต้องกังวลครับ เดี๋ยวก็หายแถวบ้านเรียก"เห่อของใหม่"ครับ

[ManStopper]

ผมมีปืนแล้วเวลาไปไหนมาไหนอุ่นใจขึ้นเยอะครับ ว่าหากเกิดเหตุการณ์ใดร้ายๆขึ้นมา
ปืนกระบอกที่เรามีนั่นแหละมันอาจจะช่วยชีวิตเราให้รอดได้

[ps- 2000]

ผมก็เป็นครับจะนอนก็เอาไปไว้ที่หัวเตียง ตอนเช้าก็เก็บเข้าเซฟกลางคืนลงมาข้างล่างก็ต้องพกลงมาด้วยคิดไปต่างๆนาๆ ทั้งที่ก่อนจะมีปืน
ไม่เป็น สบายใจครับยังมีคนเป็นเหมื่อนเรา นึกว่าเราบ้าเสียอีก ขอบคุณ จขกท.นี้มากครับ

[salin - รักในหลวง]

ตั้งแต่มีปืนมา ไม่ว่าลูกโม่หรือกึ่งอัตโนมัติจะบรรจุเต็มทุกครั้ง
เวลาอยู่บ้านก็วางไว้ให้พ้นมือเด็ก และบอกอยู่เสมอว่าห้ามเล่นเพราะอันตราย
เขาก็เข้าใจได้ ไม่กลัวปืน แต่ก็ไม่เล่น แม้บางครั้งวางไว้ก็ตาม
ระวังไว้เพื่อความปลอดภัย แต่ไม่ปล่อยให้เกินไปจนเป็นการระแวง

[telekbook - รักในหลวง]

อาการอย่างนี้เรียกว่าเห่อปืน + ห่วงปืน ครับผม 

[ธำรง]

ตั้งแต่มีปืนมา ไม่ว่าลูกโม่หรือกึ่งอัตโนมัติจะบรรจุเต็มทุกครั้ง
เวลาอยู่บ้านก็วางไว้ให้พ้นมือเด็ก และบอกอยู่เสมอว่าห้ามเล่นเพราะอันตราย
เขาก็เข้าใจได้ ไม่กลัวปืน แต่ก็ไม่เล่น แม้บางครั้งวางไว้ก็ตาม
ระวังไว้เพื่อความปลอดภัย แต่ไม่ปล่อยให้เกินไปจนเป็นการระแวง

 ว่าตามนี้เลยครับ

ผมวางปืนในบ้านได้อย่างวางใจ จากที่สอนคนในบ้านทุกคนให้รู้จักใช้ปืน
มีกฎเหล็ก 3 ข้อ 1/ปืนทุกกระบอกมีกระสุน 2/ไม่ยิง-นิ้วไม่เข้าโกร่งไก 3/ระวังแนวปืนตลอดเวลา 

[Mr. Snubbie แซ่โคลท์ (เก่งแต่ในรั้วบ้าน)]

...แปลกแฮะ  ผมมีปืนแล้วไม่เห็นเครียดอย่างใครเขาเลยครับ  เก็บดีๆใช้ดีๆแถมมีความสุขเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก  อุ่นใจด้วยว่าคงไม่ใช่หมูให้ใครเถือเอาง่ายๆ  (ส่วนมากก็มีไว้เก็บนั่นแหละ ไม่อยากให้ถึงคราวได้ใช้หรอก ยินดีจะเอาแต่เท่ในสนามยิงปืน)  ไม่ต้องไปค้นไปคว้าตำราให้มาก  ที่คุณพ่อสอนมาดีอยู่แล้ว