มีนิทานเรื่องหนึ่งอยากจะบอกกล่าวให้ คุณ.KB อ่าน และพิจารณา
คนตัดไม้กับหมาจิ้งจอก
นานมาแล้ว เมื่อครั้งที่การล่าหมาจิ้งจอกยังเป็นที่นิยมและถูกกฎหมาย เหล่าชายหนุ่ม และผู้มีฐานะจะขี่ม้าเพื่อไล่ล่า คนเหล่านี้จะเลี้ยงหมาล่าเนื้อจำนวนมาเพื่อให้ช่วยดมกลิ่มและไล่ตามหมาจิ้งจอกหากล่าได้ พวกเขาก็จะเอามาอวดกัน
แต่สำหรับหมาจิ้งจอกมันเป็นสิ่งที่แฝงอันตรายอย่างยิ่งยวด พวกมันวิ่งหนีจนเหนื่อยล้า และพยายามหาที่ซ่อนที่จะรอดพ้นจากเหล่าหมาล่าเนื้อ หมาจิ้งจอกวิ่งมาจนถึงแถบป่าโล่ง พวกมันเห็นคนตัดไม้อยู่คนหนึ่ง เขากำลังตัดต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งอยู่อย่างแข็งขัน
พวกหมาจิ้งจอกเข้าไปขอร้องให้เขาช่วย
“ช่วยด้วยเถิดคนตัดไม้ ขอที่หลบให้พวกเรา นักล่ากำลังตามมาใกล้แล้ว”
คนตัดไม้จึงชี้ให้พวกมันไปหลบยังกระท่อมเล็กๆ หลังหนึ่ง เขาบอกพวกมันว่า
“ไปหลบที่นั่น ข้าจะช่วยปกป้องพวกเจ้าเอง”
เหล่าหมาจิ้งจอกจึงพากันไปหลบที่กระท่อมนั้น ไม่นานนักเสียงฝีเท้าม้าก็ตามมา พร้อมกับหมานักล่า ชายผู้หนึ่งบนหลังม้ามองเห็นคนตัดไม้ จึงถามว่า
“เจ้าเห็นหมาจิ้งจอกวิ่งผ่านมาแถวๆ นี้ไหม”
คนตัดไม้ตอบเสียงดังว่า
“พวกหมาจิ้งจอกหนีไปยังป่าด้านตะวันออกแล้ว”
แต่แทนที่เขาจะชี้นิ้วไปยังทิศตะวันออก เขากลับชี้ไปยังกระท่อมซึ่งอยู่ทางตะวันตก ซึ่งพวกหมาจิ้งจอกซ่อนตัวอยู่ เหล่าชายนักล่าพากันสับสนและถามคนตัดไม้ซ้ำ
“เจ้าว่าพวกมันวิ่งไปทางไหนนะ”
คนตัดไม้ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า
“ไปทางตะวันออก”
แต่เขายังคงชี้ไปที่กระท่อมนั่นเหล่าชายนักล่าต่างนึกว่าคนตัดไม้คงสติไม่ดี พวกเขาพากันมุ่งไปยังทิศตะวันออก เมื่อเสียงฝีเท้าม้าเงียบหายไป เหล่าหมาจิ้งจอกก็ออกมาจากกระท่อม แล้วพากันวิ่งไปยังทิศตรงข้าม
คนตัดไม้จึงร้องเรียกพวกมัน “เฮ้ พวกเจ้าต้องขอบใจข้านะที่ปกป้องพวกเจ้า”
พวกหมาจิ้งจอกจึงตอบว่า
“เจ้านะรึปกป้องพวกเรา เจ้าบอกนักล่าว่าพวกข้าไปทางตะวันออก แต่เจ้ากลับชี้มือมายังที่พวกข้าซ่อนอยู่ พวกข้าจึงไม่จำเป็นต้องขอบใจเจ้าเลยแม้แต่น้อย เราขอเตือนเจ้า ต่อไปจงทำให้เหมือนกับที่ปากเจ้าพูด”
จากนั้นเหล่าหมาจิ้งจอกก็วิ่งจากไป...