พอดีผมเห็นว่าพี่ ๆ น้อง ๆ ในเว็บบอร์ดหลายคนเคยตั้งคำถามไว้และถกเถียงกันเกี่ยว
กับกรณีการใช้อาวุธปืนป้องกันตัวในกรณีที่คนร้ายใช้มีดเป็นอาวุธ ก็เลยนำคดีที่เกิดขึ้นจริง
เรื่องหนึ่งมาให้ดูเป็นกรณีศึกษากัน หวังว่าคงได้ความกระจ่างขึ้นในระดับหนึ่ง โดยในส่วน
ของเนื้อหาคดีผมขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางอย่างเพื่อไม่ให้กระทบกับผู้มีส่วนได้เสีย
ในคดีนะครับ
คดีนี้กล่าวหา ..........ผู้ต้องหา ว่าพยายามฆ่าและฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา
เหตุเกิดเมื่อวันที่.................พ.ศ. ๒๕๕๐ เวลาประมาณ ๑๒.๐๐ น.
ที่ตำบลปะนาเระ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี
ข้อเท็จจริงจากการสอบสวนได้ความว่าตามวัน เวลา และสถานที่เกิดเหตุ
ผู้ต้องหาซึ่งเป็นอาสาสมัครทหารพรานได้กลับมาตรวจดูความเรียบร้อยที่บ้านพักหลัง
เกิดเหตุ เนื่องจากก่อนหน้านี้บิดาของผู้ต้องหาเคยถูกคนร้ายบุกเข้ามายิงเสียชีวิตและ
จุดไฟเผาภายในบ้านพักหลังดังกล่าว เมื่อมาถึงผู้ต้องหาได้ขึ้นไปพักผ่อนบนชั้นสอง
ของบ้านพัก
ต่อมาเวลาประมาณ ๑๒.๐๐ น. ขณะที่ผู้ต้องหากำลังพักผ่อนอยู่บนบ้าน ผู้ต้อง
หาได้ยินเสียงดังมาจากทางด้านหลังบ้าน ผู้ต้องหาจึงตื่นขึ้นแล้วหยิบอาวุธปืน AK - 47
ซึ่งเป็นอาวุธปืนประจำกายแล้วเดินลงไปดูที่กลางบ้าน บริเวณหลังบ้าน เมื่อผู้ต้องหาลง
ไปถึงชั้นล่างของบ้านพัก ทันใดนั้นประตูหลังบ้านได้เปิดออก แล้วมีชายวัยรุ่น จำนวน
๔ คน วิ่งเข้ามา โดยคนแรกที่วิ่งเข้ามาคือ นาย ข. ซึ่งถือมีดพร้าอยู่ในมือขวาแล้วชูขึ้น
ในลักษณะจะทำร้ายผู้ต้องหา ซึ่งอยู่ห่างประมาณ ๒ ๓ วา ผู้ต้องหาจึงได้ใช้อาวุธปืน
ที่อยู่ในมือยิงเข้าใส่ จำนวน ๑ ชุด ประมาณ ๔ - ๕ นัด กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจึงได้ถอย
หนีไป โดย นาย ข. ถูกกระสุนปืนล้มลงถึงแก่ความตายที่บริเวณประตู ส่วน นาย ก.
ถูกกระสุนปืนล้มลงที่บริเวณหน้าบันไดหลังบ้าน ส่วนที่เหลือหลบหนีไปได้ แต่ผู้ต้องหา
ไม่ได้ติดตามไปเนื่องจากเกรงว่าจะถูกลอบทำร้าย
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบขวดน้ำมันเชื้อเพลิง เศษผ้า ไฟแช็ค และมีดพร้า
ซึ่งเป็นของ นาย ก. และ นาย ข. กับพวก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังพบรถจักร
ยานยนต์คันหมายเลขทะเบียน.........ที่ นาย ก. ใช้ขับขี่มาจอดห่างอยู่จากบ้านที่เกิดเหตุ
ประมาณ ๘๐ เมตร และยังพบร่องรอยถูกงัดที่ประตูบ้านด้านหลังจนพังและเปิดออก เชื่อว่า
เหตุที่ นาย ก. และ นาย ข. กับพวกก่อเหตุในคดีนี้เนื่องจากประสงค์ที่จะวางเพลิง และลัก
ทรัพย์สินที่อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ในบริเวณดังกล่าวได้เกิดเหตุลัก
ทรัพย์จำนวนมาก
ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา เนื่องจากเห็นว่า
เป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย
พิจารณาแล้วเห็นว่าคดีนี้ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังได้ว่าตามวัน เวลา
และสถานที่เกิดเหตุ ขณะที่ผู้ต้องหากำลังพักผ่อนอยู่บนชั้นสองของบ้านพักที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหา
ได้ยินเสียงผิดปกติมาจากทางด้านหลังบ้านพัก เมื่อผู้ต้องหาลงไปดูเหตุการณ์อยู่บริเวณชั้นล่าง
สักครู่ จากนั้นประตูหลังบ้านได้เปิดออก แล้วมีชายวัยรุ่นวิ่งเข้ามาภายในบ้าน จำนวน ๔ คน
โดยมี นาย ข. วิ่งนำหน้าเข้ามา โดยในมือขวาของ นาย ข. ถือมีดพร้าอยู่ในมือแล้วชูขึ้นใน
ลักษณะจะฟันทำร้ายผู้ต้องหา ซึ่งอยู่ห่างประมาณ ๔ ๕ เมตร ผู้ต้องหาจึงได้ใช้อาวุธปืน
AK ๔๗ ยิงเข้าใส่กลุ่มคนร้ายดังกล่าวประมาณ ๔ ๕ นัด กระสุนปืนถูก นาย ข. ที่บริเวณ
ลำตัว และขา ถึงแก่ความตายบริเวณประตูบ้าน ส่วน นาย ก. ถูกกระสุนปืนบริเวณขาได้รับบาด
เจ็บและล้มลงบริเวณด้านหลังบ้านไม่สามารถหลบหนีต่อไปได้ ซึ่งในที่เกิดเหตุพบขวดน้ำมันเชื้อ
เพลิง เศษผ้า ไฟแช็ค และมีดพร้า ซึ่งเป็นของ นาย ก. และ นาย ข. กับพวก ตกอยู่ในที่เกิด
เหตุ นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์คันหมายเลขทะเบียน.........ที่ นาย ก. ใช้ขับขี่มาจอดห่าง
อยู่จากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ ๘๐ เมตร และยังพบร่องรอยถูกงัดที่ประตูบ้านด้านหลังจนพังและ
เปิดออก
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่
เห็นว่าการที่ นาย ก. และ นาย ข. กับพวก ร่วมกันบุกเข้ามาภายในบ้านพักของผู้ต้องหา
โดยได้งัดประตูด้านหลังบ้านจนกลอนประตูหลุดออกจากกัน แล้วเข้ามาภายในบ้านพักของผู้
ต้องหา เมื่อเปิดประตูเข้ามาได้แล้ว นาย ก. และ นาย ข. กับพวก เห็นผู้ต้องหาอยู่บริเวณ
ชั้นล่างของบ้าน นาย ข. จึงได้ชูอาวุธมีดขึ้นในลักษณะจะเงื้อฟันผู้ต้องหาซึ่งอยู่ห่างเพียง
๔ ๕ เมตร ซึ่งการกระทำของ นาย ข. กับพวกดังกล่าวถือได้ว่าเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจาก
ประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ซึ่งหากผู้ต้องหาไม่ใช้อาวุธปืน
ยิงต่อสู้ ผู้ต้องหาก็อาจถูก นาย ข. กับพวกซึ่งมีจำนวนถึง ๔ คน ใช้อาวุธมีดฟัน และรุมทำ
ร้ายจนถึงแก่ความตายได้ ทั้งภายผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนยิงไปเพียง ๔ ๕ นัดเท่านั้นทั้งที่
นาย ก. และ นาย ข. กับพวกมีถึง ๔ คน ซึ่งเป็นการพอสมควรแก่เหตุแล้ว นอกจากนี้เมื่อ
กระสุนปืนถูก นาย ก. และ ข. ดังกล่าว กับพวก จนบุคคลดังกล่าวทั้งหมดออกจากบ้านพัก
ของผู้ต้องหาไปแล้ว ผู้ต้องหาก็ไม่ได้ยิง นาย ก. และ นาย ข. กับพวกซ้ำทั้งที่สามารถจะทำได้
แต่กลับแจ้งให้เจ้าพนักงานตำรวจทราบทันที ทั้งในที่เกิดเหตุยังพบขวดน้ำมันเชื้อเพลิง เศษผ้า
ไฟแช็ค อันแสดงให้เห็นว่า นาย ก. และ นาย ข. กับพวก น่าจะลักลอบเข้ามาวางเพลิงบ้าน
พักของผู้ต้องหา อันเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎหมาย ทั้งก่อนหน้านี้บิดาของผู้ต้องหาก็เคยถูก
คนร้ายบุกเข้ามายิงจนเสียชีวิต และจุดไฟเผาภายในบ้านพักหลังดังกล่าว การกระทำของผู้ต้อง
หาจึงเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย และพอสมควรแก่เหตุแล้ว จึงไม่เป็นความผิดตาม
ข้อกล่าวหา คดีมีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง
เห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในความผิดฐานพยายามฆ่าและฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๘ , ๘๐ , ๒๘๘ ตามความเห็นของพนักงานสอบสวน
อาวุธปืน AK ๔๗ และปลอกกระสุนปืนของกลาง เห็นควรคืนให้แก่เจ้าของตามประ
มวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๕...
หมายเหตุ - คดีนี้ได้เสนอคำสั่งไม่ฟ้องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด
มีความเห็นชอบด้วยแล้วในกรณีสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา
- ผู้ต้องหาเป็นทหารพราน อาวุธปืน AK - ๔๗ ที่ใช้ในคดีนี้ก็เป็นอาวุธปืนประ
จำกายที่ทางราชการแจกจ่ายให้ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่
- ตัว นาย ก. ซึ่งเป็นคนร้ายนั้นถูกยิงที่ขาจนพิการ และยังถูกดำเนินคดีข้อหา
บุกรุก , ทำให้เสียทรัพย์ , พยายามลักทรัพย์ และตระเตรียมการวางเพลิง อีกด้วย ( สมน้ำหน้า
/ จขกท. )