ลาวรวยทองสุดเฮงผงาดเอเชีย จีดีพีโตอันดับ 2 รองจากจีน
คาดว่าปีงบประมาณ 2552-2553 ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค.ศกนี้ ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีของลาวจะขยายตัวถึง 6.4% ซึ่งกำลังจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศนี้ เติบโตสูงติดอันดับต้นๆ ในบรรดาประเทศเอเชีย เป็นรองจากจีนเท่านั้น ทั้งนี้เป็นตัวเลขในรายงานฉบับล่าสุดของธนาคารโลก
อย่างไรก็ตามตัวเลขคาดการณ์ของแบงก์โลกที่ออกเผยแพร่ในนครเวียงจันทน์สัปดาห์นี้ แสดงให้เห็นอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจลาวที่ต่ำกว่าปีที่แล้ว และต่ำกว่าทุกปีในหลายปีมานี้ที่จีดีพีขยายตัวสูงถึง 7.2% ต่อปี ซึ่งทั้งหมดเกิดจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่หดตัวอย่างรุนแรงในช่วงปี 2551-2552 ซึ่งได้ทำให้การส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ลดลง การลงทุนของต่างประเทศก็ลดลง รวมทั้งการส่งเงินกลับจากต่างแดนด้วย
แต่ในขณะที่หลายประเทศต้องกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินระดับโลก ทั้งธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ เพื่อนำไปใช้จ่ายช่วยพยุงฐานะ เศรษฐกิจลาวกลับยังทรงอยู่ได้ ซึ่งธนาคารโลกกล่าวว่าเป็นเพราะ ความต้องการสินแร่ทางเศรษฐกิจต่างๆ กลับฟื้นตัวเร็ว การส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปแม้จะได้รับผลกระทบแต่ก็ไม่ถึงกับย่ำแย่ และ การท่องเที่ยวยังพอไปได้
ราคาทองแดงและทองคำในตลาดโลกกลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดคิด ความต้องการสินแร่ล้ำค่านี้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ทำให้ลาวมีรายได้จากการส่งออกทองแดงสูงขึ้น ขณะที่การลงทุนผลิตอุตสาหกรรมการเกษตรยังคงคึกคักไม่หยุด รวมทั้งรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าที่ไม่ได้ลดลง
การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ปลายปีที่แล้วยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกอดการใช้จ่ายและเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวอีกด้วย รายงานของเวิลด์แบงก์กล่าว
ภาพจากเว็บไซต์แห่งหนึ่งเจ้าหน้าที่เหมืองเซโปนถือก้อทองคำที่ยังไม่ได้สกัดให้บริสุทธิ์ นอกจากธาตุทองแดงแล้ว ปีที่แล้วเหมืองแห่งนี้ยังผลิตทองคำได้ 105,036 ออนซ์ และเงินอีก 33,155 ออนซ์ ผลิตได้น้อยกว่าทองแดง แต่ราคาต่างกันมาก ปีที่แล้วราคาทองคำยังพุ่งทะลุฟ้าอีก ประเทศนี้เฮงจริงๆ
ภาพจากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง หลังสกัดออกมาแล้วก็จะได้แผ่นธาตุทองแดงอย่างที่เห็น ปีที่แล้วเมืองเซโปนแห่งนี้ผลิตแผ่นธาตุทองแดง (Copper Cathode) ได้ถึง 67,500 ตันเพื่อส่งออกไปถลุงในประเทศจีนหรือจีนไต้หวัน ขายได้ราคาดีมาก ลาวก็เลยเฮงสุดเฮง แบงก์โลกคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัว 6.4% สูงเป็นอันดับ 2 รองจากจีนเลยมีเดียว
ภาพจากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง วิศวกรกับช่างเทคนิคลาว ยังคงเจาะสำรวจต่อไปในแปลงสัมปทานเหมืองทอง-ทองแดง เมืองวีละบูลีแขวงสะหวันนะเขต MMG LXML เจ้าของเหมืองเซโปนกล่าวว่า ปีที่ผ่านมาแม้เศรษฐกิจโลกจะย่ำแย่แต่การผลิตก็ได้ตามเป้า ราคาทองแดงสูงขึ้นกว่า 3 เท่าตัวในช่วงปีมานี้ ทำให้ลาวมีรายได้จากการส่งออกมากขึ้น เป็นอีกปัจจัยหนุนเนื่องการเติบโตของเศรษฐกิจ
สำนักงานธนาคารโลกประจำนครเวียงจันทน์กล่าวว่า เศรษฐกิจลาวในปี 2553 นี้จะขยายตัวต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีรายได้จากบริการและการท่องเที่ยวมากขึ้นเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวมเริ่มฟื้นตัว
ราคาทองแดงในตลาดโลกที่เคยตกลงต่ำสุดเกือบ 2,000 ดอลลาร์ต่อตันเมื่อกลางปี 2551 ได้ค่อยๆ พุ่งสูงขึ้นอีกในช่วงปลายปี และสูงขึ้นเรื่อยๆ ตลอดมาจนปัจจุบันราคาเกือบ 7,000 ดอลลาร์ต่อตัน เนื่องจากความต้องการในประเทศจีนสูงขึ้น หลังจากเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน
ตามรายงานของบริษัท MMG LXML ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานเหมืองทองแดง-ทองคำเซโปน เหมืองใหญ่ที่สุดในประเทศ ปี 2552 แม้จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก แต่ยังคงผลิตได้ตามเป้าหมาย คือทองแดง 67,500 ตัน ทองคำ 105,036 ออนซ์ และ แร่เงินอีก 33,155 ออนซ์
รัฐบาลลาวยังได้รับเงินผลประโยชน์จากเหมืองภูคำอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งผลิตทองแดงกับทองคำมาตั้งแต่ปี 2548
ที่มา :
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9530000015840