ใครก็พากันอิจฉาผมในเรื่องนี้แทบทุกคน เบื่อจริง ๆ เลย หาที่ลงยากจริง ๆ เพราะเล็ก ๆ แคบ ๆ ทั้งนั้น
:D
เคยฟังเรื่องแจ่มจันทร์หรือเปล่าครับ (แจ่มจันทร์เป็นสถานบริการเริงรมณ์ที่จังหวัดลำพูน)
ไม่เคยฟังครับเล่าเลย ทีนี้ไม่ขัดจังหวะเหมือน เรื่องขุนโจรผ้าต๊วบต้วง อีกแล้วครับ ฮิ ๆ
ใครก็พากันอิจฉาผมในเรื่องนี้แทบทุกคน เบื่อจริง ๆ เลย หาที่ลงยากจริง ๆ เพราะเล็ก ๆ แคบ ๆ ทั้งนั้น
:D
เคยฟังเรื่องแจ่มจันทร์หรือเปล่าครับ (แจ่มจันทร์เป็นสถานบริการเริงรมณ์ที่จังหวัดลำพูน)
ไม่เคยฟังครับเล่าเลย ทีนี้ไม่ขัดจังหวะเหมือน เรื่องขุนโจรผ้าต๊วบต้วง อีกแล้วครับ ฮิ ๆ
[/quote]เล่าฟังหน่อยดิ๊
[/quote]
พิมพ์ไว้หลายวันแล้ว คิดว่าต้องมีคนขอแน่ ๆ มาวันนี้ ก็เป็นจริง จัดให้ครับ
นิทานเรื่อง แจ่มจันทร์
มียามเฝ้าตลาดแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดเชียงใหม่
ยามคนนี้เป็นแขกร่างสูงใหญ่ ผิวดำมะเมื่อม ใครเห็นก็รู้สึกครั่นคร้าม
ยามคนนี้มีชื่อเสียงด้านหนึ่งเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชายชาตรีว่า มีเจ้าโลกใหญ่
มหึมา หาคู่เปรียบเทียบชกยากมาก นางใดโดนเป็นร้องบ้านแตกเข็ดขี้เข็ดเยี่ยวทุกรายไป
แต่ทว่า ณ สถานเริงรมย์ชื่อว่าแจ่มจันทร์ ที่จังหวัดลำพูนก็มีหญิงบริการนางหนึ่ง ที่มีชื่อเสียง
เล่าขานกันมาว่าที่นาของเธอนั้นผืนใหญ่กว่าที่นาของเพื่อน ๆ มาก ว่ากันว่า
น้องใหญ่ที่เคยเป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ เมื่อวัดขนาดเทียบกันแล้ว
ต้องหลบชิดซ้ายให้นางบริการของแจ่มจันทร์คนนี้ ชายใดที่ว่าใหญ่เมื่อเจอกับนาง
ต้องมีอาการเป็นเหมือนชกลม หรือ พายเรือน้อยลอยวนอยู่ในอ่าง หรือเหมือนตกลงไปในเหว
ก็ว่าก็เล่ากันไปอย่างนั้น
ชื่อเสียงเรียงนามของนางไม่มีใครรู้ไม่มีใครทราบว่านางมาจากไหน เป็นลูกเต้าเหล่าใคร
อยู่ดี ๆ นางก็เข้ามาทำงานบริการที่แจ่มจันทร์แล้ว เมื่อเป็นดังนั้นทุกคนก็พากันตั้งชื่อเรียก
ของนางว่า "แจ่มจันทร์" ตามชื่อสถานบริการแห่งนี้
ชื่อเสียงของแขกยามที่ว่ามีเจ้าโลกใหญ่มโหฬาร กับ ชื่อเสียงของ แจ่มจันทร์ ที่ว่ามีนา
ผืนใหญ่ ดังกระฉ่อนเป็นที่รู้จักกันไปทั่วทั้งเชียงใหม่และลำพูน
แล้ววันหนึ่ง มีนักเที่ยวขี้สงสัย คิดว่าถ้าจับ 2 คนนี้มาประลองเชิงกัน ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
แนวคิดนี้ ทำให้การจัดโปรโมเตอร์คู่ชกที่พิสดารที่สุดในโลกเกิดขึ้น โดยแขกยามเป็นฝ่ายไปเยือนหา
ถึงถิ่นที่แจ่มเจันทร์ เดินทางไม่เกิน 30 กิโลเมตร ก็มาถึงลำพูน ทุกอย่างทำกันแบบลับ ๆ
จะด้วยชื่อเสียงของนางเองที่ทำให้นักเที่ยวครั่นคร้าม จึงไม่ค่อยมีใครอยากเรียกนาง
นางจึงยังนั่งในตู้กระจกรอคอยผู้หลงทาง หรือ ผู้ที่ชอบหรืออยากลองของแปลก เพื่อเพิ่มประสบการณ์
ให้กับตัวเอง อันที่จริงเจ้าของแจ่มจันทร์ก็อยากระบายนางออกไปที่อื่นเหมือนกัน
เพราะแขกเรียกนางน้อยมาก รายได้จากนางมันไม่คุ้มกับค่าข้าวค่าน้ำสักเท่าไหร่
แต่ที่เก็บไว้ก็เพราะเป็นสีสัน และมีนักเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาดูหน้าค่าตาของนาง
และนางเองก็ยังเปรียบได้ว่าเป็นของหายากในโลกใบนี้เหมือนกัน เจ้าของสถานที่จึง
ยังคงเก็บนางไว้ในตู้กระจกต่อไป
วันนี้นางก็นั่งดูทีวีในตู้กระจกตามเคย โดยยังไม่รู้ตัวว่าอีกไม่กี่นาทีนี้ ตนจะโดนจ้าวโลก
อันทั้งใหญ๋และยาวของแขกยามที่เดินทางมาเพื่อกระหน่ำนาผืนนี้โดยเฉพาะ
"แจ่มจันทร์ ห้อง 12 " เสียงจากคอนโทรลดังออกลำโพงหลังทีวีเรียกชื่อนาง
พร้อมบอกหมายเลขห้อง 12 ที่แขกยามได้เข้าไปรออยู่แล้ว
คิ้วนางขมวดนิดนึง ถึงความไม่พอใจว่าใครกันที่มาเรียกตอนละคร
น้ำเน่ากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกัน "คงจะเป็นหน้าใหม่ละสิ" แจ่มจันทร์นึกในใจ
เพราะที่ผ่านมาไม่ใครมีหน้าเดิมย้อนมาเป็นครั้งที่ 2
นางเดินกระทืบเท้านิด ๆ ออกห้องกระจก ไปที่เคาเตอร์รับผ้าขนหนู สบู่ แล้วจึงเดิน
ไปยังห้อง 12 นางหายเข้าไปในประตูแล้วประตูก็ปิดเสียงลงกลอนดังกร๊อกแกร๊ก
ตอนนั้นถ้านางมีตาทิพย์ นางจะเห็นว่าข้างนอกห้องหน้าประตู เหล่าโปรโมเตอร์และ
นักเที่ยวพากันมามุง ย่อ ๆ ตัวคอยฟังเสียงเหตการณ์ในห้องรวมถึงเจ้าของสถานที่ก็
นั่งยอง ๆ หัวดำอยู่ในนั้นด้วย ตอนนั้นทุกคนกลายเป็นนักฟังชั้นดี
คือ เงียบ ฟังอย่างเดียว ไม่มีใครพูด ทุกคนซุบซิบ ยกนิ้วยกมือชี้โบ้ชี้เบ้ ต่อ รอง ราคาเหมือนกำลังดูมวย
คู่เอก
มีเสียงขลุกขลักอยู่ในห้อง แล้วเสียงของแจ่มจันทร์ดังขึ้น "เพิ่งมาครั้งแรกละสิเนี่ย ถอดเสื้อผ้าเร็ว"
น้ำเสียงของนางดูเหมือนเร่งรีบ คงจะรีบกลับไปดูละครน้ำเน่าต่อ
ความเงียบเข้าปลุกคลุม เวลาผ่านไปช่างเนินนาน แต่ถ้าดูเวลามันผ่านไปไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ
เสียงแขกยามก็ดังขึ้น "แจ่มจันทร์ แจ่มจันทร์ อ้าขากว้างขึ้นอีกโหน่ย..ย.."
นักฟังชั้นดีหน้าห้องที่ถือฝ่ายแขกยาม ทำท่าดีใจ ที่ตนกำลังจะได้เงิน เพราะเสียงแขกยาม
มันบ่งบอกถึงอาการดันไม่เข้า
เสียงแขกยามดังขึ้นอีก "แจ่นจันทร์ อ้าขาหน่อย ฉันไม่ไหวแล้ว อูย..ย..ย"
แล้วก็มีนักฟังคนหนึ่งฝ่ายแขกยาม ที่กำลังดีใจอดร้องถามไม่ได้เพื่อตอกย้ำชัยชนะอันสวยงามในครั้งนี้
"เฮ้ย ไอ้บังเป็นไง เอาไม่เข้าเหรอ ฮ่า ฮ่า " เสียงหัวเราะตาม เหมือนจะเยาะเย้ย นักฟังที่ถือหางฝ่าย
แจ่มจันทร์
"เปล่าจ๊ะ นาย จ๋า ฉันจะเอาไข่ออก มันเจ็บจ้า.." พอสิ้นเสียงแขกยาม ฝ่ายถือหางแจ่มจันทร์
ก็โห่ร้องด้วยความดีใจ ส่วนฝ่ายถือหางแขกยามก็ทำหน้าเศร้า
ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่า เจ้าโลกของแข็งยามที่ว่าทั้งใหญ่และยาวได้หลุดเข้าไปในร่องนาทั้งพวงซะแล้ว
นั้นก็คือที่มาของนิทานเรื่องแจ่มจันทร์