เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 21, 2024, 01:25:31 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 ... 10
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาวิเคราะห์เรื่องนี้กัน .. คนเราเมื่อถึงคราวซวย ... รวมเรื่องปืนด้วย  (อ่าน 19603 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
MP 436
Hero Member
*****

คะแนน 186
ออฟไลน์

กระทู้: 1766



« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 11:24:37 AM »

แหมเรื่องไม่น่าเกิด  .. ก็อาจจะเกิด เราคนมีปืนพกพาติดรถติดราก็อาจพลอยเดือดร้อนไปได้

ลองวิเคราะห์กันดูครับ

++!!  สาวอัซูซุขับรถติดไฟแดงคล่อมรางรถไฟ กระหน่ำบีบแตรใส่หนุ่มเจ้าของรถเบ้นซ์ให้ขัยบแต่ยังไม่หลีกทางให้ เลยจอดรถตะลุมบอนกันกลางถนน ด้านตร.แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายทั้งคู่
       
       เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ (7 ก.พ.) ขณะที่ พ.ต.ท.จตุภูมิ รักษาภักดี พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางกอกน้อย กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพักก็ได้มี นายวุฒิชัย สามกองาม อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1100 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กับ น.ส.สุทธินี สามกองาม อายุ 33 ปี ผู้เป็นลูกสาว เข้ามาแจ้งให้ดำเนินคดีกับ นายทักษิณ ประภัย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 399/18 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย ในข้อหาทำร้ายร่างกาย
       
       นายวุฒิชัย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวกับตนได้ขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีแดง หมายเลขทะเบียน ฌท-6971 กทม.ไปรับหลานที่ย่านบางขุนนนท์ เพื่อไปทำบุญที่วัดศรีสุดาราม กระทั่งมาถึงบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ ช่วงบริเวณหน้าโรงจำนำ ก่อนถึงแยกบางขุนนนท์เล็กน้อย ก็จอดรถติดไฟแดงจอดคล่อมทางรถไฟอยู่ หลังจากนั้นสักพัก รถไฟกำลังจะมา ลูกสาวจึงบีบแตรไล่รถเบนซ์ เอสแอลเค สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ศ-4787 กทม.ที่มี นายทักษิณ เป็นคนขับ แบบไม่หยุด แต่ก็นายทักษิณก็ไม่ยอมเลื่อนรถไป จนไม้กั้นทางลงมาจนติดหลังคารถตน ทำให้ลูกสาวต้องหักรถออกทางขวาไปที่ช่องทางกลาง แล้วบีบแตรไล่รถคันที่อยู่ช่องทางกลางอีกคัน
       
       นายวุฒิชัย กล่าวต่อว่า หลังรถคันหน้าในช่องทางกลางขยับ ลูกสาวจึงขับรถไปปาดหน้ารถเบนซ์ของนายทักษิณ แล้วมองหน้า ก่อนที่ลูกสาวจะลงไปจากรถ ตนก็เดินลงตามพร้อมถือร่มไปด้วย แต่ระหว่างนั้นกลับถูกนายทักษิณ ทำร้ายร่างกายจนตนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าผากเป็นแผลถลอก มีเลือดไหลตลอดเวลา จึงมาแจ้งความดังกล่าว
       
       ด้านนายทักษิณ ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของร้านตำไทย ย่านพรานนก และเพาะปลาหมอสีส่งออกเป็นอาชีพเสริมด้วย โดยก่อนเกิดเหตุเพิ่งขับรถกลับจากไปดูการถมที่ดินที่ จ.นครนายก และกำลังขับจะรถไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ย่านถนนจรัญสนิทวงศ์ โดยใช้ถนนเส้นตัดใหม่ เมื่อมาถึงทางออกถนนจรัญสนิทวงศ์ ตนก็เลี้ยวซ้ายมาติดไฟแดงแยกบางขุนนนท์ เพื่อเตรียมข้ามทางรถไฟไป
       
       นายทักษิณ ให้การต่อว่า หลังจากนั้น รถกระบะอีซูซุคันหลังที่จอดคล่อมรางรถไฟอยู่ ก็บีบแตรไล่รถตนแบบไม่หยุด จนไม้กั้นรถไฟลงมาพาดหลังคารถ ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะหักออกขวาไป แล้วบีบแตรไล่รถคันหน้าจนเป็นที่น่ารำคาญของรถคันอื่น เมื่อรถคันหน้าขยับออกให้ คนขับรถกระบะอีซูซุก็ขับมาปาดหน้ารถตน ซึ่งตนสังเกตุเห็นว่าในรถมีหญิงสาวคือ เป็นคนขับ มีคนแก่นั่งมาข้างๆ ก็คือนายวุฒิชัย และมีเด็กอีก 3 คน
       
       นายทักษิณ ให้การต่ออีกว่าจากนั้น น.ส.สุทธินี ที่ขับรถกระบะก็ลงมาจากรถ แล้วตรงเข้ามาด่าตนว่าทำไมไม่มีน้ำใจขยับรถให้ ตนพยายามอธิบายแล้วว่า รถคันหน้าไม่ขยับออกไป ตนจะขยับรถให้ได้อย่างไร แต่ น.ส.สุทธินี ก็ไม่ยอมฟัง จนกระทั่งนายวุฒิชัย เดินถือร่มตามลงมาแล้วเอาร่มยันประตูรถตนไว้ พร้อมกับพูดว่า "มึงมีปัญหามากนักเหรอ" จากนั้นก็เอาร่มแทงใส่หน้าตนจนเป็นแผล แถมยังต่อยตนอีกหลายหมัด จังหวะนั้นตนจับปืนลูกโม่ขนาด .38 ที่อยู่ภายในรถไว้ แต่ไม่ได้ควักออกมา เพราะเกรงว่าทั้ง 2 คน มีเจตนาจะชิงทรัพย์ตน เนื่องจากตนใส่สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทไว้ที่คอ และมีเลสทองคำที่ข้อมืออีก
       
       นายทักษิณ ยังให้การอีกว่า จากนั้นตนก็ตัดสินใจลงรถแล้ววิ่งหนี เพราะไม่ต้องการให้เรื่องบานปลาย แต่นายวุฒิชัยกลับไม่ยอมหยุด ยังวิ่งตามทำร้ายร่างกายตนอีก ชาวบ้านในระแวกนั้นก็เห็นเหตุการณ์อยู่ตลอด จนตนไม่ไหวผลักร่มจนหักทิ่มใส่หน้านายวุฒิชัยจนเป็นแผล ระหว่างนั้นตนพยายามบอกให้ น.ส.สุทธินี ห้าม นายวุฒิชัยผู้เป็นพ่อ แต่กลายเป็นว่าทั้ง 2 คนกลับมาช่วยกันรุมทำร้ายตน จนใบหน้าและตามร่างกายเป็นแผลหลายแห่ง สุดท้ายมีตำรวจมาห้ามไว้ พร้อมกับพาตนและคู่กรณีทั้ง 2 คน มาที่โรงพัก ระหว่างที่มาถึงโรงพัก นายวุฒิชัย ก็ถามว่าในกระเป๋าตนมีอะไร ตนก็ตอบว่ามีปืนอยู่ นายวุฒิชัยก็ขอดูตนจึงเปิดให้ดู แต่เจ้าตัวกลับคว้ากระเป๋าวิ่งไปให้ตำรวจอีก อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวตนก็ไม่อยากมีปัญหากับใครเลย อีกทั้งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ยังชมตนว่าใจเย็นมาก ขนาดมีปืนยังไม่ยอมเอาออกมาใช้
       
       ด้าน พ.ต.ท.จตุภูมิ กล่าวว่า หลังสอบปากคำคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ก็ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่ายกายทั้งคู่ และแจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร กับนายทักษิณ เพิ่มอีก 1 ข้อหา

ที่มา ..http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9530000017726
 
 --------------------------------------------------------------------------------
 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 12:37:56 PM โดย Angel 638. » บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 11:38:15 AM »

 บู่ บู่ บู่
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 11:44:31 AM »

เท่าที่อ่าน ฝ่าย อีซูสุ ผิดตั้งแต่เริ่มครับ ผิดที่ไปจอดคร่อมรางรถไฟ ผิดด้วยการใช้แตรไล่ผู้ใช้รถคันอื่นอย่างไร้มารยาท ผิดที่ลงจากรถไปหาเรื่องเขา
บันทึกการเข้า
TWC - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 93
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1193


เลือดสีเทา SATIT 9 KKU


« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 11:55:45 AM »

เท่าที่อ่าน ฝ่าย อีซูสุ ผิดตั้งแต่เริ่มครับ ผิดที่ไปจอดคร่อมรางรถไฟ ผิดด้วยการใช้แตรไล่ผู้ใช้รถคันอื่นอย่างไร้มารยาท ผิดที่ลงจากรถไปหาเรื่องเขา

เห็นด้วยครับ ก็คันที่อยู่หน้าเบนซ์ยังไม่ขยับแล้วจะเลื่อนไปได้ยังไง
บันทึกการเข้า

สบายดี.........
Glock Jumper
... ศาสตร์และศิลป์แห่งอาวุธ ...
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 100
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1202


... ข้าพเจ้ารักในหลวงที่สุดในจักรวาล ...


« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 12:10:46 PM »

ปืนจะใช้ได้ในกาลที่สมควรและกาลนี่ถือว่ายังไม่ถึงขั้นต้องใช้ เจ้าของปืนชั่งเหตุผลให้อยู่เหนืออารมณ์ได้ ขอชมเชยครับ นี่คือลูกผู้ชาย เยี่ยม
บันทึกการเข้า

... ศาสตร์และศิลป์แห่งอาวุธ ... จงมีสติ จงมีสมาธิ จงมีความถูกต้องก่อนที่จะครอบครองศาสตร์และศิลป์แห่งอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างเช่นนี้ "จงอย่าคิดว่ามีปืนแล้วเราคือพระเจ้า" จงจำไว้ว่า... มีสติ มีสมาธิ มีความถูกต้อง สำคัญเสมอ! ... จงรักผู้อื่นก่อนแล้วผู้อื่นก็จะรักเรา จงรักษ์ปืน แล้ว ปืนก็จะรักษ์เรา ...
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 12:11:53 PM »

เด็กสามคนที่อยู่ในรถ จะพลอยซวยไปด้วย  ซวยที่อาจโดนรถไฟชนทีแล้ว  ยังซวยที่ได้เห็นคนต้นแบบทำเรื่องแย่ ๆ อีก
บันทึกการเข้า
pokka
Full Member
***

คะแนน 7
ออฟไลน์

กระทู้: 107



« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 12:13:10 PM »

 
  เหตุจากความมักง่าย
บันทึกการเข้า
นายรัก-รักในหลวง-
เลือด สี น้ำ เงิน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1646


จงภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเอง


« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 12:23:53 PM »

สองพ่อลูกมารยาท ทรามมาก ตัวเองผิดยังไปรุมทำร้ายเขาอีก ยังไม่พอกลับแจ้งความคู่กรณีข้อหาทำร้ายร่างกาย ทั้งๆที่เขาป้องกันตัว ฝ่ายรถเบนซ์ ดัน(พาซื่อ)ไปเปิดปืนให้คู่กรณีเห็นอีก เรื่องเลยยาว เห็นใจเจ้าของรถเบนซ์ครับ  แต่ขอชมเจ้าของรถเบนซ์ที่ระงับอารมณ์ได้ดี ทำถูกต้องแล้วครับ  ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

"สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่งแคร่ สองคนพาไป"
khwanphet_NAVY 39
Hero Member
*****

คะแนน 129
ออฟไลน์

กระทู้: 2035


« ตอบ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 12:44:09 PM »

.....................................ขอชมครับลูกผู้ชายตัวจริง............................................................................... ไหว้
บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 01:12:10 PM »

บุรุษฉกรรจ์วิวาทะ  ทำร้าย  สตรีและบุรุษสูงวัย  สรรพวุธแจ้งพรั่งพร้อม   เบื้องหน้าสามผู้เยาว์  ผู้จำเป็นให้พ้นภัยใกล้ถึง

อ้าว  ลุงโกวเล้ง  มาด้วยเหรอ หวัดดีครับ....   ไหว้

รับแต้มพอชุ่มคอก่อน
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 01:38:33 PM »

เรื่องนี้นายสมชายเห็นไม่เหมือนใครน่ะครับ...

เรื่องแรก...
เวลารถวิ่งๆอยู่แล้วเกิดรถติดขึ้นมาขณะที่ไม้กั้นทางรถไฟไม่ได้เอาลงมากั้น มันเลือกไม่ได้หรอกครับว่าจะจอดพอดีคล่อมทางรถไฟหรือไม่ หากบังเอิญรถใครจอดคล่อม ทางรถไฟพอดีเป๊ะ เขาจะบีบแตรให้คันหน้าเลื่อนรถครับ... เวลารถติดบนถนน จะไม่ติดแนบชิดแบบกันชนจ่อกันชนหรอกครับ หากคันหน้ามีน้ำใจเลื่อนรถเดินหน้าไปหน่อยพร้อมบีบแตรบอกคันหน้าของตัวเองออกไปอีก คันที่อยู่ข้างหน้าออกไปอีกเขาก็จะเลื่อรถกันคันละนิดคันละหน่อย ในที่สุดรถยนต์คันที่คล่อมทางรถไฟก็จะพ้นอันตรายครับ...

ตามท้องเรื่องในกระทู้ คันที่บีบแตรย้ายไปบีบแตรใส่คันอื่น คันอื่นเขาก็ช่วยเลื่อนให้จนคันที่คล่อมฯ พ้นทางรถไฟจนได้นะครับ... นายสมชายขับรถผ่านทางรถไฟเลียบถนนวิภาวดี ตรงแยกเกษตรที่ถนนงามวงศ์วานตัดวิภาวดีออกบ่อย ตรงนั้นรถที่จะเลี้ยวซ้ายจากวิภาวดีเข้างามวงศ์วานจะติดไฟแดงพอดีรถไฟออกบ่อยครับ คนแถวนั้นเขาเลื่อนรถช่วยคันที่คล่อมทางรถไฟเป็นประจำ นายสมชายเคยทั้งเลื่อนช่วยคันอื่นและบีบแตรให้คันอื่นเลื่อน...

เรื่องที่สอง...
คนไทยไม่ค่อยมีน้ำใจเว้นช่องทางเดินรถให้รถยนต์คันที่เขาเดือดร้อนนะครับ ซึ่งตรงนี้น่าจะแก้ไขให้เป็นวัฒนธรรมที่ดี... ตัวอย่างเช่นเมื่อเรารถติดอยู่บนถนน แล้วเกิดมีรถพยาบาลเปิดไซเร็นวิ่งมาข้างหลัง หากเป็นที่ต่างประเทศ(USA.) เขาจะขยับรถแหวกให้เป็นช่องพอให้รถพยาบาลวิ่งผ่านไปให้จนได้ครับ...

คือรถยนต์ที่ติดอยู่บนถนนมันจะไม่ชิดกันแน่นแบบในลานจอดรถ แต่จะมีช่องว่างพอให้ขยับได้ เช่นถนนสองเลน ก็สามารถวิ่งได้สามเลนเป็นต้น ดังนั้นหากทุกคันช่วยขยับคันละนิดคันละหน่อยก็สามารถให้รถพยาบาลวิ่งออกไปได้ครับ... แต่ที่นายสมชายเห็นคือไม่มีใครขยับ อาจคิดว่าก็รถมันติดอยู่ ไปไหนก็ไม่ได้...

ที่ต่างประเทศ(USA.) หากรถเรากำลังวิ่งอยู่แล้วได้ยินเสียงไซเร็นรถฉุกเฉินวิ่งมา เขาให้พยายามชิดซ้ายทันทีครับ ถึงแม้บางทีจะชิดซ้ายไม่ทันเพราะรถตำรวจวิ่งกันเร็วก็ตาม...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 01:43:10 PM »

มีอีกครับ...

คนขับรถเบ็นซ์จะพกปืนทำไม ในเมื่อไม่มีเรื่องเร่งด่วนอะไร ลำพังแค่มีทรัพย์สินมีค่าสูงนั่นไม่พอเป็นเหตุผลให้พกปืนหรอกครับ... แล้วคาดว่าเป็นเพราะขับเบ็นซ์+พกปืนด้วยแหละ ทำให้พฤติกรรมดูถูกผู้อื่น ไม่มีน้ำใจบนท้องถนน...

งานนี้ไม่รอดเรื่องพกปืนหรอกครับ หากข้อเท็จจริงตามกระทู้เป็นโดนส่งฟ้องศาลแน่ แล้วก็ต้องหวังว่าไม่มีคดีเดิมคาอยู่... หวังความเมตตาจากศาล ลุ้นให้รอลงอาญาครับ...
บันทึกการเข้า
เขาใหญ่
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 83
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 766


« ตอบ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 03:09:24 PM »

ขับรถต้องกะระยะ คำนวน วิเคราะห์ เส้นทางด้านหน้าให้ดี ว่าไปได้ไหม ขวางทางใครไหม

เส้นเหลืองรูปข้าวหลามตัด ที่ตีไว้ที่พื้นถนน บางคนยังไมรู้เลยว่าหมายความว่าอย่างไร

บางครั้งปลง ทำใจกับการใช้ถนนและขับรถบ้านเรา ใจเย็นๆ นิ่งๆ ให้มากที่สุด ออกมาอยู่ต่างจังหวัดดีกว่า โล่งกว่า สบายกว่า

บันทึกการเข้า

"เป้าหมาย...มีไว้เเล่นตำ"
ja_nef_cop-รักในหลวง
Jr. Member
**

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 41


« ตอบ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 03:23:11 PM »

บ้านผมรถน้อยครับอยู่บ้านนอก มีแต่ฝูงวัว - ควาย เดิน เต็มถนน ยามเช้า/เย็น หลบวัว/ควาย เสร็จ ต้องหลบ ขรี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  มันอีก
บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2010, 03:34:22 PM »

เรื่องนี้นายสมชายเห็นไม่เหมือนใครน่ะครับ...

เรื่องแรก...
เวลารถวิ่งๆอยู่แล้วเกิดรถติดขึ้นมาขณะที่ไม้กั้นทางรถไฟไม่ได้เอาลงมากั้น มันเลือกไม่ได้หรอกครับว่าจะจอดพอดีคล่อมทางรถไฟหรือไม่ หากบังเอิญรถใครจอดคล่อม ทางรถไฟพอดีเป๊ะ เขาจะบีบแตรให้คันหน้าเลื่อนรถครับ... เวลารถติดบนถนน จะไม่ติดแนบชิดแบบกันชนจ่อกันชนหรอกครับ หากคันหน้ามีน้ำใจเลื่อนรถเดินหน้าไปหน่อยพร้อมบีบแตรบอกคันหน้าของตัวเองออกไปอีก คันที่อยู่ข้างหน้าออกไปอีกเขาก็จะเลื่อรถกันคันละนิดคันละหน่อย ในที่สุดรถยนต์คันที่คล่อมทางรถไฟก็จะพ้นอันตรายครับ...

ตามท้องเรื่องในกระทู้ คันที่บีบแตรย้ายไปบีบแตรใส่คันอื่น คันอื่นเขาก็ช่วยเลื่อนให้จนคันที่คล่อมฯ พ้นทางรถไฟจนได้นะครับ... นายสมชายขับรถผ่านทางรถไฟเลียบถนนวิภาวดี ตรงแยกเกษตรที่ถนนงามวงศ์วานตัดวิภาวดีออกบ่อย ตรงนั้นรถที่จะเลี้ยวซ้ายจากวิภาวดีเข้างามวงศ์วานจะติดไฟแดงพอดีรถไฟออกบ่อยครับ คนแถวนั้นเขาเลื่อนรถช่วยคันที่คล่อมทางรถไฟเป็นประจำ นายสมชายเคยทั้งเลื่อนช่วยคันอื่นและบีบแตรให้คันอื่นเลื่อน...

เรื่องที่สอง...
คนไทยไม่ค่อยมีน้ำใจเว้นช่องทางเดินรถให้รถยนต์คันที่เขาเดือดร้อนนะครับ ซึ่งตรงนี้น่าจะแก้ไขให้เป็นวัฒนธรรมที่ดี... ตัวอย่างเช่นเมื่อเรารถติดอยู่บนถนน แล้วเกิดมีรถพยาบาลเปิดไซเร็นวิ่งมาข้างหลัง หากเป็นที่ต่างประเทศ(USA.) เขาจะขยับรถแหวกให้เป็นช่องพอให้รถพยาบาลวิ่งผ่านไปให้จนได้ครับ...

คือรถยนต์ที่ติดอยู่บนถนนมันจะไม่ชิดกันแน่นแบบในลานจอดรถ แต่จะมีช่องว่างพอให้ขยับได้ เช่นถนนสองเลน ก็สามารถวิ่งได้สามเลนเป็นต้น ดังนั้นหากทุกคันช่วยขยับคันละนิดคันละหน่อยก็สามารถให้รถพยาบาลวิ่งออกไปได้ครับ... แต่ที่นายสมชายเห็นคือไม่มีใครขยับ อาจคิดว่าก็รถมันติดอยู่ ไปไหนก็ไม่ได้...

ที่ต่างประเทศ(USA.) หากรถเรากำลังวิ่งอยู่แล้วได้ยินเสียงไซเร็นรถฉุกเฉินวิ่งมา เขาให้พยายามชิดซ้ายทันทีครับ ถึงแม้บางทีจะชิดซ้ายไม่ทันเพราะรถตำรวจวิ่งกันเร็วก็ตาม...

ผมก้เห็นตรงกับพี่สมชายครับ... ตามท้องเรื่องนั่นผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า... คนขับเบนซ์คันนี้แล้งน้ำใจมากๆ เกิดรถไฟชนเขาขึ้นมาจริงๆ มันก็เหมือนเจตนาฆ่าเขาทางอ้อมเลยแหละครับ...

...แต่อีซูสุก็ใช่ย่อย... แซงไปได้แล้วก็ไปปาดหน้าเขาซะนี่... อ้อ... อ่านถึงตรงนี้... ยิ่งทำให้รู้ว่าไอ้เจ้าคนขับเบนซ์คันนี้... แล้งน้ำใจสุดๆ เพราะมันแสดงถึงว่า... มีที่ว่าหน้ารถเบนซ์มากพอสมควร...


...ในทางกลับกัน... หากเบนซ์คันนี้จอดคร่อมทางรถไฟอยู่... แล้วรถไฟกำลังจะมา... เบนซ์ก็คงต้องดิ้นรนเอาตัวรอดเช่นกันครับ...

บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4 ... 10
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.093 วินาที กับ 21 คำสั่ง