เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
เมษายน 30, 2025, 05:35:37 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 6 7 8 [9] 10
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาวิเคราะห์เรื่องนี้กัน .. คนเราเมื่อถึงคราวซวย ... รวมเรื่องปืนด้วย  (อ่าน 19773 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ti.
Jr. Member
**

คะแนน 4
ออฟไลน์

กระทู้: 24


« ตอบ #120 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2010, 05:49:24 PM »

ก็อปเก็บไว้บ้างครับ 
คงไม่เข้าใจคำว่าชี้นำ หรือแอบแฝงนะครับ

สำหรับคุณ ไม่ต้องคอยมา highlight ความคืดเห็นของคนอืนที่เน้นแสดงแต่ความรุณแรงก็ได้ครับ
ทำแบบเดิมๆ ไปเรื่อยๆแบบนี้มันซ้ำซากครับ

ออกมาเขียนเลยว่ารู้สึกอย่างไรจะน่าอ่านกว่าครับ

ยกกระทู้ค่ะ อุ้มอยากทราบความเห็นของคนเล่นปืนที่เว็บไซต์ใหญ่ที่สุด และน่าเชื่อถือที่สุดของประเทศไทยค่ะ

เห็นด้วยกับความเห็นด้านบนครับ ขับรถก็ต้องเว้นระยะห่างให้เกิดความปลอดภัยอยู่แล้ว นี่ขนาดข้ามทางรถไฟยัง"เจือก"ตามไปแปะก้นเค้าอีก ผิดเต็มๆครับ ผิดแล้วยังมาเห็นแก่ตัวเที่ยวพาลคนอื่นที่เต้าทำถูกกฏอีก สันดานจริงๆครับ ส่วนเรื่องพกพาอาวุธปืนอันนี้ก็อยู่ที่ดุลพินิจแต่เชื่อว่ามีเพื่อป้องกันตัวจริงๆ เพราะถ้าเป็นคนร้ายหรือคนที่มีนิสัยร้ายกาจคงตายคู่ไปแล้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมคนแบบนี้จึงยังมีชีวิตอยู่จนแก่เฒ่ามีลูกมีหลลานได้ คงเจอแต่คนจิตใจดีไม่อาฆาตมาดร้ายจึงรอดตัวมาได้ตลอด อ่านแล้วยังเคืองแทนเลย ขอให้ผมอย่าเจอคนแบบนี้เลย..สาธุ

ถ้าเป็นผู้หมวดเจอเอง จะทำอย่างไรคะ


ยังอยากได้ความเห็นเพิ่มเติมอีกค่ะ เพิ่งได้ความเห็นของผู้หมวดผู้พิทักษ์สันติราษร์

แต่อุ้มอยากทราบความเห็นของสมาชิกคนอื่นอีกค่ะ เพราะที่นี่คือเว็บไซต์ปืนที่มีวัฒนธรรมดีที่สุดในประเทศไทยค่ะ


+ 1 ให้ผู้หมวดอีกครั้งครับ  ไหว้  เรื่องนี้ผมเห็นต้องกับคุณครับ

 ส่วนตัวผมจะเป็นคนระวังอยู่แล้วครับ ไม่ว่าทางรถไฟ เส้นกาบาท สี่หรือสามแยก  ไม่อยากเป็นปัญหา

 เรื่องมีปืนแล้วไม่ยิงผมว่าเค้าระงับอารมณ์ได้ดีครับ เป็นพวกทรามอย่างผมคงฮาไปแล้วแต่ก็คงเป็นไปไม่ได้

 เพราะผมไม่พกปืนครับ 

 เมื่อก่อนเป็นลูกจ้างเค้า บอกหัวหน้าก่อนเลยครับว่า อยู่ไหนก็ได้ยกเว้นกรุงเทพฯ เพราะไม่ชอบนิสัยคนกรุงที่ขี้กลัว

 กลัวไม่ได้ไป กลัวไม่ได้กิน กลัวจะน้อยหน้า กลัวจะช้ากว่าคนอื่น

 

ตามสีแดง ถ้าเป็นคุณ ChoRo จะใช้อาวุธปืนกับคนขับรถกะบะใช่ไหมคะ

คุณเป็นคนที่เข้าใจประเด็นได้ยาก ใครคุยด้วยแล้วเผลอตอบโต้ด้วยคุณก็เล่นไม่เลิก

ที่เรียนถามผู้หมวดก็เพราะยังไม่เข้าใจความหมาย ท่านก็ตอบออกมาแล้วว่าแรกสุดช่วยคน จากนั้นบรรเทาความเสียหายให้น้อยที่สุด สุดท้ายคนทำผิดกฎจราจรก็โดนปรับอัตราสูงสุด

มีแต่คุณนั่นแหละยังคิดมากอยู่ดี ว่าจะมีใครชี้นำใครในเว็บนี้ได้ ก็คุณเองบอกว่าอ่านแล้วให้หาจุดยืนเอง อ่านแล้วคิดเอง คิดตามด้วยค่ะ อย่าให้ดิฉันชี้นำ
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #121 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2010, 05:54:52 PM »

ที่จริงเล่นเวปบอร์ดก็คล้ายๆ การใช้ถนน

ผมถนัดกลับบ้านก่อน...   ลาทีวันจันทร์ เจอกันใหม่อาทิตย์หน้า
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
sa-ea-ba-รักในหลวง
FREEDOM
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 977


ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอน


« ตอบ #122 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2010, 06:06:14 PM »

เป็นผมคงจะโทษทางรถไฟที่ไปอยู่ใต้ล้อ (โทษใครไม่ได้โทษวัตถุถาวรและไม่มีชีวิตซะเลย) 555
โทษคนกดไม้กั้น ดันมา กดตอนนี้ โทษรถไฟดันจะผ่านตอนนี้ โทษตำรวจ ดันติดไฟแดงตอนนี้ โทษรถเบ็นซ์ที่มาอยู่ข้างหน้าตอนนี้
โทษรถคันอื่นดันมาร่วมทางตอนนี้ โทษทุกอย่างที่ทำให้มีวันนี้ ยกเว้นโทษตัวเอง เพราะมองไม่เห็นความผิดตัวเอง ว่าได้ทำผิดกฏจราจร
เพราะว่านิดหน่อย อีกหน่อย ขอหน่อย การกระทำที่มักง่าย และเห็นแก่ตัวพวกนี้ มันเป็นบ่อเกิดปัญหา
การที่เราขับรถต้องสามารถพิจารณาได้ว่าข้างหน้าเรามีสถาณการณ์อย่างไง เช่นที่เกิดเหตุ แสดงว่าอีซุซุเข้าไปเพราะไม่อยากรถติดหลังไม้กั้นใช่หรือไม่ และเบ็นซ์ก็ไม่ได้ทำผิดกฏ เพราะว่าพ้นไม้กั้นไปแล้วใช่หรือไม่ ถ้าเช่นนั้น การที่อีซุซุจะจอดหลังไม้กั้น ก็คงไม่ถูกคันหลังด่าตามมาใช่หรือไม่
ในเมื่อคุณเห็นแก่ตัว ใยคุณถึงไปหวังน้ำใจจากผู้อื่นเล่า
น้ำใจมันบังคับไม่ได้ แต่กฏกติกามันต้องกระทำ

และรถเบ็นซ์ถ้าไม่มีน้ำใจจริงๆ คงได้แจกสารตะกั่ว ไปแล้ว ถ้าเป็นคนอื่นที่นิสัยไม่ดี คงจะมีการ ตบด้วยปืน ยิงด้วยปืน ฯลฯ ไปแล้ว

ด้วยความเครพ
ถูกใจครับ+1ให้ครับ เยี่ยม
สำหรับผมเพิ่งเข้ามาอ่านกระทู้นี้แต่ก็ไม่ตะแบงถูไถเทใจให้กับพวกมักง่าย แล้วมาบอกว่าคนอื่นไม่มีน้ำใจมั่งล่ะ พยายามฆ่าบ้างล่ะ เห็นแก่ตัวว่าไม่ยอมหลบให้คนอื่นบ้างล่ะ ก็มันเล่นขับรถซะอย่างนั้น ทำอะไรดันไม่คิดรู้ทั้งรู้ว่าข้างหน้าเขารถติดไปไม่ได้ก็จะไป พอไปไม่พ้นก็ไปบีบแตรไล่เขาซะหน้าเกลียด ส่วนกรณีพกปืนไปด้วยผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนส่วนมากที่มีปืนใครไม่เคยพกไปมั่งครับ จะมาบอกว่าไม่มีใบพกๆไปได้ยังไงผิดกฎหมายซึ่งมันก็จริง แต่เนื้อข่าวเขาว่ามาแบบนั้นคนส่วนใหญ่เขาแค่ชื่นชมว่ามีสติ วุฒิภาวะพอที่จะไม่ทำอะไรโง่ๆไม่ได้ชื่นชมว่าเป็นฮีโร่ ซึ่งคนส่วนใหญ่ในเว็บนี้เท่าที่อ่านมาจนถึงหน้าที่ผมโพสข้อความนี้เขาก็ประณามคนขับรถกระบะกันทั้งนั้นแหล่ะครับ คิดว่าสังคมในเว็บนี้เขาตัดสินไปแล้วนะครับ อย่าตะแบงไปเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 09:22:41 PM โดย sa-ea-ba » บันทึกการเข้า

สู้เพื่อความถูกต้อง อย่าหวั่นไหวต่อโชคชะตา อย่าหยาบช้ากับคนรอบตัว
Choro - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 214
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3853



« ตอบ #123 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2010, 06:11:43 PM »

 ผมไม่ยิงครับเพราะผมไม่พกปืน เคยเขียนลงในเวปนี้หลายต่อหลายครั้งครับว่าผมไม่พก+ไม่พาปืิน+ไม่เอาปืนไปด้วย

 ปืนมีไว้พาผมกลับบ้านและเฝ้าบ้านเฝ้าสวนไม่ใช่มีไว้เพื่อไปนอนคุก  

 แล้วเรื่องอะไรจะย่อมให้ด่าฟรีๆ เรื่องอะไรต้องยอมให้เอาร่มมาทิ่มหน้าฟรีๆละครับ


. . .. . .. . . .ผมจะฟ้องเมียผมคับ  คิก คิก  คิก คิก

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 15, 2010, 06:14:09 PM โดย ChoRo » บันทึกการเข้า

สุดท้ายชีวิตไม่ขอรวย ขอแค่ไม่ป่วยก็พอแล้ว
แสนสุข
Hero Member
*****

คะแนน 171
ออฟไลน์

กระทู้: 1291



« ตอบ #124 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2010, 06:16:08 PM »

http://video.sanook.com/นาทีชีวิต_ที่รอดหวุดหวิดจากรางรถไฟ-408673-player.html
บันทึกการเข้า

KCharng
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #125 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2010, 06:21:48 PM »

ได้สติแล้วครับ ขอบคุณครับ Smiley

ที่จริงเล่นเวปบอร์ดก็คล้ายๆ การใช้ถนน

ผมถนัดกลับบ้านก่อน...   ลาทีวันจันทร์ เจอกันใหม่อาทิตย์หน้า
บันทึกการเข้า
SA-KE
เมื่อเดินผิด ย่อมมิใช่มนุษย์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 702
ออฟไลน์

กระทู้: 3612


เรารักในหลวง


« ตอบ #126 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2010, 08:50:04 PM »

..........

เรื่องนี้ ค่อนข้างน่าอายของชาวปืนด้วยซ้ำ ที่เราคนดี ๆ (หรือเท่าที่พยายาม ) ไม่อยากแสดงความเห็นมั่ว ๆ ออกไป แต่ก็ทำไปแล้ว

มั่วตรงไหน ก็คือ เรามีแต่เนื้อข่าวไม่กี่บรรทัด  และ ไม่มีใครอยู่ในเหตุการณ์นั้น แม้แต่คนเดียว  เรายังเอามาวิเคราะห์กันถึงเนื้อถึงกระดูก

.......

 Smiley

ชอบความคิดเห็นนี้มากที่สุดครับ  ขออนุญาต +1 ครับ ... เยี่ยม

เท่าที่สังเกต เราเริ่มคุยเรื่องปืน เราจะเริ่มจากแน่ะนำเรื่อง "ความปลอดภัย "

เมื่อเริ่มยิงปืน เรายังมีขั้นตอนแน่ะนำ ก่อนลั่นกระสุนออกไป  ... Wink

แต่พอคุยเรื่องการขับรถ  ทำไม? ไม่เริ่มจาก "กฎ กติกา "  กันหล่ะครับ ??

รวมถึง "รถไฟ" ด้วยน่ะ... ??   สู้แถวบ้านผมไม่ได้    คิก คิก
บันทึกการเข้า

คนต่างกับสัตว์ที่ "ความคิด"  ,  คนต่างกับมนุษย์ที่ "ศีลธรรม"
Big Gunner-รักในหลวง-
Jr. Member
**

คะแนน 4
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 24



เว็บไซต์
« ตอบ #127 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2010, 11:58:08 PM »

อยากคิดแบบนี้นะครับ :
ในสถานการณ์เดียวกัน คนเราคิดและแก้ปัญหาไม่เหมือนกันหรอกครับ ปัจเจกชนย่อมมีความแตกต่าง
ในส่วนของการใช้รถใช้ถนนนั้นพึงระลึกอยู่เสมอว่าไม่ควรละเมิดกฎจราจรหรือสัญญาเตือนภัย เพือความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น แต่หากเผลอเรอทำผิดกฎข้อหนึ่ง ก็ใช่ว่าจะต้องทำผิดกฎข้อสองด้วยนี่ครับ คนดีคนเลวมักถูกอารมณ์กำหนดให้เป็นไป ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบย่อมนำมาซึ่งความสุขความเจริญเป็นบุญกุศลยิ่งนัก ปฏิบัติไม่ดีปฏิบัติไม่ชอบย่อมนำมาซึ่งเภทภัย เป็นทุข์มหันต์ทีเดียว (ดีและชอบให้ยึดตามหลักศีลธรรมและกฎหมายนะครับ)

เกี่ยวกับรถไฟ
ในเขตเมืองน่าจะมุดลงไปวิ่งใต้ดิน หรือไม่ก็ยกสะพานลอยฟ้าได้เสียตั้งแล้ว
บันทึกการเข้า

การเป็นผู้ให้ ยิ่งใหญ่กว่าการเป็นผู้รับ
อ้วน 008 รักในหลวง
ปืนดี คือปืนที่อยู่ในมือคนดี
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 120
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2249



« ตอบ #128 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 01:25:21 PM »

กว่าผมจะอ่านมาถึงหน้าสุดท้าย.......ค้นพบตัวเองว่ามีหลากหลายอารมณ์ผ่านเข้ามาเหลือเกินครับ เศร้า
ถ้า...เป็นผู้ชายในรถเก๋ง .......จะลงมายิงระบายความโกรธที่ถูกบีบแตรไล่.......แต่เอ๊ะ..ทำไม่ได้
ถ้า...เป็นผู้หญิงในปิคอัพ...ตายแล้วรถไฟมา.....พ่อ..ลูก..หลาน..เรา..ตายหมดแน่..บีบแตรแล้ว..ข้างหน้ายังใจดำ ต้องตบ
ถ้า...ข่าวนี้จริงครึ่งหนึ่งละ
ถ้า...ข่าวออกมาว่า รถไฟชนสยอง ตายคาปิคอัพ 5 ศพ
ถ้า...ข่าวกลายเป็น หนุ่มเลือดโหด ฆ่าเด็กและคนแก่...
         ฯลฯ
ด้วยความเคารพ เมื่ออารมณ์สงบเป็นของตนเองแล้วผมพบว่า หากไม่เกิดเหตุสุดวิสัยมากกว่านี้
-ถ้าผมเป็นชายในรถเก๋ง หากขยับรถไม่ได้จริง ตั้งแต่บีบแตรครั้งแรก ผมจะลงจากรถเพื่อช่วยอพยพคนในปิคอัพ
-แต่ถ้าเป็นผู้หญิง จวนตัวสุดๆแล้ว คงจะชวนกันหนีจากรถ เพื่อให้เสียหายน้อยที่สุดครับ
สรุปผมไม่แปลกใจเลยที่เราหลายคนในกระทู้นี้หลากหลายความคิดครับ เพราะผมคนเดียวยังจินตนาการแบบได้กลิ่นดินปืน หรือตบแล้วแทงซ้ำด้วยร่ม ขอให้เราทุกคนมาวิเคราะห์แบบที่กระทู้ตั้งใจให้ทำ อย่าเครียดกันครับ ไหว้
บันทึกการเข้า

สนับสนุนการใช้ชีวิต ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พอกิน พออยู่ พอใช้ พอที่จะแบ่งปัน
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
****

คะแนน 925
ออฟไลน์

กระทู้: 509


« ตอบ #129 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 02:18:19 PM »

แหมเรื่องไม่น่าเกิด  .. ก็อาจจะเกิด เราคนมีปืนพกพาติดรถติดราก็อาจพลอยเดือดร้อนไปได้

ลองวิเคราะห์กันดูครับ

++!!  สาวอัซูซุขับรถติดไฟแดงคล่อมรางรถไฟ กระหน่ำบีบแตรใส่หนุ่มเจ้าของรถเบ้นซ์ให้ขัยบแต่ยังไม่หลีกทางให้ เลยจอดรถตะลุมบอนกันกลางถนน ด้านตร.แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายทั้งคู่
       
       เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ (7 ก.พ.) ขณะที่ พ.ต.ท.จตุภูมิ รักษาภักดี พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางกอกน้อย กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพักก็ได้มี นายวุฒิชัย สามกองาม อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1100 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กับ น.ส.สุทธินี สามกองาม อายุ 33 ปี ผู้เป็นลูกสาว เข้ามาแจ้งให้ดำเนินคดีกับ นายทักษิณ ประภัย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 399/18 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย ในข้อหาทำร้ายร่างกาย
       
       นายวุฒิชัย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวกับตนได้ขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีแดง หมายเลขทะเบียน ฌท-6971 กทม.ไปรับหลานที่ย่านบางขุนนนท์ เพื่อไปทำบุญที่วัดศรีสุดาราม กระทั่งมาถึงบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ ช่วงบริเวณหน้าโรงจำนำ ก่อนถึงแยกบางขุนนนท์เล็กน้อย ก็จอดรถติดไฟแดงจอดคล่อมทางรถไฟอยู่ หลังจากนั้นสักพัก รถไฟกำลังจะมา ลูกสาวจึงบีบแตรไล่รถเบนซ์ เอสแอลเค สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ศ-4787 กทม.ที่มี นายทักษิณ เป็นคนขับ แบบไม่หยุด แต่ก็นายทักษิณก็ไม่ยอมเลื่อนรถไป จนไม้กั้นทางลงมาจนติดหลังคารถตน ทำให้ลูกสาวต้องหักรถออกทางขวาไปที่ช่องทางกลาง แล้วบีบแตรไล่รถคันที่อยู่ช่องทางกลางอีกคัน
       
       นายวุฒิชัย กล่าวต่อว่า หลังรถคันหน้าในช่องทางกลางขยับ ลูกสาวจึงขับรถไปปาดหน้ารถเบนซ์ของนายทักษิณ แล้วมองหน้า ก่อนที่ลูกสาวจะลงไปจากรถ ตนก็เดินลงตามพร้อมถือร่มไปด้วย แต่ระหว่างนั้นกลับถูกนายทักษิณ ทำร้ายร่างกายจนตนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าผากเป็นแผลถลอก มีเลือดไหลตลอดเวลา จึงมาแจ้งความดังกล่าว
       
       ด้านนายทักษิณ ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของร้านตำไทย ย่านพรานนก และเพาะปลาหมอสีส่งออกเป็นอาชีพเสริมด้วย โดยก่อนเกิดเหตุเพิ่งขับรถกลับจากไปดูการถมที่ดินที่ จ.นครนายก และกำลังขับจะรถไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ย่านถนนจรัญสนิทวงศ์ โดยใช้ถนนเส้นตัดใหม่ เมื่อมาถึงทางออกถนนจรัญสนิทวงศ์ ตนก็เลี้ยวซ้ายมาติดไฟแดงแยกบางขุนนนท์ เพื่อเตรียมข้ามทางรถไฟไป
       
       นายทักษิณ ให้การต่อว่า หลังจากนั้น รถกระบะอีซูซุคันหลังที่จอดคล่อมรางรถไฟอยู่ ก็บีบแตรไล่รถตนแบบไม่หยุด จนไม้กั้นรถไฟลงมาพาดหลังคารถ ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะหักออกขวาไป แล้วบีบแตรไล่รถคันหน้าจนเป็นที่น่ารำคาญของรถคันอื่น เมื่อรถคันหน้าขยับออกให้ คนขับรถกระบะอีซูซุก็ขับมาปาดหน้ารถตน ซึ่งตนสังเกตุเห็นว่าในรถมีหญิงสาวคือ เป็นคนขับ มีคนแก่นั่งมาข้างๆ ก็คือนายวุฒิชัย และมีเด็กอีก 3 คน
       
       นายทักษิณ ให้การต่ออีกว่าจากนั้น น.ส.สุทธินี ที่ขับรถกระบะก็ลงมาจากรถ แล้วตรงเข้ามาด่าตนว่าทำไมไม่มีน้ำใจขยับรถให้ ตนพยายามอธิบายแล้วว่า รถคันหน้าไม่ขยับออกไป ตนจะขยับรถให้ได้อย่างไร แต่ น.ส.สุทธินี ก็ไม่ยอมฟัง จนกระทั่งนายวุฒิชัย เดินถือร่มตามลงมาแล้วเอาร่มยันประตูรถตนไว้ พร้อมกับพูดว่า "มึงมีปัญหามากนักเหรอ" จากนั้นก็เอาร่มแทงใส่หน้าตนจนเป็นแผล แถมยังต่อยตนอีกหลายหมัด จังหวะนั้นตนจับปืนลูกโม่ขนาด .38 ที่อยู่ภายในรถไว้ แต่ไม่ได้ควักออกมา เพราะเกรงว่าทั้ง 2 คน มีเจตนาจะชิงทรัพย์ตน เนื่องจากตนใส่สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทไว้ที่คอ และมีเลสทองคำที่ข้อมืออีก
       
       นายทักษิณ ยังให้การอีกว่า จากนั้นตนก็ตัดสินใจลงรถแล้ววิ่งหนี เพราะไม่ต้องการให้เรื่องบานปลาย แต่นายวุฒิชัยกลับไม่ยอมหยุด ยังวิ่งตามทำร้ายร่างกายตนอีก ชาวบ้านในระแวกนั้นก็เห็นเหตุการณ์อยู่ตลอด จนตนไม่ไหวผลักร่มจนหักทิ่มใส่หน้านายวุฒิชัยจนเป็นแผล ระหว่างนั้นตนพยายามบอกให้ น.ส.สุทธินี ห้าม นายวุฒิชัยผู้เป็นพ่อ แต่กลายเป็นว่าทั้ง 2 คนกลับมาช่วยกันรุมทำร้ายตน จนใบหน้าและตามร่างกายเป็นแผลหลายแห่ง สุดท้ายมีตำรวจมาห้ามไว้ พร้อมกับพาตนและคู่กรณีทั้ง 2 คน มาที่โรงพัก ระหว่างที่มาถึงโรงพัก นายวุฒิชัย ก็ถามว่าในกระเป๋าตนมีอะไร ตนก็ตอบว่ามีปืนอยู่ นายวุฒิชัยก็ขอดูตนจึงเปิดให้ดู แต่เจ้าตัวกลับคว้ากระเป๋าวิ่งไปให้ตำรวจอีก อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวตนก็ไม่อยากมีปัญหากับใครเลย อีกทั้งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ยังชมตนว่าใจเย็นมาก ขนาดมีปืนยังไม่ยอมเอาออกมาใช้
       
       ด้าน พ.ต.ท.จตุภูมิ กล่าวว่า หลังสอบปากคำคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ก็ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่ายกายทั้งคู่ และแจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร กับนายทักษิณ เพิ่มอีก 1 ข้อหา

ที่มา ..http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9530000017726
 
 --------------------------------------------------------------------------------
 
พิจารณาข้อเท็จจริงตามข่าว สองพ่อลูกนี่ถ่อยมาก เค้าไม่ยอมหลบเพราะติดคันหน้า แต่ตัวเองไปไล่คันที่อยู่ข้างๆจนเค้าขยับหนีและรอดตัวจากรถไฟไปได้แล้ว ถึงค่อยลงมาหาเรื่องคนที่เค้าทำถูกกฏอีกที ฟังดูแล้วไม่ใช่เหตุฉุหเฉินอะไรเพราะรอดตัวมาแล้ว แล้วยังมีเวลามาหาเรื่องเค้าวิ่งหนียังเอาร่มไปไล่ทิ่มหน้าทิ่มตาอีก พอเค้าผลักป้องกันตัวยังมาช่วยกันรุม อย่างนี้มีปืนก็ใช้ได้ครับ ผมกลับเห็นว่าเจ้าของเบนซ์ใจเย็นเกินไปรึเปล่า ถ้าเจอคนเป็นมวยเค้าใช้ปืนยิงแข้ง-ยิงขาก็ได้ ไม่ได้มีเจตนาฆ่า ในระยะประชิดยิงเพื่อฆ่านั้นไม่ยากเลย แต่เจตนาจริงๆยิงเพื่อป้องกันตัวให้หยุดทำร้าย ถ้ายิงแล้วหยุดไม่ซ้ำที่สำคัญเชื่อว่าไม่เกินกว่าเหตุ ไม่ใช่เรื่องทะเลาะวิวาท เพราะเจ้าของรถเบนซ์ไม่มีเจตนาสมัครใจวิวาทด้วย(วิ่งงหนีไปแล้ว-ความจริงไม่ตต้องวิ่งก็ได้แค่ยืนเฉยๆแล้วมีสองพ่อ-ลูกบ้าๆพุ่งเข้ามาด้วยเจตนาร้ายแค่นี้ก็เป็นเรื่องป้องกันแล้ว) พยานมี ใช้ปืนยิงขามองยังไงก้ยังเป็นการป้องกันอยู่ดี คราวนี้สองพ่อลูกคงได้ไปนั่งงรถเข็นทิ่มตากันเองที่บ้าน
บันทึกการเข้า

"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู"
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
MP 436
Hero Member
*****

คะแนน 186
ออฟไลน์

กระทู้: 1766



« ตอบ #130 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 02:48:47 PM »

ครับอยากจะบอกวัตถุประสงค์ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อได้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจะได้เป็นอุทาหรณ์ว่า ถ้าไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ควรจะหาทางระวังป้องกันตั้งแต่ต้นอย่างไร   จริงๆถ้าเรามองอย่างตรงไปตรงมาว่าหากเจ้าของรถกระบะไม่ประมาท ระมัดระวังเผื่อคิดสักนิดว่าการเอารถเข้าไปจอดต่อท้ายคันหน้าตรงคร่อมทางรถไฟ  มันอาจจะมีรถไฟมาช่วงนั้นได้  และจะลำบาก   ถ้าคิดเผื่อได้แบบนั้นเรียกว่าไม่ประมาท  เหตุการณ์นี้ก็อาจจะไม่เกิด

แต่เมื่อประมาท ไม่เผื่อคิด เมื่อรถไฟมันดันมาช่วงเวลานั้น  ก็ลำบาก  และความเดือดร้อนก็ตามมา  พลอยกระทบไปถึงคนอื่นที่เขาทำตามกฎจราจรด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม  หากประมาท  และรถไฟกำลังมา  หากว่ารถคันหน้าทราบจากแตร หรือทราบจากเหตุอื่นๆว่าคันหลังกำลังลำบาก
ต้องลืมเรื่องผิดถูกกฏหมายกันไว้ก่อน เอาเรื่องช่วยเหลือให้รอดจากตรงนั้นได้ก่อน  เจ้าของรถเบนท์จึงยังมีหน้าที่ตามคุณธรรม ช่วยขยับรถให้
เพื่อคันหลังที่ทำประมาทไปเผลอเรอไป เขาจะได้รอดจากภัยที่จะมาถึง

แต่ถ้ามันขยับไม่ได้จริงๆ  อันนี้ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันจะไปว่าเขาผิดก็คงไม่ถนัดนัก
แต่จากอุทาห์ครั้งนี้ ผมเข้าใจว่า เจ้าของรถคันหลัง  คงมองเรื่องขยับรถเป็นหลักว่าไม่ขยับให้เลยโกรธและน้อยใจเพื่อนร่วมถนนและทำไปแบบนั้น

ผมคิดว่า ถ้าขยับได้แล้วคันหน้าไม่ช่วยขยับให้ทั้งที่รู้ว่ารถไฟมาแล้ว  จะชนคันหลัง  คันหน้าขาดคุณธรรม ใจดำเกินไป
แต่ถ้าขยับไม่ได้เลย  ช่วยแบบไหนก็ไปไม่ได้ ติดหมด  อันนี้  .............ไปโทษคันหน้าไม่ได้  คันหลังคงต้องรับกรรมที่ทำไว้

กรณีนี้ ยังมีอีกทาง คือคันหลังที่ตามมา  ถัดจากรถกระบะ  ก็อาจขยับถอยให้ได้  หากมีช่องว่างให้ถอย ก็ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยคันกลางที่คร่อมทางรถไฟให้รอดได้

ส่วนเมื่อรอดมาแล้ว  ใครถูกผิดตามกฎหมายจราจร ..ก็ค่อยมาว่ากันอีกทีหนึ่ง ..

สรุป..ทางที่ดี เมื่อขับจะผ่านทางรถไฟ แล้วรถเกิดติด  ...ต้องระวังอย่าจอดคร่อมทางรถไฟเด็ดขาด  แล้วเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น
บันทึกการเข้า
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #131 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2010, 03:58:33 PM »

ที่จริงเล่นเวปบอร์ดก็คล้ายๆ การใช้ถนน

ผมถนัดกลับบ้านก่อน...   ลาทีวันจันทร์ เจอกันใหม่อาทิตย์หน้า

+1 ท่านดอน กิโฆเต้ ครับ...

สำหรับสติและคำเตือน... เยี่ยม
บันทึกการเข้า
wch941
Jr. Member
**

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 28


« ตอบ #132 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 05:30:58 PM »

ซวยจริงๆคับ
บันทึกการเข้า

รักชาติ ยิ่งชีพ
rithikorn
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 6
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 93


ํํัYou Will Never Walk Alone


« ตอบ #133 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2010, 10:00:02 PM »

เป็นผมก็คงป้องกันตนเองพอสมควรแก่เหตุ..ปืนไม่จำเป็นก็ไม่ต้อฝใช้และไม่ต้องไปบอกเขาว่ามีปืน...ประเมินสถานการณ์แล้วป้องกันตนเองไปซักหน่อยพอหอมปากหอมคอ...จากนั้นเสียค่าปรับคนละ500  บาทครับ....แต่ลูกสาวก็ใช่ย่อยนะเป็นผู้หญิงแท้ๆแต่อารมณ์และวาจาร้ายน่าดู...เจออย่างนี้ขอใส่กระโปรงสักวัน....
บันทึกการเข้า
hello9pk
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #134 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2010, 11:57:18 AM »

เรื่องนี้นายสมชายเห็นไม่เหมือนใครน่ะครับ...

เรื่องแรก...
เวลารถวิ่งๆอยู่แล้วเกิดรถติดขึ้นมาขณะที่ไม้กั้นทางรถไฟไม่ได้เอาลงมากั้น มันเลือกไม่ได้หรอกครับว่าจะจอดพอดีคล่อมทางรถไฟหรือไม่ หากบังเอิญรถใครจอดคล่อม ทางรถไฟพอดีเป๊ะ เขาจะบีบแตรให้คันหน้าเลื่อนรถครับ... เวลารถติดบนถนน จะไม่ติดแนบชิดแบบกันชนจ่อกันชนหรอกครับ หากคันหน้ามีน้ำใจเลื่อนรถเดินหน้าไปหน่อยพร้อมบีบแตรบอกคันหน้าของตัวเองออกไปอีก คันที่อยู่ข้างหน้าออกไปอีกเขาก็จะเลื่อรถกันคันละนิดคันละหน่อย ในที่สุดรถยนต์คันที่คล่อมทางรถไฟก็จะพ้นอันตรายครับ...

ขออนุญาตครับพี่สมชาย ผมอาจจะมองในมุมมองการขับรถของผมนะครับ  คือตัวผมเองเวลาขับรถผ่านทางร่วมทางแยกหรือทางคับขันเช่นทางรถไฟ หากผมดูแล้วว่าไปไม่พ้นผมจะไม่ข้าม หรือไปจอดคร่อมครับ เช่นทางรถไฟตรงวิภาวดีที่พี่สมชายผ่านบ่อย ผมก็เช่นกันครับ ผมเคยเจอเหตุอย่างพี่สมชายเช่นกันว่าไปแล้วไม่พ้นต้องกระดึ๊บๆออกไป หลังจากครั้งนั้นก็ระวังมาตลอดครับ  เรื่องนี้ผมเลยมองว่าฝ่ายอีซูสุผิดเพราะตัวคนขับประมาทและสะเพร่าเองครับ หากตัวเขาระวังซักนิดแล้วไม่รีบร้อนกับระยะห่างแค่ทางรถไฟกั้นไม่กี่เมตร เรื่องคงไม่เกิดครับ   ไหว้ ไหว้

ส่วนเรื่องคู่กรณีไม่เลื่อนรถให้นั้น เป็นเรื่องของน้ำใจครับ ถ้าจงใจไม่เลื่อนให้ก็เป็นอีกประเด็นที่สมควรตำหนิ แต่ผมมองแยกกับกรณีก่อนหน้าครับพี่  ด้วยความเคารพ ไหว้ ไหว้

เรื่องไม่ระวังจอดรถไม่พ้นทางรถไฟหรือ ตรงนี้เป็นความผิดของกะบะแน่ครับ แต่ความผิดแบบนี้มีโทษไม่ถึงขั้นต้องตายน่ะครับ... ประเด็นคือคนที่ต้องตัดสินว่าใครผิดต้องรับโทษไม่ใช่คนใช้รถใช้ถนนร่วมกันครับ แต่เป็นตำรวจจราจรเป็นผู้เขียนใบสั่ง เรื่องนี้จบลงตรงที่กะบะจอดปุ๊บ ความผิดสำเร็จปั๊บ ถ้าตำรวจเห็นก็เขียนใบสั่งได้ทันที แต่เรื่องนี้จบแล้วน่ะครับ...

ส่วนเรื่องที่สองคือ คนที่จอดรถขวางหน้าในขณะที่รู้ว่ารถไฟกำลังจะมา แล้วรถไฟอาจหยุดไม่ทัน มีหน้าที่ต้องช่วยเหลือคันหลังให้พ้นภัยเฉพาะหน้านะครับ ไม่ใช่แค่แล้งน้ำใจอย่างเดียว แต่เป็นความผิดโดยงดเว้นกระทำการ เพราะตนเองมีหน้าที่ครับ... ทำนองเดียวกับเห็นคนกำลังจะจมน้ำแล้วไม่ช่วยเหลือแหละครับ...

เรื่องไม่ระวังจอดรถไม่พ้นทางรถไฟหรือ ตรงนี้เป็นความผิดของกะบะแน่ครับ แต่ความผิดแบบนี้มีโทษไม่ถึงขั้นต้องตายน่ะครับ.
ผมว่าสมควรตายครับ เห็นรถไฟมาแล้วยังขับรถไปขวาง ถ้าไม่เชื่อ ว่างๆ ก็ขับรถไปขวางดูนะครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 6 7 8 [9] 10
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.133 วินาที กับ 21 คำสั่ง