เดี๋ยวนี้การตลาดหนอนจะคล้ายกับโทรศัพท์โนเกียแล้ว
เค้าเรียก การ กระตุ้นตลาด ครับ สินค้า กล้อง DSLR ในปัจจุบัน ต่างจากเมื่อ 10 ปีก่อน มาก ยิ่งถ้าเอาไปเปรียบเทียบกับ กล้อง ฟิล์ม ยิ่งแตกต่างกันเข้าไปใหญ่
ตลาดกล้อง DSLR ในปัจจุบัน ถึงแม้จะเป็นตลาดแข่งขันกึ่งผูกขาด เพราะ ผู้ผลิตหลักในตลาด มีอยู่ไม่กี่ราย แล้วส่วนใหญ่ เป็น บริษัท สัญชาติ ญี่ปุ่น หรือไม่ก็ มีความใกล้ชิดกับ บริษัท ญี่ปุ่น (อย่าง Lica กับ Sumsung ที่ต่างก็มี DSLR) แต่การแข่งขันก็เป็นไปอย่าง เข้มข้น (มาก ๆ) โดยเฉพาะ Canon กับ Nikon ที่ต่างผลิตกล้องออกมา ชนกัน แบบ รุ่นต่อรุ่น โดย เมื่อ 10 ปีก่อน เป็นช่วงต่อระหว่าง กล้อง ฟิล์ม กับ กล้อง ดิจิตอล ซึ่งมีราคาแพงมาก บางแบบ เป็น Digital Back ที่ใส่หลัง กล้อง ฟิล์ม ทำให้ ไม่เป็นที่นิยมากนัก
แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยี่ ทาง อีเล็กโทรนิค ทำให้ กล้อง DSLR มีความเร็วในการประมวลภาพเร็วขึ้น และ ราคาถูกลง ทำให้ นักถ่ายภาพ สมัครเล่น ที่มีเงินไม่มากนัก สามารถเข้าถึง กล้อง DSLR ได้ จากราคา Data Back ที่สูงกว่า 2 แสนบาท แถมต้อง ซื้อ กล้อง ที่มีราคา กว่า 2 แสนบาท รวมแล้ว ราคาราว ๆ 5 แสนบาท ในการเริ่มต้นที่จะถ่ายภาพ ติจิตอล ยังไม่รวมเลนส์ ที่อาจถึง ล้านบาท ได้ แต่ ในปัจจุบัน ราคากล้อง DSLR ที่ราคาเริ่มต้นที่ ไม่ถึง 2 หมื่น พร้อม เลนส์ คิท ก็สามารถ ถ่ายรูปจาก กล้อง DSLR ได้แล้ว
การแข่งขัน ระหว่าง Nikon กับ Canon ในตลาด กล้อง DSLR นั้น เริ่มมาตั้งแต่ กล้อง ฟิล์ม เพิ่งเริ่มพัฒนา จนมาถึง ยุค ออโตโฟกัส ที่ Nikon ยังคงใช้ เลนส์ AI ชุดเดิมได้ หรือ เลนส์ AF ชุดใหม่ก็ได้ ส่วน Canon กลับ ทิ้ง เลนส์ FD หันไปหา เลนส์ EF ทำให้ คนใช้ เลนส์ FD ต่างไม่พอใจ เพราะ ต้องลงทุนกับ เลนส์ ใหม่ หมด ทำให้ กล้อง มือหมุนของ Nikon กวาดส่วนแบ่งในตลาดนักถ่ายภาพ มือใหม่ ได้เกินกว่า ครึ่ง ของ ตลาดรวม โดย ตัวหลักของ Nikon คือ FM2 กับ FE2 ออโตโฟกัส ก็พวก F401 กับ F501 ที่ถึงแม้มีเลนส์ รุ่นเก่า ก็ใช้กับกล้อง ออโตโฟกัสได้ ส่วน Canon กลับใช้เลนส์รุ่นเก่า กับ กล้อง EOS ไม่ได้
ช่างภาพ กีฬา อาชีพ ได้ทำให้ สภาพการแข่งขันของ กล้อง Nikon กับ Canon เปลี่ยนไป เนื่องจาก เทคโนโลยี่ ที่ กล้อง ทั้ง 2 ใช้นั้น ต่างกัน Nilon ฝังมอเตอร์ ที่ ตัวกล้อง ส่วน Canon ใช้มอเตอร์ ที่ เลนส์ ทำให้ เมื่อใส่เลนส์ เทเลโฟโต้ ที่มีขนาดใหญ่ กล้อง Canon จะ โฟกัส ภาพได้ เร็วกว่า Nikon มาก เพราะ เลนส์ ขนาดใหญ่ ก็ต้อง เลื่อนชิ้นเลนส์ ขนาดใหญ่ตาม
เลนส์ ของ Canon ก็มี มอเตอร์ ขนาดใหญ่ ตาม ขนาดเลนส์ ทำให้ ปรับโฟกัสได้เร็วกว่า Nikon ที่ มีมอเตอร์ ที่ตัวกล้อง เมื่อ ใช้เลนส์ ขนาดใหญ่ จะทำให้โฟกัสได้ช้า ถึงช้ามาก ทำให้ ช่างภาพกีฬา ต่างหันไปใช้กล้อง Canon กันหมด เพราะ ต้องการความรวดเร็วในการโฟกัส นั่นเอง แต่ในปัจจุบัน Nikon ได้หันมา ฝัง มอเตอร์ ใน เลนส์ ตามแบบ Canon ทำให้ การ โฟกัส ได้ เร็วไม่แพ้ Canon
ในเมื่อ ตลาดกล้องสำหรับมืออาชีพ ไม่สามารถขยายตัวได้ Canon คงไม่มีทางเลือก นอกจากการ สร้างตลาดจาก ช่างภาพ มือใหม่ โดย ออกแบบ กล้อง ให้มีราคาถูกลง และ ดีขึ้น โดยเปลี่ยนแบบให้ บ่อยขึ้น เพื่อกระตุ้นตลาดเป็น ระยะ ๆ