เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 26, 2024, 02:30:05 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ฝากเตือน..เพื่อความปลอดภัย  (อ่าน 4823 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 10 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
โมโม่153
Hero Member
*****

คะแนน 2013
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 17779



« เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 12:39:01 PM »

 Shocked แจ้งเหตุร้ายจากสำนักงานสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยบอกต่อขณะนี้กำลังมีการระบาดของกลุ่มมิจฉาชีพทำทีมาขายสเปรย์ปรับอากาศในรถยนต์ แต่จริงๆ แล้วสารในสเปรย์กระป๋องนั้นคือคลอโรฟอร์ม ที่ทำให้ท่านสลบได้  เหตุการณ์เริ่มจากเด็กสาววัยรุ่นท่าทางดีมาเคาะกระจกขณะรถจอด หรือรี่เข้ามาขณะท่านกำลังจะเข้ารถบริเวณลานจอดรถตามที่สาธารณะทั่วไป...หากท่านไม่ระวังหรือไขกระจกรถเพื่อพูดคุยด้วย สเปรย์จะถูกฉีดเข้าในรถทันที เมื่อท่านสลบ งัวเงียสลึม สลือไม่ได้สติ ผู้ชายอีก 2-3 คนจะเข้ามา ปลดทรัพย์ หรืออาจทำอันตรายร่างกายของท่านได้ เพื่อความปลอดภัยสำหรับทุกท่าน ขอให้ระวังตัวในทุกย่างก้าว และไม่ประมาท
ด้วยความปราถนาดี และห่วงใยเสมอสำนักงานสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ช่วยกระจายต่อด้วยนะคะ  Shocked

 Embarrassed เพื่อนส่งมาให้...เลยช่วยกระจายข่าวมาทางนี้บ้าง ระวังตัวกันด้วยนะค่ะ  Embarrassed
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 20, 2005, 12:40:40 PM โดย momo153 » บันทึกการเข้า

โจ ™
สมาชิกลำดับที่: 41
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 219
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8187


รวมเวลาที่อยู่ในระบบ: 555 วัน 5 ชั่วโมง 55 นาที


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 12:40:43 PM »

ขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า

บางโพ 5
mouth
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

กระทู้: 32


« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 12:45:36 PM »

รับทราบ..และขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 12:48:53 PM »

เคยได้ยินมาเหมือนกัน แต่ลืมไปแล้ว ขอบคุณที่เตือนความจำ
บันทึกการเข้า

                
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 12:49:21 PM »

น่าสนใจมากครับ  Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
Piroje
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 10
ออฟไลน์

กระทู้: 562

เด็กอนุบาลตีนดอย


« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 12:52:38 PM »

ขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า
ARTWORK
สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
Hero Member
*****

คะแนน 5
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1182


« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 12:57:11 PM »

ขอบคุณครับผม Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า

สองขาข้าเที่ยวท่อง สองตาจ้องข้าจดจำ หนึ่งชีวิตลิขิตนำ ตามเส้นทางข้าเลือกเอง
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 12:59:46 PM »

ขอบคุณมากครับเป็นประโยชน์มากครับ ทำไมผมไม่รู้ข่าวสารเลยทำอะไรอยู่ว้า
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
RUGER
ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี ตรองดูซีทุกคนก็มีหัวใจ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1262
ออฟไลน์

กระทู้: 23344


ฟ้าลิขิตชีวิตข้า ให้ค้าขาย


« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 01:00:49 PM »

  Cheesy ขอบคุณครับ Cheesy   Undecided  Angry สังคมสมัยนี้มีภัยหลากหลายรูปแบบ  Angry  Undecided
บันทึกการเข้า

http://www.youtube.com/watch?v=Ci3YXN93QEs
เนื้อร้าย  ต้องตัดทิ้ง  ... 555
HK_P7
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

กระทู้: 301


« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 01:02:41 PM »

ขอบคุณครับ  Grin
บันทึกการเข้า
Quart
Sr. Member
****

คะแนน 9
ออฟไลน์

กระทู้: 611


« ตอบ #10 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 01:06:00 PM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
peedta - รักในหลวง
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1830



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 01:07:25 PM »

 Wink ขอบคุณที่เตือนกันครับ จะได้ระวัง โดยเฉพาะ ถ้ามีสาวๆๆๆ ถ้าเข้ามาใกล้ อันตราย  Cheesy
บันทึกการเข้า


     อยู่เพื่อตัว        อยู่แค่สิ้นลม  
     อยู่เพื่อสังคม    อยู่คู่ฟ้าดิน
      www.gingamegun.com
โจ ™
สมาชิกลำดับที่: 41
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 219
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8187


รวมเวลาที่อยู่ในระบบ: 555 วัน 5 ชั่วโมง 55 นาที


เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 01:10:43 PM »

ฝากด้วยครับ

ภัยลานจอดรถ "แก๊งพระตกรถ"   
   
     รูปแบบหนึ่งของการหากินโดยไม่สุจริตก็คือ "พระตกรถ"
คือ เมื่อคุณนำรถไปจอดในลานหรือจะเอารถออกจากที่จอด
จะมีคนแต่งตัวโทรมๆ
โดยมากจะเป็นผู้ชายเดินตรงเข้ามาหาคุณ
โดยคนเหล่านี้จะเลือกเฉพาะผู้หญิงที่มาคนเดียวมากที่สุด
โดยจะเข้ามากบอกกับคุณว่า มาจากต่างจังหวัด ไม่มีเงิน
หลงกับพวก อยากกลับบ้าน มีพระมาขาย ขอแค่ค่ารถเท่านั้น
ซึ่งจะเป็นร้อยบาท ขั้นต่ำคือร้อยบาท
โดยบอกว่าเป็นพระที่ได้มาจากปู่ย่า ราคาหลายบาท
วิธีการนี้จึงเรียกกันว่า พระตกรถ
     หากว่ามาบอกเราอย่างเดียวก็ไม่มีปัญหา
แต่คนพวกนี้จะมีท่าทีคุกคามอยู่ตลอด
และหากปลอดคนจริงอาจลงมือปล้นจี้ได้
โดยมากแล้วเพื่อตัดรำคาญหรือความกลัวก็ตาม
พวกนี้จะได้เงินไปเป็นรายๆ รายละ 20-30 บาท
ซึ่งวันหนึ่งทำได้ 10 รายก็เกิน 200 บาทแล้ว
แต่ถ้าใครหลงจ่ายเป็นร้อย พวกนี้ก็สบายไปในวันนั้น
     พระที่นำมาขายนั้น จะเป็นพระที่เขานับร้อยขาย
คือนับไปเป็นร้อยองค์แล้วตีราคา
ตกองค์ละไม่เกิน 5 บาท กำไรหลายเท่าตัว
เป็นพระที่ไม่แท้ทั้งสิ้น ได้มาก็ไม่มีระโยชน์
     ทางแก้ที่ง่ายที่สุดคือ
จอดรถใกล้ๆกับทางเข้าออกห้าง
หรือจอดในที่สว่างๆมีคนเดินผ่านเรื่อยๆ
แต่หากทำไม่ได้จริงๆ และเจอการหากินรูปแบบนี้แล้ว
ทางดีที่สุดคือไม่พูดไม่มองอะไรทั้งสิ้น เข้ารถ
ล๊อคประตู หาทางขับออกไปให้เร็วที่สุด
คนพวกนี้ไม่กล้าเสี่ยงกับการเจ็บตัวอยู่แล้ว
     วัตถุที่เอามาขายนั้นอาจจะเป็นของอย่างอื่น
ที่แน่นอนว่าไม่มีราคาค่างวด เท่าที่เคยทราบคือ
สมุนไพรป่า น้ำผึ้ง(ปลอม) หรือของหายากต่างๆ
แต่วิธีการเป็นอย่างเดียวกันหมด


ที่มาของบทความ : ทีมงานพักยก 
วันที่ 30 กันยายน 2548

ภัยบนถนนหลวง แก๊งค์รถชน"รีด"ค่าเสียหาย   
   

 

 
การขับรถบนถนนหลวงนั้นมีภัยที่แฝงอยู่นอกจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นโดยปกติแล้ว
ก็ยังมีอุบัติเหตุที่มีมิจฉาชีพจงใจให้เกิดขึ้น
เพื่อหาโอกาสรีดทรัพย์สิน ไปจนถึงปล้นทรัพย์ของเหยื่อได้



   โดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะใช้เส้นทางหลวงเป็นที่หากิน
ขับรถหาจังหวะที่เหยื่อขับรถมาคนเดียว โดยเฉพาะผู้หญิง
เมื่อเลือกเหยื่อได้แล้วคนร้ายจะทำทีขับรถเข้ามาใกล้ๆ
แล้วแกล้งทำให้เกิดอุบัติเหตุ
จนต้องจอดรถลงไปเพื่อดูความเสียหายและตกลงกัน
แต่เมื่อเหยื่อลงจากรถแล้วจะไม่ใช่การตกลงค่าเสียหายแต่จะเป็นการเข้ามารุมขู่เจ้าทุกข์
เพื่อรีดเอาเงิน
ซึ่งส่วนใหญ่จะสำเร็จเนื่องจากท่าทีที่คุกคามเหยื่ออยู่ตลอด
โดยคนกลุ่มนี้จะเรียกเอาเงินตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงหลายหมื่น
อาจมีการยึดทรัพย์สินอื่นเอาไปเป็นประกันให้เหยื่อเอาเงินไปไถ่ในภายหลังก็ได้


 
วิธีการแบบนี้ถือเป็นการกรรโชกทรัพย์มากกว่าเป็นการตกลงค่าเสียหาย
มีหลายแก๊งค์ที่หากินด้วยวิธีการนี้
ทำรายได้สูงจนน่าตกใจ
เนื่องจากเหยื่อกลัวและตัดรำคาญจึงจ่ายเงิน
เส้นทางอันตรายคือ ถนนมิตรภาพ
สระบุรี-โคราช,ถนนกรุงเทพ-หล่มสัก
ช่วงเลยตัวเมืองสระบุรีไปประมาณ 20 กิโลเมตร,
และเส้นทางสายเอเซียแถบที่ปลอดคนและตำรวจทางหลวง
   

 
ท่านที่มีความจำเป็นต้องเดินทางในเส้นทางดังกล่าวควรหาวิธีการป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพเหล่านี้
เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินและสัวสดิภาพของตัวท่านเอง


ที่มาของบทความ : ทีมงานพักยก 
วันที่ 5 ตุลาคม 2548   
ภัยล่าสุดของบัตรเครดิต !!!   
   

 





ข้อความต่อไปนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง
เป็นข้อความที่ชายผู้หนึ่งบอกเล่าถึงวิธีการหลอกลวงฉ้อฉลด้วยการแอบอ้างว่าโทรมาจาก
Visa หรือ Master Cards เพื่อให้คุณได้ระมัดระวังตนเอง
ไม่ตกเป็นเหยื่อวิธีการฉ้อฉลดังกล่าว  ทีมจิ๊กซอ
จึงนำเรื่องเล่าของชายผู้นี้มาบอกต่อเพื่อให้คุณผู้อ่านได้ระมัดระวังตัวกับกลโกงเหล่านี้

"เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ภรรยาผมได้รับโทรศัพท์จาก Visa
และผมก็ได้รับโทรศัพท์จาก MasterCard ในวันพฤหัสต่อมา
คนที่โทรมาพูดว่า

"ดิชั้น........(ชื่อ) โทรจากฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ
Visa ค่ะ คือเราตรวจพบว่ามีความผิดปกติในการสั่งซื้อ
จึงโทรมาตรวจสอบว่าบัตรVisa
ของคุณที่ออกโดยธนาคาร.......(ชื่อ)
มีการสั่งซื้ออุปกรณ์ระบบป้องกันภัย มูลค่า 20,000 บาท
จากบริษัทในอริโซน่า หรือเปล่าคะ"

เมื่อคุณบอกว่า "เปล่านี่คะ"

คนที่โทรมาก็จะบอกว่า
"ถ้ายังงั้นเราจะคืนเงินให้คุณกลับคืน
เรากำลังตรวจสอบบริษัทฉ้อฉลโดยมีวงเงินที่ฉ้อโกงลูกค้าครั้งละ
12,000 - 20,000 บาท
เราจะส่งหนังสือแจ้งการคืนเงินให้คุณทราบที่....(ที่อยู่ของคุณ)
ถูกต้องมั๊ยคะ"

เมื่อคุณบอกว่า "ถูกต้องค่ะ" คนที่โทรมาจะพูดต่อไปว่า
"ดิชั้นจะทำการสืบสวนต่อไป หากคุณมี ข้อสงสัย
ให้โทรตามหมายเลขที่อยู่หลังบัตรแล้วต่อฝ่ายรักษาความปลอดภัย
คุณต้องระบุหมายเลขอ้างอิง นี้(คนที่โทรมาจะบอกหมายเลข 6
หลัก) คุณต้องการให้ดิชั้นทวนหมายเลขมั๊ยคะ"

***ต่อไปนี้จะเป็นส่วนสำคัญของกลโกง***

คนที่โทรมาจะพูดว่า
"เพื่อให้ทราบว่าคุณเป็นเจ้าของที่แท้จริงของเครดิตการ์ดใบนี้
กรุณาพลิกด้านหลังของบัตร และให้ดูที่หมายเลข 7
ตัวสุดท้าย 4 ตัวแรกจะเป็นหมายเลขบัตร 3
ตัวต่อมาจะเป็นเลขสำหรับรักษาความปลอดภัยว่าคุณคือเจ้าของที่แท้จริง
และใช้ในการสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ท กรุณา บอกเลข
3 ตัวสุดท้ายด้วยค่ะ เมื่อคุณบอกเลข 3 ตัวสุดท้ายไป
คนที่โทรมาจะบอกว่าตัวเลขถูกต้อง
ดิฉันต้องการให้แน่ใจว่าบัตรยังอยู่กับคุณ มิได้สูญหาย
หรือถูกขโมย คุณมีข้อสงสัยอื่นใดอีกหรือเปล่าคะ"

เมื่อคุณบอกว่า"ไม่มีค่ะ" คนโทรมาจะขอบคุณ และบอกว่า
"หากมีในภายหลังก็ให้โทรสอบถามได้เสมอ"
แล้ววางสายความจริงคุณพูดไปน้อยมาก
คนโทรมาไม่ได้ขอหมายเลขบัตรเครดิตของคุณ
แต่ภรรยาผมเกิดเอะใจจึงโทรกลับไปหลังจากวางสาย 20 นาที
ปรากฏว่า Visa ตัวจริงบอกว่าภรรยาผมถูกหลอกแล้ว และเมื่อ
15 นาทีที่ผ่านมาได้มีรายการซื้อสินค้าจำนวน 20,000
บาทส่งมาเรียกเก็บ

ในที่สุด Visa ได้ยกเลิกบัตรและออกบัตรใหม่ให้
ผู้ฉ้อฉลต้องการเพียงเลข 3 ตัวสุดท้ายด้านหลังบัตร
อย่าให้ไปเป็นอันขาด ให้คุณบอกว่า
"แล้วจะโทรกลับไปแจ้งเองโดยตรง" จะเป็นการดีกว่า

วันพฤหัสต่อมา ผมได้รับโทรศัพท์จากคุณ....(ชื่อ)
อ้างว่าโทรจากMasterCard
ซึ่งมีข้อความเหมือนกับที่ภรรยาผมได้รับคำต่อคำเลย
ผมเลยไม่รอให้เขาพูดจบ ผมรีบวางสาย
แล้วไปแจ้งความที่สถานีตำรวจตามที่ Visa ให้คำแนะนำมา
ตำรวจบอกว่าได้รับแจ้งแบบเดียวกันนี้วันหนึ่งหลายราย
จึงขอร้องให้ช่วยกันบอกต่อด้วย เราต้องระมัดระวังตนเอง
ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ"


ที่มาของบทความ : 2Poto 
วันที่ 15 สิงหาคม 2548   
เตือนภัย .. เดินห้างระวัง   
   

 

สืบเนื่องมาจากข่าวที่มีห้างดังแถวพระราม 4 ข่มขู่
ยัดเยียด ตบทรัพย์

รปภ.และแคชเชียร์ แก๊งโฉดในห้างสรรพสินค้า
ผมซึ่งมีโอกาสทำงานในห้าง---สาขามีนบุรี
ขอพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ให้สังคมได้รับรู้
และเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เพราะผมได้เจอะเจออยู่ทุกวัน
จนผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว
ถ้าหากวันไหนไม่ได้เห็นการกระทำของห้างนี้จะแปลกมาก ๆ
ใหม่ ๆ ผมก็แปลกใจและสงสาร
แต่เดี๋ยวนี้เราต้องร่วมมือกับเขาด้วย
ไม่งั้นก็อยู่หรือทำงานที่นี่ไม่ได้

กลุ่มคนเหล่านี้จะทำกันเป็นทีม
คือมีคนที่เรียกตัวเองว่าสก็อต
ซึ่งคือพนักงานของทางห้างฯ แต่งกายทั่ว ๆ ไป
ไม่ได้แต่งเครื่องแบบ มีนาย--เป็นผู้จัดการทั่วไป
เป็นผู้ควบคุมดูแลและโต้โผการกระทำ
จะทำทีถือสินค้าชิ้นหรือสองชิ้นเดินไปเดินมา
แต่ตาจะคอยหาเหยื่อ จะมีทั้งผู้ชายและหญิง
ถ้าหากสังเกตดี ๆ
จะมีพวกเครื่องมือสื่อสารที่ตำรวจเขาใช้กัน
ต่อไปก็เป็นยาม พวกนี้จะมีทั้งชายและหญิง
ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ
ซึ่งจะมีบริษัทที่รับเข้ามาทำ จะต้องมีทหารยศสูง ๆ
พอสมควร พฤติกรรมจะเหมือนกัน
จะทำทีถือสินค้าเดินไปเดินมา แต่ตาจะคอยหาเหยื่อ
ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะมีมากเกือบทุกซอยหรือทุกหลืบของห้างด้วยซ้ำไป
และพนักงานแคชเชียร์ก็จะเป็นใจในการร่วมการกระทำครั้งนี้ด้วย


พฤติกรรมของคนเหล่านี้ คือ ถ้าเห็นผู้หญิงหน้าตาดี
จะทำทีเข้าไปขอค้นและเชิญตัวเข้าไปในห้องในสำนักงาน
เมื่อคุณถูกเชิญอย่างนั้น คุณต้องอับอาย
จนต้องเดินตามไปกับพวกเขา ถ้าหากไม่ตั้งสติให้ดี ๆ
คุณคือเหยื่อของพวกมัน เมื่อพาเข้าไปในห้อง จะมีพรรคพวก
3-4 คน หน้าตาเหี้ยมเกรียมคอยขู่กรรโชกคุณตลอดเวลาว่า
คุณจะต้องเสียเงินเท่าไหร่ หากไม่ยอม
คุณจะถูกทำมิดีมิร้ายในห้องนั้นเลย
หรือบางทีทั้งสองอย่าง
และมีการถ่ายรูปไว้แบล็กเมล์คุณภายหลังก็มี
แล้วจะพาคุณออกไปทางข้างหลังห้าง


หรือไม่ก็พาคุณไปส่งที่อื่น ๆ ก็มี
นี่คือกรณีสำหรับผู้หญิง ส่วนผู้ชายหากไม่เห็นว่าผิดจริง
ๆ จะไม่กล้ายุ่งส่วนเด็ก ๆ
ถ้ามาคนเดียวหรือแยกตัวกับพ่อแม่ผู้ปกครองก็จะถูกยัดข้อหา
และเรียกปรับจากผู้ปกครองเป็นมูลค่ากว่า 20
เท่าของสินค้า


ส่วนเรื่องของพนักงานที่นี่
ถ้าหากคุณไม่ทำตามกฏระเบียบที่ตั้งไว้แล้วละก็
คุณจะกลายเป็นคนตกงานทันที
หรือไม่ก็จะกลายเป็นผู้ต้องหาทันทีได้เหมือนกัน
โดยที่ผู้ชายหาไม่ทำตามกฏหรือไม่ทำตามที่นายสั่งไว้แล้ว
จะถูกตั้งข้อหายักยอกทรัพย์หรือขโมยของได้ง่าย ๆ
ทั้งที่พนักงานไม่ได้ทำ
แต่พวกเขาจะแจ้งความและเอาพนักงานคนนี้ติดคุกให้ได้
โดยที่ตำรวจเป็นใจด้วยทุกครั้ง
หากเราจะไปแจ้งความจะถูกซ้อม
ชนิดที่ว่าไม่ต้องพูดอะไรได้
ต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มอย่างเดียว
และส่วนผู้หญิงหากคนไหนถูกใจนาย
ก็จะถูกเรียกไปพบที่ห้องส่วนตัวและหลาย ๆ คน
ถูกทำมิดีมิร้าย ซึ่งบางคนก็อายไม่กล้าบอกใคร
บางคนเพิ่งเข้ามาจากต่างจังหวัด

ทำงานเป็นครั้งแรกก็ไม่รู้จะทำไงได้
ได้แต่ยอมให้มันทำมิดีมิร้ายตามใจชอบ
บางคนจะยัดข้อหาให้เหมือนผู้ชาย คือ ยักยอกทรัพย์
หรือขโมยของ ซึ่งพนักงานไม่กล้าปริปากพูด
หากพูดมากจะโดนทำให้ตกงาน ใครทนไม่ได้ก็ต้องลาออก
บางคนยังเรียนอยู่ด้วย อนาคตเขาต้องพังทันที
เพราะพวกมันเสมอ บางทีสงสารเพื่อนพนักงานด้วยกัน
แต่พวกเราต้องกิน ต้องใช้

พวกเราทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองตาปริบ ๆ คือต้องทน
และทำตามที่เขาสั่งทุกอย่าง




วันที่ 21 กรกฎาคม 2548

เตือนภัยในที่จอดรถ กลยุทธ์ใหม่
ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ชิงรถ   
   

 

   
ทุกวันนี้มิจฉาชีพได้พัฒนาวิธีการกินอย่างผิดกฎหมายออกไปเรื่อยๆ
บางครั้งบางวิธีเป็นสิ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้
แต่ก็เป็นไปแล้วและมีผู้ประสบมากับตัวจนสูญรถยนต์ไปซึ่งๆหน้า

   โดยคนร้ายจะเลือกลานจอดรถที่ไม่มียามเฝ้า
ค่อนข้างปลอดคนเป็นทำเลในการลงมือ
โดยมีอุปกรณ์คือกระดาษหนังสือพิมพ์กับเทปกาวเท่านั้น
คนร้ายจะเลือกดูรถคันที่คนขับเป็นผู้หญิงมาตัวคนเดียว
และจอดแบบเอาหน้ารถเข้า ซึ่งเมื่อเจ้าของรถไปจากรถแล้ว
วายร้ายก็จะนำกระดาษหนังสือพิมพ์ไปแปะที่กระจกหลังจนเต็ม
แล้วก็รอจังหวะ

    เมื่อเจ้าของรถกลับมาแล้ว
เข้าไปในรถโดยที่ไม่ได้ดูก่อนกว่ารถตัวเองมีอะไรผิดปกติหรือไม่
จะเข้าทางโจรพอดี
เมื่อต้องการถอยรถออกจากช่องย่อมต้องมีการมองกระจกหลัง
แต่พอเหลือบมองปรากฏว่ามีกระดาษอะไรไม่ทราบมาบังจนมองไม่เห็น
ผู้ที่ไม่เฉลียวใจจะเปิดประตูออกไปเพื่อเอากระดาษออกโดยที่ยังติดเครื่องรถไว้
และไม่ได้ล๊อคประตู
คนร้ายที่ซุ่มรอจังหวะนี้จะฉวยโอกาสเปิดประตูเข้าไปนั่งแทนที่แล้วขับรถออกไปต่อหน้าเจ้าของทันที

    ส่วนใหญ่ที่โดนกันเป็นสุภาพสตรีที่ใช้รถและไปคนเดียว
ต้องสูญทั้งรถและกระเป๋าถือ โทรศัพท์
เนื่องจากผู้หญิงส่วนใหญ่จะใส่ของพวกนี้ไว้ใน
กระเป๋าถือที่แน่นอนว่าต้องวางอยู่ในรถขณะที่โดนชิง

   คำแนะนำสำหรับกรณีนี้คือ
หากว่ามีความผิดปกติใดๆกับรถขณะที่ขยับออกจากที่จอด
ไม่จำเป็นต้องเป็นกระดาษแปะกระจกหลังเสมอไป
อาจเป็นในรูปมีคนมาชี้โบ๊ชี้เฐ๊
เหมือนว่ารถเรามีอะไรผิดปกติก็ตาม หากท่านไปคนเดียวแล้ว
ควรขับไปก่อนสักระยะ ให้ถึงที่ที่มีคนมากหน่อย หรือมี
รปภ.อยู่ แล้วค่อยจอดรถลงมาดู
แต่หากเป็นไปได้ให้เลี่ยงการจอดรถในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการหาย
เช่น ที่ที่ไม่มี รปภ. เฝ้า ไม่มีการแลกบัตร
หรือจอดในที่ที่ไกลสายตาผู้คนก็ตาม


วันที่ 26 กันยายน 2548   

เตือน!
นักท่องเน็ตระวังโดนชาร์จค่าโทรต่างประเทศไม่รู้ตัว   
   

 







       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท
ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ ทีโอที
ผู้ให้บริการโทรคมนาคมครบวงจร
ได้ประกาศแจ้งเตือนผู้เล่นอินเทอร์เน็ตทั่วไป
ให้ระวังการเข้าชมเว็บไซต์รูปภาพ หรือ คลิปวีดีโอ
ลามกอนาจารและเว็บไซต์การพนัน ที่ระบุว่า
ผู้เข้าชมไม่ต้องสมัครสมาชิก ไม่ต้องลงทะเบียน หรือ
ไม่ต้องชำระเงินผ่านบัตรเครดิต โดยเว็บไซต์เหล่านี้
อาจจะเรียกเก็บค่าเข้าชมเว็บไซต์ในลักษณะค่าโทรศัพท์ทางไกล
ระหว่างประเทศในช่วงสิ้นเดือนแทน

         ประกาศระบุต่อว่า
ปัจจุบันมีลูกค้าร้องเรียนมายังทีโอทีเป็นจำนวนมาก ว่า
มีการเรียกเก็บค่าโทรศัพท์ระหว่างประเทศผ่านรหัส 007 และ
008 ของทีโอที ในบิลเรียกเก็บเงิน โดยลูกค้าอ้างว่า
ไม่มีการโทรออก เพราะไม่มีญาติพี่น้องในต่างประเทศ
และขอปฏิเสธการชำระเงิน
แต่เมื่อทีโอทีตรวจสอบแล้วกลับพบว่า ลูกค้า หรือ
คนในบ้านมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตในช่วงเวลาดังกล่าว
และส่วนใหญ่เข้าชมในเว็บไซด์ลามกอนาจารและเว็บไซต์การพนัน

     
ประกาศระบุถึงรายละเอียดวิธีการหลอกลวงให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
ว่า
จะมีข้อความเชิญชวนให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเข้าชมเว็บไซต์ในลักษณะต่างๆ
เช่น
ไม่ต้องสมัครสมาชิกและให้ดาวน์โหลดโปรแกรมควบคุมโมเด็มไปใช้งาน
เป็นต้น โดยโปรแกรมดังกล่าว
จะถูกตั้งระบบหมุนโทรศัพท์เรียกออกไปยังเลขหมาย
ในต่างประเทศที่ได้กำหนดไว้แล้วอัตโนมัติ
เพราะเจ้าของเว็บไซด์ได้ตกลงส่วนแบ่ง
รายได้กับผู้ให้บริการในต่างประเทศผ่านช่องทางของทีโอทีแล้ว

         ประกาศระบุต่อว่า
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตยังต้องระวังการเรียกโปรแกรมต่างๆ
ในเว็บไซต์ลามกอนาจารและการพนันขึ้นมาใช้งาน
เพราะโปรแกรมที่เรียกมานั้น
อาจจะตัดสายโมเด็มของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี)
ภายในประเทศแล้วต่อโมเด็มไปยังไอเอสพีของต่างประเทศ
นอกจากนี้
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบางรายเมื่อคลิกเข้าไปชมเว็บไซต์ลามกอนาจารและการพนันแล้ว
อาจจะถูกเว็บไซต์เหล่านี้
ฝังตัวอยู่ในฮาร์ดดิสก์และต้องเสียเงินอีกโดยไม่รู้ตัวอยู่เรื่อยๆ


       
ประกาศระบุถึงวิธีการป้องกันการถูกเรียกเก็บเงินค่าโทรศัพท์ระหว่างประเทศผ่านรหัส
007 และ 008 ของทีโอที จากการเข้าชมเว็บไซต์โดยไม่รู้ตัว
ว่า ควรระงับการใช้โทรศัพท์ระหว่างประเทศ
สำหรับเลขหมายที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตและอ่านคำเตือน
หรือ
ข้อความที่ปรากฏให้แน่ใจก่อนดาวน์โหลดโปรแกรมเพื่อใช้ในการดูเว็บไซด์ลามกอนาจาร
นอกจากนี้ หากไม่มีกิจธุระใดๆ ในการติดต่อกับต่างประเทศ
ก็ควรแจ้งระงับกับศูนย์บริการลูกค้าของทีโอที




ที่มาของบทความ : ไทยรัฐ 
วันที่ 7 กันยายน 2548
   
   

  ชอบลองจงระวัง   
   

 

         
       ตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
จะมีเครื่องสำอางทดสอบจัดไว้ให้ลูกค้าลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อ
เช่น มาสคาร่า อายแชโดว์ ลิปสติก บลัชออน ฯลฯ
และคนขายก็มักรบเร้าให้สาว ๆ
ลองทาดูก่อนไม่ซื้อไม่เป็นไร

น.พ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์ผิวหนังชื่อดังเตือนว่า
ระวังจะติดเริม
และเครื่องสำอางดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคผิวหนังชนิดอื่นอีกหลายชนิด
โดยเฉพาะโรคเริม ซึ่งพบมากในหมู่ผู้หญิง 
ที่ชอบทดลองลิปสติกตามห้างฯ
เนื่องจากมีคนวนเวียนทดลองใช้เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน
นอกจากนี้ยังอาจติดเชื้อทางตาเนื่องจากใช้มาสคาร่าร่วมกัน


ของฟรีและมีของแถมแบบนี้ น่ากลัวมากว่าน่าสนระวังไว้


ที่มาของบทความ : ข้อมูลจากนิตยสาร ผู้หญิง 
วันที่ 29 มิถุนายน 2548

บันทึกการเข้า

บางโพ 5
โจ ™
สมาชิกลำดับที่: 41
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 219
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8187


รวมเวลาที่อยู่ในระบบ: 555 วัน 5 ชั่วโมง 55 นาที


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 01:15:30 PM »

มอมยาสาว...ด้วยโดมิคุ่ม   
   

 

เค้าว่ากันว่าผู้หญิงน่ะรักแบบโรแมนติก(Romantic)
แต่ผู้ชายกลับมีแบบฉบับเชิงอีโรติก (Erotic)
อันนี้จริงไม่จริงอย่างไรนายแฉไม่ฟันธง
พิจารณากันเอาเองแล้วกันท่านแฟนานุแฟนทั้งหลาย
แต่ไอ้ที่จะมาเตือนกันวันนี้
มันสืบเนื่องจากอารมณ์อีโรติกของคุณผู้ชายทั้งหลายนั่นแล

สมัยนี้อาชญากรรมทางเพศเกิดขึ้นแทบทุกวัน
นี่ยังไม่นับจำนวนสาวๆ
ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศแล้วไม่กล้าแจ้งความเพราะความอาย
กลัวเสียชื่อเสียง
เรายังเห็นกันบนข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ต่างๆ
ทุกวี่ทุกวัน ส่วนใหญ่จะเป็นการข่มขืนกระทำชำเรา
และอันว่าการข่มขืนกระทำชำเราก็มีหลายรูปแบบ เช่น
ข่มขืนทั้ง ๆ ที่เหยื่อยังมีสติ
แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่ใช้วิธีการที่นายแฉจะมาแฉวันนี้
นั่นคือการ “มอมยา”

อันนี้ยังไม่พูดถึงบรรดายาใต้ดินจำพวกยาปลุกเซ็กซ์แบบที่แอบขายกันในตลาดมืดนะ
เอาแค่ยาบนดินที่อย.รับรอง
ซึ่งใช้ในวงการแพทย์แบบถูกกฎหมายก็มีไม่หวาดไม่ไหว
ซึ่งหากพวกมิจฉาชีพหื่นกามทั้งหลายนำไปใช้ในทางไม่ดีล่ะส่งผลเสียหนักทีเดียว
แม้ว่ายาพวกนี้จะขายตามใบสั่งของแพทย์เท่านั้น
รวมทั้งมีกฎหมายห้ามร้านขายยาจำหน่ายยาประเภทนี้
แต่ก็ยังมีการลักลอบนำมาขายในราคาสูงเพื่อจุดประสงค์
ในการก่ออาชญากรรมโดยเฉพาะ
แหล่งข่าวที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศของเรากล่าวว่า
ถูกหลอกให้กินยาประเภทนี้
ทั้งในรูปแบบของการผสมกับแอลกอฮอล์และการหลอกให้กินโดยตรง
โดยอ้างว่าเป็นยาแก้หวัด ยาแก้เมา เป็นต้น
และส่วนใหญ่ที่โดน โดนจากการกระทำของคนใกล้ชิด เช่นแฟน
เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมสถาบันการศึกษา เพื่อนแฟน
เจ้านาย ตลอดจนเพื่อนข้างห้อง (กรณีอยู่อพาร์ทเม้นต์
คอนโด หอพัก) เป็นต้น

“กี้” (นามสมมติ) สาวออฟฟิศวัย 25
กล่าวว่าเธอถูกแฟนของเธอเองข่มขืน
หลังจากที่ชายหนุ่มคนนั้นเฝ้าพากเพียรเวียนขอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอมาตลอด
2 ปีเต็มๆ ที่คบกัน แต่กี้มาจากครอบครัวหัวโบราณ
เธอปฏิเสธทุกครั้งที่แฟนขอนอนด้วย
ซึ่งหลายต่อหลายครั้งนำมาซึ่งการทะเลาะเบาะแว้งของทั้งคู่
แต่เธอก็ยอมให้แฟนหนุ่มสัมผัสภายนอกได้บ้าง เช่นการกอด
จูบ แต่ไม่มีการกระทำอื่น
จนสุดท้ายคืนหนึ่งหลังจากที่เธอและแฟนกลับมาจากงานเลี้ยงแต่งงานของเพื่อน
ซึ่งต่างคนก็ต่างดื่มมาจากงานบ้างพอหน้าตึงๆ
แฟนของเธอชวนเธอมาดื่มต่อที่อพาร์ทเมนต์ของเขา
โดยให้เหตุผลว่า พรุ่งนี้เป็นวันหยุดขอดื่มซักวัน
ซึ่งเธอก็ไม่คิดว่ามันจะเสียหายอะไร
แฟนเธอซื้อเบียร์ขึ้นไปอีก 4 ขวด
แล้วก็ชวนเธอดื่มด้วยกัน
แต่ก่อนที่จะดื่มเขาได้ส่งยาเม็ดสีฟ้าเล็กๆ
ให้เธอหนึ่งเม็ด บอกว่าเป็นยากันแฮงค์
ตอนเช้าจะได้ไม่ปวดหัว
ด้วยความที่เธอไว้ใจเขามากและไม่ได้คิดอะไร
ทำให้กี้ตัดสินใจกินยาเม็ดนั้นเข้าไป ไม่เกิน 5
นาทีหลังจากนั้น
เธอก็ไม่รู้สึกตัวอะไรอีกจนกระทั่งสายของอีกวัน
โดยที่มีแฟนหนุ่มเปลือยกายนอนกอดเธออยู่บนเตียง
ซึ่งตัวเธอก็ไม่ได้ใส่อะไรเช่นกัน

...หลายคนคงอยากรู้ว่าหลังจากที่แฟนหนุ่มของกี้มอมเหล้ากับยา
จนหญิงสาวหลับไม่รู้เรื่อง
และตื่นขึ้นมาพร้อมกับรับรู้ว่าตัวเองได้เสียท่าแฟนหนุ่มตัวแสบไปแล้ว
มันเป็นยังไงต่อไป กี้ก็คงเหมือนผู้หญิงทั่วๆ
ไปที่คิดว่าเสียแล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้
นอกจากปล่อยเลยตามเลยโดยหวังว่าแฟนของเธอจะรับผิดชอบ
แต่หลังจากที่เธอ “เสียท่า”
ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนไปแล้ว
แต่กลับกลายเป็นว่าไม่นานนัก เขาก็ทิ้งเธอไป
โดยไม่สนใจที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นใดๆ ทั้งสิ้น

นายแฉเชื่อว่าคงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงหลายๆ
คน แต่คงจะไม่มีใครกล้าบอกเล่าหรือเอาเรื่อง
สังคมไทยยังเป็นสังคมของผู้ชายแม้ว่าจะเปิดกว้างเพื่อสิทธิของสตรีมากขึ้นก็ตาม
แต่ถ้ากี้ไปแจ้งความ คนที่จะโดนครหา ติฉินนินทา
ก็คือตัวเธอเอง

คำถามต่อมา...เครื่องทุ่นแรงของผู้ชายที่จะปฎิบัติการโฉดแบบนี้มีรูปแบบอย่างไรบ้าง
นายแฉจึงนำมาให้ดูหน้าดูตากัน
ถ้าไปเจอล่ะก็อย่าไปกินเชียว อันตรายจะเกิดกับตัวเอง

โดมิคุม (Dormicum)
โดมิคุม (Dormicum) เป็นชื่อทางการค้า มีชื่อทางเคมีว่า
มิดาโซแลม (Midazolam) เป็นยานอนหลับในกลุ่ม
Benzodiazepine
ถูกดูดซึมได้ดีที่สุดจากทางเดินอาหารเมื่อเทียบกับยานอนหลับตัวอื่นๆ
โดยให้รับประทานก่อนนอน
มีประสิทธิผลในการรักษาอาการนอนไม่หลับ
แต่ควรใช้ยาเพียงระยะเวลาสั้นๆ
เนื่องจากการใช้ยาติดต่อกันนานๆ
จะทำให้เกิดภาวะพึ่งยาได้
เหมาะที่จะใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญหาหลับยาก
แต่เมื่อหลับแล้วจะหลับได้ปกติจนถึงเช้า
ที่น่ากลัวคือโดมิคุมออกฤทธิ์เร็ว ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5
นาที ผู้ที่กินเข้าไปจะหลับลึก ปลุกหรือเขย่าไม่ตื่น และ
คุณสมบัติเด่นคือ ฤทธิ์สงบประสาท ทำให้นอนหลับ
และฤทธิ์ทำให้สูญเสียความทรงจำชั่วขณะ (Anterograde
amnesia)
ทำให้ไม่สามารถจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างที่หลับได้
เรียกว่าหากโดนข่มขืนแล้วหลังจากนั้นผู้ชายได้จัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัว
จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
สาวเจ้าตื่นมาอีกทีจะไม่รู้เลยว่าตอนที่สลบอยู่น่ะ
โดนข่มขืนไปเรียบร้อยแล้ว โดมิคุมละลายได้เร็วในของเหลว
พวกจิ้งจอกหื่นมักจะผสมเหล้าแล้วหลอกให้ดื่ม

การควบคุมตามกฎหมาย
โดมิคุ่ม (Dormicum)
จัดเป็นวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2
ควบคุมการนำเข้าและจำหน่ายโดยกองควบคุมวัตถุเสพติด
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ในฐานะเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข
เพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันชั้นหนึ่งในสาขาทันตกรรม
และผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ชั้นหนึ่ง
ใช้ประโยชน์ในการรักษาพยาบาลสำหรับคนไข้หรือสัตว์ที่ตนบำบัดอยู่
โดยห้ามขายในสถานที่ขายยาแผนปัจจุบันโดยเด็ดขาด

การป้องกันตัวเองจากโดมิคุม
อันนี้ประการแรก
สำหรับหญิงสาวที่หลีกเลี่ยงการไปดื่มสังสรรค์ไม่ได้
พยายามผสมเหล้าด้วยตนเอง
เป็นไปได้อย่ารับแก้วต่อจากผู้อื่น
และหากลุกไปห้องน้ำหรือทำธุระส่วนตัวอื่นๆ
กลับมาที่โต๊ะควรจะเปลี่ยนแก้ว อ้างไปว่าเหล้าจืดแล้ว
ขอแก้วใหม่
เพราะไม่มีใครรู้ว่าแก้วขอคุณอาจจะมีจิ้งจอกหื่นนำยาหย่อนลงไปก็ได้
แม้กระทั่งการรับโทรศัพท์มือถือ
จงสังเกตเพื่อนร่วมดื่มของคุณนิดหนึ่ง
มีเหยื่อบางรายถูกมอมยาโดยการใช้โอกาสช่วงรับโทรศัพท์แล้ว
เพียงแค่ละสายตาจากวงแอลกอฮอล์ไม่ถึง 5 นาที
ยาก็ลงไปละลายอยู่ในแก้วเรียบร้อยแล้ว
สำหรับกรณีสาวน้อยคนซื่อที่ไม่ค่อยได้ไปดริงค์กลางคืน
ถ้าคนแปลกหน้า หรือแม้กระทั่งคนสนิทหรือคนรู้จักก็ตามที
ให้กินยาอะไรที่ไม่รู้จักแล้วอ้างว่าเป็นยาบำรุง
ยาแก้หวัด อยากแก้แพ้ อย่าไปรับ อย่าไปกิน
อ้างไปก็ได้ว่าหนูแพ้ยา กินสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้
ทำนองนี้ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ
เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง

บทลงโทษเกี่ยวกับวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท
2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
พ.ศ.2518 ตรงนี้สำหรับผู้ที่คิดจะมอมผู้หญิง
อ่านบทลงโทษแล้วคิดซะใหม่ บ้านเมืองมันมีขื่อมีแป
ยิ่งโทษชนิดนี้ปรับหนักแถมจำคุกกันชนิดลืมโลกเชียว
ผลิต,ขาย,นำเข้า,ส่งออก ระวางโทษจำคุก 5 ปี- 20 ปี
ปรับตั้งแต่ 100,000 บาท-400,000 บาท มาตรา 89

ครอบครอง ระวางโทษจำคุก 5 ปี- 20 ปี ปรับตั้งแต่ 100,000
บาท– 400,000 บาท มาตรา 106 ทวิ

เสพ ระวางโทษจำคุก 1 ปี- 5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 บาท-
100,000 บาท มาตรา 106 ตรี

จูงใจ ชักนำ ยุยงส่งเสริม
ใช้อุบายหลอกลวงหรือขู่เข็ญให้ผู้อื่นเสพ ระวางโทษจำคุก
2 ปี- 10 ปี ปรับตั้งแต่ 40,000 บาท- 200,000 บาท มาตรา
106 จัตวา วรรค 1

จูงใจ ชักนำ ยุยงส่งเสริม
ใช้อุบายหลอกลวงหรือขู่เข็ญให้ผู้อื่นเสพ
โดยเป็นการกระทำต่อหญิง
หรือต่อบุคคลซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ ระวางโทษจำคุก 3
ปี- ตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่ 60,000 บาท- 500,000 บาท
มาตรา 106 จัตวา วรรค 2


วันที่ 18 กรกฎาคม 2548 
ภัยทางอินเตอร์เนต คำสารภาพจากชายคนหนึ่ง   
บันทึกการเข้า

บางโพ 5
โจ ™
สมาชิกลำดับที่: 41
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 219
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8187


รวมเวลาที่อยู่ในระบบ: 555 วัน 5 ชั่วโมง 55 นาที


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2005, 01:17:36 PM »

วันที่ 18 กรกฎาคม 2548 
ภัยทางอินเตอร์เนต คำสารภาพจากชายคนหนึ่ง   
   

 


ตอนนี้ผมเพิ่งได้ลูกสาวมันทำให้ผมรู้สึกสำนึกบาปที่เคยทำกับน้องผู้หญิงคนหนึ่ง
ผมหวังว่าเรื่องที่ผมจะเล่านี้จะเป็นประโยชน์กับน้องๆ
ผู้หญิงนักแชตนะครับ
อย่างน้อยก็จะได้รู้จักธาตุแท้ของผู้ชายบางประเภทก่อนแต่งงาน


ผมกับแฟน (คนที่ผมแต่งงานด้วย) คบกันมานาน
เธอเป็นกุลสตรี ผมให้เกียรติเธอ
ไม่คิดจะล่วงเกินอะไรเธอจนถึงวันแต่งเพื่อรักษาความรู้สึกดีๆ
ที่มีให้กัน แต่ธรรมชาติของผู้ชายมันมีความต้องการ
ผมก็เลยหาเอาในเน็ตนี่แหละ
ผมรู้จักน้องนักศึกษาคนนึงในเน็ต คุยกันถูกคอมาก
และผมก็รู้สึกได้ว่าเธอรู้สึกอะไรๆ กับผมเหมือนกัน
จนในที่สุดเราก็นัดพบกัน
หลังจากพบกันก็สนิทกันมากขึ้นเพราะเธอก็รู้ว่าผมไม่ใช่พวกต้มตุ๋น
เพราะฐานะ การศึกษา หน้าที่การงานผมจัดว่าดี
ผมไม่ได้หลอกลวงเธอเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย
ผมบอกเธอด้วยว่าผมมีแฟนแล้วแต่เค้าก็ดูเหมือนไม่แคร์และมั่นใจในตัวเองมาก
ส่วนผมก็โอเคเพราะถึงเธอจะไม่ถึงกับใสซื่อบริสุทธ์แต่ก็ดูไม่ใช่พวกเด็กเที่ยวมั่วเซ็กซ์หรือขายตัวอะไรแบบนั้นเจอกัน
2-3 ครั้งผมก็บรรลุจุดประสงค์โดยความยินยอมของเธอ
มันเร็วกว่าที่คิดด้วยซ้ำ

จากนั้นเราก็มีอะไรกันมาเรื่อย
ผมยอมรับว่านอกจากเพื่อเรื่องอย่างว่าแล้วผมไม่ได้มีความรู้สึกรักชอบแบบแฟนกับน้องเค้าเลย
ทุกครั้งที่คุยกันหรือนัดกันก็เพื่อเรื่องอย่างว่าตลอด
แต่น้องเค้าคงเข้าใจผิดและมั่นใจไปเองว่าซักวันเราจะเป็นแฟนกันได้
เพราะเราเข้ากันได้ดีมากในเรื่องอย่างว่าและอีกอย่างผมมักจะแสดงความห่วงใยน้องเค้าตลอดเรื่องการเรียน
การคบเพื่อน การเที่ยวกลางคืน ซึ่งจริงๆ
แล้วผมถามถึงเพราะผมห่วงเรื่องความสะอาดของเค้า
กลัวเค้าจะไปมั่วกับคนอื่นแล้วเอาอะไรมาติดผม
ก็มีบ้างที่ผมปะเหลาะเค้าไปตามเรื่องเวลาเค้าน้อยใจเพราะกลัวเค้างอนแล้วไม่ยอมมีอะไรกับผม

แต่ผมก็ไม่เคยหลอกลวงเค้าหรือสัญญากับเค้านะว่ารักเค้าจะแต่งงานกับเค้า
ผมเคยบอกเค้าด้วยซ้ำว่าถ้าเจอคนที่ดีก็บอกผมได้
เพราะผมเองก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่ (แต่จริงๆ
แล้วเวลามีคนมาจีบเค้าแล้วเค้ามาปรึกษา
ผมก็จะพยายามถ่วงเวลาเค้าไว้ว่าให้ดูไปก่อน
ตินู่นตินี่ไปเรื่อย
เพราะผมกลัวว่าถ้าเค้ามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วผมจะอด)

จนในที่สุดผมกับแฟนก็มีแผนจะแต่งงานกันแน่นอน
ผมก็เริ่มตีตัวออกห่างจากน้องเค้า
ช่วงหลังน้องเค้าเคยถามนะว่าถ้าเค้าท้องจะทำยังไง
แต่ผมก็บอกเค้าไปว่าก็คงต้องเอาออกเพราะเค้าน่าจะรู้นะว่าผมไม่พร้อมกับเค้า
และผมก็เตือนเค้าให้ระวังเรื่องนี้มาตลอด
ผมไม่เชื่อว่าเค้าจะปล่อยให้เกิดขึ้น
(แต่ต่อให้จริงผมก็คงยืนยันแบบนี้
เพราะผมถือว่ามันเป็นข้อตกลงที่เราเข้าใจกันตั้งแต่แรก)
ผมก็ยังคงตีตัวออกห่างจนเลิกติดต่อไปในที่สุด
ผมอยากจะบอกน้องๆ นักแชตว่า
ถึงแม้ว่าน้องจะได้เจอกับหนุ่มที่คุยกันทางเน็ตแล้วรู้ว่าเค้าไม่ใช่พวกต้มตุ๋นหรือโรคจิต
มันก็ไม่ได้หมายความว่าน้องจะรอดพ้นจากอันตรายไปได้
ยิ่งเจอคนที่ดีพร้อม ก็อย่าคิดว่าถูกหวยหรือเป็นบุพเพ
น้องอาจกลายเป็นอีหนูปลอดเชื้อที่เค้าเอาไว้แก้ขัดชั่วคราวโดยไม่รู้ตัวก็ได้


ที่มาของบทความ : ข้อมูลและภาพประกอบจากอินเตอร์เนต 
วันที่ 14 มิถุนายน 2548   
บันทึกการเข้า

บางโพ 5
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.098 วินาที กับ 22 คำสั่ง