เรื่องเหลือเชื่อในญี่ปุ่นที่เรายังไม่รู้

[aniki]

ต้องขอขอบคุณคุณต้อกและท่านผู้การสุพินท์มากครับที่มาเพิ่มเติม...ต้องยอมรับว่าหน่วยงานของราชการเป็นองค์กรที่เข้มแข็ง  ประชาชนให้ความไว้ศรัทธามาก(เขียนแบบนี้ ไหมหว่า)  นักการเมืองเข้าไปล้วงลูกไม่ได้  และไม่เคยมีข่าวด้วยซ้ำ
มีเรื่องที่เหลือเชื่อสำหรับคนไทยอย่างหนึง  เด็กๆที่นี่มีน้อยคนมากที่จะใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจ-ทหาร  ลูกชายผมอยู่ชั้นป.2  ในทุกปีจะทำหนังสือทำเนียบชั้น  โดยจะให้นักเรียนเขียนลงไว้ว่าอนาคตอยากเป็นอะไร....อยากเป็นช่างไม้  ช่างก่อสร้างยังเยอะกว่าครับ
...เด็กๆที่นี่จะถูกฝึกให้รับผิดชอบ  ให้เคารพกติกาสังคม  ให้รู้จักขอโทษและขอบคุณ 
...ในโรงเรียนห้ามเอาของเล่นไปด้วยเด็ดขาด  ในโรงเรียนไม่มีของขาย  จนป่านนี้ลูกชายผมยังไม่เคยไปซื้อของเอง  ถึงให้ไปซื้อก้ไม่มีร้านไหนขายให้ครับ...แกจึงไม่รู้ค่าของเงินคือใช้เงินไม่เป็น  อยากได้อะไรก็จะมาขอ...โดยกำหนดไว้แล้วว่า1เดือนจะซื้อได้กี่ชิ้น.
เด็กไปโรงเรียนจะเดินกันไปเป็นกลุ่มๆ1-2โลนี่เดินได้สบายมาก..มีด็กม.ปลายที่ใกล้บ้านต้องปั่นจักรยานไปโรงเรียน เที่ยวละ8กม.  สุดยอดครับ.

[Don Quixote]

ขอบคุณครับพี่ อนิกิ ขอคุยต่อละกันครับ ผมก็ไม่ได้มีประสบการณ์แบบไปอยู่ที่โน่นระยะยาว แต่เคยทำงานกับเขาบ้าง

พวกตำรวจ ผมถามบางคนว่าอยากเป็น ตร. แต่เด็กๆ หรือเปล่า ไม่ได้ถามพวกฟาสแทรกนะครับ คำตอบที่ได้คือ

1. ตอนนั้นทำงานอยู่โรงงานที่อยุธยานี่แหละ แม่อยากให้เป็นข้าราชการเลยให้สมัคร ลาออกจากบริษัทกลับไปเป็น ตร. (โอ้ว ชวนป๋วยจริงหนอ)

2. ตอนนั้นช่วง 80 เศรษฐกิจ ธุรกิจบูม คนสมัคร ตร. น้อย เลยไปลองดู

3. โดนเลย์ออฟจากบริษัท เป็นตำรวจเหนื่อย แถม (ร่างกาย) สกปรก

ผมถามอีกว่าเด็กทั่วไปอยากเป็นตำรวจหรือทหารมากกว่ากัน? เขาบอกว่าไม่ค่อยอยากเป็นทั้งสองอย่าง แต่คนหนึ่งเขาว่าทหารระดับเดียวกันเงินเดือนมากกว่าตำรวจครับ แกเน้นเสียงว่า เพราะทหารต้องโพรเทคประเทศ ! (จนตัวตาย..)

อย่างไรก็ตามตำรวจเขาตั้งใจทำงานกันดีทั้งนั้น และถ้าทำผิดกฎหมายแม้ไม่ร้ายแรงเช่น กฎจราจร ตำรวจจะโดนหนักกว่าประชาชน

เรื่องความปลอดภัน อิ อิ เท่าที่เคยเห็นที่อังกฤษคนญี่ปุ่นจะโดนล้วงกระเป๋า วิ่งราว ฯลฯ มากกว่าชาติอื่น เพราะในบ้านปลอดภัย ไม่มีนิสัยคอยระวังตัว

เรื่องในโรงเรียนญี่ปุ่น

รุ่นน้องคนหนึ่งไปเรียนญี่ปุ่นตั้งแต่มัธยม

ที่โรงเรียนนั้นนักเรียนจะหิ้วกล่องอาหารกลางวันมากินเอง ของแต่ละคนก็ทำมาดีๆ ดูสวยงามโดยฝีมือแม่บ้านญี่ปุ่น แต่ตานี่ (ให้ชื่อสมมติว่าแจ๊ก) เป็นเด็กผู้ชายอยู่คนเดียงก็ทำข้าวกล่องมาอย่างเซ็ง หน้าตาน่าเกลียด (วัยรุ่นชายทำกับข้าวให้สุกได้ก็เก่งแล้ว ฮ่า ฮ่า)

วันหนึ่งเพื่อนเด็กญี่ปุ่นมาเห็น "เอ้อ นี่ข้าวกล่องของนายเหรอ"

โนบิตะ เอ๊ย ตาแจ๊ก "เออสิ" (สีหน้าไม่รู้ไม่ชี้)

วันต่อมาตอนเที่ยงเพื่อนคนนั้นมาหาตาแจ๊ก "ี่นี่แน่ แม่เราทำข้าวกล่องมาฝากนาย"

ตาแจ๊ก "โอ้ ขอบคุณหลายๆ..."

แล้วแม่เด็กญี่ปุ่นคนนี้ก็เอาเรื่องไปประชุมสมาคมผู้ปกครอง...

"อาโหน่ๆ ลูกชายของดิฉันมีเพื่อนในห้องเป็นเด็กคนไทย เขาอยู่คนเดียวต้องทำกับข้าวเองทุกวัน เด็กผู้ชายทำอาหารไม่เก่งท่าทางลำบาก เรามาคิดช่วยเขากันเถอะ"

ที่ประชุมสมาคมผู้ปกครองมีมติให้แม่บ้านแต่ละคนผลัดเวรทำข้าวกล่องมาให้ไอ้ เอ๊ย ตาแจ๊ก ทุกวัน

คุณแจ๊ก ก็สบายอิ่มเอมเปรมปรีย์สิครับ ได้ข้าวกล่องฟรีทุกวัน แถมป๊อปปูล่าเพื่อนฝูงในโรงเรียนรู้จักหมด เพราะผลัดเวรกันหิ้วข้างกล่องมาส่งให้ และแม่บ้านแต่ละคนคงตั้งใจทำข้าวกล่องให้ตาแจ๊กดีพิเศษด้วย จะได้ไม่น้อยหน้าข้าวกล่องบ้านอื่น

...ตาแจ๊กได้กินข้าวกล่องฟรีเป็นเวลา 1 ปี เต็ม แต่แล้วโครงการ รวมใจข้าวกล่องสวยก็สะดุดหยุดลงเพราะการแทรกแซงของอาจารย์ใหญ่

"เอ้อ คุณแม่ทุกท่านครับ กระผมขอเรียนพวกท่านให้พิจารณาหยุดส่งข้าวกล่องให้นายแจ๊กนักเรียนไทยเถิดครับ เพราะว่าโรงเรียนของเรายังมีนักเรียนต่างชาติอีกหลายน ถ้าเป็นอย่างนี้นักเรียนคนอื่นอาจจะรู้สึกน้อยใจนะครับ"

บัดนี้ตาแจ๊กเรียนจบมหาลัยกลับมาทำงานเมืองไทย ผมบอกพรรคพวกว่า

"ถ้าไอ้แจ๊กทำงานกับญี่ปุ่นต้องระวังให้ดีนะ เดี๋ยวญี่ปุ่นส่งคนที่เคยทำข้าวกล่องให้มันมาเจรจาด้วยแล้วจะเสียท่าเขา ฮ่า ฮ่า ฮ่า"




 

[Don Quixote]

เคยดูหนังเรื่อง ชินจูกุ อินซีเดนท์ ของเฉิน หลงน่ะครับ แล้วเห็นพวกยากูซ่าเกลียดชาวจีนมาก
อีกทั้งตามประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นกล่าวหาว่าคนจีนเป็นขี้โรคเอเชีย (รวมทั้งเกาหลีด้วย)

ไม่ทราบว่าปัจจุบันชาวญี่ปุ่นยังคิดแบบนี้อยู่หรือเปล่าครับพี่ 



เผื่อมีโอกาสได้ไปแล้วอดได้จีบสาวญี่ปุ่น 

นั่นมันในหนังครับ  อย่าไปอินมากนัก  ทุกวันนี้ไม่ว่าจีนหรือญี่ปุ่น คนรุ่นใหม่ต่างๆก็ลืมอดีตกันไปเยอะแล้วหรือหมดไปแล้ว  ปีหนึงๆมีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาญี่ปุ่นหลายล้านคน  มีคนจีนอาศัยในญี่ปุ่นหลายแสนคน(คนไทยราวๆ7หมื่นคน)

ผมเคยเจอข้อมูลหนึ่งครับ เขาว่าคนญี่ปุ่นเที่ยวเมืองนอก มาเมืองไทยเป็นอันดับ 4 โดย 3 อันดับแรกคือ เกาหลี จีน เมกา

[Don Quixote]

ความเขี้ยวของญี่ปุ่นบ้างครับ

เคยเจอคนนึงเค็มมาก ไปทริปประเทศรอบบ้านโครงการความร่วมมือซึ่งในการเดินทางต่างประเทศทางญี่ปุ่นต้องจ่ายหมด พอเสร็จงานตานี่ให้แชร์ค่ารถจากสนามบิน ไปกลับโรงแรมสองเที่ยวรวม 2 ดอลฯ...

เหรอ ไหนตามหลักการบอกว่าออกให้หมด ไม่ได้ตั้งงบไทนมา จ่ายเอง 70 บาท ไม่เดือดร้อนหรอก อือม์ แต่แค่นี้ไม่มีปัญญาคิดรวมอยู่ในงบประมาณก็อย่าริอ่านทำงานใหญ่ระดับหลายชาติเลยวะ...  ผมคุยกับคนที่ดูโครงการสำนักงานมันเพราะอยากให้รู้ (ไม่ใช่ตำรวจญี่ปุ่นนะครับ) เขาขอโทษแล้วครั้งต่อไปให้ตานี่คิดรวมในงบ..

เพื่อนผมกระทรวงอื่นไปเจรจาที่ญี่ปุ่น พี่แกจับไปอยู่โรงแรมนอกเมือง คุยต่อรองกันเช้ายันดึก ต่อเนื่องหลายวันไม่หยุดไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน แกล้งกดดันไม่มีเวลาพัก ต้องให้เราขอเบรก ขอพักเข้าห้องน้ำเอง ฝ่ายญี่ปุ่นใครเหนื่อยก็เปลีี่ยนคนใหม่มาโซ้ยกับเราต่อ ข้างเราคนเดียว ไม่มีตัวช่วย แถมญี่ปุ่นมันเอ็ดตะโรด่าลูกน้องมันเองข่มขวัญเป็นช่วงๆ ซะอีก

[submachine -รักในหลวง-]

แหม....คุณต๊อกตลกรัฐศาสตร์เลยนะนั่น.....
ว่าแต่คุณอนิกิ พอเล่าเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัดของเขาให้ฟังหน่อยได้ไหม

[Don Quixote]

แหม....คุณต๊อกตลกรัฐศาสตร์เลยนะนั่น.....
ว่าแต่คุณอนิกิ พอเล่าเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัดของเขาให้ฟังหน่อยได้ไหม

แหม....คุณต๊อกตลกรัฐศาสตร์เลยนะนั่น.....
ว่าแต่คุณอนิกิ พอเล่าเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัดของเขาให้ฟังหน่อยได้ไหม

อิ อิ ญี่ปุ่นการข่าวดีครับท่านซับ ต้องลดความเสียเปรียบในสงครามจิตวิทยาหน่อย อิ อิ

[NOOM 19 รักในหลวง]

ได้ที่ขอเอาวาระนี้ตามหาเพื่อนเลยครับ...ชื่อศุภฤกษ์ รักษ์เดช ไปเรียนที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ ม.4 แล้วเข้าเรียนมหลัยที่โน้น แต่จำไม่ได้ว่าโตเกียว หรือ เกียวโต ขาดการติดต่อมาเกือย 20 ปีแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
....วีระกรรมที่ทำไว้ตอนเรียนที่ รร.อนุบาลสุพรรณบุรีด้วยกันคือ หลอกให้ครูจับไฟเย็นจนมือพอง

[submachine -รักในหลวง-]

ญี่ปุ่นชอบเจรจาในบ้าน รบในบ้านตลอดครับ

[Don Quixote]

ได้ที่ขอเอาวาระนี้ตามหาเพื่อนเลยครับ...ชื่อศุภฤกษ์ รักษ์เดช ไปเรียนที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ ม.4 แล้วเข้าเรียนมหลัยที่โน้น แต่จำไม่ได้ว่าโตเกียว หรือ เกียวโต ขาดการติดต่อมาเกือย 20 ปีแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
....วีระกรรมที่ทำไว้ตอนเรียนที่ รร.อนุบาลสุพรรณบุรีด้วยกันคือ หลอกให้ครูจับไฟเย็นจนมือพอง

อย่างน้อยไม่ใช่คนนี้ครับคุณหนุ่ม ตานี่เรียนตรีญี่ปุ่น แล้วไปต่อเยอรมัน เพิ่งจบมาทำงานปีเดียว อายุยี่สิบกลาง

[Don Quixote]

ญี่ปุ่นชอบเจรจาในบ้าน รบในบ้านตลอดครับ

งานนั้นล่อให้เข้าบ้านเขาครับ คนไปก็กระหยิ่มใจ กลางวันทำงาน ตอนเย็นเดินชอปปิ้ง ชมเมือง กลับต้องนั่งด่า เอ้อ เจรจากันดึกดื่น สลบขึ้นห้อง ตื่นมาลุยต่อ แถมอยู่โรงแรมปล่อยเกาะวิวหน้าต่างยังไม่มีอะไรจะดู

[NOOM 19 รักในหลวง]

ได้ที่ขอเอาวาระนี้ตามหาเพื่อนเลยครับ...ชื่อศุภฤกษ์ รักษ์เดช ไปเรียนที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ ม.4 แล้วเข้าเรียนมหลัยที่โน้น แต่จำไม่ได้ว่าโตเกียว หรือ เกียวโต ขาดการติดต่อมาเกือย 20 ปีแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
....วีระกรรมที่ทำไว้ตอนเรียนที่ รร.อนุบาลสุพรรณบุรีด้วยกันคือ หลอกให้ครูจับไฟเย็นจนมือพอง

อย่างน้อยไม่ใช่คนนี้ครับคุณหนุ่ม ตานี่เรียนตรีญี่ปุ่น แล้วไปต่อเยอรมัน เพิ่งจบมาทำงานปีเดียว อายุยี่สิบกลาง

ขอบคุณมากครับ....หากันต่อไปครับ

[Daimyo]

อิๆ.....รู้แต่เหล้าญี่ปุ่นอย่างเดียว....เพราะทํางานกับญี่ปุ่นอยู่4ปี....นายที่เป็นญี่ปุ่นลากไปกินข้าวเย็นแถวทองหล่อเกือบทุกคืน......

ครบเทอม3ปี....คนเก่ากลับ..คนใหม่มาก็เหมือนเดิม.......

กินข้าวเย็น......แต่เมาแอ๋กลับบ้านทุกครั้ง.....เริ่มด้วยเบียร์....ตามด้วยสาเก ร้อนและเย็น...ตบด้วยโชวจิวใส่บ๊วย.....

ถึงสาเกร้อน....สติก็หายไปเกินครึ่งแล้ว.....


อ้อ.....อีกอย่างที่ผมจําแม่น....พวกนี้เวลาเมา....ลามกทั้งคู่

[aniki]

แหม....คุณต๊อกตลกรัฐศาสตร์เลยนะนั่น.....
ว่าแต่คุณอนิกิ พอเล่าเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัดของเขาให้ฟังหน่อยได้ไหม

ขอบคุณมากครับคุณต้อก...ฮามากเลยครับ  เสียดายผมไม่โชคดีแบบนั้น  มีแต่คนมาทำปิ่นโตให้ที่บ้านเลย  แถมต้องรับเลี้ยงเธอและลูกเพิ่มภาระไปอีก....เฮ้อ....
...เรื่องการเมืองท้องถิ่น...ไม่ทราบจริงๆครับคุณซับ  รู้แต่เพียงว่า  สมาชิกอำเภอ  นายอำเภอ  ผู้ว่า.ล้วนมาจากการเลือกตั้ง  4ปีครั้ง  ผมได้วีซ่าถาวรแต่ยังถือสัญชาติไทยเลยไม่ได้บัตรไปเลือกตั้ง  รู้แต่ว่านักการเมืองเขาซื่อสัตย์มาก  ผมได้รู้จักนายอำเภอข้างๆกัน  แกยังเช่าบ้านอยู่ครับ  จริงๆแล้วแกเช่าอยู่มานานแล้วครับ.

[aniki]

อิๆ.....รู้แต่เหล้าญี่ปุ่นอย่างเดียว....เพราะทํางานกับญี่ปุ่นอยู่4ปี....นายที่เป็นญี่ปุ่นลากไปกินข้าวเย็นแถวทองหล่อเกือบทุกคืน......

ครบเทอม3ปี....คนเก่ากลับ..คนใหม่มาก็เหมือนเดิม.......

กินข้าวเย็น......แต่เมาแอ๋กลับบ้านทุกครั้ง.....เริ่มด้วยเบียร์....ตามด้วยสาเก ร้อนและเย็น...ตบด้วยโชวจิวใส่บ๊วย.....

ถึงสาเกร้อน....สติก็หายไปเกินครึ่งแล้ว.....


อ้อ.....อีกอย่างที่ผมจําแม่น....พวกนี้เวลาเมา....ลามกทั้งคู่

จริงครับยืนยัน...หลังเลิกงานชอบเมา  แล้วลามก  ทั้งหนุ่มทั้งสาว  ดึกๆดูได้ตามสถานีรถไฟ  สาวๆเมาจนรองเท้าหาย  แต่มีอีกจำพวกหนึง...ทำแต่งาน  ไม่สนใจเรื่องลามกหรืออะไรทั้งสิ้น   

[PU45™]

              ขอบคุณทุกความเห็นครับ .... อ่านแล้วรู้สึกมีความสุขครับ