โห ฟังแล้วสงสัยจะยากนะเนี่ย แต่ขอฝันกลางวันหน่อยเหอะ
๑. ให้ยกเลิกการจำกัดขนาด จากเดิมนายทะเบียนอนุญาติไม่เกินหน้าตัด .45 เป็นไม่จำกัดขนาด (อยากได้ ไรเฟิล .50 อ่ะ

)
๒. ยกเลิกการจำกัดขนาดความยาวลำกล้อง (สั้นไม่เกินหกนิ้ว โธ่ให้สักสิบนิ้ว มันจะมีปัญญาลากไปยิงใคร แค่แบกปืนก็อานแล้ว ให้ๆไปเหอะ

)
๓. อันนี้เด็ดแต่ยังไม่สุด ให้ยกเลิกการจำกัดโควต้าการนำเข้า ให้ทำโดยเสรี (น่ารวมเข้าไปใน AFTA

) และมีตัวแทนจำหน่ายโดยเสรี (ถึงจะมีตัวแทน ขึ้นราคาไปก็สู้บริษัทต้นสังกัดทำเองไม่ได้แบบ BMW ไง) แบบนี้ปืนจะถูกลงมาเอง
๔. เด็ดเกือบสุด ก็เอาอันนี้ ยกเลิกการห้ามไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ แต่ห้ามอัตโนมัติ ก็จะได้ปืนไรเฟิลหุ่นสงคราม แบบเดียวกับ อเมริกา
๕. เด็ดเกือบสุดอีกอัน ให้ส่งเสริมการผลิตในประเทศ โดยแปรรูปองค์กรอุตสาหกรรมทางทหาร เป็น Profit center เพื่อทำการวิจัยต่อยอดอุตสาหกรรมต้นน้ำ การพัฒนาโลหะ และอโลหะคุณสมบัติสูง เพือสร้างจำหน่ายภายใน และส่งออกได้ (ไปกินงบประมาณรัฐกระจ้อยร่อยจะไปเจริญอะไร ทำขาย เอาเงินมาพัฒนาสิ จะเจริญเร็วกว่าเดิม) ไหนๆก็ทำ HK 33 ได้แล้วแต่ยังไม่ค่อยดีก็เอาน่า ทำต่อไป เผื่อจะได้ อารม์สกอร์ แบรนด์ไทยกะเขามั่ง

๖. สุดท้ายเด็ดสุด กระจายรายได้สู่ชนบท กระจายอำนาจรัฐตามรัฐธรรมนูญ ยกเลิกการผูกขาด และการใช้ดุลย (ที่ไม่ค่อย) พินิจ ของนายทะเบียน คือให้โอนงานทะเบียนปืนท้องที่มาอยู่กับ อบต. หลักฐานในการขอก็มีเพียง หลักฐานเดิมที่ใช้บวกด้วย หลักฐานทางรายได้ที่เป็นหลักแหล่ง หนังสือรับรองหรือค้ำประกันจากผู้บังคับบัญชา หรือผู้ใหญ่ กำนัน (เดิม) ใช้หรือนะ เพราะภาวะสังคมเดี่ยวปัจจุบัน บางทีเป็นต่างจังหวัดก็จริงแต่เป็นหมู่บ้านใหญ่ ชาตินึงจะเจอกำนัน ผู้ใหญ่บ้านสักที เอาเป็นผู้บังคับบัญชาที่รู้จักตัวเราก็ได้แล้ว หลักฐานใบรับรองแพทย์ตรวจจิตประสาท (ว่าไม่บ้าเที่ยวเอาปืนไปไล่ยิงใคร

) มาถึงสุดท้ายคือภาษีอาวุธรายปี บำรุงท้องที่ อบต. ตามขนาดจากใหญ่ ไปเล็กลดหลั่นตามราคา มีมากจ่ายมาก มีน้อยจ่ายน้อย ไม่มีไม่ต้องจ่าย แบบนี้ช่วยชาติ ช่วยท้องที่กว่าเข้ากระเป๋าผู้อนุมัติในระบบ นอกระบบไหมครับพี่น้อง
อ้าว ตื่นแล้ว ฝันเหรอเนี่ย...โธ่
