เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 21, 2024, 01:18:10 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ญาติเสียจากการเชี่ยวชน แต่คู่กรณีมาขอค่าเสียหายครับ  (อ่าน 3930 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sharker
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 9
ออฟไลน์

กระทู้: 118


« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 09:11:14 AM »

ทั้งคู่ขี่มอเตอร์ไซค์ เชี่ยวชนกันบริเวณทางแยก ล้มลงตรงกลาง ต่างฝ่ายเลี้ยวขวา แล้วมาเกี่ยวกันล้มในเลนร่วมกลางแยกที่ยังไม่ใช่เลนเป้าหมาย ฝ่ายผมตาย อีกฝ่ายเจ็ปเป็นชายหญิงซ้อนมา (ประมาณ 5 ทุ่ม 13 ก.พ.)  ทางพี่สาวคนตายมัวจัดงานศพ ไม่ได้แจ้งความคิดเอาเองว่าคนก็ตายไปแล้ว แต่อีกฝ่ายมาเรียกร้องค่าเสียหาย (ขาหัก) และบอกว่าตร.ให้มาเจรจากันเองก่อน ถ้าไม่ได้จะฟ้องศาล และในที่เกิดเหตุร้อยเวรได้ไปสเปร์ย ไว้เหมือนต่างฝ่ายประมาทร่วม ผมพึ่งไปแจ้งความเมื่อวาน ในกรณีอย่างนี้ ฝ่ายผมตายจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดครับ และถ้าขึ้นศาลจะนำประเด็นใดไปสู้ เพราะฝ่ายผมไม่มีพยานเลย เหลือแต่ฝ่ายตรงข้ามที่เหมือนพูดอะไรมาก็ได้ เพราะเขาอยู่ในเหตูการณืฝ่ายเดียว
ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 09:12:37 AM »

ขออนุญาต แสดงความเสียใจ....เป็นอย่างมาก   เศร้า
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 09:37:55 AM »

ถ่านรูปสเปรย์ของ ตร.ที่ถนนไว้ด้วยครับ
ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายใดๆ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

แสนสุข
Hero Member
*****

คะแนน 171
ออฟไลน์

กระทู้: 1291



« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 09:46:36 AM »

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ   ส่วนเรื่องคดีต้องให้ผู้รู้มาตอบแบบชัดเจนครับ ในความคิดของผมเองถ้าเขาอยากได้ค่าเสียหายก็ต้องให้เขาฟ้องศาลแล้วแหละครับแต่เราแจ้งเขาด้วยครับว่าเขาก็น่าจะมีคดีประมาทเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตครับทางที่ดีก็ต้องค่อยๆคุยกันแต่ต้องต่อหน้าตำรวจ ร้อยเวร ครับ ไหว้
บันทึกการเข้า

SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 04:37:10 PM »

ฝ่ายหนึ่งตาย ฝ่ายหนึ่งขาหัก

ความผิดนี้ หากถือว่าเป็นความผิดฐานประมาทร่วมกัน ซึ่งความผิดตามพระราชบัญญัติจราจร ก็คาดว่าจะโดนทั้งสองฝ่ายด้วย
แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ในการประมาทร่วมกันนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และถึงแก่ความตาย

ผู้ตายมีความผิดฐานประมาท เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และความผิดตาม พรบ.จราจร
แต่เมื่อถึงแก่ความตายไปแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องในความผิดดังกล่าวย่อมระงับลงด้วยความตายของผู้กระทำความผิด

แต่คู่กรณีอีกฝ่าย นอกจากจะมีความผิดตาม พรบ.จราจร แล้ว ยังมีความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุ ให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท

ซึ่งแม้ไม่แจ้งความ พนักงานสอบสวนก็ต้องดำเนินคดีอาญาฐานนี้ ต่อคู่กรณีที่มาเรียกร้องค่าเสียหายจากท่านด้วย
เพราะความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นความผิดอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้

แม้พนักงานสอบสวนจะให้คู่กรณีเครียร์เรื่องค่าเสียหายก็ตาม หากเรายืนกรานปฏิเสธ (ผิดไม่ผิดไม่รู้ แต่คนฝ่ายเราตายไปแล้ว)
พนักงานสอบสวนต้องดำเนินคดีนี้ต่อไป คือฟ้องคู่กรณีของท่านต่อศาล เป็นความผิดประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ส่วนความเสียหายใดๆทางแพ่งนั้น เป็นเรื่องที่คู่กรณีจะต้องใช้สิทธิฟ้องศาลกันเอง ไม่เกี่ยวกับอาญา
และแม้ถึงจะฟ้องทางแพ่งมา คดีทางแพ่งต้องต้องถือข้อเท็จจริงจากในคดีอาญา ว่าคู่กรณีมีความผิดหรือไม่
ใครผิดหรือประมาทมากกว่ากัน หากศาลในคดีแพ่งพิจารณาแล้วเห็นวา ทั้งสองฝ่ายประมาทพอๆกัน ศาลก็จะยกฟ้องเสีย ไม่ได้อะไรเลย

ผมว่าตอนนี้ ให้ทางฝ่ายผู้ตายดำเนินการตามกฎหมายคือไปแจ้งความไว้และดูแลติดตามคดีเรื่อยๆ
อย่าให้ลมเปลี่ยนทิศจากประมาทร่วม กลายเป็นประมาทฝ่ายเดียว
ถ่ายรูปสภาพที่เกิดเหตุไว้ทุกซอกทุกมุม เก็บใบเสร็จค่าจัดงานศพไว้ก่อน

ซึ่งแนวโน้มหากคู่กรณีของท่านสู้ว่าเขาไม่ประมาทในคดีอาญา ก็ต้องคิดหนักพอดู
แต่หากจะรับสารภาพ ก็ต้องมีการบรรเทาค่าเสียหายให้แก่ฝ่ายท่าน เพื่อเป็นเหตุขอลดโทษจากศาล

ซึ่งทางฝ่ายที่ขาหักควรคิดดูให้รอบคอบหากยืนยันจะขอค่าเสียหายจากท่าน ไม่รู้ใครจะได้จะเสียกว่ากัน
ในตอนนี้ ฝ่ายท่านแทบที่จะไม่ควรกังวลอะไรให้มากนัก รอให้คดีในส่วนอาญาของคู่กรณีคุณจบลงก่อน หลังจากนั้นหากเขาจะฟ้องทางแพ่งอีกกับเรา ก็ค่อยว่ากันครับ
บันทึกการเข้า
khwanphet_NAVY 39
Hero Member
*****

คะแนน 129
ออฟไลน์

กระทู้: 2035


« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 04:46:32 PM »

.................................ถ้าเขาอยากได้จริงๆก็ให้เขาไปฟ้องศาลเอาโลดครับ.................................................................... ไหว้
บันทึกการเข้า
Ruk™-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 643
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4012



« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 05:26:50 PM »

   ตามที่นายสิงห์กลิ้งแนะนำครับ คู่กรณีเขากล้าพอที่จะเรียกร้องความเสียหายหรือเปล่า
เพราะโอกาสเสียมากกว่าได้สูงมาก
บันทึกการเข้า

คุณอาจเผาและทำลายบ้านเมืองเราได้ แต่คุณไม่สามารถทำลายความรักชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ของเราไปได้
HS3JBX ทองพูน นุโยนรัมย์ : (คำขวัญประจำจังหวัด) ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานต์กวี คนดีศรีอยุธยา
sharker
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 9
ออฟไลน์

กระทู้: 118


« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 07:40:08 PM »

ขอบคุณทุกท่าน โดยเฉพาะท่านสิงห์กลิ้งที่อนุเคราะห์ผม ตั้งแต่เรื่องมรดกแล้ว
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 10:00:44 PM »

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 10:24:18 PM »

ขอบคุณทุกท่าน โดยเฉพาะท่านสิงห์กลิ้งที่อนุเคราะห์ผม ตั้งแต่เรื่องมรดกแล้ว

ส่วนในคดีทางแพ่งนั้น ข้อหาหรือฐานความผิดคือ ละเมิด ทำให้ได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย
อันเป็นคดีฟ้องตัวบุคคลผู้ทำละเมิดโดยตรง ซึ่งถึงแก่ความตายไปแล้ว

ดังนั้น หากคู่กรณีของเราจะฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนนั้น ต้องฟ้องทายาทของผู้เสียชีวิต ผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย
หรือในกรณีที่มีผู้จัดการมรดก ก็จะฟ้องผู้จัดการมรดกเป็นจำเลย

โดยจำเลยที่ถูกคู่กรณีฟ้องมานั้น แนวทางการต่อสู้แน่นอน ว่าผู้ตายไม่ได้ประมาท หรือหากประมาท ฝ่ายโจทก์ก็มีส่วนประมาทร่วมกับผู้ตายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
และผู้ตายไม่มีทรัพย์มรดก และไม่ต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายตกแก่จำเลย

ต่อมา หากศาลพิจารณาและพิพากษาให้เรารับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
ผู้ที่ถูกฟ้อง ต้องรับผิด แต่ไม่ต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตนได้รับจากผู้ตาย

เช่น หากคู่กรณีฟ้องมารดาของผู้ตาย ปรากฎว่า ผู้ตายมีทรัพย์มรดกตกแก่มารดาผู้ตาย มา ๒,๐๐๐ บาท
แม้ว่าโจทก์จะเรียกค่าสินไหมทดแทนมา ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท มารดาผู้ตายก็ต้องรับผิดต่อโจทก์เพียง ๒,๐๐๐ บาท เท่านั้น
ส่วนอีก ๙๙๘,๐๐๐ บาท โจทก์จะมายึดที่ดินของมารดาผู้ตายเพื่อขายทอดตลาดให้ให้ครบ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ไม่ได้

ดังนั้น หากผู้ตายไม่มีทรัพย์มรดกใดๆตกทอดแก่ทายาทเลย เจ้าหนี้คือโจทก์ ก็จะมายึดทรัพย์หรืออายัดทรัพย์สินของทายาทไม่ได้
เพราะทายาทที่ถูกฟ้อง ไม่ได้เป็นผู้กระทำละเมิดนั้นเองครับ

ทางอาญาก็ไม่รู้จะหลุดไหม ทางแพ่งฟ้องแล้วยังไม่รู้จะมีอะไรให้ยึดอีก เวรกรรม Cheesy

บันทึกการเข้า
PEA803
Full Member
***

คะแนน 10
ออฟไลน์

กระทู้: 148


« ตอบ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 10:27:51 PM »

ที่สำคัญทายาทผู้เสียชีวิตได้เงินชดเชยตาม พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ 1 แสน บาท หรือยังครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
pscn
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 11:17:46 PM »

ขอบคุณครับน้องน้าสิงห์ ได้ความรู้ประดับสมองไปด้วยครับ เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 11:28:59 PM »

หน้าด้าน หน้าหนา หน้าทน ได้อะไรเยี่ยงนี้หนอคนเรา เติบโตมาในครอบครัวแบบไหนกันหนอ
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
Tiger wut
อาวุธประจำตัวคือ"ขวดนม"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 975
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15042


พี่ครับ พี่ครับ เสือมา


« ตอบ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 11:30:00 PM »

ฝ่ายหนึ่งตาย ฝ่ายหนึ่งขาหัก

ความผิดนี้ หากถือว่าเป็นความผิดฐานประมาทร่วมกัน ซึ่งความผิดตามพระราชบัญญัติจราจร ก็คาดว่าจะโดนทั้งสองฝ่ายด้วย
แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ในการประมาทร่วมกันนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และถึงแก่ความตาย

ผู้ตายมีความผิดฐานประมาท เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และความผิดตาม พรบ.จราจร
แต่เมื่อถึงแก่ความตายไปแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องในความผิดดังกล่าวย่อมระงับลงด้วยความตายของผู้กระทำความผิด

แต่คู่กรณีอีกฝ่าย นอกจากจะมีความผิดตาม พรบ.จราจร แล้ว ยังมีความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุ ให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท

ซึ่งแม้ไม่แจ้งความ พนักงานสอบสวนก็ต้องดำเนินคดีอาญาฐานนี้ ต่อคู่กรณีที่มาเรียกร้องค่าเสียหายจากท่านด้วย
เพราะความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นความผิดอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้

แม้พนักงานสอบสวนจะให้คู่กรณีเครียร์เรื่องค่าเสียหายก็ตาม หากเรายืนกรานปฏิเสธ (ผิดไม่ผิดไม่รู้ แต่คนฝ่ายเราตายไปแล้ว)
พนักงานสอบสวนต้องดำเนินคดีนี้ต่อไป คือฟ้องคู่กรณีของท่านต่อศาล เป็นความผิดประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ส่วนความเสียหายใดๆทางแพ่งนั้น เป็นเรื่องที่คู่กรณีจะต้องใช้สิทธิฟ้องศาลกันเอง ไม่เกี่ยวกับอาญา
และแม้ถึงจะฟ้องทางแพ่งมา คดีทางแพ่งต้องต้องถือข้อเท็จจริงจากในคดีอาญา ว่าคู่กรณีมีความผิดหรือไม่
ใครผิดหรือประมาทมากกว่ากัน หากศาลในคดีแพ่งพิจารณาแล้วเห็นวา ทั้งสองฝ่ายประมาทพอๆกัน ศาลก็จะยกฟ้องเสีย ไม่ได้อะไรเลย

ผมว่าตอนนี้ ให้ทางฝ่ายผู้ตายดำเนินการตามกฎหมายคือไปแจ้งความไว้และดูแลติดตามคดีเรื่อยๆ
อย่าให้ลมเปลี่ยนทิศจากประมาทร่วม กลายเป็นประมาทฝ่ายเดียว
ถ่ายรูปสภาพที่เกิดเหตุไว้ทุกซอกทุกมุม เก็บใบเสร็จค่าจัดงานศพไว้ก่อน

ซึ่งแนวโน้มหากคู่กรณีของท่านสู้ว่าเขาไม่ประมาทในคดีอาญา ก็ต้องคิดหนักพอดู
แต่หากจะรับสารภาพ ก็ต้องมีการบรรเทาค่าเสียหายให้แก่ฝ่ายท่าน เพื่อเป็นเหตุขอลดโทษจากศาล

ซึ่งทางฝ่ายที่ขาหักควรคิดดูให้รอบคอบหากยืนยันจะขอค่าเสียหายจากท่าน ไม่รู้ใครจะได้จะเสียกว่ากัน
ในตอนนี้ ฝ่ายท่านแทบที่จะไม่ควรกังวลอะไรให้มากนัก รอให้คดีในส่วนอาญาของคู่กรณีคุณจบลงก่อน หลังจากนั้นหากเขาจะฟ้องทางแพ่งอีกกับเรา ก็ค่อยว่ากันครับ


 เยี่ยม   ตามนั้น 
บันทึกการเข้า

รักดีกินถั่ว   รักชั่วกินเหล้า  รักทั้งดี -ทั้งชั่ว กินถั่วแกล้มเหล้า
McTavish
Jr. Member
**

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 30


« ตอบ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2010, 11:34:26 PM »

ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียทุกท่านครับ และขอบคุณที่ให้ความรู้ด้านกฏหมายครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.12 วินาที กับ 22 คำสั่ง