อีก 3 ตัวจะครบ 500 แล้วครับ
จำได้หรือเปล่า ว่านกตัวแรกที่ยิงได้เป็นนกอะไร
ตัวแรกเป็นนกเขาไฟตัวผู้สีแดง และตัวที่ 447 ก็นกเขาไฟตัวผู้สีแดงครับ
ผมยิงนกตัวแรกเมื่ออายุได้ 17 ปีกว่า ยิงด้วยปืนไรเฟิล .22 WMR ของอันชูส เป็นปืนกระบอกแรกของผมเอง
แลกมาด้วยราคา 8000 บาท ราคาเท่ากับยามาฮ่าวาย 80 รุ่นใหม่เรือนไมล์สี่เหลี่ยม
เช้าวันหยุดผมลุกจากที่นอนในบ้านพักบนดอยอินทนน์ อากาศค่อนข้างหนาว ด้วยความเห่อปืนกระบอกใหม่
หลังจากเมื่อคืนราวสามทุ่ม พอเดินทางมาถึงบ้านพัก ผมก็ลองยิงปรับศูนย์กล้องเล็งกับตาไม้ครึ่งกล่อง
ก็พบว่ามันดีอยู่แล้ว จากนั้นจึงลองยิงไรเฟิล .223 .300 .308 อีกอย่างละไม่กี่นัด เป็นปืนล่าสัตว์ของพวกน้า
ที่กำลังรวมพลวันมะรืนจะไปล่ากระทิงที่แม่สะเรียง แรงถีบของมันทำให้ผมต้องเบ้ปากเพราะมันถีบแรงเกินไป
แปรงฟัน ล้างหน้า เสร็จก็สะพายปืนกระบอกใหม่ออกจากบ้านพัก เดินไปตามถนนลาดยาง
ด้วยเพราะเมื่อคืนพวกน้าคุยให้ฟังว่า .22 WMR นี้ มันแรงกว่าและยิงได้ไกลกว่า .22 ลูกกรดอยู่มากโข
ก็เลยทำให้เด็กอย่างผมคิดแต่ว่า อยากลองยิงสัตว์อะไรก็ได้ อยากเห็นพลังการทำลายของปืน .22 WMR
ตอนนั้นยังเซ่ออยู่ ไม่รู้ว่าสัตว์ป่ามันออกหากินกลางคืน ใครไม่รู้ออกล่ากลางวันกว่าจะได้ยิง
มีโอกาสแก่ตายเสียก่อน
เช้า ๆ อย่างนี้ เดินมาตั้งนานไม่มีรถผ่านมาสักคัน อันที่จริงก็ยังไม่ไกลจากที่พักหรอก แต่ถนนมันชันขึ้น
จึงทำให้รู้สึกเหมือนเดินไกล พลันผมก็เห็นถนนดินแดงด้านซ้ายข้างหน้า อ้อจำได้แล้ว เป็นเส้นทาง
ที่นั่งรถจิ๊บไปเมือคืนนี้เอง แต่ไปได้ไม่ลึกพอก็ไปเจอต้นไม้ใหญ่ล้มขวางทาง จึงทำให้โปรแกรมล่าสัตว์เมื่อคืน
ล้มเลิกไป ได้ฟานมาแค่ตัวเดียว
ผมตัดสินใจเดินเท้าเข้าไป ก็กะว่าไปไม่ไกลกลับไปที่บ้านพักก็ถึงเวลาทานข้าวต้มพอดี มันเป็นเวลาเท่าไหร่
ไม่รู้ด้วยตอนนั้นผมยังเด็กไม่ติดนาฬิกา อาศัยกะเวลาก็แม่นพอใช้ได้เหมือนกัน
เดินเข้าไปในถนนดินแดงที่มีผิวเปียกชื้นน้ำค้างบางช่วงถึงกับมีน้ำขัง ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว
ผมหยุดเดินและเล็งปืนไปตามที่ต่าง ๆ รู้สึกชอบมากเพราะภาพในกล้องเล็งชัดเจนกว่าดูด้วยตาเปล่า
มันเป็นกล้องบุชแนล หน้าเลนส์ไม่เกิน 40 มม. กำลังขยายสูงสุด 24 เท่า ปรับโฟกัสด้านหน้า
แต่ก็รู้สึกว่าส่องตรงไหนก็ชัดไปหมด จึงไม่ค่อยได้ปรับโฟกัสสักเท่าไหร่
เสียงร้องดัง แซง แซง อยู่บนยอดไม้ ผมแหงนหน้าขึ้นไปดู โอ๊ะ นกตัวดำ เกาะบนยอดไม้สูง
ผมรีบประทับปืนเล็งดูว่ามันเป็นนกอะไร อ้อ นกแซงแซว หางของมันเป็นเส้นยาว ปลายแตกเป็นสองแฉก
เอาหละ นกตัวนี้ต้องเป็นนกตัวแรกในวันนี้
ในท่าประทับเล็งสูง มือซ้ายผมดึงกระโจมอัดร่องไหล่ไว้อย่างนั้น มือขวาดันลูกเลื่อนขึ้นแล้วดึงถอยหลัง
จนสูดระยะชักแล้วดันกลับเข้าที่เดิม มือขวาเปลี่ยนมาจับด้ามปืนแล้วใช้นิ้วชี้สัมผัสคลำหาไกที่สองแล้ว
เหนี่ยวไกเข้าไปจนดังคลิก จากนั้นจึงประทับเล็งให้นิ่งที่สุด กากะบาทไหวไปมานิดหน่อยแต่ก็อยู่กลางตัวนก
ผมแตะนิ้วชี้ที่ไกแรกแล้วออกแรงเหนี่ยว
ยังไม่ทันจะรู้สึกว่าได้ออกแรง เสียงแหลมของปืนก็ดังแผดก้องป่า เสียงมันไม่สะท้อนเขาเท่าเหมือนปืนกระสุนใหญ่ ๆ
สักเท่าไหร่ ในกล้องเล็งผมเห็นนกแซงแซวจะโผบินแต่ก็พลิวหล่นหายไปจากเลนส์กล้อง ผมจึงลดปืนและมองดู
ด้วยสายตา เงาสีดำร่วงสู่เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว มันหายลับตาไปในแนวป่านอกเขตถนนดินแดง
ผมต้องเดินหลีกตอไม้และต้นหญ้าสูง เพื่อเข้าไปตรงจุดที่เห็นว่านกแซงแซวหล่นหายไป โดยไม่ลืมสอดส่ายตา
มองหางูจงอาจ ที่เขาว่าแถวนี้ชุมชมัด กลัวงูก็กลัวแต่ความอยากได้นกกลับไปโชว์มีมากกว่า จึงต้องบุกป่าเข้าไปหานก
หาอยู่นาน ผมก็พบนกสีดำซุกตัวกับพงหญ้า มันยังไม่ตาย ผมรีบสะพายปืนแล้วนั่งลงเพื่อจะจับมัน
นกแซงแซวตัวนั้นรู้ว่ามีภัยมา จึงดิ้นหนีไปทางโน้นทางนี้ เล่นเอาเถิดกับนกอยู่นานพอดู จึงจับตัวนกไว้ได้
ผมตรวจดูแล้วพบว่ากระสุนเฉี่ยวปีกไม่ถึงกับหัก นอกนั้นทุกส่วนปกติดี โดยรวมนกยังแข็งแรงอยู่มาก
แวบหนึ่งของความคิด "เอาไปเลี้ยงดีกว่า" แล้วก็ไวเท่าความคิด ผมรีบกุมนกเดินฝ่าพงหญ้าออกมา
ที่ถนน เพราะอีกใจก็ระแวงกลัวงูจงอาจจะมาเยี่ยม
พอพาตัวมาอยู่กลางถนน ผมก็บรรจงเอานกใส่กระเป๋ากางเกง มันเป็นกางเกงขาสั้นสีฟ้า ใช่แล้วมันคือ
กางเกงนักเรียน เสื้อก็ยังเป็นเสื้อนักเรียนถ้าสารวัตรนักเรียนมาเห็นคงเอือมระอากับรหัสนักเรียนหมายเลข
นี้แน่ ๆ ผมคิดอยู่คนเดียว ถ้าเอาหัวนกลงไปแม้นว่าจะซุกลงไปในกระเป๋ากางเกงสะดวกกว่า แต่นกมัน
คงจะหายใจไม่ได้ขาดอากาศตายแน่ ๆ จึงรวบขานกลงไปในกระเป๋ากางเกงแล้วดันตัวนกลงไป
โผล่มาแค่หัวนก ผมก้มมองดูเห็นนกก็มองดูผมอยู่ เอออย่างนี้ค่อยดีหน่อยมันจะได้หายใจได้
ผมเดินกลับ โดยไม่ลืมเอามือขวาดันหัวนกไม่ให้มันโผล่ออกมามาก ประเดี๋ยวมันหลุดจากกระเป๋าได้
แล้วบินหนีไปเสียดายแย่ เดินไปไม่นานก็ได้ยินเสียง ก๊าก ก๊าก ดังบนยอดไม้ ผมมองดูด้วยตาเปล่า
เห็นเป็นนกแก้วสีเขียวตัวใหญ่
ผมคิด "ลองยิงอีกสักตัว" จึงประทับปืนเล็ง กลัวนกแซงแซวหลุดจากกระเป๋าก็กลัว อยากยิงก็อยากยิง
มือขวาจึงกำด้ามปืนบ้าง กำลังจะเล็งนกแซงแซวก็ดิ้นมันคงได้พักเอาแรงมาพอควรจึงมีแรงดิ้นได้
ผมจึงต้องปล่อยมือมากดหัวนกให้ผลุบเข้าไปในกระเป๋าบ่อย ๆ เป็นที่ทุลักทุเลอย่างมาก
เมื่อหมดความอดทน ผมจึงกดหัวนกเข้าไปในกระเป๋าอย่างแรง ประมาณว่าตายก็ตาย
ไม่เลี้ยงไม่เลิ้งมันแล้ว คราวนี้มันหยุดดิ้น ทำให้ผมมีโอกาสเล็งปืนอีกครั้ง
ครานี้ผมเล็งได้นาน ในกล้องเล็งเป็นนกแก้วตัวใหญ่ ผมเอื้อมมือขวากำลังจะผลักก้านลูกเลื่อน
พลันก็เจ็บแปล๊บที่พวงไข่ด้านขวา โดนงูฉกหรือเปล่าวะ ผมก้มมองดู ไม่เห็นงูสักตัว
แล้วอะไรมันกัดไข่ตูวะ
ก้มขยับตัว ไข่ก็เจ็บจี๊ดขึ้นมา มันเจ็บมาก ๆ เจ็บอย่างหาพ่อหาแม่ไม่ได้ เจ็บที่สุดในชีวิต
ตอนถูกบังคับให้เป็นลูกล่อซ้อมศิลปป้องกันตัวให้กับพี่ ๆ ที่บ้าพลังผมยังไม่เจ็บขนาดนี้เลย
"อะไรวะขยับตัวเป็นกัดไข่แรงขึ้น ขยับตัวไม่ได้เลยเหรอ" ผมคิดคนเดียวเพราะไม่รู้จะพูดกับใคร
ในป่าลึกแบบนี้ ตอนนั้นท่าของผมคือ มือซ้ายถือกระโจมปืน มือขวาทำท่าจะปลิ้นขากางเกง
แต่ปลี้นไม่ได้ เพราะมีมือเดียวแถมถ้าขยุกขยิกจะปลิ้นขากางเกง ดูเหมือนมันจะฝังคมเขี้ยว
ลงบนไข่ของผมแรงขึ้นกว่าเดิม ลำพังคาไว้อย่างนั้นก็เจ็บอยู่แล้ว ถ้าผมขยับก็จะเจ็บมากขึ้น
ตอนนั้นที่ทำได้คืออยู่นิ่ง ๆ ในท่ายืนย่อง ๆ เป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก
ในที่สุด ปืนสุดที่รักของผมก็ต้องมีอันลงไปวางกับพื้นดิน ตอนนั้นผมคิดได้ว่าไข่มีราคาแพงกว่าปืน
พอมือซ้ายว่าง ผมก็เอามือซ้ายมาช่วยมือขวา ผมแตะไปบนสิ่งที่กำลังคาบไข่ผมอยู่
พอแตะมันก็คาบแรงขึ้น ผมอยากร้องให้
คนเราเมื่อหมดหนทางสู้ มันจะมีแรงฮึดเพื่อเอาชีวิตรอด ดังนั้น "เสียไข่ดีกว่าเสียชีวิต"
ผมจึงเสี่ยงทำด้วยความรวดเร็ว คือปลิ้นขากางเกงอย่างเร็ว และ จู่โจมไปยังไข่ใบที่เจ็บ
พอปลิ้นกางเกง ผมก็ไม่เห็นว่ามีตัวอะไรเลย แต่เห็นว่ามีเล็บนกแซงแซวดำมะเมื่อม
จิกทะลุผ้ากระเป๋ากางเกงบาง ๆ มาขยุ้มหนังไข่ของผม
ช่วงเวลานั้นเป็นการต่อสู้ระหว่าผมกับเล็บนกแซงแซง ผมดึงเล็บโน้นเล็บนี้ก็ขยุ้ม
ระหว่างนั้นเองเหล่าบรรดาน้า ๆ และเพื่อนผมก็ออกเดินตามหา เพราะหลังจากทุกคน
ได้ยินเสียงปืนดัง แล้วก็หายเงียบไปนานก็ไม่เห็นผมกลับมายังบ้านพัก จึงพากันแยก
ออกตามหาด้วยความเป็นห่วง สายหนึงไปกับจี๊บ อีกสายหนึ่งเดินเท้า
พวกเดินเท้าเห็นผมกำลังนั่งคุดคู้อยู่แต่ไกล จึงพากันวิ่งมาเพราะนึกว่าผมโดนปืนลั่นใส่
พอทุกคนมาล้อมตัวผมแล้วรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็พากันโล่งอก แต่กว่าจะลงมือช่วยง้าง
เล็บนกออกจากไข่ก็ต้องรอให้ขำกันให้เสร็จก่อน ..
นั้นคือทริปหนึ่งในการออกล่าสัตว์ของผม ซึ่งในหลายครั้งบอกตรง ๆ ว่ารู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก
ผมคงเอาดีทางนี้ไม่ได้
นกตัวแรกที่ผมยิงได้คือนกแซงแซว
ปืนกระบอกแรกที่ผมยิงคือปืน .22 WMR กระบอกนี้หละครับ