เจ้าเครื่องขาว ผมยืมคุณเกรียงไกรมาใช้ที่บ้าน มันระบุข้างกล่องว่าให้วางห่างจากปากกระบอกปืน 5 - 15 ฟุต ครับ พี่ดุก.. ไม่รู้ว่ามันจะมีผลยังไงเหมือนกันครับ..
คู่มือเครื่องผมบอกว่า 7-10 ฟุต (2-3 หลา) สำหรับปืนสั้น 10-12 ฟุต (3-4 หลา) สำหรับปืนไรเฟิลแรงสูง
เข้าใจว่าปืนดินขับจะมีไฟที่แลบออกปากกระบอก ควัน และไอร้อน ที่อาจจะรบกวนการทำงานของตัวเซ็นเซอร์ในเครื่องวัด เลยต้องเว้นระยะห่างไว้ซักหน่อย
สำหรับปืนอัดลม ผมคิดว่าแค่ 1 ฟุต ก็น่าจะพอ
จากตารางด้านบน ลองดูที่ค่าของ ระยะ (Rang) ความเร็ว (Velocity)
ที่ปากกระบอกปืนคือระยะ 0 มีความเร็ว 910 ft/s แต่ที่ระยะ 1 หลาถัดมา ความเร็วตกลงไปที่ 906 ft/s และเหลือ 903 ft/s ที่ระยะ 2 หลา
เป็นผลมาจากค่า BC ที่ต่ำของลูกปืนอัดลม และก็เป็นเพราะรูปร่างของลูกปืนอัดลมเองที่ทำให้ค่า BC ต่ำ
ถ้าอยากวัดความเร็วปากกระบอก (Muzzle Velocity) ก็ต้องยิงให้ใกล้เครื่องวัดมากที่สุด และยิงให้ห่างจากเครื่องเท่ากันทุกนัด
ในกรณีที่เราต้องการทดสอบปืนต่างยี่ห้อหรือรุ่น ก็ต้องยิงกระสุนชนิดเดียวกัน โดยวางเครื่องให้ห่างปากกระบอกปืนเท่ากัน
เพื่อตัดตัวแปรค่า BC และระยะห่างระหว่างเครื่องกับปากกระบอกปืน เราถึงจะได้ตัวเลขความเร็วที่คลาดเคลื่อนน้อยที่สุดครับ
ตารางด้านล่างผมใส่ค่า BC และน้ำหนักลูกของปืนลูกกรดลงไป ลองเปรียบเทียบกับปืนอัดลมดู
ที่ระยะ 3 หลา ความเร็วลูกปืนลูกกรดอยู่ที่ 908 ft/s ตกลงไปเพียง 2 ft/s แต่ปืนอัดลมจะตกลงเหลือ 900 ft/s หรือลดลง 10 ft/s ในกรณีที่ความเร็วปากกระบอกเท่ากันที่ 910 ft/s
ที่มาของค่า BC ปืนลูกกรด http://www.exteriorballistics.com/ebexplained/22rimfire.cfmเนื่องจากข้อจำกัดเรื่องแสงและสถานที่ ผมจะวางเครื่องห่างกระบอกปืนประมาณ 1 - 1.5 เมตร แล้วก็คำนวณทดความเร็วเอา
เช่นเครื่องอ่านได้ 905 ft/s ความเร็วปากกระบอกน่าจะอยู่ที่ 910 ft/s
