..ปฐมบทของนิทานเรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงเดือนพค.ปี2545หรือปี2546ข้าพเจ้าไม่อยากจำ ท่านสมเด็จอัครมหาเดโชมูลเมือง เชื่อหมอดูพม่าตาบอดที่ทักว่าจะตายด้วยอาวุธปืน วันอาทิตย์ต่อมาท้าวมูลเมืองออกอากาศวิทยุรายการ"เจ้ามูลเมืองพบควายแดง(ยุคนั้น)"ประกาศเสียงดังฟังชัดว่า จะทำให้ประเทศนี้ปลอดจากอาวุธปืนภายในระยะเวลา5ปี ตราบที่ตนมีอำนาจอยู่ วันรุ่งคืน ดาโต๊ะ วันนอร์ เสนาบดีกระทรวงคลองลอดยุคนั้น เลียแข้งทันทีโดยการออกหนังสือให้นายทะเบียนท้องทีชะลอหรืองดออกใบอนุญาตเป็นระยะเวลา1ปีหรือ6เดือน และนโยบายสั้น1ยาว(ที่บ้างท้องที่ยังอ้างอยู่ทุกวันนี้) ข้าพเจ้าก็ไม่อยากจำอีกแหละ ตั้งแต่เหตุการวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาอาวุธปืนพุ่งขึ้นยังกะหุ้นชินฯยุคก่อนขายให้เทมาเส็กก็ไม่ปาน..จบครับ.. มันช่างคิดไปได้นะ แล้วร้านปืนที่มีอยู่ 500 กว่าร้านต้องหยุดขายปืนภายในห้าปี แล้วไปขายขนมจีน กับเกาเหลาแทน ว่าไปนั้นอีก แล้วตอนนี้ร้านขายปืนเขาคงกลัวว่ามันจะกลับมาอีก ก็เลยรีบขึ้นราคาปืนเอากำไร กันใหญ่เลย ถ้ามันกลับมาจริงๆ เขาต้องเลิกขายปืน
ทุกวันนี้นอกจากปืนจะแพงแสนแพงแล้ว ยังขอซื้อยากอีก ข้าราชการก็ซื้อได้ถูก คนธรรมดานี้ยิ่งหนัก ถูกบีบทุกอย่าง จนทุกวันนี้ต้องหันไปเล่น bb gun กันหมดแล้วซื้อมาดูว่าเราก็มี
เหมือนเขานะ hk usp 1911 glock จริงตังก็พอมีซื้อนะ ของจริงนะ ตอนนี้ทำงานเดือนละ 4xxxx แต่ซื้อไม่ได้ มันแพงเหมือนเราถูกเอาเปรียบ อย่าง glock 559$
เองขายสัก 30000 ผมก็ว่ามีกำไรแล้ว แต่ไปว่าร้านค้าเขาก็ไม่ได้หรอก จริงๆแล้วมันอยู่ที่รัฐบาล เรานี่เหละ มันงี่เง่า ใครเข้ามาก็เงียบเอาแต่ตัวเองทั้งนั้น ถ้านำเข้า
เสรีเหมือนเมื่อก่อนก็จะดีไม่น้อยนะครับ ปี 34 -36 ตอนนั้นราคาเบเร็ตต้า 92 fs แค่ 35000 เองถ้าจำไม่ผิดนะครับ ปัจจุบัณเป็นแสนไปเเล้ว ทั้งที่ราคาต่างประเทศ
ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นเท่าไร บ่นไปบ่นมาก็ต้องซื้อ เพราะเราชอบ (บ้าปืนนั้นเหละ) จะไห้มันราคาถูกต้องทำไห้มันเป็นสินค้าควบคุ้มแบบ หล้า เบียร ยาสูบ จะขึ้นราคาต้อง
ผ่านการเห็นชอบจาก สคบ ก่อน ไม่ไช่ตั้งราคากันแบบตามใจตัวเอง ใครๆก็อยากรวยทุกคน ใจของคนขายปืนผมว่าเขาอยากขายกระบอกละ ล้านสองล้านมากกว่า
ถ้ามีคนซื้อของเขาอยู่นะ เขาไม่เดื่อนร้อนอะไร เราสิเดื่อนร้อนเอง เพราะอยากได้ (ชอบ บ้า หรือด้วยเหตุผลอะไรก็เถอะ) เราผิดเอง
กราบขอโทษทุกคนนะครับถ้าแรงไป