วันนี้มีนิทานก่อนนอน มาเล่าครับ นิทานเรื่องมีชื่อว่า
"วีโก้วิ่งได้ 190 กม ต่อ ชั่วโมง จริงหรือไม่"
วันนี้ไม่มีแดดเหมาะแก่การเดินทางเป็นอย่างยิ่ง ผมเดินทางไปโรงพยาบาลบางมด ถนนพระราม 2
เพื่อพาภรรยาไปหาคุณหมอที่เพิ่งตกเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ไม่กี่วัน มันแปลกคุณหมออยู่ดี ๆ มาตั้งนาน
ไม่เห็นเป็นข่าว พอตกลงว่าจะไปหาคุณหมอ ก็มีข่าวดังเป็นเรื่องเป็นราวทางหน้าหนังสือพิมพ์ซึ่งไม่เกี่ยวกับโรคที่ภรรยา
ผมจะไปรักษาคือโรคไมเกรนที่เป็นที่ยอมรับในการแพทย์แล้วว่าไมเกรนรักษาไม่หาย แต่ผมได้พูดคุยกับคนไข้หลายราย
ที่ผ่านการรักษาจากคุณหมอ พบว่า ไมเกรนหายเป็นปลิดทิ้ง
มันคงเป็นความบังเอิญเหมือนการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ บ่อยครั้งผลงานเด่นเป็นเพราะความบังเอิญและ
ความช่างสังเกตุของนักวิทยาศาสตร์ คนไข้แทบทุกรายมีอาการโรคตาอื่นพร้อมกับเป็นไมเกรน
แต่พอรักษาไอ้โรคตาอื่นพอทุเลา แต่ไมเกรนหายได้
ภรรยาผมก็เป็นไมเกรน โดยไม่ได้เป็นโรคตาอื่นๆ ผมจึงจะพาไปหาคุณหมอเพื่อขอวิธีรักษาโรคดังกล่าว
เพราะคาดว่า เผื่อว่าไมเกรนจะหาย ถ้าไมเกรนของภรรยาผมหายไป มันจะเป็นพรจากสวรรค์ที่มีค่าอย่างยิ่ง ผมก็หวังเป็นอย่างนั้น
วันนี้ผมตื่นตั้งแต่ตีสื่ ออกเดินทางตีห้า แวะเติมน้ำมัน ก็ขับรถไปเรื่อย ๆ ความเร็วเดินทางประมาณ 110 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รู้สึกว่ารถสิบล้อมากกว่าปกติ ผมทำรายการเดินทางตั้งแต่แยกสระบุรี ให้ภรรยาและลูกสาวเป็นเนวิเกเตอร์
ทั้งสองดูตื่นเต้นมากเพราะครั้งนี้จะเป็นการวิ่งรถออกนอกเส้นทาง มุ่งไปทางถนนกาญจนาภิเษก เมื่อหนาวปีก่อนโน้นผมเคยผ่านไปราชบุรี
ตอนนั้นเนวิเกเตอร์เป็นน้องที่ทำงานมันพาหลงตลอดเส้นทาง ผมไปลงบทความไว้ในเว็บ วีโก้คลับดอทคอม
ไปลงยูเทินหน้าโรงพยาบาลบางมดพระราม 2 เวลา 09.09 น. กว่าจะเสร็จธุระที่โรงพยาบาลก็ 11.00 น.
แวะทานข้าวที่เซนทรัลพระราม 2 ทานข้าวเสร็จ ก็เดินดูนั้นดูนี้ หมดค่าเสื้อผ้ากับกระเป๋าสะพายไปอีกหลายพัน
เดือนเมษายนนี้ ผมมีโครงการเดินทางไกล ซึ่งผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ถ้าไม่จำเป็น อยากอยู่เฉย ๆ มากกว่า
ออกจากเซนทรัลพระรามสองก็ราวบ่ายสองโมงสิบนาที ต้องไปยูเทินที่เดิมอีกครั้งตรงหน้าโรงพยาบาลบางมด
แล้วก็มุ่งหน้ากลับบ้านไปหลงทางนิดนึง ตอนถึงทางแยกเลี้ยวไปบางนา ผมไม่รู้ทางเพราะดันทำแต่แผนเดินทางมาโรงพยาบาล
แต่ไม่ได้ทำแผนเดินทางกลับบ้าน เลยต้องไปยูเทินสะพานกลับรถย้อนมามุ่งไปบางแค รถติดเป็นตังเม ทำเวลาไม่ได้เลย
พอออกถนนพหลโยธินได้ ก็แวะปั๊ม ปตท เซเว่น ซื้อน้ำดื่มเกลือแร่ ก็ออกเดินทางต่อ จนกระทั่งจะเข้าสระบุรี
เจอพายุฝน ทำความเร็วได้ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถติดเป็นช่วง ๆ เพราะรถชนกันเป็นระยะ นั้นคือต้นเหตุทำให้รถติด

พ้นสระบุรีมาได้ฝนเบาลงเยอะ ถนนมีรถบ้างพอทำความเร็วได้ ความเร็วเดินทางปกติผมอยู่ 110-120 กม.ต่อ ชม.

ความเร็วเดินทางครับ แค่นี้ก็แซงรถกระบะทั่วไป รถทัวร์ รถเก๋งรุ่นเก่า รถผมสูงเห็นทัศนวิสัยดี
ในคู่มือบอกว่ารถสูง จะขับได้เร็วไม่เท่ารถเก๋ง ผมก็รู้ดีว่าโครงสร้างไม่ได้ออกแบบมาให้วิ่งเร็ว
เพราะ CG อยู่ในตำแหน่งสูง อ้อ CG น่าจะเป็นแรงหนีศูนย์กลางนะครับ ผมจึงขับรถแบบไปเรื่อย ๆ

บางช่วงมีวีโก้แซงไป ถ้าภรรยากับลูกสาวหลับผมก็แอบตอด ๆ ความเร็วไปที่ 140 กมต่อชั่วโมง
ประมาณว่าเกาะท้ายเขาไป แต่เท่าที่เห็นเกาะไปไม่นานเขาก็ผ่อนให้แซง ผมเองพอขับเร็วคันเดียวก็เหงา
ก็จะผ่อนลงมาที่ความเร็วเดินทางปกติอีกครั้ง ขับรถไปคิดเรื่องงานไปเพลินดี หัวสมองแล่นดีครับ

บางช่วงขับไปเผลอใจ พอก้มมองดูไมล์รถก็เห็นความเร็วป้วนเปี้ยนแถว 150 กมต่อชั่วโมง
ก็ต้องรีบผ่อน เพราะมันเร็วเกินไป ผมชอบความเร็วที่ 110-120 มากที่สุด เดินทางสบาย ๆ
ไปเรื่อย ๆ

ถ้าความเร็วประมาณนี้แสดงว่าไปเจอรถเก๋งยุโรป พวกเบนซ์ ก็ขับตามเขาไป อย่างที่บอก
รถสูงเวลาวิ่งเร็วจะโยน แต่ทราบกันไหมครับว่า รถทัวร์เวลาห้อไปรับลูกค้าจะวิ่งความเร็วไม่น้อยกว่านี้ครับ
ในอดีตตอนซื้อมาใหม่ ๆ ผมขับวีโก้คันนี้เดิม ๆ เจอถนนลอน ทำให้รถโยนย้ายเปลี่ยนเลน
ตั้งแต่นั้นมา ผมก็เซทช่วงล่างใหม่หมด สำหรับรถผม ผมจ่ายค่าช่วงล่างไปพอซื้อเว็บหัวฉีดใหม่ 1 คัน
ตอนนี้มันเลยเกาะถนนหนึบเป็นตุ๊กแก

ถ่ายรูปให้ดูที่ความเร็วเกือบ 180 ผมไม่กล้าวิ่งเร็วกว่านี้ ภรรยาและลูกหลับอยู่ แถมขับมือเดียวถ่ายรูปซะด้วย
เครื่องวีโก้จะถูกควบคุมไม่ให้เกิน 190 กมต่อชั่วโมง ถ้าจะเกินก็จะถูกคอมตัดรอบ
อย่างที่บอกโครงสร้างรถไม่ได้สร้างมาเพื่อใช้กับความเร็วสูง ดังนั้นวิศวกรรมเขาจึงตัดรอบไว้ประมาณนี้
เพราะอะไรหรือครับ ผมเดาว่าเพราะถ้าเร็วกว่านี้ รถอาจจะเป็นเครื่องบิน เมื่อล้อไม่แตะพื้นก็บังคับรถไม่ได้ครับ อันตรายมาก
วีโก้ทำความเร็วที่ขึ้นมาประมาณนี้มาแบบสบาย ๆ พลังของเครื่องยังมีอีกพอสมควร
ไม่ต้องรีดรอบ แล้วพวกที่ไปปลดตัดรอบ เพิ่มแรงม้า มันจะวิ่งกันเป็นพายุขนาดไหน ผมนึกไม่ออกจริง ๆ
แต่ก็ไม่รู้ว่าใจกล้าที่จะเหยียบเกิน 200 หรือเปล่า เพราะถ้าเกินบ่อย ๆ ครั้งหนึ่งเขาอาจจะพบกับคำว่า "บิน"
และอาจได้ "บิน" เป็นครั้งสุดท้ายก็เป็นได้
ถึงโคราชตอนห้าโมงเย็นแวะโลตัส ซื้ออาหารหมา ซีดีคุณพระช่วยที่เขาคัดเฉพาะต่อปากต่อคำกันตลก ๆ เห็นลูกสาวยืนดูแล้ว
หัวเราะ ผมก็เลยซื้อให้ ผมยืนดูแล้วเฉย ๆ นะ แต่ก็สนุกดี ออกโลตัว แวะทานราดหน้า แล้วก็กลับบ้าน
จบการเดินทางในวันนี้ แม้ไม่ได้การไม่ได้งาน แต่ก็ได้ความหวังที่ภรรยาผมจะหายจากไมเกรน.