เช้านี้ผมเดินออกมาสนามหญ้าเร็วกว่าทุกวัน เหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือบอกเวลา 05.45 น.
ยังไม่ 6 โมงเช้า แต่ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ถ้าเป็นหน้าหนาวเวลานี้ยังมืดมองอะไรไม่เห็น
ยืนบิดเอวไปมาอยู่กลางสนามหญ้าวอร์มร่างกายให้อบอุ่นสักหน่อย เช้านี้มีภาระที่เพื่อนสมาชิก
konputhai ให้โหลดรูปกระรอกเอาไปลองยืนยิงระยะ 30 เมตร ว่าจะลองยิงดูสักหน่อยเพราะที่ผ่าน ๆ มา
ก็ซ้อมยืนประทับยิงกับลูกมะม่วงเป็นประจำ ระยะก็ไม่เกิน 25 เมตร จนคนในบ้านต้องไปซื้อ
มะม่วงจากตลาดมาทานแทนเพราะลูกมะม่วงในบ้านโตไม่ทัน
บิดตัวไปมา พลันหางตาก็เห็นเงาปุยสีเหลืองวูบวาบลับไปกับสันหลังคนบ้านผู้กำกับที่อยู่ตรงข้าม
ผมจึงเหลียวหน้าดูให้เต็มตาก็เห็นแต่สันหลังคาคอนกรีต อืม..ม หรือว่าเราตาฝาดไปเอง
หรือไม่ก็ใจจดจ่อจะยิงกระรอกกระดาษที่เพื่อนสมาชิกเอามาวางให้โหลดในกระทู้หว่า....
ใจหนึ่งผมก็คิดว่าสังหรณ์ใจผมไม่น่าพลาด แต่อีกใจก็คิดว่าเราน่าจะแก่แล้วนะ
เสียงคนงึมงัม อยู่ด้านล่างนอกรั้ว ผมเดินไปมุมกำแพงชโงกหน้าดูตามช่องอิฐบล๊อกสูง ก็เห็นคนแก่
กำลังเตรียมตักบาตร มีพระ 3 รูปกำลังเข้าแถว จึงถอยออกมาห่าง ๆ เกรงจะรบกวนการทำบุญ
ของคนเฒ่าคนแก่
เดินถอยหลังมาอยู่กลางสนามหันหน้าไปทางบ้านผู้กำกับ นั้นไง กระรอกตัวสีเหลืองนวลกำลังไต่
สันคอนกรีตหลังคาลงมาทางด้านผม เอาไงดีปืนอยู่ห่างไปไม่เกิน 10 เมตร เสียงพระกำลังสวดให้พร
ผมคำนวณเวลาถ้าผมจะยิงกระรอกตัวนี้ อาจจะต้องยิงข้ามหัวพระ เพราะเมื่อพระสวดเสร็จก็จะต้อง
เดินเรียงแถวผ่านแนวยิงพอดี ผมตัดสินใจไม่ยิงดีกว่า เพราะกิจกรรมมันตรงข้ามกันมากแถมอยู่
ชิดกันอีก อีกคนตักบาตรอีกคนยิงกระรอก ดำกับขาว บุญกับบาป ผมปล่อยให้กระรอกไต่สันหลังคา
เล่นอีกสักพักแล้วมันก็ลับตาหายไปหลังหลังคา
จากนั้นผมจึงไปเตรียมกระรอกกระดาษ ปะติดฟิวเจอร์บอร์ด เอาไปวางพิงกล่องใส่วิทยุซีดี บนเตาเผาขยะริมรั้ว
แล้วเดินนับก้าวมาเรื่อย ๆ จนนับได้ 45 ก้าว ก็กะว่าระยะไม่ต่ำกว่า 30 เมตรแน่นอน จะเลยไปบ้าง
ก็ไม่เป็นไรถือว่าต่อให้นิดหน่อยก็แล้วกันนะ ก้มหน้ามองจุดยิงแล้วหันไปมองเป้า วะ มองด้วยสายตาก็
พอเห็นกระรอกในกระดาษเหมือนกัน ระยะนี้ศูนย์เปิดก็จะยิงได้ แสดงว่ายังไม่ไกลเท่าไหร่
เดินกลับไปเปิดกระเป๋าปืนที่อยู่ห่างไป 10 กว่าเมตร บรรจุกระสุนลงในแมกกาซีนจำนวน 10 นัด
อันที่จริงใจอยากจะใส่นัดเดียว โดนไม่โดนก็เลิกยิงไปเลย เพราะถ้านัดแรกยิงพลาดแล้วเจ้ากระรอกก็
ไม่เคยรอให้ยิงซ้ำนัดที่ 2
ดึงก้านคันรั้งมาจนสุดแล้วดึงแมกกาซีนเก่าออกเปลี่ยนแมกกาซีนใหม่ที่มีกระสุนเต็มแมกลงไปแทน
ผลักคันรั้งกลับเข้าที่เดิม เซพไกไม่ต้องไปกดมันเพราะปืนรุ่นนี้มันเซพแค่ไกไม่ได้เซพที่นกปืน
ดังนั้นเมื่อผลักปุ่มเซพไกแล้วอย่านอนใจว่าปืนจะไม่ลั่นได้
ผมเดินมายังจุดยิง หมุนโฟกัสหยาบ ๆ ไปที่ 50 หลา ยกปืนประทับเล็งไปที่กระรอกกระดาษ ภาพกระรอกชัดเจน
พยักหน้าดูพาราแรกไม่มี จัดกากะบาทให้นิ่ง กากะบาทมันก็ไม่นิ่งไหวไปมา ทำไงดี ประทับปืนยิงมันไม่ง่ายเลย
ถ้าพยายามจะยิงให้ได้ในเวลาที่กำหนด เพราะกระรอกไม่ค่อยหยุดนิ่งนานนอกจาก กิน นอนหลับ หลบภัย
เอาใหม่ มือซ้ายบีบกระโจมปืนให้แน่นดึงสต๊อกเข้ามาทำให้พานท้ายอัดกับซอกไหล่แน่น มือขวาเกร็งล๊อกข้อมือ
สูดหายใจพอประมาณแล้วกลั้น วาดกากะบาทจากเหนือกระรอกลงผ่านตัวกระรอก พอกากะบาทผ่านก็หยุดแล้วเหนี่ยวไกทันที
เสียงปืนอัดลมดังขึ้นในเวลา 05.58 น. เสียงกระสุนกระทบกระรอกกระดาษดังปั๊บ ในกล้องเล็งผมเห็นต้นขาหน้า
กระรอกเป็นรู ก็เป็นอันจบการยิงกระรอกกระดาษในเช้าวันนี้