U.S.J.
Jr. Member
คะแนน 4
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 47
|
|
« ตอบ #60 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 01:07:16 PM » |
|
ตั้งแต่ ไอร์ตัน เซนนาตายก็ไม่ค่อยได้ติดตามอีกเลยครับ ไอร์ตัน เซนนา คนในภาพใช่มั้ยครับ รู้ข้อมูลคร่าวๆว่าเสียชีวิตในปี 1994 ที่สนาม Imola เสียดายที่ไม่ได้ติดตามผลงานเพราะยังเกิดไม่ทัน ตอนนี้ได้แค่ดูภาพการแข่งขันเก่าๆจากทาง Youtube ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอลิ่วเฮียง - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 234
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1038
|
|
« ตอบ #61 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 01:22:35 PM » |
|
ยุคไอร์ตั้น เซนน่า ผมว่าเป็นสุดๆ ของฟอร์มูล่าวันแล้วครับ........ เครื่องยนต์ 1500 ซีซี 10 สูบ เทอร์โบ ของฮอนด้า ว่ากันว่าบางสนามกระฉูดขึ้นไปถึง เกือบๆ สองพัน แรงม้า รถถึงขับยาก ควบคุมยาก ชนบ่อย คว่ำบ่อย หลังจากอุบัติเหตุ เซนน่าเสียชีวิต ฟอร์มูล่าวันก็ออกกติการายปี ตอนให้แรงม้าน้อยลง บวกเข้ากับกระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เดี๋ยวนี้แรงเต็มที่ไม่น่าจะเกิน 800 แรงม้า แต่ก็ยังชอบดูครับ.......
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขอเป็นข้า รองพระบาท ทุกชาติไป
|
|
|
naisomchai
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #62 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 02:59:07 PM » |
|
เหอๆ... บังเอิญนายสมชายจำได้ครับ... เครื่องตกที่ไต้หวันเมื่อปี 1999 แต่เมียนักบินฟ้องล็อกฮีด มาร์ตินในปี 2003 ครับ... เย้...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
U.S.J.
Jr. Member
คะแนน 4
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 47
|
|
« ตอบ #63 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 04:34:20 PM » |
|
ยุคไอร์ตั้น เซนน่า ผมว่าเป็นสุดๆ ของฟอร์มูล่าวันแล้วครับ........ เครื่องยนต์ 1500 ซีซี 10 สูบ เทอร์โบ ของฮอนด้า ว่ากันว่าบางสนามกระฉูดขึ้นไปถึง เกือบๆ สองพัน แรงม้า รถถึงขับยาก ควบคุมยาก ชนบ่อย คว่ำบ่อย หลังจากอุบัติเหตุ เซนน่าเสียชีวิต ฟอร์มูล่าวันก็ออกกติการายปี ตอนให้แรงม้าน้อยลง บวกเข้ากับกระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เดี๋ยวนี้แรงเต็มที่ไม่น่าจะเกิน 800 แรงม้า แต่ก็ยังชอบดูครับ.......
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับพี่ชอลิ่วเฮียง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ferocious
Full Member
คะแนน 12
ออฟไลน์
กระทู้: 266
|
|
« ตอบ #64 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 07:26:00 PM » |
|
2000 แรงม้า ใครจะคลุมได้ หักพวงมาลัยนิดเดียว แถขอบสนามได้เลย
สมาธิ ความแข็งแรงของร่างกายคนขับ ต้องสุดยอดมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอลิ่วเฮียง - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 234
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1038
|
|
« ตอบ #65 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 09:34:04 PM » |
|
เรื่องมันเกิดนานแล้วนะครับ.....ผมอาจจะจำผิดก็ได้ แต่มีอยู่สนามหนึ่งครับ ปัจจุบันนี้ fastest lap จะอยู่ที่ประมาณ 1 นาที 10 กว่าวินาที แต่สถิติเซนนาทำไว้เร็วกว่าปัจจุบันถึง 10 กว่าวินาทีครับ(คือไม่ถึง 1 นาที) เพราะฉนั้นทั้งรถทั้งคนจะต้องแรงกว่าปัจจุบันนี้มากครับ กติกาสมัยนั้นเช่น - เครื่องยนต์ ไม่จำกัดจำนวนลูกสูบ ถ้าไม่มีเทอร์โบ ให้ 3500 ซีซี ถ้ามีเทอร์โบ ให้ 2000 ซีซี ปรากฎว่าฮอนด้าผงาดเป็นแชมป์โลกเลย ด้วยเครื่อง 2000 เทอร์โบ พอฮอนด้าชนะจนคนดูเบื่อก็เปลี่ยนกติกาลดเหลือแค่ 1500 ซีซี แล้วต่อมาก็จำกัดบูสท์ของเทอร์โบอีก หลังจากเซนน่าตายก็ยกเลิกเครื่องเทอร์โบ ให้ใช้แต่เครื่อง NA (หายใจเอง) หลังจากนั้นก็ลดเหลือ 3000 ซีซี ไม่รู้ว่าปีนี้ลดซีซีเหลือเท่าไหร่แล้วครับ แล้วก็กติกาหยุมหยิมอื่นๆ อีกเยอะครับ เช่นห้ามเปลี่ยนเครื่อง จำกัดการเปลี่ยนยาง คุมเรื่องชิ้นส่วนอากาศพลศาสตร์ ฯลฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขอเป็นข้า รองพระบาท ทุกชาติไป
|
|
|
CT_Pro4
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 537
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 4869
|
|
« ตอบ #66 เมื่อ: มีนาคม 30, 2010, 07:01:45 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Every problem contains the seeds of its own solution.- Stanley Arnold
|
|
|
CT_Pro4
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 537
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 4869
|
|
« ตอบ #67 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 10:35:34 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Every problem contains the seeds of its own solution.- Stanley Arnold
|
|
|
coda
None of us is as smart as all of us.
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 1081
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20779
เว็บไซต์
|
|
« ตอบ #68 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 10:45:58 AM » |
|
...ตามอ่านอยู่นะครับ ...เซนน่า ยอดนักแข่ง ถือเป็นวีรบุรุษคนหนึ่งของชาวแซมบ้า บราซิล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
คะแนน 925
ออฟไลน์
กระทู้: 509
|
|
« ตอบ #69 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 01:07:09 PM » |
|
ชอบชมเหมือนกันครับ ชอบเรื่องมอเตอรฺสปอร์ตและเทคโนโลยีทางด้านนี้ แต่ก่อนก็บ้าปืนเดี๋ยวนี้บ้ารถมากกว่า เพราะให้ความสนุกตื่นเต้นได้มากกว่า วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพิ่งดูที่ออสเตเลียจบไปยังสงสัยไม่หายเลยว่าไอ้หนูเวทเทลเสียจังหวะยังไง กำลังนำอยู่ดีๆพอโค้งรอบกลางๆก็อันเดอร์สเตียร์จนแก้ไม่ได้ลงไปคลุกทรายซะงั้น และต้องขอชมบัทตันที่ขับด้วยยางชุดเดียวได้เกือบ 50 รอบไม่เข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางชุดที่ 2 เลย(ทำได้ไง) จนนำโด่งเข้าเส้นแบบไม่เห็นที่ 2
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู" ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
|
|
|
Daimyo
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 924
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 9042
|
|
« ตอบ #70 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 02:29:48 PM » |
|
ท่าน CT Pro4ช่วยอธิบายเรื่องกฏใหม่ของFIAเกี่ยวกับการเติมนํามันหน่อยสิครับ..... วิจารณ์หน่อยก็จะดีมาก....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ดังสายลมที่พัดผ่านลานป่า..พาใบไม้พลัดถิ่น..ดั่งสายน้ำที่ไหลรินพัดพา..นำดวงใจฉันมาใกล้เธอ.. "ความหวังดีที่เธอให้สังคม ฉันชื่นชมเธอเสมอ"
|
|
|
CT_Pro4
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 537
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 4869
|
|
« ตอบ #71 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 03:38:12 PM » |
|
ท่าน CT Pro4ช่วยอธิบายเรื่องกฏใหม่ของFIAเกี่ยวกับการเติมนํามันหน่อยสิครับ..... วิจารณ์หน่อยก็จะดีมาก.... ...มิบังอาจครับพี่ Daimyo ความรู้ผมน้อยนิด ตามความเข้าใจของผม ผมคิดว่าทาง FIA ต้องการที่จะลดความได้เปรียบเสียเปรียบใน Pit Stop ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากค่ายที่มีอันดับ Constructor ดีกว่าจะมีตำแหน่งของ Pit ที่ดีกว่าซึ่งก็มักจะหนีไม่พ้นทีมใหญ่ๆ ความได้เปรียบของตำแหน่ง Pit จะมีผลเป็นอย่างมากกับผลแพ้ชนะ ดังนั้นทาง FIA จึงเปลี่ยนกฎในเรื่องของการเติมน้ำมัน ซึ่งจะไม่ให้มีการเติมน้ำมันในระหว่างการแข่งขัน ดังนั้นจึงนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างของรถขนานใหญ่ เนื่องจากรถแข่งแต่ละคันจะต้องใช้ถังน้ำมันที่ใหญ่ขึ้นจากเดิมที่มีความจุประมาณ 80 ลิตร ให้เป็นเกือบ 250 ลิตร... ...จากข้อกำหนดเรื่องการห้ามเติมน้ำมันและขนาดของถังน้ำมันที่ใหญ่ขึ้นนั้น ทำให้โครงสร้างของรถจำเป็นต้องมี Wheelbase ที่ยาวขึ้น ความกว้างของรถด้านท้ายมีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงการจัดการเรื่องของการกระจายน้ำหนักที่เปลี่ยนไป ยิ่งไปกว่านั้นการกำหนดกลยุทธ์ของแต่ละทีมก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เพราะการเข้า Pit จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อต้องเปลี่ยนยางหรือเข้ามาแก้ไขปัญหาทางเทคนิคเท่านั้นเช่น แก้ไขเรื่อง Aerodynamic ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น การวางกลยุทธ์ของทีมจะไม่ขึ้นอยู่กับ Pit Stop Strategy อีกต่อไป น้ำหนักของรถ ณ จุดสตาร์ทก็แทบจะไม่มีความแตกต่างกัน เรื่องรถเบา รถหนัก รวมถึงจำนวนการเข้า Pit ก็จะถูกตัดออกจากการวางแผนของทีมในปี 2010 ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จึงทำให้การวางแผนของแต่ละทีมมุ่งเน้นไปที่ความสามารถของตัวนักแข่งกับประสิทธิภาพของรถเป็นหลัก นักแข่งจะต้องเข้าใจถึง track และตัวรถเป็นอย่างดี แต่ถ้าพูดตามตรงผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไม FIA ถึงออกกฎนี้ออกมา ผมว่าอรรถรสของการดู F1 ส่วนหนึ่งก็มาจากการดู Pit Stop Strategy ของแต่ละทีมครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Every problem contains the seeds of its own solution.- Stanley Arnold
|
|
|
Daimyo
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 924
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 9042
|
|
« ตอบ #72 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 07:06:59 PM » |
|
ขอบคุณครับ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ดังสายลมที่พัดผ่านลานป่า..พาใบไม้พลัดถิ่น..ดั่งสายน้ำที่ไหลรินพัดพา..นำดวงใจฉันมาใกล้เธอ.. "ความหวังดีที่เธอให้สังคม ฉันชื่นชมเธอเสมอ"
|
|
|
U.S.J.
Jr. Member
คะแนน 4
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 47
|
|
« ตอบ #73 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 09:19:02 PM » |
|
ชอบชมเหมือนกันครับ ชอบเรื่องมอเตอรฺสปอร์ตและเทคโนโลยีทางด้านนี้ แต่ก่อนก็บ้าปืนเดี๋ยวนี้บ้ารถมากกว่า เพราะให้ความสนุกตื่นเต้นได้มากกว่า วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพิ่งดูที่ออสเตเลียจบไปยังสงสัยไม่หายเลยว่าไอ้หนูเวทเทลเสียจังหวะยังไง กำลังนำอยู่ดีๆพอโค้งรอบกลางๆก็อันเดอร์สเตียร์จนแก้ไม่ได้ลงไปคลุกทรายซะงั้น และต้องขอชมบัทตันที่ขับด้วยยางชุดเดียวได้เกือบ 50 รอบไม่เข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางชุดที่ 2 เลย(ทำได้ไง) จนนำโด่งเข้าเส้นแบบไม่เห็นที่ 2
ยินดีต้อนรับครับพี่ your แวะเข้ามาบ่อยๆนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
คะแนน 925
ออฟไลน์
กระทู้: 509
|
|
« ตอบ #74 เมื่อ: มีนาคม 31, 2010, 09:35:36 PM » |
|
ท่าน CT Pro4ช่วยอธิบายเรื่องกฏใหม่ของFIAเกี่ยวกับการเติมนํามันหน่อยสิครับ..... วิจารณ์หน่อยก็จะดีมาก.... ...มิบังอาจครับพี่ Daimyo ความรู้ผมน้อยนิด ตามความเข้าใจของผม ผมคิดว่าทาง FIA ต้องการที่จะลดความได้เปรียบเสียเปรียบใน Pit Stop ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากค่ายที่มีอันดับ Constructor ดีกว่าจะมีตำแหน่งของ Pit ที่ดีกว่าซึ่งก็มักจะหนีไม่พ้นทีมใหญ่ๆ ความได้เปรียบของตำแหน่ง Pit จะมีผลเป็นอย่างมากกับผลแพ้ชนะ ดังนั้นทาง FIA จึงเปลี่ยนกฎในเรื่องของการเติมน้ำมัน ซึ่งจะไม่ให้มีการเติมน้ำมันในระหว่างการแข่งขัน ดังนั้นจึงนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างของรถขนานใหญ่ เนื่องจากรถแข่งแต่ละคันจะต้องใช้ถังน้ำมันที่ใหญ่ขึ้นจากเดิมที่มีความจุประมาณ 80 ลิตร ให้เป็นเกือบ 250 ลิตร... ...จากข้อกำหนดเรื่องการห้ามเติมน้ำมันและขนาดของถังน้ำมันที่ใหญ่ขึ้นนั้น ทำให้โครงสร้างของรถจำเป็นต้องมี Wheelbase ที่ยาวขึ้น ความกว้างของรถด้านท้ายมีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงการจัดการเรื่องของการกระจายน้ำหนักที่เปลี่ยนไป ยิ่งไปกว่านั้นการกำหนดกลยุทธ์ของแต่ละทีมก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เพราะการเข้า Pit จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อต้องเปลี่ยนยางหรือเข้ามาแก้ไขปัญหาทางเทคนิคเท่านั้นเช่น แก้ไขเรื่อง Aerodynamic ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น การวางกลยุทธ์ของทีมจะไม่ขึ้นอยู่กับ Pit Stop Strategy อีกต่อไป น้ำหนักของรถ ณ จุดสตาร์ทก็แทบจะไม่มีความแตกต่างกัน เรื่องรถเบา รถหนัก รวมถึงจำนวนการเข้า Pit ก็จะถูกตัดออกจากการวางแผนของทีมในปี 2010 ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จึงทำให้การวางแผนของแต่ละทีมมุ่งเน้นไปที่ความสามารถของตัวนักแข่งกับประสิทธิภาพของรถเป็นหลัก นักแข่งจะต้องเข้าใจถึง track และตัวรถเป็นอย่างดี แต่ถ้าพูดตามตรงผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไม FIA ถึงออกกฎนี้ออกมา ผมว่าอรรถรสของการดู F1 ส่วนหนึ่งก็มาจากการดู Pit Stop Strategy ของแต่ละทีมครับ... ผมขอแย้งครับ..กติกานี้ทำให้รถสูตร1มีความมันส์เพิ่มขึ้นมาอีกแยะเลย แทนที่จะต้องไปเสียเวลาเพิ่มในพิทเพื่อกลับออกมาลุ้นอันดับ กลับมีเวลาได้วัดกันในสนามแบบยาวๆ สนามล่าสุดนี้จะเห็นว่ารถมีการแซงกันบ่อยมากๆ หนูแฮมหรือลุงชูก็มีเวลาไต่จากอันดับท้ายๆที่ไม่มีแต้มจนสามารถขึ้นมาอยู่ในลำดับที่มีคะแนนสะสมได้ ผมว่าผู้จัดเดินมาถูกทางแล้วครับ ปีที่แล้วคนนำก็นคนตามก็ตามแทบไม่มีการแซงดุแล้วง่วงมากๆ ชอบชมเหมือนกันครับ ชอบเรื่องมอเตอรฺสปอร์ตและเทคโนโลยีทางด้านนี้ แต่ก่อนก็บ้าปืนเดี๋ยวนี้บ้ารถมากกว่า เพราะให้ความสนุกตื่นเต้นได้มากกว่า วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพิ่งดูที่ออสเตเลียจบไปยังสงสัยไม่หายเลยว่าไอ้หนูเวทเทลเสียจังหวะยังไง กำลังนำอยู่ดีๆพอโค้งรอบกลางๆก็อันเดอร์สเตียร์จนแก้ไม่ได้ลงไปคลุกทรายซะงั้น และต้องขอชมบัทตันที่ขับด้วยยางชุดเดียวได้เกือบ 50 รอบไม่เข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางชุดที่ 2 เลย(ทำได้ไง) จนนำโด่งเข้าเส้นแบบไม่เห็นที่ 2
ยินดีต้อนรับครับพี่ your แวะเข้ามาบ่อยๆนะครับ ขอคุณครับ..ถ้ามีเวลาก็จะติดตามตลอดครับ แต่ยิ่งอายุมากขึ้นเวลาหย่อนใจแบบนี้ก็น้อยลง อย่างไรจะแวะเวียนมาทักทายบ่อยๆครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู" ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
|
|
|
|