ในซีซั่นนี้ การออกสตาร์ทด้วยตำแหน่ง โพล โพซิชั่น ยังเป็นอาถรรพ์ที่ส่งผลต่อผลการแข่งขันใน Race Day วันอาทิตย์อีกแล้ว เมื่อ เซบาสเตียน เว็ตเทล นักซิ่งของ เรดบูลส์ ซึ่งคว้าตำแหน่งนี้ในการออกสตาร์ท และถือเป็นตำแหน่งโพล โพซิชั่นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 สนามแรกของเขาในปีนี้ ไม่สามารถไปถึงดวงดาวได้ ปล่อยให้ขุนพลของ แม็คลาเรน ผงาดคว้าชัยในรายการ ไชนีส กรังด์ปรีซ์ โดยเข้าวินในแบบ 1-2 และมี เจนสัน บัตตัน คว้าแชมป์ในรายการนี้ไปครอง
แชมป์นี้เป็นแชมป์ GP รายการที่ 2 ในปีนี้และครั้งที่ 9 ในชีวิตการเป็นนักแข่งของบัตตัน ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักแข่งคนแรกในซีซั่นนี้ ที่คว้าแชมป์ GP ได้ 2 สนาม ขณะที่ ลูอิส แฮมิลตัน เพื่อนร่วมทีมที่เข้าเส้นชัยอันดับ 2 ถือเป็นครั้งแรกในปีนี้ ที่สามารถจบการแข่งขันโดยยืนรับรางวัลบนโพเดี้ยม
อย่างไรกตาม ตัวแฮมิลตันมีโอกาสโดนลงโทษตามหลัง เพราะในระหว่างการแข่งขัน จังหวะที่ออกจากพิตมีการเบียด และปาดหน้ารถของเว็ตเทลในพิตเลน ซึ่งหลังการแข่งขันทางกรรมการสนามได้ทำการตรวจสอบและกำลังสอบสวน โดยกรรมการสนาม 4 คนได้ส่งข้อความเพื่อขอคำชี้แจงจากผู้ควบคุมทีมแม็คลาเรนซึ่งก็คือ มาร์ติน วิทช์มาร์ช ถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้
"ผมไม่คิดว่าเราจะโดนลงโทษตามหลัง เพราะทั้งในจังหวะที่เข้าและออกจากพิต ทั้ง 2 คันตีคู่กันมา และนักแข่งทั้ง 2 คน ให้ความเห็นเหมือนกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นเพราะแทร็คลื่น" วิทช์มาร์ชกล่าว
อาการของเว็ตเทลและมาร์ค เว็บเบอร์ เพื่อนร่วมทีมเรดบูลส์ ซึ่งออกสตาร์ทในอันดับ 1-2 ทำท่าไม่ค่อยดีตั้งแต่โค้งแรกแล้ว เมื่อ เฟอร์นันโด อลองโซ่ ของทีม เฟอร์รารี่ ซึ่งออกสตาร์ทในอันดับที่ 3 สามารถแซงขึ้นหน้าได้ตั้งแต่โค้งแรก แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว อลองโซ่ก็โดนลงโทษให้ขับเข้าพิต เพราะว่าออกตัวก่อน ทำให้อันดับกลับมาเป็นเหมือนเดิม และในช่วงรอบแรกกันนี้ก็เกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ Safety Car ต้องออกมาวิ่ง เมื่อรถแข่งของ วิตอันโตนิโอ ลิอุซซี่ ของทีม ฟอร์ซอินเดีย ประสบอุบัติเหตุ และไหลกลับเข้ามาในแทร็ก จนชนเข้ากับรถแข่งอีก 2 คัน คือ เซบาสเตียน บูเอมี่ ของทีม STR และ คามูอิ โคบายาชิ ของ บีเอ็มดับเบิลยู ซอเบอร์
แม้ก่อนหน้านี้จะมีการพยากรณ์อากาศล่วงหน้าว่าจะเกิดฝนตก และในช่วงก่อนการสตาร์ทจะมีฝนโปรยลงมา และตกเป็นเม็ดๆ ตลอดการแข่งขันในช่วงแรก แต่ก็ยังไม่หนักมากนัก อากาศที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และไม่มีความแน่นอน กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อชัยชนะในสนามนี้ เพราะหลังจากที่ฝนเริ่มตกหนักและทีมส่วนใหญ่สั่งรถแข่งเข้าพิตเพื่อเปลี่ยนมาเป็นยาง Intermediate
แต่สุดท้ายก็กลายเป็นว่าตัดสินใจผิด เพราะปรากฏว่าพื้นสนามยังเปียกไม่พอสำหรับการใช้งานของยางประเภทนี้ ทำให้รถแข่งหลายคันต้องกลับเข้ามาเปลี่ยนเป็นยางสลิกอีกครั้ง โดยในช่วงแรกบัตตันไม่เลือกที่จะเข้าเปลี่ยนยาง และนั่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขาสามารถขยับขึ้นมาเป็นผู้นำ
วิทช์มาร์ชเผยว่าการวางแผนการเข้าพิตที่ดีในจังหวะที่เหมาะสม คือเหตุผลที่ทำให้นักแข่งของทีมแม็คลาเรน สามารถขยับอันดับขึ้นมาเป็นผู้นำ และจบการแข่งขันแบบ 2 อันดับแรกเป็นครั้งแรกในซีซั่นนี้ ทั้งที่บัตตันและแฮมิลตันออกสตาร์ทในอันดับที่ 5 และ 6
ทางด้านทีม เมอร์เซเดส จีพี ได้มีโอกาสฉลองความสำเร็จอีกครั้ง เมื่อทาง นิโก้ รอสเบิร์ก สามารถจบการแข่งขัน ในตำแหน่งบนโพเดี้ยมอีกครั้งในอันดับที่ 3 ขณะที่ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ค่อนข้างออกอาการหงุดหงิด เพราะแม้ว่าจะจบรายการนี้ด้วยอันดับที่ 10 มีคะแนนติดมือกลับมา 1 แต้ม แต่ทว่าตลอดการแข่งขัน เขาต้องเผชิญกับปัญหารถแข่งมีปัญหาเกี่ยวกับการยึดเกาะอยู่ตลอดเวลา
สำหรับเฟอร์รารี่ จากการที่เกือบจะได้เป็นผู้ชนะ แต่เพราะโดนลงโทษจากการออกตัวก่อนของอลองโซ่ ทำให้ทีมต้องเผชิญกับการตะเกียกตะกายในการขยับอันดับเพื่อลุ้นแชมป์ ซึ่งทางอลองโซ่ก็แสดงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าจะโดนลงโทษและทำให้อันดับรูดลงไปอย่างมาก แต่ทว่าเขาก็สามารถขยับอันดับไล่แซงขึ้นมา จนกระทั่งจบการแข่งขันในอันดับที่ 4 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยที่ เฟลิปเป แมสซ่า เพื่อนร่วมทีมต้องเสียตำแหน่งผู้นำในตารางคะแนนสะสม เพราะทำได้ดีแค่อันดับที่ 9
สรุปผลการแข่งขัน Chinese GP
01 - Jenson Button - McLaren-Mercedes 1:46:42.163
02 - Lewis Hamilton - McLaren-Mercedes +1.5 secs
03 - Nico Rosberg - Mercedes GP +9.4 secs
04 - Fernando Alonso - Ferrari +11.8 secs
05 - Robert Kubica - Renault +22.2 secs
06 - Sebastian Vettel - RBR-Renault +33.3 secs
07 - Vitaly Petrov - Renault +47.6 secs
08 - Mark Webber - RBR-Renault +52.1 secs
09 - Felipe Massa - Ferrari +57.7 secs
10 - Michael Schumacher - Mercedes GP +61.7 secs
11 - Adrian Sutil - Force India-Mercedes +62.8 secs
12 - Rubens Barrichello - Williams-Cosworth +63.6 secs
13 - Jaime Alguersuari - STR-Ferrari +71.4 secs
14 - Heikki Kovalainen - Lotus-Cosworth +1 Lap
15 - Nico Hulkenberg - Williams-Cosworth +1 Lap
16 - Bruno Senna - HRT-Cosworth +2 Laps
17 - Karun Chandhok - HRT-Cosworth +4 Laps
Ret - Jarno Trulli - Lotus-Cosworth Hydraulics
Ret - Lucas di Grassi - Virgin-Cosworth Clutch
Ret - Pedro de la Rosa - BMW Sauber-Ferrari Technical
Ret - Sebastien Buemi - STR-Ferrari Accident
Ret - Kamui Kobayashi - BMW Sauber-Ferrari Accident
Ret - Vitantonio Liuzzi - Force India-Mercedes Accident
Ret - Timo Glock - Virgin-Cosworth Engine
Ret -
สรุปอันดับคะแนนสะสมประเภทนักแข่ง
01 - Jenson Button - British 60
02 - Nico Rosberg - German 50
03 - Fernando Alonso - Spanish 49
04 - Lewis Hamilton - British 49
05 - Sebastian Vettel - German 45
06 - Felipe Massa - Brazilian 41
07 - Robert Kubica - Polish 40
08 - Mark Webber - Australian 28
09 - Adrian Sutil - German 10
10 - Michael Schumacher - German 10
11 - Vitantonio Liuzzi - Italian 8
12 - Vitaly Petrov - Russian 6
13 - Rubens Barrichello - Brazilian 5
14 - Jaime Alguersuari - Spanish 2
15 - Nico Hulkenberg - German 1
สรุปอันดับคะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต
01 - McLaren-Mercedes 109
02 - Ferrari 90
03 - RBR-Renault 73
04 - Mercedes GP 60
05 - Renault 46
06 - Force India-Mercedes 18
07 - Williams-Cosworth 6
08 - STR-Ferrari 2
cradit : motortrivia.com