เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 08, 2024, 05:00:58 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไขเทียนใช้เครือบเกลียวปืนได้ไหม  (อ่าน 5827 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: มีนาคม 24, 2010, 10:55:57 PM »

นี่ครับคุณ Utan หล่อไม่ย่อย อิอิ

มีรูปอื่นอีกรึเปล่าครับพี่ เยี่ยมชอบมากครับ  ไหว้
ชอบพวกเดียวกันเหรอ กัปปิตัน อิอิอิ  ล้อเล่นนะ
นี่ครับดูคุณอุทาน

นี่บ้านคุณอุทานครับ
http://www.alligatoradventure.com/

http://www.youtube.com/watch?v=Y0Tp4Ilh0jk#normal
บันทึกการเข้า
สีสัน
Full Member
***

คะแนน 13
ออฟไลน์

กระทู้: 123



« ตอบ #16 เมื่อ: มีนาคม 25, 2010, 12:13:48 AM »


          แนวคิดแปลกดี  .....  ผมคิดว่าเคลือบด้วยไขเทียนยิงนัดแรกความร้อนก็ละลายหมดแล้ว ไม่น่ามีประโยชน์อะไร


ไม่ต้องเคลือบครับ หัวกระสุนอ่อนกว่าลำกล้อง ในเมืองไทย คนธรมดาสามัญทั่วๆไป ไม่มีใครได้ยิงจนลำกล้องสึกหรอหมดสภาพหรอกครับ เพราะกระเป๋าจะพังก่อนลำกล้องพัง เอาแค่ปืนจีนธรรมดาๆ ตั้งอายุการใช้งานไว้ 5,000 นัด กระสุนซ้อมนัดละ 15 บาท เป็นเงิน  75,000 บาท แล้วครับ ส่วนปืนยุโรป อเมริกา ยี่ห้อดังๆ ยิง 20,000 นัด ยังเฉยๆ ค่ากระสุนปาไปเท่าไรแล้วครับ

ขอถามพี่ๆเพิ่ม  เคยอ่านในหนังสือปืน ลูกหัวตะกั่วซ้อมจะมีร่องไว้ใส่ไขเทียน มีไว้เพื่ออะไรครับ  Huh Huh Huh
บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: มีนาคม 25, 2010, 03:06:15 AM »

bullets lube  ส่วนมากจะไว้ใช้กับกระสุนหัวตะกั่ว   ที่เรียกว่า hard cast ครับ  จะร่องที่ฐานลูกที่เห็นเป็นแถบสีน้ำเงิน นั่นคือ lube wax ครับ
จุดประสงค์ของ lube wax คือช่วยไม่ให้แก๊สที่ดันหัวกระสุนรั่ว  เพราะที่ผิวลำกล้องจะมีรูหรือรอยขีดข่วน  ซึ่งเล็กมากๆแต่แก๊สก็สามารถดันผ่านได้
คงจะมีคนที่คิดว่า  ความร้อนจะทำให้ lube wax ละลาย  แล้วมันจะช่วยได้อย่างไร   จากผู้รู้บอกว่าไม่ทันได้ละลายครับ 
ข้อมูลมาจากที่นี่
http://www.leverguns.com/articles/fryxell/lube.htm
บันทึกการเข้า
Enruoblem
Hero Member
*****

คะแนน 84
ออฟไลน์

กระทู้: 1755



« ตอบ #18 เมื่อ: มีนาคม 25, 2010, 08:43:24 AM »

ชอบพวกเดียวกันเหรอ กัปปิตัน อิอิอิ  ล้อเล่นนะ
นี่ครับดูคุณอุทาน
ขอบคุณครับพี่ ไหว้ ผมเพิ่งจะทราบว่ามีจระเข้สายพันธุ์อเมริกันด้วย Southern Florida is the only place where both alligators and crocodiles live side by side.(wikipedia)

Two larger certifiable records are both of 6.2 metres (20 ft) crocodiles. The first crocodile was shot in the Mary River in the Northern Territory of Australia in 1974 by poachers and measured by wildlife rangers.[citation needed] The second crocodile was killed in 1983 in the Fly River, Papua New Guinea. In the case of the second crocodile it was actually the skin that was measured by zoologist Jerome Montague, and as skins are known to underestimate the size of the actual animal, it is possible this crocodile was at least another 10 cm longer.[citation needed]

The largest crocodile ever held in captivity is an Estuarine–Siamese hybrid named Yai (Thai: ใหญ่, meaning big) (born 10 June 1972) at the famous Samutprakarn Crocodile Farm and Zoo, Thailand. This animal measures 6 m (19.69 ft) (19 ft 8 in) in length and weighs 1114.27 kg.

The largest captive crocodile alive in the US is located in South Carolina. In June 2002, Alligator Adventure introduced Utan. At 20 feet (6.1 m) long and weighing in at more than a ton, "Utan", the largest crocodile to ever be exhibited in the United States, made his new home in Myrtle Beach.[15]

Wildlife experts, however, argue that the largest crocodile so far found in the Bhitarkanika was almost 23 feet (7.0 m) long, which could be traced from the skull preserved by the Kanika Royal Family. The crocodile was shot near Dhamara in 1926 and later its skull was preserved by the then Kanika King. Crocodile experts estimate the animal was between 20 feet (6.1 m) and 23 feet (7.0 m) long, as the size of the skull was measured one ninth of the total length of the body.[citation needed]


ต้องขออภัยเจ้าของกระทู้ด้วยครับที่นอกเรื่อง ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 25, 2010, 08:47:40 AM โดย Enruoblem » บันทึกการเข้า

S76C+,C++
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: มีนาคม 25, 2010, 09:37:05 AM »

มีสามเรื่องครับ...

เรื่องแรก จขกท. แก้ไขคำผิดด้วยครับ ที่ถูกต้องคือ"เคลือบ"ครับ ไม่ใช่"เครือบ"... เดี๋ยวคนอื่นจะใช้ฟังก์ชั่นค้นหาคำไม่ได้ หากสะกดผิดครับ...

เรื่องสองไอ้เข้ตัวนี้มันตัวใหญ่จัง แต่มันกลืนอาหารยังไงหรือครับ... ตือนายสมชายเห็นมันอ้าปากโชว์ แล้วปากมันตันๆ ไม่มีช่องกลืนอาหารเลยครับ...

เรื่องสามขอบคุณคุณเจษฯ เรื่องหน้าที่ของไขหล่อลื่น... เพราะนายสมชายสงสัยมานานว่าทำไมต้องเคลือบไขเอาไว้ด้วย ในเมื่อร้อนออกปานนั้นไขหล่อลื่นน่าจะระเหิดเป็นไอไปได้หมด แต่หากลูกปืนกล่องไหนไม่เอาไขหยอดร่องให้ดี มักมีคราบตะกั่วติดเป็นเส้นยาวววว... เย้...
บันทึกการเข้า
นายรัก-รักในหลวง-
เลือด สี น้ำ เงิน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1646


จงภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเอง


« ตอบ #20 เมื่อ: มีนาคม 25, 2010, 10:34:19 AM »

มีสามเรื่องครับ...

เรื่องแรก จขกท. แก้ไขคำผิดด้วยครับ ที่ถูกต้องคือ"เคลือบ"ครับ ไม่ใช่"เครือบ"... เดี๋ยวคนอื่นจะใช้ฟังก์ชั่นค้นหาคำไม่ได้ หากสะกดผิดครับ...

เรื่องสองไอ้เข้ตัวนี้มันตัวใหญ่จัง แต่มันกลืนอาหารยังไงหรือครับ... ตือนายสมชายเห็นมันอ้าปากโชว์ แล้วปากมันตันๆ ไม่มีช่องกลืนอาหารเลยครับ...

เรื่องสามขอบคุณคุณเจษฯ เรื่องหน้าที่ของไขหล่อลื่น... เพราะนายสมชายสงสัยมานานว่าทำไมต้องเคลือบไขเอาไว้ด้วย ในเมื่อร้อนออกปานนั้นไขหล่อลื่นน่าจะระเหิดเป็นไอไปได้หมด แต่หากลูกปืนกล่องไหนไม่เอาไขหยอดร่องให้ดี มักมีคราบตะกั่วติดเป็นเส้นยาวววว... เย้...
รอฟังจากอาจารย์เจษ อีกคนครับ   ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

"สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่งแคร่ สองคนพาไป"
สีสัน
Full Member
***

คะแนน 13
ออฟไลน์

กระทู้: 123



« ตอบ #21 เมื่อ: มีนาคม 25, 2010, 12:24:25 PM »

+1 ให้พี่เจษฯ
หลงคิดเหมือนจขกท มานาน นึกว่าไขหล่อลื่นที่อัดในหัวกระสุนตะกั่วช่วยเคลือบลำกล้องและหล่อลื่นหัวกระสุน(ก็ชื่อบอกว่าไขหล่อลื่น lube wax  กิ๊วก๊าว )
แต่ขอคำอธิบายเพิ่มหน่อย ไหว้ทำไมพวกหัวFMJ มีเปลือกหุ้มทองแดงถึงไม่ต้องใช้(lube wax คือช่วยไม่ให้แก๊สที่ดันหัวกระสุนรั่ว)ครับ 
เท่าที่ผมคิดหัวตะกั่วอ่อนกว่าทองแดงมาก เมื่อถูกแรงดันจากดินขับ น่าจะอัดติดกับร่องเกลียวได้ดีกว่าทองแดง(ยกเว้นตะกั่วรูดเส้นเกลียวไป) ถ้าช่วยป้องกันแก๊สที่ดันหัวกระสุนรั่วพวกหัวเปลือกทองแดงก็น่าจะมีร่องlube waxบ้าง แต่ทำไมถึงไม่ทำครับ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: มีนาคม 25, 2010, 12:58:03 PM »

ที่ดูตันๆๆจะเป็นลิ้นจรเข้ครับ
ลิ้น 
  หลายๆคนเข้าใจว่าเป็นสัตว์ที่ไม่มีลิ้น ลิ้นของจระเข้จะหนาและกว้างมากติดอยู่กับขากรรไกรล่าง สามารถทำให้สูง-ต่ำได้อย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่ลำคอในขณะอ้าปาก
 
 ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #23 เมื่อ: มีนาคม 25, 2010, 04:10:45 PM »

การที่เราใช้ไขเทียนเครือบเคลือบเกลียวของปืน....มันจะเกิดอาการสึกหรอต่อปืนของเราหรือไม่ครับ

ไขไม่ได้ทำให้ปืนสึกหรอ  ... แต่ไขถ้ามาเคลือบเกลียวโดยมีชั้นความหนามาก ก็จะเกิดแรงต้านการเคลื่อนที่ของกระสุน
เป็นผลให้แรงดันในรังเพลิงสูงขึ้นกว่าปกติมาก

การใช้ไขเคลือบมักไปเคลือบที่หัวกระสุนที่เป็นหัวตะกั่ว ลดความร้อนที่ลูกปืนสัมผัสเสียดสีกับลำกล้อง
เพราะตะกั่วมีจุดหลอมตัวต่ำเพียงสามร้อยกว่าๆองศาเซลเซียส ไขช่วยลดตะกั่วจุดที่สัมผัสที่จะละลายไปติดร่องเกลียวและลำกล้อง
(เช่น กระสุน.22lr กระสุนปืนลม เกรดสำหรับแข่งขัน)

กระสุนที่ความเร็วสูงมากขึ้น (เกิน 1000 fps ไปมากๆๆ) ไขก็เอาไม่อยู่ จุดสัมผัสจะร้อนจนตะกั่วละลาย
จึงต้องทำการเคลือบหัวกระสุนด้วยทองแดง ซึ่งมีจุดหลอมตัวสูงขึ้นถึงหนึ่งพันกว่าๆองศาเซลเซียส
ผิวเคลือบทองแดงช่วยป้องกันตะกั่วหลอมตัว เป็นความจำเป็น แต่ก็ทำให้เกิดการสึกหรอบ้าง
และก็มีวัสดุเคลือบอีกหลายอย่างเช่น ทองเหลือง เหล็ก ไนลอน เทฟลอน .... ที่นำมาใช้กัน

ความสึกหรอนั้นถ้าจะถึงขั้นทำให้ลำกล้องเสียสภาพหรือความแม่นยำลดลง ค่ากระสุนก็คงเกินค่าปืนไปมากแล้ว
 

บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #24 เมื่อ: มีนาคม 26, 2010, 02:07:28 AM »

ชอบพวกเดียวกันเหรอ กัปปิตัน อิอิอิ  ล้อเล่นนะ
นี่ครับดูคุณอุทาน
ขอบคุณครับพี่ ไหว้ ผมเพิ่งจะทราบว่ามีจระเข้สายพันธุ์อเมริกันด้วย Southern Florida is the only place where both alligators and crocodiles live side by side.(wikipedia)

Two larger certifiable records are both of 6.2 metres (20 ft) crocodiles. The first crocodile was shot in the Mary River in the Northern Territory of Australia in 1974 by poachers and measured by wildlife rangers.[citation needed] The second crocodile was killed in 1983 in the Fly River, Papua New Guinea. In the case of the second crocodile it was actually the skin that was measured by zoologist Jerome Montague, and as skins are known to underestimate the size of the actual animal, it is possible this crocodile was at least another 10 cm longer.[citation needed]

The largest crocodile ever held in captivity is an Estuarine–Siamese hybrid named Yai (Thai: ใหญ่, meaning big) (born 10 June 1972) at the famous Samutprakarn Crocodile Farm and Zoo, Thailand. This animal measures 6 m (19.69 ft) (19 ft 8 in) in length and weighs 1114.27 kg.

The largest captive crocodile alive in the US is located in South Carolina. In June 2002, Alligator Adventure introduced Utan. At 20 feet (6.1 m) long and weighing in at more than a ton, "Utan", the largest crocodile to ever be exhibited in the United States, made his new home in Myrtle Beach.[15]

Wildlife experts, however, argue that the largest crocodile so far found in the Bhitarkanika was almost 23 feet (7.0 m) long, which could be traced from the skull preserved by the Kanika Royal Family. The crocodile was shot near Dhamara in 1926 and later its skull was preserved by the then Kanika King. Crocodile experts estimate the animal was between 20 feet (6.1 m) and 23 feet (7.0 m) long, as the size of the skull was measured one ninth of the total length of the body.[citation needed]


ต้องขออภัยเจ้าของกระทู้ด้วยครับที่นอกเรื่อง ไหว้

ยังมีที่ผู้เชี่ยวชาญคิดว่าใหญ่มากๆอยู่ที่ Rawanda ครับ  ชื่อ Mr. Gustave
มีสามเรื่องครับ...

เรื่องแรก จขกท. แก้ไขคำผิดด้วยครับ ที่ถูกต้องคือ"เคลือบ"ครับ ไม่ใช่"เครือบ"... เดี๋ยวคนอื่นจะใช้ฟังก์ชั่นค้นหาคำไม่ได้ หากสะกดผิดครับ...

เรื่องสองไอ้เข้ตัวนี้มันตัวใหญ่จัง แต่มันกลืนอาหารยังไงหรือครับ... ตือนายสมชายเห็นมันอ้าปากโชว์ แล้วปากมันตันๆ ไม่มีช่องกลืนอาหารเลยครับ...

เรื่องสามขอบคุณคุณเจษฯ เรื่องหน้าที่ของไขหล่อลื่น... เพราะนายสมชายสงสัยมานานว่าทำไมต้องเคลือบไขเอาไว้ด้วย ในเมื่อร้อนออกปานนั้นไขหล่อลื่นน่าจะระเหิดเป็นไอไปได้หมด แต่หากลูกปืนกล่องไหนไม่เอาไขหยอดร่องให้ดี มักมีคราบตะกั่วติดเป็นเส้นยาวววว... เย้...
รอฟังจากอาจารย์เจษ อีกคนครับ   ไหว้ ไหว้ ไหว้
ขออนุญาตนะครับ อย่าเรียกผมว่าอาจารย์เลยครับ  ผมเพียงแค่หาอ่านมาจาก อาจารย์ Google อีกทีครับ
บางอย่างพอจะรู้ได้เพราะได้ทำได้ผ่านมือ  แต่ไม่ถึงขั้นอาจารย์นะครับ 
สมัยนี้ข้อมูลความรู้หาอ่านได้ทางเน็ตจากหลายๆแหล่ง   แต่ก็ยังต้องใช้วิจารณญานกันอีกที   อย่าไปเชื่อซะหมด  ต้องหาจากหลายแหล่งมาเปรียบเทียบอีกที
ความรู้ทุกอย่างก็ต้องเรียนรู้กัน เริ่มจาก 0 กันทั้งนั้นครับ   ไม่ว่าจะได้มาจากการอ่าน  การฟังผู้ที่รู้จริงบอกกล่าวสั่งสอน อันนี้พอฟังพออ่านแล้วมาเจอด้วยตัวเองถึงได้ถึงอ้อ...มันเป็นฉะนี้นี่เอง    หรือรู้ได้จากประสบการของตัวเอง  อันหลังนี่จะจำแม่นเลย  เพราะกว่าจะรู้ก็เสียค่าโง่  เสียกะตังค์ หรือเสียของไปเยอะ   
ไม่มีใครรู้ไปซะทุกอย่าง  ไม่มีใครรู้แต่กำเนิดครับ   
ถ้ารู้อะไรแล้วช่วยแจกจ่ายความรู้ให้คนอื่น  ก็เป็นวิทยาทานทำคนที่สนใจอย่างเดียวกับเรามีเพิ่มขึ้น  มีความรู้แน่นขึ้นสามารถถ่ายต่อไปได้
ขออย่างเดียวอย่าให้ข้อมูลผิดๆ  ไม่งั้นก็เลยได้รับข้อมูลผิดๆไป  บางครั้งอาจจะทำให้เสียของ  เจ็บตัว เสียชีวิต  เพราะของเราๆชอบเล่นกันอยู่มันอันตรายถึงตายได้ 
การที่มีเว็ปไว้แบ่งปันความรู้กันอย่างเช่น อวป ถือได้ว่าเรียนลัดล่ะครับ    หลายๆอย่างผมเรียนรู้จากที่นี่ครับ   เว็ปนี้ดีที่มีผู้รู้จริงอยู่หลายท่านอย่างเช่น พี่ผู้การสุพินท์  ท่านอาจารย์ผณิศวร  ผู้การมะขิ่น  ฯล และหลายๆท่านที่ไม่ได้เอ่ยนาม   แต่ละท่านก็ถนัดกันไปคนละอย่าง    ถ้าหยิบเอาแต่ละอย่างที่ท่านถนัดมารวมกัน  ก็เกิดเป็นบ่อความรู้ให้ สมช ได้ตักตวงครับ   
บางครั้งเว็ปนี้จะถูกด่าว่า ไม่อบอุ่น  ไม่กันเอง  มีมาเฟีย   จริงป่าวต้องพิจารณากันเองครับ   แต่ที่แน่ๆคือเว็ปนี้ไม่มั่วครับ 
ด้วยความเคารพ
การที่เราใช้ไขเทียนเครือบเคลือบเกลียวของปืน....มันจะเกิดอาการสึกหรอต่อปืนของเราหรือไม่ครับ

ไขไม่ได้ทำให้ปืนสึกหรอ  ... แต่ไขถ้ามาเคลือบเกลียวโดยมีชั้นความหนามาก ก็จะเกิดแรงต้านการเคลื่อนที่ของกระสุน
เป็นผลให้แรงดันในรังเพลิงสูงขึ้นกว่าปกติมาก

การใช้ไขเคลือบมักไปเคลือบที่หัวกระสุนที่เป็นหัวตะกั่ว ลดความร้อนที่ลูกปืนสัมผัสเสียดสีกับลำกล้อง
เพราะตะกั่วมีจุดหลอมตัวต่ำเพียงสามร้อยกว่าๆองศาเซลเซียส ไขช่วยลดตะกั่วจุดที่สัมผัสที่จะละลายไปติดร่องเกลียวและลำกล้อง
(เช่น กระสุน.22lr กระสุนปืนลม เกรดสำหรับแข่งขัน)

กระสุนที่ความเร็วสูงมากขึ้น (เกิน 1000 fps ไปมากๆๆ) ไขก็เอาไม่อยู่ จุดสัมผัสจะร้อนจนตะกั่วละลาย
จึงต้องทำการเคลือบหัวกระสุนด้วยทองแดง ซึ่งมีจุดหลอมตัวสูงขึ้นถึงหนึ่งพันกว่าๆองศาเซลเซียส
ผิวเคลือบทองแดงช่วยป้องกันตะกั่วหลอมตัว เป็นความจำเป็น แต่ก็ทำให้เกิดการสึกหรอบ้าง
และก็มีวัสดุเคลือบอีกหลายอย่างเช่น ทองเหลือง เหล็ก ไนลอน เทฟลอน .... ที่นำมาใช้กัน

ความสึกหรอนั้นถ้าจะถึงขั้นทำให้ลำกล้องเสียสภาพหรือความแม่นยำลดลง ค่ากระสุนก็คงเกินค่าปืนไปมากแล้ว
 


พี่ธำรงครับ   กระสุน Hard cast gas check ที่ผมลงรูปไว้เป็น ขนาด .500 หนัก 500 Gr. นำมาอัดกระสุน 500 magnum ความเร็วจะอยู่ที่  1100-1400 แล้วแต่โหลดครับผม
บันทึกการเข้า
-Joke-
Vive la liberté de parole et d'opinion!
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -459
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4225


^_^


« ตอบ #25 เมื่อ: มีนาคม 26, 2010, 02:17:48 AM »

bullets lube  ส่วนมากจะไว้ใช้กับกระสุนหัวตะกั่ว   ที่เรียกว่า hard cast ครับ  จะร่องที่ฐานลูกที่เห็นเป็นแถบสีน้ำเงิน นั่นคือ lube wax ครับ
จุดประสงค์ของ lube wax คือช่วยไม่ให้แก๊สที่ดันหัวกระสุนรั่ว  เพราะที่ผิวลำกล้องจะมีรูหรือรอยขีดข่วน  ซึ่งเล็กมากๆแต่แก๊สก็สามารถดันผ่านได้
คงจะมีคนที่คิดว่า  ความร้อนจะทำให้ lube wax ละลาย  แล้วมันจะช่วยได้อย่างไร   จากผู้รู้บอกว่าไม่ทันได้ละลายครับ 
ข้อมูลมาจากที่นี่
http://www.leverguns.com/articles/fryxell/lube.htm


จะคล้ายๆที่ขอบของลูกปืน ค ไหมครับ ที่มันจะขยายจะช่วยกักแก๊สไม่ให้รั่วเล็ดรอดนำหน้าลูกออกไปตอนยิง เพราะตอนหยอดลงมันจะหลวมๆ
บันทึกการเข้า

A la volonté du peuple
Et à la santé du progrès,
Remplis ton cœur d'un vin rebelle
Et à demain, ami fidèle.
Nous voulons faire la lumière
Malgré le masque de la nuit
Pour illuminer notre terre
Et changer la vie.
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #26 เมื่อ: มีนาคม 26, 2010, 02:21:38 AM »

bullets lube  ส่วนมากจะไว้ใช้กับกระสุนหัวตะกั่ว   ที่เรียกว่า hard cast ครับ  จะร่องที่ฐานลูกที่เห็นเป็นแถบสีน้ำเงิน นั่นคือ lube wax ครับ
จุดประสงค์ของ lube wax คือช่วยไม่ให้แก๊สที่ดันหัวกระสุนรั่ว  เพราะที่ผิวลำกล้องจะมีรูหรือรอยขีดข่วน  ซึ่งเล็กมากๆแต่แก๊สก็สามารถดันผ่านได้
คงจะมีคนที่คิดว่า  ความร้อนจะทำให้ lube wax ละลาย  แล้วมันจะช่วยได้อย่างไร   จากผู้รู้บอกว่าไม่ทันได้ละลายครับ 
ข้อมูลมาจากที่นี่
http://www.leverguns.com/articles/fryxell/lube.htm


จะคล้ายๆที่ขอบของลูกปืน ค ไหมครับ ที่มันจะขยายจะช่วยกักแก๊สไม่ให้รั่วเล็ดรอดนำหน้าลูกออกไปตอนยิง เพราะตอนหยอดลงมันจะหลวมๆ
ต้องถามพี่สุพินท์ กับ ผู้การมะขิ่น  เรื่องปืนครก
บันทึกการเข้า
Supakij Kaw
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 60
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1008


« ตอบ #27 เมื่อ: มีนาคม 26, 2010, 04:57:04 AM »

ได้ความรู้เยอะมากๆ เลยครับ
บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #28 เมื่อ: มีนาคม 26, 2010, 10:54:53 AM »

แต่หากลูกปืนกล่องไหนไม่เอาไขหยอดร่องให้ดี มักมีคราบตะกั่วติดเป็นเส้นยาวววว... เย้...

ผมเคยเจอกระสุนซ้อม .๓๘ ยี่ห้อไทยกล่องสีขาว... ถอดหัวออกมาที่ร่องบนหัวกระสุนทั้งสองร่องไม่ได้ใส่ไขหล่อลื่นไว้ครับ... ลองสุ่มๆ ดู ๔-๕ นัดเป็นเหมือนกันหมดครับ... ไหว้



ตามกระทู้นี้ครับ...

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=66568.0

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 26, 2010, 11:20:14 AM โดย jungle » บันทึกการเข้า
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #29 เมื่อ: มีนาคม 26, 2010, 06:41:12 PM »


พี่ธำรงครับ   กระสุน Hard cast gas check ที่ผมลงรูปไว้เป็น ขนาด .500 หนัก 500 Gr. นำมาอัดกระสุน 500 magnum ความเร็วจะอยู่ที่  1100-1400 แล้วแต่โหลดครับผม

 ตกใจ  ผมไม่มีโอกาสเล่นกระสุนขนาดนี้ในประเทศไทยครับ ถ้าได้ไปอเมริกาจะหาโอกาสไปขอลอง  Grin
คิดว่าต้องมีสูตรผสมพวกดีบุกพวกพลวงเข้าไปด้วยเพื่อให้จุดหลอมตัวสูงขึ้น ไม่ใช่ตะกั่วล้วนๆ
ทองแดงที่เคลือบท้ายกระสุน อาจมีอีกหนึ่งเหตุผลคือป้องกันแก๊สร้อน ไม่ให้ท้ายกระสุนละลาย  ไหว้
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 22 คำสั่ง