เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 18, 2024, 03:39:40 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ยกกฏหมายอาญามาตรา 371 เป็นข้อต่อสู้เวลาโดนจับปืน แนวตอบข้อสอบอาญา2  (อ่าน 10367 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
oil
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 187
ออฟไลน์

กระทู้: 4146


ใครหนอ โกงข้าว ล้มเจ้า เผาเมือง


« เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 08:26:57 PM »

ม. 371 ผู้ใด"พา"อาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดย"เปิดเผย"ไม่มีเหตุอันควร หรือ"พา"ไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริงหรือการอื่นใด  ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาทและให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ริบอาวุธนั้น

ถ้าถูกตรวจค้นจับกุมปืนมีทะเบียนชื่อตนเอง แล้วรับสารภาพ ประกันตัวไปขึ้นศาล(ถามแบบโง่ๆนะครับ)แถลงยอมรับผิดและขอให้ศาลสั่งลงโทษตามมาตราข้างต้น เสียค่าปรับหนึ่งร้อยบาท และขอให้ศาลเมตตาคืนอาวุธปืนให้เนื่องจากเป็นความผิดลหุโทษ(มาตรานี้เป็นความผิดลหุโทษ) จำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อน

ได้หรือไม่ครับ  ขอความกระจ่างจากสมาชิกนักกฏหมาย  (ทะแนะไม่ต้องก็ได่้นะครับ จะเอาไปเขียนข้อสอบอัตนัย)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 29, 2010, 04:21:20 PM โดย oil » บันทึกการเข้า

Thailand must not welcome f..cking bag packer, get lost
Earthworm
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 211
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1359


« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 08:38:06 PM »


       ขอโทษทีครับ อ่านไม่ได้ดูว่าใครตั้งกระทู้ ทีแรกนึกว่าเพื่อสมาชิกใหม่สงสัยเรื่องแบบชาวบ้านๆครับ ทะแนะอย่างผมต้องขอโทษและขอตัวก่อนนะครับ ตกใจหน้าซีด มารอท่านอื่นมาเพิ่มเติมละกัน พิมพ์ไม่เก่ง ความรู้ก็น้อยครับ  ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 29, 2010, 06:29:46 PM โดย chnon » บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 08:42:46 PM »

นายสมชายเป็นทะแนะครับ แต่อยากตอบเพราะเคยสงสัยเรื่องนี้มาก่อน... ขอตอบว่าศาลจะเลือกลงโทษกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามนัยฎีกาที่ 450/2551 ตาม"ตัวเขียว"ครับ...

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2551

โจทก์มีหน้าที่นำสืบให้ชัดแจ้งว่าจำเลยทั้งสองไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและไม่มีใบอนุญาตให้พาอาวุธปืนติดตัวไปในที่เกิดเหตุ เมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบ จึงไม่อาจฟังลงโทษจำเลยทั้งสองฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรได้ คงลงโทษได้เพียงในความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และเป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะ

________________________________

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2546 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงจำเลยทั้งสองร่วมกันมีอาวุธปืนลูกซองสั้นขนาดเบอร์ 12 ไม่มีเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด ซึ่งเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่มีสภาพใช้ยิงได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและจำเลยทั้งสองร่วมกันพาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปบริเวณถนนกันเอง ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา อันเป็นเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร

และจำเลยทั้งสองร่วมกันพาอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 คืบ ไปบริเวณถนนกันเอง ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตนภูมิ จังหวัดสงขลา อันเป็นเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร จากนั้นจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงนายสุนทร สุขเจริญ ผู้เสียหายที่ 1 จำนวน 1 นัด โดยเจตนาฆ่าและร่วมกันใช้มีดปลายแหลมแทงนายสันติ สุขเจริญ ผู้เสียหายที่ 2 บริเวณช่องท้องอันเป็นอวัยวะสำคัญหลายครั้งโดยมีเจตนาฆ่า จำเลยทั้งสองลงมือกระทำไปโดยตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผลเนื่องจากมีผู้ปัดกระบอกปืน ทำให้กระสุนปืนเฉี่ยวลำคอผู้เสียหายที่ 1 และแพทย์ช่วยทำการรักษาผู้เสียหายที่ 2 ไว้ทัน ผู้เสียหายทั้งสองจึงไม่ถึงแก่ความตาย

ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 80, 83, 91, 288, 371 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ และริบของกลาง

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371, 288 ประกอบมาตรา 80 (ที่ถูกประกอบมาตรา 80, 83) พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 วรรคสาม, 72 ทวิ วรรคสอง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ขณะกระทำความผิดจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีอายุ 17 ปี และ 16 ปีเศษ ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76, 75 (ที่ถูก ขณะกระทำความผิดจำเลยที่ 1 อายุ 17 ปีเศษ จำเลยที่ 2 อายุ 16 ปีเศษ เห็นสมควรลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ 1 กึ่งหนึ่ง และลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ 2 กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 และ 75) ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นจำคุกคนละ 5 ปี ฐานมีอาวุธปืน จำคุกคนละ 1 ปี และฐานพาอาวุธปืน ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นบทหนัก (ที่ถูก ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90   จำคุกคนละ 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 6 ปี 6 เดือน อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 มาตรา 104 (2) ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งจำเลยทั้งสองไปฝึกอบรม (ที่ถูก ไปควบคุมเพื่อฝึกและอบรม) ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 (จังหวัดสงขลา) มีกำหนดขั้นต่ำ 1 ปี 6 เดือน ขั้นสูง 2 ปี นับแต่วันพิพากษา ริบปลอกกระสุนปืนของกลาง คำขออื่นให้ยก

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 9 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 อีกกระทงหนึ่ง สำหรับความผิดฐานพาอาวุธ ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 แล้ว ปรับ 50 บาท รวมกับโทษในความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นเป็นจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 5 ปี และปรับ 50 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้ส่งตัวจำเลยที่ 2 ไปควบคุมเพื่อฝึกและอบรมยังศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 (จังหวัดสงขลา) มีกำหนด 1 วัน ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 มาตรา 107 ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยทั้งสองในความผิดฐานมีและพาอาวุธปืน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือไม่ โจทก์ฎีกาอ้างว่า ข้อเท็จจริงฟังยุติว่า จำเลยทั้งสองยังไม่บรรลุนิติภาวะซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้มีและพาอาวุธปืนได้ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 13 ที่ห้ามมิให้ออกใบอนุญาตตามความในหมวดนี้แก่...

(4) บุคคลซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ โจทก์จึงไม่มีหน้าที่นำสืบถึงข้อเท็จจริงเพื่อสนับสนุนคำฟ้องในส่วนนี้ของโจทก์นั้น เห็นว่า ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 19 บัญญัติว่า บุคคลย่อมพ้นจากภาวะผู้เยาว์และบรรลุนิติภาวะเมื่อมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ และมาตรา 20 บัญญัติว่า ผู้เยาว์ย่อมบรรลุนิติภาวะเมื่อทำการสมรส หากการสมรสนั้นได้ทำตามบทบัญญัติมาตรา 1448 จากบทบัญญัติดังกล่าวย่อมมีความหมายว่า นอกจากผู้เยาว์จะบรรลุนิติภาวะโดยอายุแล้ว ผู้เยาว์อาจบรรลุนิติภาวะโดยการสมรสตามบทบัญญัติมาตรา 1448 ได้

ดังนั้นโจทก์ต้องมีหน้าที่นำสืบให้ชัดแจ้งว่าจำเลยทั้งสองไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและไม่มีใบอนุญาตให้พาอาวุธปืนติดตัวไปในที่เกิดเหตุ เมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยทั้งสองใช้ในการกระทำความผิดจำเลยทั้งสองไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้และพาติดตัวได้ตามกฎหมาย จึงไม่อาจฟังลงโทษจำเลยทั้งสองฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรได้

คงลงโทษได้เพียงในความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และเป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร แต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาว่าความผิดฐานพาอาวุธมีดเป็นกรรมเดียวกับความผิดฐานพาอาวุธปืน

และโจทก์มิได้อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 เป็น 2 กรรม ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวจึงไม่อาจแก้ไขเรื่องโทษให้ถูกต้องได้ เพราะจะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยที่ 2 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษามานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวเห็นพ้องด้วยบางส่วน ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองยังคงมีความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76, 75 ปรับคนละ 50 บาท รวมลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นและพาอาวุธปืน รวมจำคุก 5 ปี และปรับ 50 บาท รวมลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น พาอาวุธมีดและอาวุธปืนเป็นจำคุก 5 ปี และปรับ 50 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้ส่งตัวจำเลยทั้งสองไปควบคุมเพื่อฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 (จังหวัดสงขลา) มีกำหนด 1 วัน ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 มาตรา 107 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 28, 2010, 08:46:24 PM โดย นายสมชาย(ฮา) » บันทึกการเข้า
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 08:44:27 PM »

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=49437.msg1162573
บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 08:54:11 PM »



                      ขอบคุณครับน้าสมชาย (ฮา)  น้าโอม และทุกท่านรวมถึงน้าต้อม จขกท.ด้วย ..... ขอบคุณครับ

บันทึกการเข้า

                
oil
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 187
ออฟไลน์

กระทู้: 4146


ใครหนอ โกงข้าว ล้มเจ้า เผาเมือง


« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 08:55:57 PM »



       คดีแบบนี้ คุณไม่มีโอกาสได้แถลงกับศาลท่านหรอกครับ มันต้องสารภาพให้เสร็จตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน

ผมว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดนะครับ  ศาลเปิดโอกาศให้จำเลยได้ชี้แจงเหตุแห้่งการกระทำเสมอ แต่จำเลยมักจะขาดความเข้าใจกระบวนการ และได้รับคำแนะนำผิดๆจาก พสส.ให้หุบปากโทษหนักจะได้เป็นเบา (กรูจะได้ไม่ต้องถูกอัยการหรือศาลสั่งให้ไปสอบพยานหรือหาหลักฐานเพิ่มเติม) ถ้ามี(ตังค์จ้าง)ทนายที่แม่นข้อกฏหมายจะกลายเป็นหนังคนละม้วนได้เลย
บันทึกการเข้า

Thailand must not welcome f..cking bag packer, get lost
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 10:02:00 PM »

ม. 371 ผู้ใด"พา"อาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดย"เปิดเผย"ไม่มีเหตุอันควร หรือ"พา"ไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริงหรือการอื่นใด  ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาทและให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ริบอาวุธนั้น

ถ้าถูกตรวจค้นจับกุมปืนมีทะเบียนชื่อตนเอง แล้วรับสารภาพ ประกันตัวไปขึ้นศาล(ถามแบบโง่ๆนะครับ)แถลงยอมรับผิดและขอให้ศาลสั่งลงโทษตามมาตราข้างต้น เสียค่าปรับหนึ่งร้อยบาท และขอให้ศาลเมตตาคืนอาวุธปืนให้เนื่องจากเป็นความผิดลหุโทษ(มาตรานี้เป็นความผิดลหุโทษ) จำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อน

ได้หรือไม่ครับ  ขอความกระจ่างจากสมาชิกนักกฏหมาย  (ทะแนะไม่ต้องก็ได่้นะครับ จะเอาไปเขียนข้อสอบอัตนัย)

ไม่ใช่นักกฎหมาย   แต่พอจะตอบได้

ก่อนอื่น   คัดลอกข้อความมาผิดครับ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑  เป็นเรื่องของอาวุธทุกชนิด  ไม่ใช่อาวุธปืนอย่างเดียว
ดังนั้น  การพกปืน  จึงเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว  แต่ผิดกฎหมายหลายบท   ถ้าศาลเห็นว่าผิด ก็จะต้องรับโทษบทหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐

เวลาพนักงานอัยการยื่นฟ้อง  เขาจะบรรยายฟ้องว่าเป็นความผิดทั้ง พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ และประมวลกฎหมายอาญาไปด้วยกันทั้งคู่   แต่ศาลจะพิพากษาลงโทษเฉพาะบทหนัก (พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ)  ดังนั้นจึงไม่อาจยกกฎหมายโทษเบามาเป็นประโยชน์ได้

เคยมีพนักงานอัยการเล่นแรง   บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ กับขอให้ยึดปืนตามประมวลกฎหมายอาญา  สู้กันถึงศาลฎีกา  ผลสุดท้าย ศาลไม่ริบของกลาง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 29, 2010, 12:10:24 AM โดย สุพินท์ » บันทึกการเข้า
กรรมกร
+แล้วนะคับ ... อย่าลืมทอนด้วยนะคับ 555
Hero Member
*****

คะแนน -964
ออฟไลน์

กระทู้: 1293



« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 28, 2010, 11:24:51 PM »

แห่ะ ๆ .......... เพิ่งโดนมาสดๆร้อนๆ

........ มารอฟังด้วยคนครับ ... เผื่อพลาดอีกคราวหน้า  หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

ไร้คำกล่าว............................................
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 09:03:19 AM »

ผมเป็นนักคอมพิวเตอร์ และนักตัดยางครับ  Grin มาสงสัยด้วยคน

ว่า ถ้าโทษตามมาตรา 371 เป็นโทษเบาแล้ว  ไฉนบทลงโทษ ถึงขั้นริบอาวุธ ซึ่งไม่สืบราคาด้วย ว่าอาวุธนั้น ราคาเท่าไหร่

แล้ว โทษตามมาตรา อะไรหว่า ที่เขาเรียกว่า โทษหนักสุด น่ะ ผมเห็นท่านหนึ่ง ข้างบ้านผม โดนปรับมา สองพัน

มันห่างกันเหลือเกินกับริบอาวุธราคาเรือนแสน

แค่สงสัยครับ แง่คิดของผม ไม่กว้างเหมือนนักกฏหมาย เลยมองไม่คอยทะลุ   Grin
บันทึกการเข้า
มะเอ็ม
Hero Member
*****

คะแนน 348
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4749


"ปักษ์ใต้บ้านเรามันเหงาจังไม่มีคนนั่งแลหนังโนราห์"


« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 11:00:16 AM »

การพกปืน  จึงเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว  แต่ผิดกฎหมายหลายบท   ถ้าศาลเห็นว่าผิด ก็จะต้องรับโทษบทหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐
-------------------------------------------------------------
ขอบคุณครับ แบร่ แบร่ แบร่
บันทึกการเข้า
oil
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 187
ออฟไลน์

กระทู้: 4146


ใครหนอ โกงข้าว ล้มเจ้า เผาเมือง


« ตอบ #10 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 01:09:53 PM »

 Huh
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 11, 2010, 05:38:51 PM โดย oil » บันทึกการเข้า

Thailand must not welcome f..cking bag packer, get lost
cokho รักในหลวง
Jr. Member
**

คะแนน 4
ออฟไลน์

กระทู้: 62


« ตอบ #11 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 02:35:54 PM »

มาตรา๓๗๑ ประมวลกฎหมายอาญาใช้คำว่า"ผู้ใดพาอาวุธไป......" ใช้กับอาวุธทุกชนิด ส่วนความผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืน มาตรา๘ทวิจะจำกัดเฉพาะปืนเท่านั้น เวลาฟ้องก็จะฟ้องทั้ง๒มาตรา ซึ่งศาลจะลงโทษตามพรบ.อาวุธปืน๘ทวิ,๗๒วรรค๒ที่มีโทษจำคุก เพราะเป็นโทษที่หนักกว่า(หนักที่สุดที่ฟ้อง)ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา๙๐ ศาลจะเลือกลงโทษตามมาตรา๓๗๑ไม่ได้ กฎหมายกำหนดวิธีใช้กฎหมายในลักษณะนี้ไว้อย่างนั้นครับ
บันทึกการเข้า
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #12 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 02:54:07 PM »

พี่ต้องจะกลัวไปใยครับ ก็พี่ต้อมมี ป.12 อยู่ไม่ใช้หรือครับ เอ๋หรือผมฟังข่าวมาผิดครับพี่ Grin
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
oil
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 187
ออฟไลน์

กระทู้: 4146


ใครหนอ โกงข้าว ล้มเจ้า เผาเมือง


« ตอบ #13 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 04:20:08 PM »

พี่ต้องจะกลัวไปใยครับ ก็พี่ต้อมมี ป.12 อยู่ไม่ใช้หรือครับ เอ๋หรือผมฟังข่าวมาผิดครับพี่ Grin
ฟังมาผิดครับ  หากลัวไม่  แต่จะเอาไปตอบข้อสอบอัตนัย.....อ่านใหม่จะเข้าใจยิ่งขึ้น..นะจะบอกให้
อีกอย่างนึง.....พอไม่ได้เป็นสมาชิก สพป.แล้ว   กลัวตกข่าวเพราะเพื่อนไม่รักนะ
บันทึกการเข้า

Thailand must not welcome f..cking bag packer, get lost
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #14 เมื่อ: มีนาคม 29, 2010, 05:23:49 PM »

ม. 371 ผู้ใด"พา"อาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดย"เปิดเผย"ไม่มีเหตุอันควร หรือ"พา"ไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริงหรือการอื่นใด  ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาทและให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ริบอาวุธนั้น

ถ้าถูกตรวจค้นจับกุมปืนมีทะเบียนชื่อตนเอง แล้วรับสารภาพ ประกันตัวไปขึ้นศาล(ถามแบบโง่ๆนะครับ)แถลงยอมรับผิดและขอให้ศาลสั่งลงโทษตามมาตราข้างต้น เสียค่าปรับหนึ่งร้อยบาท และขอให้ศาลเมตตาคืนอาวุธปืนให้เนื่องจากเป็นความผิดลหุโทษ(มาตรานี้เป็นความผิดลหุโทษ) จำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อน

ได้หรือไม่ครับ  ขอความกระจ่างจากสมาชิกนักกฏหมาย  (ทะแนะไม่ต้องก็ได่้นะครับ จะเอาไปเขียนข้อสอบอัตนัย)

ไม่ใช่นักกฎหมาย   แต่พอจะตอบได้

ก่อนอื่น   คัดลอกข้อความมาผิดครับ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑  เป็นเรื่องของอาวุธทุกชนิด  ไม่ใช่อาวุธปืนอย่างเดียว
ดังนั้น  การพกปืน  จึงเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว  แต่ผิดกฎหมายหลายบท   ถ้าศาลเห็นว่าผิด ก็จะต้องรับโทษบทหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐

เวลาพนักงานอัยการยื่นฟ้อง  เขาจะบรรยายฟ้องว่าเป็นความผิดทั้ง พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ และประมวลกฎหมายอาญาไปด้วยกันทั้งคู่   แต่ศาลจะพิพากษาลงโทษเฉพาะบทหนัก (พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ)  ดังนั้นจึงไม่อาจยกกฎหมายโทษเบามาเป็นประโยชน์ได้

เคยมีพนักงานอัยการเล่นแรง   บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ กับขอให้ยึดปืนตามประมวลกฎหมายอาญา  สู้กันถึงศาลฎีกา  ผลสุดท้าย ศาลไม่ริบของกลาง

ยืนยันว่าคัดลอกมาถูกต้องนะครับ เป็นประมวลกฏหมายอาญา มสธ.ฉบับปรับปรุงแก้ไขปี 2552 และได้สอบถามไปยังภาควิชาก็ได้รับการยืนยันจากอาจารย์ว่าแก้ไขตามที่ประชุมยกร่างอะไรซักอย่างที่ สอส.เป็นเจ้าภาพเมื่อต้นปี 2552  เดี๋ยวผมไปหารายละเอียดเพิ่มเติมมาให้

บอกรับราชกิจจานุเบกษาดีกว่าครับ
ประมวลกฎหมายอาญา  แก้ไขมาแล้ว 21 ครั้ง   ครั้งที่ 17 เมื่อปี 47,  และปี 50 ครั้งที่ 18,  19  และ 20    ปี 51 แก้ครั้งที่ 21    ส่วนปี 52 ไม่มีการแก้ไข
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.082 วินาที กับ 21 คำสั่ง