เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 27, 2024, 08:38:22 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 782 783 784 [785] 786 787 788 ... 811
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไลฟ์ สไตล์ ของ " สมิง วังม่วง " และพี่น้องคอปืน จังหวัด น่าน  (อ่าน 889946 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11760 เมื่อ: กันยายน 05, 2015, 10:18:13 AM »



อัพเดต ตลาดปืนสวัสดิการณ์ วันนี้ http://2013.gun.in.th/index.php?board=2.0 (สมัครสมาชิกด้วยน่ะครับ)
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11761 เมื่อ: กันยายน 06, 2015, 09:14:46 AM »

"อย่าตัดสินใครโดยไม่ได้ถามเขาสักคำ หรือ แค่ฟังคนอื่นเขามา ชีิวิตคนก็เหมือนสะพาน  มีขึ้นมีลง มีสูงมีต่ำ สุดท้ายก็ตายเหมือนกัน" สมิง วังม่วง



 วันชโลมเลือด ตอนที่ 6 ผลงานของ สยภู ทศพล
หมวดอาวุธหนักสาละวนติดตั้งปืนครกและปรส.75 อย่างรีบเร่ง ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงอาวุธหนักเหล่านี้ก็พร้อมที่จะถล่มลงไปสนับสนุนการเข้าตีตามแผนของเสนาธิการสมองคอมพิวเตอร์ คำคมแบ่งกำลัง 2 หมวดจากกองร้อยทั้งสองเอาไว้คุ้มกันหมวดอาวุธหนัก ต่อจากนั้นทหารทั้งสองกองร้อยที่เหลือก็เริ่มเคลื่อนที่ติดตามทหารกองร้อย 1 ลงไปอย่างเงียบเชียบ
สัญญาณวิทยุที่เงียบหายมาตลอดระยะเวลา 2 วันเริ่มดังข้นอีกวาระหนึ่ง คำพูดเน้นโค้ดตัวเลขและข่าวที่ส่งก็มีเพียงแจ้งพิกัดที่อยู่ของแต่ละกองร้อยเท่านั้น ไม่มีการส่งพร่ำเพรื่อ ไม่มีการส่งข่าวที่ไม่จำเป็น นอกจากจะเกิดปะทะกับข้าศก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เท่านั้นเอง
ผมสะพาย PRC.77 เดินหน้าทิ่มหน้าตำลงมาตามทางลาดของเส้นทางที่ชันดิ่งลงเบื้องล่าง อย่างน่าหวาดเสียว อำนาจของฝนซึ่งตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้พื้นดินเฉอะแฉะตลอดทาง ต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งระเกะระกะอยู่ทั่วไป ช่วยให้การเดินทางลงจากยอดเนินดำเนินไปได้เรียบร้อยพอสมควร
30 นาทีผ่านไป คำคมก็ได้รับสัญญาณรหัสตัวเลขจากทหารรับจ่งกองร้อยที่ 1 ว่า ขณะนี้เคลื่อนที่ถึงไร่ฝิ่นของบ้านเถิดเทิงเรียบร้อยแล้ว
อีก 45 นาทีต่อมา ชุดแรกของกองร้อยที่หนึ่งก็ส่งรหัสตัวเลขบอกทิศทางการเคลื่อนที่แยกออกจากชุดที่ 2
อา...เพียงชั่วโมงกับอีก 15 นาทีทหารกองร้อยที่ 1 กองพัน 617 ก็สามารถเคลื่อนที่ทะลุไร่ฝิ่นขึ้นไปเกือบจะถึงฐานปฏิบัติการของทหารเวียดนามเหนืออยู่แล้ว
1 ชั่วโมง 55 นาที พอดิบพอดีที่ทหารชุดที่สองส่งรหัสมาว่าขณะนี้จุดที่ตั้ง โอบล้อมฐานปฏิบัติการของข้าศึกเอาไว้อย่างปลอดภัย และ “ปลอด” จากสายตาของข้าศึกอย่างสิ้นเชิง
03.30 น. กองร้อย2-3 ก็ปรับรูปขบวนอยู่ ณ บริเวณทางเข้าปากไร่ฝิ่นรอหมายกำหนดการที่จะเริ่มในเวลา 06.30 น. ด้วยอาการสงบเงียบ
เงียบ เงียบเสียจนไม่น่าเชื่อว่า จะมีทหาร 300 คน ซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่แห่งนั้น
04.00 น. รหัสตัวเลขจากทหารชุดแรกแจ้งว่า ขณะนี้จุดที่ตั้งอยู่บนยอดเถิดเทิงเรียบร้อยแล้ว
“คราวนี้พวกลื้อจะได้ฆ่าพวกมันสนุกมือกันซะที นอนพักผ่อนเอาแรงไว้ก่อนโว้ย อีกตั้งสองชั่วโมงก่อนที่แผนของเราจะเริ่มต้นขึ้น ผลัดกันนอนคนละงีบก็ยังดี”
คำคมล้มตัวลงนอนหนุนเป้สนาม ชั่วอึดใจผมก็ได้ยินเสียงกรนเบาๆดังออกมาจากร่างซึ่งนอนขดตัวอยู่ใกล้ๆนั้น
ส่วนผมสถานการณ์เช่นนี้ ยากนักที่จะข่มจิตข่มใจให้หลับลงได้อย่างง่ายๆ นอนลืมตาโพลงดูเงาทมึน ของต้นฝิ่นที่ปกคลุมเป็นแนวยาวเหยียดติดต่อกันไปทั่วอาณาบริเวณ
แสงสว่างอันมัวซัวของจันทร์ข้างแรมส่องกระทบต้นฝิ่นบังเกิดเป็นเงาทมึนมองคล้ายๆ กับภูตผีปิศาจที่ยืนจังก้าคอยทวงวิญญาณนักรบผู้ถึงฆาตลงไปสู่อเวจี บางครั้ง เงาทมึนเหล่านี้ดูเหมือนจะพยักพเยิดกวักไม้กวักมือให้ผมไปหามัน แรงอาถรรพ์ของป่าดงในยามวิกาล เคยทำให้ทหารรับจ้างที่ประสาทอ่อน วิกลจริตมาแยะต่อแยะแล้ว ผมหลับตา พยายามข่มจิตข่มใจให้เข้าภวังค์ บัดดลนั้นภาพในอดีตก็พรั่งพรูเข้ามาในห้วงคิด ใบหน้าของ “เม้าแทรป” F.A.G. นิสสัย คืออีตลูกทัพฟ้า ที่สูญเสียชีวิตบนยอดเนิน ชาร์ลี-กอล์ฟ พร่าพรายขึ้นมาในจิตสำนึก คำพูดสุดท้ายก่อนเขาเสียชีวิตยังก้องอยู่ในประสาทหูของผมชั่วนิรันดร์
“บิ๊กแมน ผมลาก่อน” และแล้ว “เม้าแทรป” ก็ได้ลาจากผมไปชั่วชีวิตจริงๆ
ภาพถัดกลับไปบนยอดเนิน ภูหินซับ ที่สูงเสียดฟ้า การประจัญบานกันอย่างท่วมเลือดปรากฏขึ้นมาเหมือนกับจอโทรทัศน์ ชาวแมวอพยพร้อยกว่าคน สวมวิญญาณผีสิงติดดาบปลายปืนเข้าตะลุมบอนกับทหารเวียดนามเหนืออย่างบ้าคลั่ง
ตาย ตาย แล้วก็ตาย คือนิยามของสงครามที่บ้าคลั่ง สงครามที่หฤโหดจนเกินกว่าที่มนุษย์อย่างเราๆจะทนได้ อีกไม่นานเกินรอ... อีกไม่นานเกินรอ... เราคงจะได้พบกัน ณ ขุมนรกชั้นอเวจี …ผมเผลอหลับไปจนได้ ตกใจตื่นขึ้นมาก็มองเห็นคำคมกำลังเอาหูฟังของ “HT-2”ยัดเข้าไปในหูฟังข่าววิทยุด้วยอาการเคร่งเครียด....ผมเหลือบดูนาฬิกาพรายน้ำที่ข้อมือ
05.55 น. พอดิบพอดี และเวลาดังกล่าวก็เลยกำหนดการณ์ออก ลว.ของทหารเวียดนามเหนือมาแล้วถึง 25 นาที
“ชุดล่าสังหารของเรากำลังเดินทางกลับมาแล้ว แผนการเรียบร้อย เวียดนามเหนือ 8 คน ตายเกลี้ยง ของเราตาย 2 บาดเจ็บ 2”
พอจบคำพูดของคำคม ผมก็มองเห็นเงาตะคุ่มตะคุ่มของทหารชุดล่าสังหาร พยุงพรรคพวกที่ใด้รับบาดเจ็บมาอย่างทุลักทุเล
ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นแล้ว ทัศนวิสัยปรากฏขึ้นมาลางๆ ชุดล่าสังหารโยนวัตถุชนิดหนึ่งรูปร่างเหมือนกับผลมะพร้าวลงบนพื้น วัตถุนั้นกลิ้งกระเด็นไปคนละทิศละทาง ผมกะดูอย่างคร่าวๆมีประมาน 7หรือ 8 ชิ้น
กลิ่นคาวคลุ้งของเลือดมนุษย์ทำให้ผมเอะใจ ต้องก้มหน้าลงพิจารณาวัตถุเหล่านั้นอีกครั้ง
พระเจ้าช่วย มันคือศีรษะมนุษย์ที่ถูกบั่นออกแค่คอ รอยเลือดที่เกรอะกรังอยู่รอบๆคอ แสดงว่าศีรษะมนุษย์เหล่านี้ เพิ่งจะถูกตัดมาอย่างสดๆร้อนๆนี่เอง คาวเลือดของมนุษย์เอียนตลบอยู่ข้างๆ คำคมชำเลืองดูศีรษะมนุษย์แวบหนึ่ง โดยมิกล่าวอะไรออกมา เขาหันกลับไปมองดูทหารรับจ้างที่นอนแบบอยู่ที่พื้นแล้วเดินตรงเข้าไปคุกเข่าสำรวจดูอย่างใกล้ชิด
“โดนดาบอาก้าของมันครับ ทะลุช่องท้องทั้งสองคน เดินเพ้อมาตลอดทาง เพิ่งสลบไปเมื่อกี้นี้เอง สงสัยว่าจะไม่รอดแน่ๆผู้พัน”
“ต้องรอดซีวะ เฮ้ย หมอกองพันช่วยดูแลมันหน่อยโว้ย ยึดฐานมันได้เมื่อไหร่ อั้วจะขอชอร์ปเปอร์มารับทันที สองคนที่ตายใคร?”
“อำนวยกับสีมาครับ ผู้พัน” ทหารรับจ้างคนหนึ่งตอบขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเครียดขรึม
“แล้วศพล่ะ ทำไมไม่เอามาด้วย?”
“ผมเห็นว่า เวลามันกระชั้นชิดหมายกำหนดการของผู้พัน ผมก็เลยซ่อนศพเอาใว้ก่อน งานเสร็จพวกผมจะไปเอาศพทีหลังครับ”
“ทีหลัง จำเอาไว้ ถ้าการปฏิบัติงานใดๆ อยู่ไม่ห่างจากรัศมีของหน่วยเหนือ ถ้ามีเหตุการณ์ที่สูญเสียชีวิตเกิดขึ้น จะต้องนำศพของพวกเรากลับมาทุกครั้ง จำไว้ เขาเหล่านั้นเป็นวีรบุรุษ ไม่ใช่หมากลางถนน” พอพูดจบ คำคมก็ยกนาฬิกาขึ้นมาดู
06.01 น. พอดิบพอดี คำคมเอื้อมมือหยิบวิทยุสนามจากพนักงานวิทยุที่ยืนอยู่ข้างๆขึ้นมาออกคำสั่งอย่างเฉียบขาด
“อินทรี1 อินทรี2 อินทรี3 จากคำคมโชว์สโมค”
ชั่วอึดใจ ควันสัญญาณสีแดงสดก็พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นสาย และบัดดลนั่นเอง อาวุธหนักของกองพันผมซึ่งตั้งจังก้าอยู่บนเนิน 788936 ก็ถล่มลงไปยังฐานปฏิบัติการของทหารเวียดนามเหนือตามพิกัดที่ได้แจ้งเอาไว้แล้วเป็นห่าฝน
ปรส.75 และ ค.81 แจกจ่ายกระสุนลงมาอย่างเมามัน เสียงระเบิดดังตึงตังโครมครามไม่ขาดระยะ เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีเสียงยิงตอบโต้จากข้าศึกแม้แต่นัดเดียว แต่มันก็เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง พอมันตั้งตัวติด ปรส. 82 ของมันก็ยิงถล่มเข้าใส่หมวดอาวุธหนัก บนยอดเนิน 788936 ทันที
“ตุ๊ง............บึ้ม”
“ตุ้ง............บึ้ม”
ปรส.82 แหวกอากาศผ่านศรีษะของพวกเราพุ่งเข้าใส่ยอดเนินดังกล่าว 2 นัดซ้อนๆ
“พร๊อก.......บึ้ม”
“พร๊อก........บึ้ม”
ค.81 ของเราก็เปิดฉากดวลกับมันอย่างถึงพริกถึงขิง
คงจะเป็นด้วยบังเกอร์อันแน่นหนา แข็งแรงของมันนั่นเองจึงทำให้ ปรส.82 ของมันรอดพ้นจากอำนาจปืนครกของพวกเราไปได้เหมือนกับปาฏิหารย์ มิไยที่อาวุธหนักของเราจะถล่มลงบนเป้าหมายเหมือนกับจับวาง ปรส.82 ของพวกมันยังคายพิษสงเข้าใส่พวกเราไม่ขาดระยะ คำคมนิ่งอึ้งชั่วครู่ก็ตัดสินใจออกคำสั่งไปยังหมวดอาวุธหนักอีกครั้ง
“อินทรี 4 จากคำคม ยิงเร่งที่หมายเดิม พยายามอย่าให้หลุดออกจากเป้า ทั้งหมดจะเข้าโจมตีเดี๋ยวนี้ คำสั่งหยุดยิงอั้วจะสั่งมาอีกครั้ง” ด้วยรหัสการตีอย่างสั้นๆ ทหารกองร้อย1 ชุดที่ 2 ที่โอบล้อมอยู่ทางปีกทั้งสองข้างก็เริ่มเคลื่อนที่เข้าประชิดฐานปฏิบัติการของข้าศึกอย่างเงียบเชียบ และในเวลาเดียวกัน คำคมก็พาทหารกองร้อย 2,3 เคลื่อนที่ขึ้นสมทบในลักษณะเดียวกัน
ปรส.75 และ ค.81 ของเราถล่มกระสุนสังหารลงบนฐานปฏิบัติการของข้าศึกอย่างชนิดต่อเนื่องกันหยั่งกับระบบออโต บัดดลนั้นเองประสาทหูของผมก็ได้ยินเสียงปืนอาก้าดังเกลียวกราวขึ้นมา ณ บริเวณพื้นที่เหนือศีรษะ แทรกซ้อนด้วยเสียง M.16, M.79, M.72 ตลอดจนระเบิด M.26 ดังตึงตังโครมครามเหมือนกับภูเขาทั้งลูกจะถล่มทลายลงไปในบัดดล
“อาวุธหนัก...หยุดยิง...ไอ้น้องขยี้มันให้แหลกไปทั้งฐานเลยโว้ย”
เสียงคำคมดังกังวานลั่นวิทยุสนาม ทหารรับจ้างเกือบ 400 คนร้องไชโยกระหึ่ม มือก็เหนี่ยวไกพ่นกระสุนกราดนำทางเลื่อนที่เข้าหาฐานของทหารเวียดนามเหนือ ซึ่งมองเห็นอยู่แค่เอื้อม
คำคมร้องตะโกนปลุกใจทหารทางวิทยุสนามอยู่ตลอดเวลา จิตวิทยาอย่างง่าย ของคำคมทำให้ทหารรับจ้างลืมตัว บังเกิดความฮึกเหิมบุกตะลุยอย่างไม่คิดชีวิต
ทหารเวียดนามเหนือโดนล้อมเสียแล้ว อาวุธหนักปราศจากพิษสงไปอย่างสิ้นเชิงในการรบระยะประชิดตัวเช่นนี้
มีเสียงตะโกนเป็นภาษาเวียดนามให้ถอนตัวดังลั่นมาจากฐานเบื้องบน
บัดดลนั้น ทหารเวียดนามเหนือก็ประสานการยิงลงมาเป็นห่าฝนเหมือนกับจะสั่งลา………….
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 07, 2015, 02:40:23 PM โดย สมิง วังม่วง » บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11762 เมื่อ: กันยายน 06, 2015, 12:19:45 PM »

อัพเดต ตลาดอุปกรณ์และส่วนควบอาวุธปืนวันนี้ http://2013.gun.in.th/index.php?board=21.0  (อย่าลืมสมัครสมาชิก)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 06, 2015, 04:06:15 PM โดย สมิง วังม่วง » บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11763 เมื่อ: กันยายน 07, 2015, 03:11:38 PM »

"อย่าตัดสินใครโดยไม่ได้ถามเขาสักคำ หรือ แค่ฟังคนอื่นเขามา ชีวิตคนก็เหมือนสะพาน มีขึ้นมีลง มีสูงมีต่ำ สุดท้ายก็ตายเหมือนกัน" สมิง วังม่วง





วันชโลมเลือด ตอนที่ 7 ผลงานของ สยมภู ทศพล
ภาพที่ผมมองเห็นในกล้องสนามในขณะนี้ก็คือทหารเวียดนามเหนือในชุดต่างๆกัน เครื่องแบบสีดำบ้าง เขียวบ้าง..ลายพร้อยบ้าง วิ่งถอยกลับขึ้นไปบนยอดเนิน ด้วยอาการยิงพลางถอยพลาง
“อินทรีพิฆาต จากคำคม... กระต่ายแหกกรง เปลี่ยน” ผบ.พัน ยอดเสนาธิการส่งรหัสวิทยุขึ้นไปให้ทหารชุดล่าสังหารที่อยู่บนเนินเถิดเทิงทราบ ไม่ปรากฏเสียงตอบจากหน่วยล่าสังหาร นอกจากเสียงสัญญาณนกเขาชวาขันกังวานออกมาลั่นวิทยุ
“บุกตะลุยขึ้นไป ไอ้น้อง...มันจนมุมเราแล้ว”
เสียงของคำคมถูกกลืนหายไปกับเสียงไชโยโห่ร้องของทหารรับจ้างที่กระหึ่มขึ้นมาด้วยความลำพองใจในสถานการณ์ที่เป็นต่อข้าศึกอย่างเห็นได้ชัด
ทหารเวียดนามเหนือถอยพลางยิงพลาง ใกล้ยอดเถิดเทิงไปทุกขณะ เงียบ... ไม่มีเสียงปืนจากหน่วย “อินทรีพิฆาตล่าสังหาร” จนผมและคำคม เอะใจจนเกือบจะวิทยุเรียกขึ้นไปอีกครั้ง
บัดดลนั้นเอง ผมก็ได้ยินเสียง “M-60” ครางระงมออกมาจากจุดใดจุดหนึ่งบนยอดเนินฝาชีแห่งนั้น...ห่ากระสุนของมันตัดต้นฝิ่นขาดกระเด็นฉุยเป็นทาง “M-16” ด้วยระบบการยิงแบบอัตโนมัติเต็มตัว ประสานการยิงแทรกซ้อนข้นมาเป็นช่วงๆ
“บึ้ม...บึ้ม...บึ้ม...บึ้ม...บึ้ม...บึ้ม”
ระเบิดมือ 6 ลูกซ้อนๆ ปลิวลงมาเกือบจะพร้อมๆกัน
ทหารเวียดนามเหนือผงะเต้นเหมือนกับหมาโดนน้ำร้อน ส่วนหน้าสุดทั้งแถบซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่า 15 คนกลิ้งระเนระนาดลงมาตามพื้นที่ชันเกือบ 70 องศานั้น
และพร้อมๆกันนั้นเอง ทั้งสามด้านต่างก็ประสานการยิงขึ้นไปอย่างหูดับตับไหม้
อา... ทหารเวียดนามเหนือตกอยู่ในวงล้อมของพวกเราเสียแล้ว จะถอยหนีลงมาข้างล่างก็เจอะกับฝูงเพชฌฆาตที่ติดดาบปลายปืนขาววับร้องแหกปากตะโกนข่มขวัญด้วยท่าทางกระหายเลือด ทางขวาและซ้ายก็จะเจอะกับทหารกล้าตายที่บุกตะลุยเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต
พวกมันโดนบีบให้ขึ้นไปยอดเนินเขาอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง...
และพวกมันก็ไม่ลังเลที่จะกระทำเช่นนั้น..
ทหารเวียดนามเหนือง้างดาบปลายปืนที่งอพับติดใต้ลำกล้องออกมากางติดเด่อยู่ข้างหน้าแล้วปีนขึ้นสู่ยอดเขาท่ามกลางห่าฝนเหล็ก
คนแล้วคนเล่าที่ล้มผงะไหลลื่นลงมา พวกมันก็มิได้ย่อท้อ ปีนป่ายขึ้นไปเหมือนกับคนบ้าเลือด จากยอด 60 คน ร่อยหลอลงทุกที...ทุกที
พระเจ้าช่วย 10 คนสุดท้ายของมันปีนป่ายรอดวิถีกระสุนขึ้นไปยอดเขาได้เหมือนกับปาฏิหารย์เข้าให้แล้ว
ห่ากระสุนเงียบลงเป็นปลิดทิ้ง ร่างของทหารเวียดนามเหนือหายลับขึ้นไปยอดเขา ชั่วครู่ผมก็มองเห็นร่างของทหารเวียดนามเหนือกับทหารรับจ้างกระเด็นกลิ้งลงมาจากยอดเนินคู่หนึ่ง ทั้งสองกอดกายกันกลมดิกเหมือนหนึ่งจะพิศวาสกันเสียเต็มประดา
สายตาของผมไม่ฝาดหรอกครับ ทหารกล้าทั้งสองคน กระซวกดาบปลายปืนแลกชีวิตกันตายยับทั้งคู่...
“ฆ่ามันให้หมด...ทหารทุกคน ขึ้นไปบนยอดเนินเดี๋ยวนี้”
คำคมแผดตะโกนก้องวิทยุ ดวงตาแดงก่ำเหมือนเพชฌฆาต ภาพลูกน้องที่โดนแทงด้วยดาบปลายปืนร่วงลงมาจากยอดเขาสร้างความเครียดแค้นให้กับผู้พันใจเพชรเหลือประมาน
“ผู้พันครับ ไม่ต้องสั่งให้ทหารขึ้นมาหรอกครับ...ทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกมันตายเกลี้ยง พวกเราบาดเจ็บ 3 ตาย 2 มีคำสั่งอะไรจะให้ผมปฏิบัติในขั้นต่อไปโปรดสั่งด้วยครับ” เสียงอันคุ้นหูของหมู่สมพรดังแว่วอยู่ในวิทยุ
“เฮ้ย...สมพร ยอดเขามีพื้นที่พอที่จะให้ชอร์ปเปอร์ลงได้ไหมวะ พวกเรามีคนบาดเจ็บอยู่ข้างล่าง 2 คน”
“ยากครับผู้พัน ถ้าจะให้มันลอยตัวอยู่บนอากาศแล้วใช้รอกดึงขึ้นไปก็พอจะแก้ปัญหาได้ครับ”
“โอเค...ประเดี๋ยวอั้วจะพาทหารบาดเจ็บขึ้นไปพบลื้อข้างบน อย่าลืมตรวจการณ์ด้านโน้นด้วย”
ทหารรับจ้างทั้งสามกองร้อยยึดบ้านเถิดเทิงได้อย่างสิ้นเชิง ศพของทหารเวียดนามเหนือถูกขนลงกองรวมกันไว้ในไร่ฝิ่นที่แหลกลาญไปด้วยอำนาจของกระสุนนานาชนิด
คำคมสั่งสำรวจยอดการสูญเสียอย่างเร่งด่วน
เหมือนกับปาฏิหารย์…ทหารรับจ้างกองร้อย 2 และกองร้อย 3 ที่บุกตะลุยขึ้นบริเวณช่องกลางปราศจากการสูญเสียแม้แต่คนเดียว นอกจากพนักงานวิทยุที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนอาก้าที่หัวไหล่เพียงคนเดียวเท่านั้น
กองร้อย 1 ชุดแรก ที่โอบล้อมปีกทั้งสองข้างเจอะจรวด RPG ตาย 2 บาดเจ็บ 2 คน
รวมทั้งทหารที่สูญเสียบนยอด”เถิดเทิง”เข้าด้วยแล้ว ก็มีจำนวนบาดเจ็บ 8 คน ตาย 4 คน ซึ่งเป็นยอดที่สูญเสียน้อยเป็นประวัติการณ์ในการเข้าตีครั้งนี้
ผม,คำคมติดตามทหารรับจ้างที่ลำเลียงทหารบาดจ็บขึ้นไปบนยอดเถิดเทิงในเวลาต่อมา ตลอดเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาเต็มไปด้วยซากศพทหารเวียดนามเหนือที่ถูกห่ากระสุน “M-60” แขนขาขาดกระเด็นไปคนละทิศละทาง ตับไตไส้พุง เรี่ยราดมองดูเอน็จอนาดใจ เหลือประมาน แม้กระทั่งในฐานปฏิบัติการของพวกมันก็ตามที สภาพที่ทุเรศของศพยังปรากฏอยู่ทั่วๆไป
จากการสำรวจอย่างคร่าวๆ ทหารเวียดนามเหนือสูญเสียชีวิตอยู่บนฐานและเส้นขึ้นยอดเขา54 คนพอดิบพอดี และในจำนวนนั้นมีคนบาดเจ็บสาหัส 1 คน และอีกชั่วโมงต่อมาก็เสียชีวิตเนื่องจากโลหิตเป็นพิษ
เมื่อผม เคลื่อนที่ขึ้นมาบนยอดเขา ก็มองเห็นทหารเวียดนามเหนือ 10 คน นอนระเกะระกะร่างกายเยินไปด้วยรอยแผลจากดาบปลายปืน เลือดสาดกระเซ็นเหมือนกับพื้นดินถูกแต้มเอาไว้ด้วยสีแดงเข้ม ...กลิ่นคาวคลุ้งเอียนกลบ จนเกือบจะทำให้ผมอาเจียนออกมาด้วยความคลื่นเหียน ภารกิจเร่งด่วนอันดับแรกก็คือ ขนชอร์ปเปอร์จาก เบาว์เดอร์-คอนโทรล มารับคนเจ็บกลับล่องแจ้ง และเป็นการติดต่อวิทยุครั้งแรกในรอบ 48 ชั่วโมงที่ผมเดินทางออกจากที่ตั้งปกติข้างเนิน สกายไลน์-ทู
“เฮ้...บิ๊กแมน...ผมนึกว่าคุณกับคำคมจอดไม่ต้องแจวเสียแล้ว...โอเค ชอร์ปเปอร์พร้อมด้วยรอกชนิดพิเศษกำลังเดินทางไปหาคุณ จะต้องการอะไรให้ผมสนับสนุนบอกมาเลย”
นอร์แมนแสดงอาการดีอกดีใจที่ได้รับการติดต่อวิทยุจากผม หลังจากที่ขาดการติดต่อเกือบ 2 วันเต็มๆ เขาแสดงความจำนงที่จะให้ความสนับสนุนแก่กองพันของผมอย่างเต็มที่ ผมขยับจะขอชอร์ปเปอร์เพิ่มอีก ก็ได้ยินเสียงหึ่งๆของมันดังแว่วมาทางเมืองล่องแจ้ง เมื่อผมยกเสาอากาศ “HT-2” ดึงขึ้นจนสุด ก็ได้ยินเสียงนักบินเรียกผมลั่นวิทยุ
“บิ๊กแมนจากโฮเต็ล-ฟอกท็อต คุณอยู่บนยอดฝาชีนั่นใช่ไหม”
“โฮเต็ล-ฟอกท็อต จากบิ๊กแมน แม่นแล้วเพื่อนฝูง ผมมีเพื่อนบาดเจ็บอยู่ 8 คนและ กิโล-วิสกี้(ตาย)อีกจำนวนหนึ่ง อันดับแรกผมขอคนป่วยก่อนนะครับ”
ชอร์ปเปอร์สีขาว ลดระดับร่อนตีวงกว้างอยู่ชั่วครู่ ก็ค่อยๆโรยตัวหยุดนิ่งอยู่เหนือยอดเนินดังกล่าว กระแสลมจากโรเตอร์ พัดฝุ่นกระจายคลุ้ง จนทหารรับจ้างต้องนอนหมอบฟุบหน้าลงกับพื้นดินชั่วขณะ
“รอก”ชนิดพิเศษถูกหย่อนลงมาอย่างช้าๆ ทหารรับจ้าง 3-4 คนหามคนบาดเจ็บ วิ่งก้มตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว ต่อจากนั้นก็ใช้เข็มขัดนิรภัยผูกติดเข้ากับรอก กระตุกเบาๆเป็นอาณัติสัญญาณให้พนักงานเปิด-ปิดประตูที่นอนพังพาบชะโงกหน้าลงมาดู เป็นทำนองให้ดึงรอกดังกล่าวนั้นขึ้นไป ด้วยระบบไฮดรอลิก รอกชนิดพิเศษถูกกว้านขึ้นไปอย่างช้าๆ ร่างของทหารรับจ้างถูกดึงหายลับขึ้นไปทางช่องประตู ไม่ถึงยี่สิบนาที การลำเลียงคนบาดเจ็บทั้ง 8 คน ก็ได้ผ่านไปอย่างเรียบร้อย
“โฮเต็ล-ฟอกท็อต เที่ยวบินที่สองโปรดรับอาวุธหนัก และทหารของผมที่อยู่บนยอดเนินถัดไปเบื้องหลังผมให้ด้วยครับ”
“แคน ดู อีซี่...มายเฟรนด์ ประเดี๋ยวผมจะขนไอ้ปืนโตมาให้คุณเอง ไปก่อนนะครับ”
ชอร์ปเปอร์บินกลับไปแล้ว ผมทรุดตัวลงนั่งด้วยความเหน็ดเหนื่อย สายตาเหม่อมองดูซากศพที่กองระเกะระกะอยู่ข้างๆตัวอย่างเอน็จอนาถใจ
คำคมเดินเข้าไปกอดคอหมู่สมพรลูกน้องเดนตายแล้วกล่าวชมขึ้นมาค่อนข้างดัง
“ยอดเยี่ยม...ไอ้น้อง กองพัน 617 ถ้าไม่มีลื้อและทหารกล้าพวกนี้ ไอ้แกวจะต้องรอดมือพวกเราไปได้อีกครั้ง สมพร... อำนวยและสีมา ลูกน้องของลื้อได้กระทำหน้าที่ของลูกผู้ชายเสร็จสิ้นลงแล้ว ศพของพวกเขาอยู่ข้างล่าง เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อย เราจะขนพวกเขากลับไปยังล่องแจ้งทันที”
หมู่สมพรยืนนิ่ง น้ำตาของลูกผู้ชายคลอเบ้า ...ชั่วอึดใจเขาก็ถอดหมวกเบเรต์สีแดงออกจากศีรษะ ก้มหน้าลงพร้อมกับพึมพำออกมาเหมือนกับเสียงกระซิบที่แว่ววิเวกมาจากสายลม
“ขอให้ไปดีเถิด...ไอ้เพื่อนยาก แกได้ปฏิบัติหน้าที่ของทหารหาญเสร็จสิ้น ตามปณิธานของแกเรียบร้อยแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกแกเคยขอร้องกันเอาไว้ กันขอปฏิญาณว่าจะปฏิบัติตามความตั้งใจของแกทุกประการ”
หมู่สมพรสลัดอาการเศร้าสลดออกจากความรู้สึก แล้วจัดแจงลากศพทหารเวียดนามเหนือมารวมกัน ณ บริเวณด้านหนึ่งของยอดฝาชีนั้น
ชอร์ปเปอร์ 3 ตัว บินเกาะหมู่ลิบๆอยู่บนท้องฟ้า เสียงของนอร์แมนเรียกผมลั่นวิทยุ
“บิ๊กแมนจาก นอร์แมน ผมจะลงไป หาคนช่วยเคลียร์พื้นที่ให้ผมด้วย”
คำคมซึ่งยืนอยู่ข้างๆ หยิบวิทยุจากมือของผมแล้วเย้านอร์แมนออกไปเหมือนจะเบรกกันอยู่ในที ...
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11764 เมื่อ: กันยายน 08, 2015, 12:32:50 PM »

"อย่าตัดสินใครโดยไม่ได้ถามเขาสักคำ หรือ แค่ฟังคนอื่นเขามา ชีวิตคนก็เหมือนสะพาน มีขึ้นมีลง มีสูงมีต่ำ สุดท้ายก็ตายเหมือนกัน" สมิง วังม่วง

วันชโลมเลือด ตอนที่ 8 ผลงานของ สยมภู ทศพล
“นอร์แมนจากคำคม ข้างล่างมีทหารเวียดนามเหนืออยู่ 64 คน พร้อมด้วยอาวุธประจำกายและอาวุธหนักพร้อม คุณจะลงมาทำไมกัน มันไม่ปลอดภัย สู้นั่งอยู่ที่ “บาวเดอร์-คอนโทรล”ไม่ได้หรอกครับ
“อย่าพูดเป็นเล่นไปน่า คำคม ผมจะลงไปจริงๆ”
“เรื่องจริงครับ ทหารเวียดนามเหนือทั้ง 64 คนมีจริง แต่ทว่าไม่มีลมหายใจเสียแล้ว ลงมาเลย ถ้าคุณแน่ใจว่าตัวเองไม่กลัวผี”
ชอร์ปเปอร์โรยตัวลงมาอีกครั้ง บันไดเชือกถูกทิ้งลงมาก่อน ชั่วอึดใจผมก็มองเห็นกบาลอันแดงแจ๋ของเจ้านายผมปีนลงมาอย่างระมัดระวัง
“มายก็อด...นี่พวกคุณฆ่ากันบนยอดเขาที่มีพื้นที่แคบๆหยั่งงี้หรือครับนี่”
ในขณะที่พูด นอร์แมนก็เดินสำรวจศพของทหารเวียดนามเหนือไปรอบๆด้วยอาการตื่นเต้น
และขณะเดียวกัน ชอร์ปเปอร์ทั้ง 3 ตัวก้เริ่มลำเลียงอาวุธหนัก และทหารที่อยู่บนยอด 788936 มายังยอดเถิดเทิงเป็นโกลาหล
คำคม หันไปกำชับให้สมพรเป็นคนวางแนวที่ตั้งอาวุธหนักอีกครั้ง แล้วพาผมกับนอร์แมนเคลื่อนที่ลงมายังจุดรวมพลเบื้องล่างเพื่อรอแผนเข้าตรวจค้นในหมู่บ้านชาวแม้วซึ่งถูกทหารรับจ้างล้อมเอาไว้ในขณะก่อนจะเริ่มโจมตี
นอร์แมนหยุดยืนระหว่างซากศพของทหารเวียดนามเหนือ และทหารรับจ้างที่กอดก่ายกันกลมดิกอยู่ ณ บริเวณเส้นทางขึ้นยอดเขา
“มายก็อด มันเป็นการประจัญบานครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมได้เคยเห็นมาในสมรภูมิลาว ทั้งสองทหารกล้าที่นอนไร้วิญญาณอยู่เบื้องหน้าผม ณ บัดนี้ คือ ยอดนักรบผู้กล้าหาญ..ผมไม่เคยตะขิดตะขวงใจเลยแม้แต่น้อยที่จะทำความเคารพให้แก่ความเก่งกล้าของสองนักรบผู้นี้” พอพูดจบ นอร์แมนก็ชิดเท้าแสดงความเคารพศพทหารสองสัญชาติ ที่นอนกอดกันกลมดิกอยู่เบื้องหน้า
อย่าว่าแต่นอร์แมนเลยครับ แม้แต่คำคมเองก็ต้องยกมือกระทำความเคารพให้แก่ทหารทั้งสองที่สูญเสียชีวิต อย่างชนิดแลกดาบปลายปืนกันในระยะประชิดตัว ดาบอาร์ก้ากับดาบเอ็ม 16 ไม่มีใครเหนือกว่าใคร แต่สิ่งที่เหนือกว่าก็คือ น้ำใจที่กล้าเกินมนุษย์ของทหารหาญทั้งสอง
ศพทหารรับจ้างทั้ง 5 ศพถูกห่อด้วยผ้ากันฝนปันโจ แล้วถูกลำเลียงขึ้นไปบนยอดเขาในเวลาต่อมา
ไร่ฝิ่นที่งามสะพรั่งแหลกลาญไม่มีชิ้นดี ทั้งแรงระเบิด และการเหยียบย่ำของทหารรับจ้าง ทำให้ต้นฝิ่นหักระเนระนาดไปเกือบครึ่งบริเวณ
อาหารสดทุกชนิด ได้รับการสนับสนุนจากบก. ส่วนหลังในสองชั่วโมงต่อมา อาวุธยุทโธปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นกระสุนนิดต่างๆ ถูกลำเลียงมาไม่ขาดระยะ
ทหารชุดลาดตระเวนส่วนหนึ่งถูกส่งไปยังทางลาดด้านที่เป็นเส้นทางเข้าสู่เนินสกายไลน์-วันเพื่อหาที่เหมาะสมสร้างฐานปฏิบัติการต่อไป
สามชั่วโมงต่อมา ทหารรับจ้างกองร้อย2,3 ก็เคลื่อนที่ลงไปเสริมแนวยังพื้นที่ด้านตรงข้ามกับหมู่บ้านแม้ว เป็นแนวยาวเกือบตลอดไหล่เขา ส่วนกองร้อย 1 รับหน้าที่ตรวจค้นหมู่บ้านก่อนที่จะขึ้นไประวังป้องกันหมวดอาวุธหนักต่อไป
ก่อนอาหารเที่ยงจะเริ่มต้นขึ้น ทหารรับจ้างกองร้อยที่ 1 ที่โอบล้อมหมู่บ้านแม้วอยู่ ก็ร้องตะโกนให้ชาวแม้วทุกคนออกมาจากบริเวณบ้านให้หมดสิ้น
ชาวแม้ว ทั้งชายและหญิง ลับๆล่อๆออกมาจากที่ซ่อนด้วยอาการกริ่งเกรง
ทุกคนถูกตรวจค้นร่างกายอย่างละเอียดถี่ถ้วนพร้อมกับถูกสอบถามเป็นรายบุคคลถึงจำนวนที่แน่นอนอีกครั้ง
ผู้ชาย 13 ผู้หญิง 12 คน มันขาดหายไปจากยอด 30 คน ที่หมู่สมพรตรวจการณ์พบอย่างน่ากังขา
คำคมออกคำสั่งบุกตรวจค้นทันที
ผม นอร์แมน หมู่สมพร เคลื่อนที่เข้าไปทางเบื้องหลังของเล้าหมู แล้วคืบคลานเข้าไปยังบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งมองเห็นบานหน้าต่างแง้มออกมาอย่างน่าผิดสังเกต
“เอี้ยด”
หน้าต่างบานเดียวของบ้านมุงแฝกหลังสัปปะรังเคนั้นไหวยวบ ร่างของชายฉกรรจ์นานหนึ่ง กระโจนผางทะลุผ่านหน้าต่างออกมาเหมือนกับนักกายกรรม เนื่องจากหน้าต่างของบ้านหลังนั้น สูงพอสมควร ร่างของมันก็เลยเสียหลักหมุนคว้างอยู่กลางอากาศ
นอร์แมนวาดลำกล้องปืน M-18 (อาร์มาไลน์ – ผลิตในประเทศญี่ปุ่น) ขึ้นหาเป้าหมายก่อนที่ผมจะปรามได้ทัน ประสาทหูของผมก็อื้ออึงไปด้วยเสียงระเบิดอันถี่ยิบของกระสุนที่พรั่งพรูเข้าหาเป้าหมาย ที่กำลังตีลังกาหน้าอยู่กลางอากาศนั้น
“เร็ว มันถือระเบิดอยู่ในมือ”
นอร์แมนแหกปากร้องขึ้นมาสุดเสียง ผมเย็นเยียบเข้าไปถึงไขสันหลัง ประสาทส่วนที่ 6 อันเร้นลับ บงการให้ผมฟุบหน้าลงแนบกับพื้นดิน มือทั้งสองยกข้นประสานกุมศรีษะเอาไว้แน่น
“ป้าบ”
เสียงวัตถุตกกระทบพื้นดินอยู่เบื้องหน้า ได้ยินถนัดหู ผมหรี่ตามองดู ก็มองเห็นทหารเวียตนามเหนือ ที่เผ่นออกมาจากหน้าต่างแล้วโดนกระสุน M-18 ของนอร์แมนเข้าอย่างจังเบอร์ หล่นตุ๊บลงมากองอยู่เบื้องหน้า และห่างออกไปเพียงเล็กน้อย ระเบิดมือจีนแดงชนิดสากกระเบือ กลิ้งหล่นอยู่มองเห็นถนัดตา ปาฏิหาริย์ ลูกระเบิดด้าน ผม นอร์แมน และหมู่สมพร รอดตายอย่างหวุดหวิด ทหารรับจ้าง 3-4 คน ซึ่งเพิ่งจะเคลื่อนที่ตามผมมา คลานถอยกลับไปอย่างลุกลี้ลุกลน
“เฉยๆ บิ๊กแมน อย่าเพิ่งขยับตัว”
หมู่สมพร พูดพลางคลานสี่ตีนเข้าไปหาลูกระเบิด ท่ามกลางความตกตะลึงของผมและนอร์แมน จนกระทั่งออกปากร้องห้ามไม่ทัน
หมู่สมพร คลานเข้าไปหยุดที่ลูกระเบิดด้านลูกนั้นอยู่ชั่วอึดใจ ผมมองเห็นเขาก้มหน้าลงสำรวจลูกระเบิดอยู่ชั่วครู่ ก็หันกลับมามองดูผม พูดขึ้นช้าๆด้วยน้ำเสียงที่ปราศจากอาการตื่นเต้น
“ไม่แน่ใจว่ามันจะด้าน หรือว่าเป็นลูกถ่วงเวลาสายชนวนถูกดึงออกแล้ว แต่ทว่าตับเชือกขาดเสียก่อน ระวัง...ผมจะโยนมันเข้าไปในไร่ฝิ่นข้างหน้าโน่น”
หมู่สมพร ค่อยๆลุกขึ้นนั่งคุกเข่า ผมมองเห็นเขาจ้องลูกระเบิดสากกระเบือเหมือนกับจะชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ก็ตัดสินใจหยิบลูกระเบิดขว้างขึ้นมาพร้อมกับดึงเชือกสีขาวที่ขาดห้อยอยู่ ที่บริเวณด้ามออกแรงดึงเต็มที่ แล้วขว้างเจ้าสากกระเบือดังกล่าวเข้าไปใร่ฝิ่นเต็มแรง
“บึ้ม”
ต้นฝิ่นหักระเนระนาดกระเด็นฉุยเหมือนกับถูกเฉือนด้วยของมีคม สะเก็ดระเบิดปลิวว่อน บางชิ้นพุ่งแฉลบผ่านศรีษะพวกผมส่งเสียงหวีดหวาดจนเย็นเฉียบเข้าไปถึงไขสันหลัง
ก่อนที่ผมจะตั้งตัวติด หมู่สมพรก็วิ่งพรวดพราดเข้าไปไนบ้านสองชั้น ซึ่งประตูทางเข้าเปิดหราอยู่ด้วยความรวดเร็วประดุจลมเพชรหึง ผมกับนอร์แมนเคลื่อนที่เข้า “บล็อก” บริเวณด้านข้างของบ้านดังกล่าว เอาไว้อย่างเงียบเชียบ
“บิ๊กแมน ผู้หญิงแม้วโดนฆ่าตายอยู่ข้างในนี่คนนึงครับ”
เสียงของหมู่สมพรดังลั่นอยู่ในบ้าน ผมกระชากแขนเสื้อนอร์แมน เผ่นพรวดตามเข้าไปอย่างชนิดแทบจะหายใจไม่ทัน
บ้านของแม้ว ที่มองเห็นภายนอกที่ปลูกเป็นแบบสองชั้นนั้น แต่เมื่อผมผลุบเข้าไปข้างในก็ปรากฏว่าบ้านดังกล่าวมีเพียงชั้นเดียวเท่านั้น ส่วนที่ใช้เป็นที่หลับนอนถูกยกสูงขึ้นจากพื้นดินจนกระทั่งมองดูเหมือนกับว่าบ้านหลังนั้นเป็นบ้านสองชั้นอันผิดธรรมดาๆของบ้านแม้วโดยทั่วๆไป บนฟากไม้ที่เกะกะและรกรุงรังนั้น ร่างของสาวแม้วนอนตาเหลือกโพลงอยู่ในสภาพเปลือยครึ่งตัว ที่บริเวณลำคอเขียวคล้ำ เหมือนกับโดนบีบเค้นด้วยมือที่แข็งแรง ลิ้นที่แลบออกมาจุกที่ริมฝีปากมองดูเหมือนกับเศษผ้าขี้ริ้วที่ม้วนเป็นก้อนกลมๆแล้วยัดคาเอาใว้
“ปัง...ปัง...ปัง...ปัง...ปัง...ปัง”
เสียงรัวของอาร์ก้าที่ดังระงมออกมาจากบ้าน3-4 หลังที่อยู่ห่างออกไป ทำให้ผม นอร์แมน และหมู่สมพร กระโจนพรวดเข้าไปซุกตัวอยู่ข้างๆกระสอบข้าวที่วางซ้อนกันอยู่ริมผนังด้านหนึ่งพร้อมกับสอดสายตาทะลุรอยแตกของฝากระดานมองอกไปยังภาพที่สับสนวุ่นวายเบื้องหน้าเหล่านั้น ร่างของทหารเวียดนามเหนือคนนึงเลือดท่วมตัว วิ่งไหล่เอียงกระเซอะกระเซิงออกมาจากแนวรั้ว ปืนอาร์ก้าทีถืออยู่ในมือติดดาบปลายปืนขาววับ จุดหมายปลายทางของมันมุ่งเข้ามาที่พวกผมหลบอยู่พอดิบพอดี
“เสร็จกู ...มึง ไอ้แกว”
หมู่สมพรคำรามออกมาเสียงลึกๆแล้วค่อยๆฉากแวบออกไปจากประตู เข้าไปยืนซ่อนอยู่ตรงมุมบ้านอย่างเงียบเชียบ
ผมกับนอร์แมนเอาปากกระบอกปืนค่อยๆกระทุ้งกระดานที่อยู่ข้างๆกระสอบข้าวสาร ความบอบบางมันให้มันหลุดออกมาทั้งกะบิ จนมองเห็นภาพของทหารเวียดนามเหนืออย่างถนัดถนี่ ทหารเวียดนามเหนือหนีตายวิ่งหน้าเริ่ดเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต มันผ่านเล้าหมูแล้วเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าขึ้นสู่ยอดเนิน พอร่างของมันคล้อยหลังหมู่สมพรซึ่งคอยจังหวะอยู่แล้ว ก็กระโจนพรวดเข้าประกบด้านหลังพร้อมกับเตะขวาตามเข้าไประหว่างก้นกบด้านหลังด้วยรองเท้าคอมแบ็ทหัวเสริมเหล็กเต็มแรง
ทหารเวียดนามเหนือ ร้อง จ๊าก มือทั้งคู่ตะครุบลงไปคุมห้องเครื่องแน่น
หมู่สมพรกระแทกพานท้ายปืนลงไปบนท้ายทอยสุดแรงเกิน
“พล็อก”
พานท้ายกระทบต้นคอด้านหลังของมันเต็มแรงจนทำให้มือทั้งสองของมันหลุดจาก “ห้องเครื่อง”ชั่วขณะ ทำอากัปกิริยาเหมือนกับจะยกขึ้นมาไขว่คว้าอากาศ แล้วผงะค่ำหน้ากระเสือกกระสนเหมือนกับปลาดุกโดนทุบหัว
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11765 เมื่อ: กันยายน 09, 2015, 11:42:00 AM »

"อย่าตัดสินใครโดยไม่ได้ถามเขาสักคำ หรือ แค่ฟังคนอื่นเขามา ชีวิตคนมีขึ้นมีลง มีสูงมีต่ำ สุดท้ายก็ตายเหมือนกัน"

วันชโลมเลือด ตอนที่ 9 ผลงานของสยมภู ทศพล
หมู่สมพรกระโดดเตะเข้าประชิดตัว พร้อมกับเตะช้อนใบหน้าเต็มแรง
“เฉี๊ย”
ใบหน้าของมันสะบัดเริด มือทั้งสองเหยียดค้างออกไปด้านหลัง อาการกระเสือกกระสนหยุดเป็นปลิดทิ้ง เงียบ...สลบไปในบัดดล
มีเสียงเอะอะเกรียวกราวดังลั่นมาทางเบื้องหลัง เมื่อผมหันไปดู ก็มองเห็นสาวแม้ว 2-3 คน ถือมีดสะปาต้าเล่มยาวเฟื้อย วิ่งควบเข้ามาด้วยท่าทางเคียดแค้น นอร์แมนถลันออกไปขวางหน้าเอาไว้ ภาษาแม้วที่ชัดเจนจากปากของเขาพ่นออกมาเร็วปรื๋อ
“พวกเธอจะฆ่ามันไม่ได้เป็นอันขาด มันเป็นเชลยศึกที่เราต้องสอบสวน วางมีดเอาไว้ที่พื้น แล้วยืนอยู่นิ่งๆ”
สาวแม้วทั้ง 3 คนหยุดชะงัก จ้องมองดูหน้านอร์แมนด้วยความแปลกใจ ที่เห็นฝรั่งพุดภาษาพื้นเมืองของเธอได้ชัดเจนอย่างกับเป็นแม้วอีกคนหนึ่ง
ละในเวลาเดียวกันนั้น ทหารรับจ้างที่แยกย้ายกันตรวจค้นตามที่ต่างๆก็ทยอยเข้ามารุมพวกผมแน่นขนัด
หมู่สมพรก้าวเท้าออกไปชำเลืองดูทหารเวียดนามเหนืออยู่ชั่วครู่ ก็หันกลับมามองตานอร์แมนแล้วเอ่ยขึ้นเป็นระหัส F.A.G. อย่างชัดเจน
“กิโล-วิสกี้ (ตาย)”
นอร์แมน เม้มริมฝีปากแน่น เขาชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ก็หันกลับไปถามผู้หญิงชาวแม้วทั้ง 3 อีกครั้ง
“พวกมันทำอะไรเธอ... น้องสาว?”
“ฆ่าแม่ ฆ่าน้องสาว แล้วก็ข่มขืนพวกฉันทั้ง 3 คนนี่ ถ้าพวกนายไม่มา ป่านนี้มันก็คงจะฆ่าพวกฉันหมดแล้ว ปล่อยทหารแกวคนนี้ให้พวกฉันเถอะ...นาย”
นอร์แมนพยักหน้า พร้อมกับหันหลังให้ ก้าวเท้ายาว ๆ ออกไปจากจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว
พอผมขยับตัวตาม ประสาทหูก็ได้ยินเสียงมีดกระทบกับร่างของมนุษย์ดัง ฉับ...ฉับ...ฉับ พร้อมๆกับมีเสียงหัวเราะแหลมเหล็กดังประสาน ขึ้นมาอย่างโหยหวน แทรกซ้อนด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด...กระหายเลือดของหญิงแม้วกลุ่มนั้นดังขึ้นมาไม่ขาดระยะ
“หมูบ๊ะช่อ บิ๊กแมน ไอ้แกวโดนสับเละเทะไปหมดแล้ว”
หมู่สมพรกระซิบกับผมกับผม พร้อมกับดึงชายแขนเสื้อแจ๊กเก็ตฟิลด์ของผมเอาแน่น ทำกริยาเสมือนหนึ่งจะดึงให้ผมหยุดดูสภาพดังกล่าวอยู่ในที ผมหันกลับไปดู พระเจ้าช่วย นั่นมันร่างมนุษย์หรือสวะกันแน่ ศีรษะถูกบั่น หลุดออกมาจากลำคอ กลิ้งกระเด็นอยู่ใกล้ๆ และรูปร่างของศีรษะของศีรษะ ก็เปลี่ยนแปลงไป จนมองดูเหมือนกับผลมะพร้าวที่ถูกขวานจามยับเยินไปหมดทั้งลูก จมูกหลุดหายออกไปทั้งดั้ง กระพุ้งแก้มถูกคมมีดที่คมกริบเฉือนออกไปทั้งสองข้าง จนมองเห็นลิ้นที่อยู่ข้างในศพหัวขาดที่กองอยู่ถัดไป ถูกสับด้วยมีดสปาต้าจนเละเทะ เหมือนกับกองผ้าขี้ริ้วเก่าๆ ที่สุมรวมกันเอาไว้ข้างถนน
เลือด.. เลือดสาดกระจาย เหมือนกับหมึกสีแดงที่หกราดพื้นถนน ลำไส้หั่นออกเป็นชิ้นๆ เหมือนกับเส้นมักกะโรดี
กลิ่นคาวฉุนขึ้นจมูก ผมขืนตัวดึงแขนสมพรออกเดินตามนอร์แมนไปอย่างรวดเร็ว
ก่อน 15.30 น. เล็กน้อย นอร์แมนก็บินกลับล่องแจ้ง บินกลับไปด้วยท่าทางทีกระหยิ่มยิ้มย่องทีตัวเขาสามารถฆ่าทหารเวียดนามเหนือได้ด้วยมือของเขาคนหนึ่งขณะเข้าตรวจค้นหมู่บ้านชาวแม้วพร้อมกับผม
ก่อนจะบินกลับ นอร์แมนกระซิบบอกกับผมด้วยท่าทางภูมิอกภูมิใจ
“บิ๊กแมนคุณรู้ไหม ทหารเวียดนามเหนือที่ถูกผมยิงตายเมื่อกี้นี้เป็นศพแรกในสมรภูมิลาวภายในระยะ 4 ปีที่ผมก้าวเข้ามาปฏิบัติหน้าที่นี้ ฟลุ๊คเป็นบ้า ไม่ได้ฆ่าคนนานๆชักมันมืออีกแล้วซี ผมไปล่ะ อ้อ ช่วยบอกคำคมด้วยว่า ขอให้แผนการของคำคมจงดำเนินไปอย่างเรียบร้อยและสัมฤทธิผลทุกประการ โชคดีครับ”
จากลักษณะคำพูดของนอร์แมนแสดงให้เห็นว่า ขณะนี้ เขาสยบ ให้แก่ยอดเสนาธิการของประเทศไทยอย่างสิ้นเชิงแล้ว
จากครั้งแรกที่มีท่าทีเฉยเมยและเชือดเฉือนกันอยู่ตลอดเวลา เปลี่ยนกันเป็นการสนับสนุนและเอาอกเอาใจกันจนออกหน้าออกตาของบุคคลทั้งสอง ทำให้ผมบังเกิดความสบายใจยิ่งกว่าครั้งใด
จากอดีตสิงห์สงครามของหน่วยกรีนเบเรต์ จากสมุดบันทึกประวัติของซีไอเอ นอร์แมนผ่านการฆ่าคนอย่างวินาศสันตะโรมาแล้ว
“นอร์แมน” เป็นบุคคลหนึ่งซึ่งรวมอยู่ในขบวนผู้ต้องสงสัย สังหารหมู่ประชาชนเวียดนามที่หมู่บ้านไมลาย อันอื้อฉาวทั่วโลกมาแล้ว
นอร์แมนพ้นคดีสังหารหมู่องค์การมหาประลัย ซีไอเอ ก็อ้าแขนรับเขาไว้ในตำแหน่งเสนาธิการทันที เลิกฆ่าคนด้วยมือของตัวเอง แต่ก็ยังไม่พ้นที่จะออกคำสั่งให้คนอื่นฆ่า เพชฌฆาติสงครามอย่างนอร์แมนไม่มีวันหลีกพ้นจาก “กฎกรรม”ของสงครามไปได้หรอก
เขาประชิดเข้ามามีบทบาทร่วมกับพวกผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อมีศพแรก มันก็ต้องมีศพต่อไป และต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าตัวของนอร์แมนจะโดนฆ่าตายลงไปตาม “กฎกรรม”ของสงครามนั่นแหละ ทุกสิ่งสุกอย่างจึงจะหมดเวรซึ่งกันและกัน
ทหารเวียดนามเหนือ 2 คนสุดท้ายซึ่งโดนสังหารในบริเวณหมู่บ้านชาวแม้ว เป็นทหารยศสิบเอกทั้งคู่
ตามความคาดคะเนของผม ทหารเวียดนามเหนือทั้ง 2 คนนี้ คงจะเข้ามาค้างคืนกับผู้หญิงดังกล่าว เหตุการณ์ณ์ที่เกิดขึ้นในขณะพวกผมยกเข้าโจมตีคงทำให้ทหารทั้งสองหาทางออกที่ดีกว่านี้ไม่ได้ก็เลยต้องฆ่า ฆ่าเพื่อปิดปากแล้วหาทางหลบหนีออกมา จนกระทั่งเจอะเข้ากับพวกผมพอดิบพอดี เลยซวยไป
คำคมเรียกประชุมชาวแม้วทั้งหมด พวกเขาเหล่านั้นไม่ยอมอพยพไปล่องแจ้ง เนื่องจากเป็นห่วงไรฝิ่นซึ่งจวนจะถึงฤดูเก็บเกี่ยวอยู่แล้ว พวกเขาลงทุนลงแรงมามาก การละทิ้งไร่ฝิ่นออกไปก็เหมือนกับการหมดทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต
พวกแม้วเหล่นั้นขอร้องให้คำคมส่งข่าวไปยังท่านนายพลวังเปาขอให้ออกคำสั่งเรียกชาวแม้วบ้านเถิดเทิงที่อพยพออกไปรีบกลับมาด่วน เพื่อช่วยกันเก็บเกี่ยวฝิ่นกันต่อไป
อนิจจา พวกแม้วเหล่านั้นหารู้ไม่ว่าชาวแม้วอพยพส่วนหนึ่งจากหมู่บ้านแห่งนี้ได้พบการสูญเสียชีวิตบนยอด ภูหินซับ จากการประจัญบานกันอย่างท่วมเลือดกับทหารเวียดนามเหนือจนเกือบหมดสิ้นแล้ว
สงคราม สงคราม ญาติพี่น้องต้องพลัดพรากจากกันไปคนละทิศละทาง สมบัติทุกชิ้นที่สะสมมาด้วยความยากลำบาก โดนภัยพิบัติของสงครามทำลายลงเพียงชั่งพริบตา
ทั้งๆที่รู้พิษภัยของสงคราม แต่ผมก็หลีกมันไม่ได้ซักที...เพราะอะไรหรือครับ ก็เพราะความหอมหวนของดอลล่าร์ที่พวกมันประเคนให้อย่างท่วมท้นนี่แหละครับ ที่ทำให้ผมอยู่ใน คุกสงคราม มาจนกระทั่งแทบทุกวันนี้
ในช่วงเวลาที่เหลือก่อนพระอาทิตย์ตกดิน...คำคมออกตรวจแนวด้วยตัวของเขาเอง อย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ผมก้เลยต้องตามติดไปอย่างช่วยเหลือไม่ได้ ดวงอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาไปแล้ว แสงตากผ้าอ้อมยังคงเรืองรองอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ผมเหม่อมองดูทางข้นเนิน ชาร์ลี-ชาร์ลี ด้วยความคิดที่สับสนและวุ่นวายกว่าทุกครั้ง ก็เส้นทางดังกล่าวนี้มิใช่หรือที่ผมแตกหนีกระเจิดกระเจิงลงมาอย่างกับคนขวัญเสีย แล้วผีห่าซาตานตนใดมันดลใจให้ผมเดินทางขึ้นไปพบกับมันอีกเล่า
ยอดเนินสกายไลน์-วัน ท้าทายอยู่เบื้องหน้าด้วยระยะเพียง 3 กิโลเมตร ทำให้ผมอยู่ใกล้กับข้าศึกเพียงระยะ 7 ชั่วโมงเดินเท่านั้น
ฐานปฏิบัติการของ BC.617 ตั้งอยู่บนไหล่เขาประชันหน้ากับด้านข้างของเนินสกายไลน์-วัน
กองร้อย ที่2 และ 3 วางตัวเป็นแนวยาวคลุมพื้นที่ยาวเหยียดตลอดไหล่เขา
กองร้อย 1 มีหน้าที่คุ้มกัน บก.พัน และหมวดอาวุธหนัก ซึ่งตั้งฐานยิงอยู่เกือบจะถึงยอดฝาชีที่สูงเสียดฟ้านั้น
เนื่องจากสภาพไหล่เขาของเนินสกายไลน์-วันป่าค่อนข้างทึบ ทำให้ตรวจการในความเคลื่อนไหวของข้าศึกไม่ได้เลย แม้แต่นิดเดียว
เงียบ เสียจนผมนึกอยู่ในใจว่าพวกมันคงจะกำลังวางแผนอะไรต่ออะไรที่จะจู่โจมกองพันของผมเป็นการแก้แค้นแทนเพื่อนๆของมันที่สูญเสียชีวิตเพราะน้ำมือกองพันผมก็อาจจะเป็นได้
หมู่บ้าน 50 หลัง ปรากฏลิบๆอยู่บริเวณตีนเขาของเนินสกายไลน์-วัน
หมู่บ้าน 50 หลังเป็นหมู่บ้านที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธ์และผลไม้เมืองหนาวนานาชนิด แอปเปิล ลูกท้อ เชอร์รี่ งามสะพรั่งจนผมไม่เชื่อสายตาตัวเองมาแล้ว
หมู่บ้าน 50 หลัง เป็นสถานที่ตั้งโรงเรียน วังเปา-อนุสรณ์ มีครูสาวๆชาวแม้วที่สำเร็จวิทยาลัยครูอุดรมาสอนประจำถึง 3 คน และนักเรียนส่วนมากก็เป็นเด็กๆจากหมู่บ้านเถิดเทิง ที่ต้องเดินทางข้ามภูเขาไปเรียนด้วยระยะทางไปกลับไม่น้อยกว่า 10 กิโลเมตร
ภัยพิบัติจากสงครามทำให้โรงเรียน วังเปา-อนุสรณ์ ต้องปิดลงพร้อมด้วยชีวิตครูสาวชาวแม้วผู้น่าสงสาร ผู้ซึ่งเป็นห่วงชีวิตของลูกศิษย์ยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง
ในขณะที่ลุกปืนใหญ่ 130 ของเวียดนามเหนือกำลังถล่มลงที่หมู่บ้าน 50 หลัง กระสุนนัดหนึ่ง แจ้คพ็อต ตูมลงมาบริเวณด้านหลังโรงเรียนพอดี เสียงร้องของลูกศิษย์ทำให้ครูสาวเหล่านั้น ลมตัววิ่งปราดเข้าไป หวังจะช่วยลูกศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บด้วยความห่วงใย
กระสุนปืนใหญ่ 130 นัดต่อมา แจ็คพ็อต ลง ณ ที่เดิม.... ทั้งลูกศิษย์...ทั้งครู...ทั้งโรงเรียน ปลิวหายไปจากตำแหน่งเดิมเหมือนกับโดนพายุ
อนิจจา......สงครามที่หฤโหด....
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11766 เมื่อ: กันยายน 09, 2015, 11:44:54 AM »

อัพเดตตลาดปืนมิอ 2 วันนี้ http://2013.gun.in.th/index.php?board=6.0  (อย่าลืมสมัครสมาชิกด้วยครับ)
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11767 เมื่อ: กันยายน 10, 2015, 11:33:11 AM »

"อย่าตัดสินใครโดยไม่ได้ถามเขาสักคำ หรือ แค่ฟังคนอื่นเขามา ชีิวิตคนก็เหมือนสะพาน มีขึ้นมีลง มีสูง มีต่ำ สุดท้ายก็ตายเหมือนกัน" สมิง วังม่วง

วันชโลมเลือด ตอนที่ 10 ผลงานของ สยมภู ทศพล
อากาศเริ่มจะปิดอีกแล้ว สายหมอกเริ่มโรยตัวลงมาเหมือนกับปุยหิมะ และพร้อมๆกันนั้นความมืดที่น่าสะพรึงกลัวก็ได้คลืบคลานเข้ามาเหมือนกับจะนัดเอาไว้
ยอดเนินสกายไลน์-วัน หายลับไปจากสายตา
หมอกที่หนาทึบซ้อนเรียงรายซับซ้อนกัน จนบางครั้งก็ดูเหมือนกับบันไดขึ้นสู่สรวงสวรรค์
ความหนาวเย็นยะเยือกจู่โจมเข้ามาอย่างกระทันหัน ความหนาวเหน็บของมันทำให้มือไม้ของผมชาไปหมดทั้งแถบ แม้กระท่งเสื้อแจ็คเกตฟิลด์ที่หนาเตอะก็ช่วยอะไรผมไม่ได้มากนัก ต้องอาศัยผ้าห่มขนสัตว์ของคำคมที่กรุณาจัดหามาให้คลุมตัวนั่งสั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่ในบังเกอร์ที่ปราศจากหลังคาบนไหล่เขาของยอดเถิดเทิงนั่นเอง
สายหมอกเปลี่ยนตัวเองหยดเป็นน้ำ แล้วพร่างพรมลงมาเหมือนกับสายฝน ในไม่ช้าทหารคลุมบังเกอร์กันเป้นทิวแถว
คำคมหยิบเครื่องวัดอุณหภูมิออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้วใช้ไฟฉายขนาดจิ๋วส่องดูอยู่ชั่วขณะก็พึมพำออกมาเบาๆ พร้อมกับห่อตัวลงด้วยความหนาวเหน็บที่ทับทวีขึ้นอย่างน่ากลัว
“-2 องศาเซลเซียส และรู้สึกว่าปรอทมันจะลดลงเรื่อยๆ ไอ้ห่า..หนาวระยำ บิ๊กแมนคุณลองขอ สปุกกี้ มาทิ้งแฟล์บริเวณหมู่บ้าน 50 หลังดูบ้างสิครับ บางทีเราอาจจะตรวจการณ์พื้นที่ดังกล่าวได้บ้าง”
“ยากครับ... ผู้พัน หลังจาก T-28 โดน 12.7 ของเวียดนามเหนือยิงตกแล้ว ไม่มีนักบินคนไหนกล้าพาเครื่องบินผ่านเข้ามายังพื้นที่ดังกล่าวนี้อีกเลย แม้กระทั่งสไปร้ท นักบินตรวจการณ์ที่บ้าบิ่นที่สุดในสมรภูมิลาวก็ยังเข็ดเขี้ยวอำนาจกระสุนแตกอากาศแตกอากาศของมัน ใช้ ค. 4.2 และ ค.81 ของหมวดอาวุธหนักไม่ดีกว่าหรือครับ?”
ผมเสนอความคิดออกไปพร้อมขยับมือและเท้าที่กำลังจะเป็นตะคิวอยู่ไปมา
“ผมจะต้องเซฟแฟลร์เอาไว้ แต่ถ้าไม่มีเครื่องสปุกกี้จริๆมันก็ต้องใช้ เฮ้ย...บุญนาม ลื้อใช้ HT2 สั่งให้หมวดอาวุธหนักยิงแฟลร์ลงไปที่หมู่บ้าน 50 หลังทุกๆ 10 นาที จนกว่าอั๊วจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง”
สามสี่ประโยคหลัง คำคมหันไปออกคำสั่งกับพนักงานวิทยุประจำกองพันที่นั่งคลุมโปงอยู่ข้างๆ
“ถ้พวกมันแหกแฟร์และเคย์โมเข้ามาได้เหมือนอย่างที่เคยทำกับกองพันอื่นๆมาแล้ว ผมจะยกธงขาวให้มันเดินขึ้นมายึดกองพันของเราเลยทีเดียว บิ๊กแมน บทเรียนที่แล้วๆมาของเราในสมรภูมิ ได้ถูกผมนำมาดัดแปลงแก้ไข จนกระทั่งขณะนี้ผมสามารถคุยได้อย่างเต็มปากเลยว่า ถ้าพวกมันขืนบุกขึ้นมาถอดสายเคลย์โมของเราเมื่อไหร่เป็นต้องเจอของดีเมื่อนั้น”
“พร็อก .... พรึบ”
แฟลร์จาก ค.81 สว่างพรึบบนทางลาดเบื้องล่าง แสงสว่างของมันถูกบดบังด้วยสายหมอกจนกระทั่งมองไม่เห็นภูมิประเทศเบื้องล่างชัดเจนเท่าใดนัก คำคมหันมาออกความเห็นของผมอีกครั้ง
“ผมเชื่อมือ ซีไอเอ ในเรื่องการหาข่าวกรองและการสร้างอาวุธที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม จนบางครั้งผมแทบจะไม่เช่ออว่าประสิทธิภาพของมันจะเป็นไปได้ถึงขนาดนั้น แต่สิ่งเล็กๆน้อยๆที่พวกมันคาดไม่ถึงก็คือ “แฟลร์ตัดหมอก” ที่ใช้ในขณะภูมิประเทศที่กำลังมืดมิดเช่นนี้ ของง่ายๆถ้าจะเปรียบเทียบกับอาวุธชนิดอื่นๆของมัน ทำไมพวกมันไม่คิดจะทำกัน บิ๊กแมนลองคุยข้อคิดของผมให้ไอ้นอร์แมนมันทราบดูบ้างสิครับ ผมคิดว่าสิ่งที่พวกมันคาดไม่ถึงเหล่านี้ อาจจะเป็นประโยชน์แก่ทหารรับจ้างในภายหลังก็ได้ ใครจะรู้”
ความคิดของคำคมไม่เลวนัก เพราะจากสภาพเท่าที่ผมมองเห็นมันเป็นความจริงอย่างที่คำคมพูดทุกประการ แสงแฟลร์ไม่สามารถที่จะทะลุสายหมอกหนาทึบนั้นได้ ถึงแม้จะได้ผลก็น้อยเต็มที จนกระทั่งตรวจการณ์อะไรไม่ได้เลย แม้แต่นิดเดียว
“สงครามลาวนี่ก็เถอะน่า ผมรู้สึกว่าไอ้กันมีเจตนาที่จะ ดอง สงครามลาวเอาไว้ให้ยาวนานที่สุดเท่าที่มันจะทำได้ เอากันอย่างง่ายๆ ถ้ามันหวังผลแพ้ชนะ มันก็ต้องสนับสนุนอาวุธที่มีประสิทธิภาพให้กับพวกเราแล้ว...ขนาดเวียดนามเหนือมีปืนใหญ่ขนาด 130 ที่ยิงได้ไกลถึง 32 กิโลเมตร ไอ้กันก็ยังส่งปืนใหญ่ซังกะบ้วยขนาด 155 มายิงสู้กับมันอยู่ได้ 155 มม.ของเรายิงได้เท่าไหร่กัน คุณก็รู้อยู่แล้ว ประสิทธิภาพของมันห่างกันครึ่งต่อครึ่ง ทำไม....ทำไมมันไม่ส่งปืนขนาด 175 มาให้เราบ้าง เราจะได้ใช้อำนาจการยิงไกล 45 ก.ม. ของหมันหยุดยั้งการ...ปฏิบัติการใดๆของข้าศึกเสียที...”
คำคมหยุดพูด ล้วงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อหยิบหมากฝรั่งขึ้นใส่ปาก 2-3 เม็ด แล้วส่งหมากฝรั่งที่เหลือให้ผมทั้งกล่อง พูดยืดยาวต่ออย่างน่าเลื่อมใส...
“-รัฐบาลไทยก็เถอะน่า ไม่น่าหลวมตัวส่งทหารรับจ้างเข้ามายุ่มย่ามในเมืองลาวนี่เลย ผมเป็นทหารอาชีพ หน้าที่ของผมก็คือทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด กระทำตามทั้งที่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะถูกต้องนัก ส่วนดีของทหารอาชีพหยั่งผมก็คือ พสร.(เงินเพิ่มการสู้รบ) ซึ่ง พสร.ดังกล่าวเมื่อบวกกับเงินเดือนแล้วมันก็จะมียอดเงินเพิ่มขึ้นมิใช่น้อยเลยทีเดียว เอากันอย่างง่ายๆขนาดจ่าสิบเอก ซึ่งมีเงินเดือนแค่ 1,800 บาทแต่บังเอิญจ่าคนนั้นผ่านสมรภูมิมาแล้วถึง 4 สมรภูมิ เช่น เกาหลี เวียดนาม ลาว เขมร คุณรู้ไหม ..บิ๊กแมน จ่าคนนั้นหวดเงิน พสร. เข้าไปเท่าไหร่ อย่างเบาะๆก็ฟัดเข้าไปตั้ง 1,700 บาทเข้าไปแล้ว ...เงินเดือนบวกพสร. 3,500 บาท แล้วถ้าจ่าผู้นั้นสังกัดอยู่ศูนย์สงครามพิเศษก็ต้องรวมค่าปีกเข้าไปอีกด้วย คุณเอ๋ยขนาดยศชั้น จ่าสิบเอก รับเงินเดือน-เดือนหนึ่งตั้ง 4000 บาท แล้วทหารอาชีพทั้งหลายจะไม่แข่งกันมารบเพื่อ ล่า พสร.กันได้อย่างไร ถึงจะตายลงในขณะปฏิบัติหน้าที่ ทางราชการก็ปูนบำเหน็จให้อย่างเหมาะสม ร่างกายพิกลพิการก็ได้รับพิจารณาเลื่อนยศรับเงินเดือนไปจนชั่วชีวิต นี่แหละครับ ส่วนดีของทหารอาชีพที่ผมมีความเห็นว่าเข้าท่ากว่าอาชีพอื่นๆในปัจจุบัน...ผมขอตัวหน่อยนะครับ...”
คำคมลุกขึ้นเดินไปที่บริเวณที่นอน...นั่งคุกเข่ายกมือพนมหลับตานิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ผมก็ได้ยินเสียงสวดมนต์อันเป็นกิจวัตรประจำวันของท่านดังขึ้นมาด้วยเสียงอันสม่ำเสมอ คล่องแคล่ว ไม่ขาดตอนแม้แต่นิดเดียว
ใช่แล้วครับ คาถาบท”ชินบัญชร”อันศักสิทธิ์ของสมเด็จวัดระฆังได้แผ่อำนาจพุทธคุณครอบคลุมให้แก่กองพันท่านแล้ว
คำคมเป็นพุทธมามะกะที่เคร่งศาสนาคนหนึ่ง ไม่ว่ากองพันจะตกอยู่ในสถานการณ์ณ์ที่เลวร้ายเพียงไร จะต้องมีอยู่ช่วงหนึ่งที่คำคมจะต้องปลีกตัว นั่งสวดมนต์แผ่เมตตาให้สรรพสิ่งมีชีวิตทั้งหลายด้วยจิตใจที่แน่วแน่ และมั่นคง
และก็เหมือนกับปาฏิหารย์ คำคมสามารถพากองพันของเขาหลุดพ้นจากภัยพิบัติไปได้แทบทุกครั้ง จนกระทั่งคำคมหมดภารกิจกลับประเทศไทย
BC 617 เปลี่ยน ผบ.พันคนใหม่ และแล้วตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา BC 617 ก็ต้องพบกับการสูญเสียอย่างย่อยยับพอๆกับกองพันทหารรับจ้างอื่นๆเลยทีเดียว
นี่แหละครับ คือสิ่งเหลือเชื่อเล็กๆน้อยๆทีผมเคยได้พบเห็นมา ด้วยตาของตนเองในสมรภูมิลาว
และคืนนั้นทั้งคืน กองพันของผมก็ “ปลอด” จากการรบกวนของข้าศึกเหมือนกับปาฏิหารย์
06.30 น. อากาศเปิด ทัศนะวิสัยโล่งไปหมดทั้งขุนเขา ยอดเนินสกายไลน์-วันตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสายหมอกที่เบาบาง
ก้อนเมฆก้อนใหญ่ที่ปกคลุมระหว่างกึ่งกลางของยอดเนินทำให้ยอดของมันมองดูคล้ายกับฝาชีที่วางอยู่บนปุยสำลีที่ขาวพิสุทธิ์
อาหารเช้าได้ถูกประกอบขึ้นอย่างรีบเร่ง ในขณะที่ทหารรับจ้างทุกคนกำลังสาละวนทำอาหารอยู่นั้น กองพันของผมก็ได้รับการสวัสดีจากทหารเวียดนามเหนือที่อยู่บนเนินสกายไลน์-วัน เป็นครั้งแรก
“ตุ๊ง..ตุ๊ง...ตุ๊ง...ตุ๊ง” เสียงแว่วๆดังมาจากยอดเนิน “สกายไลน์-วัน” ชั่วอึดใจผมก็ได้ยินเสียงแว้ดยาวก้องกังวานมาบนท้องฟ้า
“เฮ้ย...ลูกยาว..ลงหลุมโว้ย” หมู่สมพรตะโกนลั่นวิทยุ HT-2
ผมขว้างถ้วยกาแฟทิ้ง กระโจนพรวดเดียวลงไปนอนพังพาบอยู่ก้นหลุมเพลาะ และพร้อมๆกันนั้น ประสาทหูของผมก็ได้ยินเสียงกัมปนาท ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมาข้างๆตัว
“บึ้ม...บึ้ม...บึ้ม...บึ้ม” สี่นัดซ้อนๆของปืนครกขนาด 82 ที่ระดมยิงมาจากเนิน ชาร์ลีกอล์ฟ แนวกระสุนของมันข้ามศีรษะของผม ดิ่งเข้าหาที่ตรงหมวดอาวุธหนักเข้าให้แล้ว
ความเป็นห่วงเพื่อนฝูง ทำให้ผมขยับตัวโผล่ศีรษะขึ้นจากหลุม ยังไม่ทันจะพ้นขอบ ผมก็ต้องฟุบลงไปหมอบนิ่งอีกครั้ง
“บึ้ม...บึ้ม...บึ้ม...บึ้ม...” อีกสี่นัดซ้อนๆที่ถูกระดมยิงมาจากที่ตั้งปืนแห่งใดแห่งหนึ่งบนเนินสกายไลน์
“หมวดอาวุธหนัก อย่าเพิ่งยิง ไม่เห็นที่ตั้งของข้าศึก...อย่ายิง...เปลืองกระสุน ให้อั๊วตรวจการณ์ที่ตั้งปืนของพวกมันก่อน”
เสียงคำคม สั่งการลั่นวิทยุสนามพอผมสังเกตเห็นว่าระยะการยิงของข้าศึกเว้นช่วงการยิงลงไป ผมก็ค่อยๆโผล่ศีรษะขึ้นมาดูตำบลกระสุนตกของข้าศึกด้วยความระมัดระวัง
ตำบลกระสุนตก หล่นลงบนทางลาดก่อนจะถึงฐานปฏิบัติการของหมวดอาวุธหนักเพียง 25 เมตร และระยะดังกล่าวก็เป็นระยะกึ่งกลางระหว่างหมวดอาวุธหนักกับ บก.พัน พอดี
“คำคมจากสมพร.... ค.82 สองกระบอกเคลื่อนที่จาก ชาร์ลี-กอล์ฟ มาอยู่ที่พิกัด 789942 ผมตรวจการณ์เห็นควันจากปากลำกล้องชัดเจนเลยครับ
หมู่สมพร ซึ่งออกไปลาดตระเวน ตั้งแต่ 6.00 น. วิทยุรายงานเข้ามาอย่างตื่นเต้น

บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11768 เมื่อ: กันยายน 12, 2015, 10:38:44 AM »

"อย่าตัดสินใครโดยไม่ได้ถามเขาสักคำ หรือ แค่ฟังคนอื่นเขามา ชีิวิตคนก็เหมือนสะพาน มีขึ้นมีลง มีสูง มีต่ำ สุดท้ายก็ตายเหมือนกัน" สมิง วังม่วง

วันชโลมเลือด ตอนที่ 11 ผลงานของสยยภู ทศพล
“ได้ยินไหม ไอ้น้อง พิกัด 789942 ซ้ำอีกครั้ง 789942 คือที่ตั้งปืน ค.82 ของข้าศึก จวกมันเลย ล่อมันด้วยลูกสังหารซัก 2 ชุด สมพรปรับทางปืนให้หมวดอาวุธหนักด้วยโว้ย”
คำคมออกคำสั่งทางวิทยุสนามให้หมวดอาวุธหนัก ระดมยิงที่ตั้งปืน ค.82 ของข้าศึกและเวลาเดียวกันก็บอกให้ลูกน้องคู่ใจของเขาปรับทางปืนไปพร้อมๆกัน พอพูดจบคำคมก็หันมาพูดกับผมด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“ผมนกแล้วไม่มีผิด เมื่อคืนพวกมันจะต้องเคลื่อนย้าย ค.82 ลงมาตั้งยิงเรายังไหล่เขาเบื้องล่าง โน่น ค.82 ของมันยิงได้ไกลเพียง 4 ก.ม. ถ้ามันตั้งอยู่ยอดเนิน ชาร์ลี-กอล์ฟ อย่างดียิงมาก็ตกอยู่แถวๆตีนเขาของเราเท่านั้น จากพิกัด 789942 อยู่ห่างจากเราเพียง 3.5 ก.ม. ซึ่งระยะดังกล่าวก็อยู่ในระยะหวังผลของมันพอดี เอาล่ะ บิ๊กแมน คอยดูลูกน้องของผมดวลปืนครกกับมันดีกว่า”
พอคำคมพูดจบ กระสุน ค.81 ของหมวดอาวุธหนักก็พุ่งข้นจากยอดเนินเถิดเทิงแล้วโค้งดิ่งลงไปยังบริเวณพิกัด 789942 อย่างรวดเร็ว
“บึ้ม...บึ้ม...บึ้ม...บึ้ม” ชุดแรกของมัน 4 นัด ของเราก็ตอบมัน 4 นัดเช่นกัน
“ซ้าย 100 ลด 100 ใส่มาเลยเพื่อนฝูง” หมู่สมพรปรับทางปืนอย่างทันอกทันใจ
อีกหนึ่งนาทีต่อมา
“บึ้ม...บึ้ม...บึ้ม...บึ้ม” ชุดที่สองของมันสลุตกระสุนมาอีก 4 นัด ของเราก็ถล่มลงไปอีก 4 นัดเท่าๆกัน
“ออน ทาร์เก็ต” (ตกลงเป้าหมาย) เสียงหมู่สมพรพูดพลางหัวเราะลั่นวิทยุด้วยความชอบอกชอบใจ ที่ผลการยิงของพวกเราได้ผล
“ปรส. เตรียมยิง ที่หมายพิกัดเดียวกับ ค.81 พร้อมแล้วยิงได้เลย”
ก่อนที่ ปรส.ของหมวดอาวุธหนักจะระดมยิงออกไป ทหารเวียดนามเหนือก็ตัดหน้ายิง ปรส.82 เข้ามาก่อนเหมือนอย่างจะทายใจเราออก
“ตุ้ง....แว้ด...บึ้ม” ปรส.82 นัดแรกของข้าศึก เจาะเนินดินทางด้านซ้ายของยอดเนินฝาชีเข้าอย่างถนัดถนี่ แรงระเบิดอันมหาศาลของมันฉีกแนวดินขาดออกไปเป็นทาง มองดูเห็นรอยแหว่งถนัดหูถนัดตา
“ตุ้ง...บึ้ม” ปรส.75 ของฝ่ายเรายิงตรงไปยังไหล่เขาของเนินสกายไลน์ ที่มองเห็นลิบๆอยู่เบื้องล่าง
ตำบลกระสุนตกพลาดจากเป้าหมายทั้งสองฝ่าย ถึงแม้ว่ากระสุนจาก ค.81 ทั้ง 4 นัดของฝ่ายเราจะถล่มลงบนที่ตั้งของพวกมันก็ตามที อำนาจกระสุนไม่สามารถจะถล่มบังเกอร์อันแข็งแรงที่คุ้มตัวปืนของมันได้ นอกเสียจากจะ “แจ็คพ็อต” ลงบนตัวปืนจริงๆเท่านั้น และก็ดูเหมือนกับว่า เปอร์เซ็นต์ดังกล่าวจะเป็นไปได้ยากเต็มที่
“ลูกยาว” ชนิดต่างๆผลัดกันยิงถล่มเข้าใส่กัน เหมือนหนึ่งว่าพวกมันจะทายใจเราออกว่า เราจะยิงอาวุธหนักชนิดไหนไปหามัน เล่นเอาพวกเราเอะใจไปตามๆกัน เมื่อการยิงไร้ผล ช่วงการยิงก็เริ่มห่างออกไป จนกระทั่งยุติลงเป็นปลิดทิ้งใน 45 นาทีต่อมา
“พวกมันมีวิทยุดักฟังพวกเราอยู่ตลอดเวลา และการยิงครั้งนี้เป็นการหยั่งเชิงอาวุธหนักของเราและเป็นการยิงรบกวนประจำชั่วโมง ถ้าคุณไม่เชื่อ ประเดี๋ยวอีกชั่วโมงคุณคอยดูก็แล้วกัน พวกมันจะต้องจวกเราอีกรอบแน่ๆ แต่คราวนี้ พวกเราไม่ต้องรอให้มันยิงก่อนหรอกครับ พอถึงกำหนดหนึ่งชั่วโมง เราจะเริ่มยิงรบกวนมันทันที
ความคิดของคำคมถูกต้อง ต่อจากนั้นเป็นระยะๆ การยิงรบกวนซึ่งกันและกันก็ได้ดำเนินไปทุกๆต้นชั่วโมง จนกระทั่งเลิกราไปเป็นปลิดทิ้งเมื่อเวลาเที่ยงตรง อาหารเที่ยงผ่านไปอย่างทุลักทุเล ทหารรับจ้างไม่ค่อยกล้าออกจากร่องสนามเพลาะ อาหารสดก็ต้องถูกงดไปโดยปริยาย “เรชั่น” ถูกงัดขึ้นมาแก้ขัดกันเป็นทิวแถว
หมู่สมพรซึ่งเพิ่งจะพาทหารกลับจากลาดตระเวนเข้ามาทางคำคม พร้อมกับรายงานถึงการลาดตระเวนอย่างถี่ถ้วน
“เส้นทางเข้าหมู่บ้าน 50 หลัง มีอยู่สองทาง แต่ละทางก็ปราศจาก “กับระเบิด”ใดๆทั้งสิ้น ผมไม่กล้าพาทหารขึ้นไปบนนั้น เพราะจากสิ่งบอกเหตุของการระดมยิงอาวุธหนัก ทำให้ผมคาดว่า จะต้องมีพวกมันส่วนหนึ่งกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ข้างบนนั้นแน่ๆ”
ก่อนที่คำคมจะเอ่ยอะไรออกมา ผมก็ได้ยินเสียงหึ่งๆของชอร์ปเปอร์ดังอยู่เหนือยอดเนินเถิดเทิงและชั่วอึดใจต่อมา มันก็ปรากฏตัวออกมาจากไหล่เขาด้านซ้าย แล้วบินแฉลบตีวงกว้างเตรียม “แลนดิ้ง” ลงบนยอดฝาชี อันเป็นพื้นที่ราบแห่งเดียวที่ชอร์ปเปอร์พอจะลอยตัวลำเลียงสัมภาระได้
และครั้งนี้ไม่มีการติดต่อวิทยุระหว่าง F.A.G. กับนักบินเหมือนอย่าง จนผมชักเอะใจ เพราะตามปกติ ชอร์ปเปอร์จะต้องเป็นฝ่ายเรียกวิทยุติดต่อกับ F.A.G. ประจำกองพันเสียก่อน ที่จะนำเครื่องลง ชอร์ปเปอร์ลอยตัวอยู่เหนือบริเวณฝาชี อยู่ชั่วครู่ก็ทิ้งกระดาษลงมาหนึ่งกล่อง แล้วรีบดึงตัวเองข้นเบื้องบน บินลับหายไปอย่างรวดเร็ว
ทหารหมวดอาวุธหนัก 6 คน แบกกล่องกระดาษ ซึ่งมีขนาดเท่ากับกล่องบรรจุตู้เย็นขนาด 4 คิว เดินขาปัดไปปัดมาอยู่ครู่หนึ่งก็ลื่นไถลลงมาจากยอดเนิน ท่ามกลางเสียงหัวเราะเกรียวกราวของทหารรับจ้างที่โผล่หน้าขึ้นจากร่องสนามเพลาะมองดูกันสลอนไปหมด
กว่าจะแบกกล่องกระดาษที่หนักอึ้งลงมาได้ก็เล่นเอาทุลักทุเลพอสมควร
“กล่องอะไรของมัน ผมไม่ได้ขออะไรไปทางส่วนหลังซักนิดเดียว ส่งผิดที่ละกระมัง บิ๊กแมน”
คำคมเอ่ยขึ้นมาอย่างคลางแคลงใจ
“ไม่ทราบครับ นักบินไม่ยอมติดวิทยุกับผมเสียด้วย ทั้งๆที่รู้ว่าฐานของเรามี incomming (ลูกยาว) นักบินมันก็ยังกล้าบินมาแสดงให้เห็นว่า มันจะต้องมีความสำคัญอยู่มากทีเดียวครับ ผู้พัน”
กล่องกระดาษถูกยกมาวางอยู่เบื้องหน้า ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ผมจำได้ติดหูติดตาว่าเป็นลายมือของนอร์แมนติดหราอยู่ที่บนสุดของกล่องด้วยอักษรขนาดใหญ่สีแดงแจ้ดความว่า
“สำหรับคำคม ผบ.พัน 617 โดยเฉพาะ”
ทหารรับจ้างคนหนึ่งใช้มีดดาบปลายปืนแกะสก็อตเทปที่ติดอยู่ระหว่างขอบกล่องอย่างระมัดระวัง บุหรี่อเมริกันนานานชนิดเรียงรายเป็นพรืดอยู่ในกล่องนั้น มันเป็นจำนวนมากมาย จนผมกะจำนวนของมันไม่ถูก แต่เท่าที่มองเห็นด้วยสายตา บุหรี่จำนวนนี้พอที่จะแจกจ่ายทหารทั้งกองพันได้อย่างสบายๆเลยทีเดียว
“นับจำนวนบุหรี่ แล้วเฉลี่ยออกให้ได้รับคนละเท่าๆกัน ไม่ว่าจะเป็นพลทหาร,นายสิบ,หรือว่า นายทหาร เสร็จแล้วให้ ผบ.ร้อย แต่ละกองร้อยรับผิดชอบ พนักงานวิทยุเรียก ผบ.ร้อยมารับบุหรี่ด้วย”
คำคมออกคำสั่งพนักงานวิทยุที่ยืนข้างๆพร้อมกับเอื้อมมือออกไปรับกล่องขนาดกะทัดรัดที่ซุกซ่อนอยู่ในห่อบุหรี่จากมือของทารรับจ้างคนที่ทำหน้าที่เช็คจำนวนบุหรี่อยู่นั้น บนกล่องกระดาษปรากฏอักษรสีแดงขนาดใหญ่ “TOP SECRET” และบรรทัดต่อมาตัวอักษรย่อมลงนิดนึงใจความว่า “เฉพาะบิ๊กแมนและคำคม” มองเห็นถนัดตา
คำคมอุ้มกล่องกระดาษเดินเข้าไปในบังเกอร์ส่วนตัวพร้อมกับหันมาพยักหน้าให้ผมทำนองให้ตามเข้าไป
คำคมวางกล่องลงบนลังกระสุนเปล่าที่ทหารดัดแปลงให้เป็นโต๊ะประชุมขนาดเล็ก ผมเอื้อมมือไปดึงกล่องมาแกะดูด้วยความสนใจ
วัตถุรูปร่างเหมือนกับ “สากกะเบือ” ขนาด 12 นิ้ว วางเรียงรายอยู่ในแผง 8 อัน เมื่อผมหยิบมันขึ้นมากองรวมกันบนโต๊ะ คำคมถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน
“ไอ้นอร์แมน มันนึกยังไงของมันถึงได้ส่งสากกระเบือมาให้คุณกับผม ผมว่าท่าทางประสาทมันจะกลับแล้วนาคุณนา ออกรบกับเขาครั้งเดียว ทำไมมันบ้าๆบอๆ ไปเสียก็ไม่รู้”
ขณะที่พูด คำคมก็เอื้อมมือลงไปหยิบซองกระดาษสีน้ำตาลขนาดเท่ากับฝ่ามือที่วางอยู่บนก้นกล่องขึ้นมาเปิดดูอย่างเนือยๆ
“คำสั่งปฏิบัติการพิเศษและหมายกำหนดการทิ้งระเบิดของ B-52 “
คำคมพึมพำออกมา จากคำพูดของคำคม ประโยคนั้น ทำให้ผมล่ะความสนใจจากสิ่งอื่นๆโดยสิ้นเชิง เขยิบเข้าไปใกล้ๆ จ้องสายตาลงไปบนแผ่นกระดาษที่อยู่ในมือของคำคมอย่างยอมเสียมารยาท คำคมวางแผ่นกระดาษสีเหลืองเข้มลงบนโต๊ะ ใช้ฝ่ามือรีดไปมาเพื่อให้กระดาษดังกล่าวตึงเรียบกับพื้นโต๊ะ ปาก็พูดอยู่ตลอดเวลา
“นึกสงสัยอยู่เหมือนกัน ที่ชอร์ปเปอร์มันไม่ยอมใช้วิทยุติดต่อลงมาเหมือนครั้งก่อนๆ ผมเห็นคุณเฉยๆ ไม่ติดต่อมัน ยังนึกสงสัยว่าวันนี้ คุณเป็นอะไรไป เห็นเซ็งๆชอบกล เรื่องทั้งเรื่องมันก็เลยเข้าล็อก รักษาความลับพอดิบพอดี”
“ครับ ผู้พัน ตามปกติ ชอร์ปเปอร์ ที่ได้รับคำสั่งให้บินมาฐานปฏิบัติการแห่งหนึ่งแห่งใด นักบินย่อมรู้แล้วว่าฐานแห่งนั้น F.A.G. คนใดประจำอยู่ นักบินจะต้องสอบถาม สถานการณ์และขอความมั่นใจในความปลอดภัยในขณะเตรียมลงพื้น แต่นี่ทั้งๆที่นักบินมันรู้ว่า ลูกยาวเพิ่งจะถล่มฐานของเราไปอย่างสดๆร้อนๆ และท่าทีก็อาจจะมีการระดมยิงมาอีกในโอกาสถัดไป มันก็ยังอุตส่าห์เสี่ยงมาลง...ผมเอะใจขึ้นมาก็เลยนั่งดู มาซะเฉยๆ มันก็เลยประจวบเหมาะกันพอดีครับ...ผู้พัน”
“พรุ่งนี้ เวลา 17.58 น. บี-52 จำนวน 2 เครื่องจะบินมาทำงานบนยอดเนินสกายไลน์-วัน ทั้งหมดตั้งแต่เนิน ชาร์ลี-กอล์ฟ ไปจนกระทั่งถึงเนิน ชาร์ลี-ชาร์ลี”
หมายกำหนดการเข้าตีจะเริ่มต้นขึ้นภายใน 12 ชั่วโมงถัดออกไปจากการโจมตีดังกล่าว
รายละเอียดการติดตั้ง “เรด้าห์ฉบับกระเป๋า” บรรจุอยู่ใน เรดาห์หมายเลข 8 เรียบร้อยแล้ว ขออวยพรให้ความสำเร็จเป็นของ BC-617 โดยปราศจากการสูญเสีย ชีวิตและเลือดเนื้อแม้แต่คนเดียว รักสนิท...จากนอร์แมน
ทั้งหมดนี้คือข้อความที่ปรากฏอยู่ในเอกสารลับสุดยอดฉบับนั้น ผมเอื้อมมือออกไปพลิกเจ้า สากกะเบือ หรือ เรด้าห์ฉบับกระเป๋า เพื่อตรวจดูหมายเลขตามคำบอกเล่าของนอร์แมน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 12, 2015, 10:42:32 AM โดย สมิง วังม่วง » บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11769 เมื่อ: กันยายน 12, 2015, 10:46:21 AM »

อัพเดตตลาดอุปกรณ์ ส่วนควบอาวุธปืน วันนี้ http://2013.gun.in.th/index.php?board=21.0  สมัครสมาชิกด้วย
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11770 เมื่อ: กันยายน 13, 2015, 11:08:48 AM »

อัพเดต ตลาดปืนสวัสดิการณ์วันนี้ มีปืนยาวเข้าใหม่ http://2013.gun.in.th/index.php?board=2.0  สมัครสมาชิกด้วย
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11771 เมื่อ: กันยายน 15, 2015, 09:26:23 AM »

   
อัพเดทราคาปืนใหม่และกระสุนปืน เดือนสิงหา-กันยน 58 - ฝนมาแล้ว  http://2013.gun.in.th/index.php?topic=57739.msg1842623#msg1842623  สมัครสมาชิกด้วย
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11772 เมื่อ: กันยายน 16, 2015, 11:09:32 AM »

อัพเดต ตลาดปืนมือ 2 วันนี้ http://2013.gun.in.th/index.php?board=6.0  อย่าลืมสมัครสมาชิกด้วย
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11773 เมื่อ: กันยายน 17, 2015, 09:52:18 AM »



"อย่าตัดสินใครโดยไม่ได้ถามเขาสักคำ หรือ แค่ฟังคนอื่นเขามา ชีวิตคนเราก็เหมือนสะพาน มีขึ้นมีลง มีสูงมีต่ำ ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ท้ายสุดก็ตายเหมือนกัน" สมิง วังม่วง

วันชโลมเลือด ตอนที่ 12 ผลงานของ สยมภู ทศพล
ลักษณะของมันเหมือนกับลูก ค. 61 ที่บริเวณท่อนหัวมีเกลียว ผมลองใช้มือขยับหมุนออก มันคลายออกจากกันอย่างง่ายดาย
คู่มือการใช้งานม้วนเป็นก้อนบรรจุอยู่ในนั้น คำคมหยิบเอาไปอ่านอยู่ชั่วครู่ก็บ่นขึ้นมาด้วยท่าทางฉุนๆ
“ลูกน้องของผมต้องเสี่ยงอีกแล้ว บิ๊กแมน พวกเราจะต้องขนไอ้สากกนระเบือทั้ง 8 อันนี้ ขึ้นไปปักไว้บนแนวของข้าศึก หน้าที่ของสากระเบือพวกนี้คือ คอยส่งสัญญาณขึ้นไปเบื้องบน มิให้เครื่องบินทิ้งระเบิดล้ำแนวออกมา การติดตั้งให้วางเป็นแนวเส้นตรง และควรห่างจากฐานของข้าศึกไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร การเปิดเครื่อง ก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแต่เปิดสวิทช์สีแดงที่อยู่ด้านหัวก็เป็นอันเสร็จพิธี”
ในขณะที่พูด คำคมก็ผลักคู่มือการใช้ “เรด้าห์-พอคเก็ต” ส่งมาให้ผม พร้อมกับพาตัวเองเดินออกไปจากบังเกอร์อย่างรวดเร็ว
ผมหยิบคู่มือออกมาอ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง
“เรด้าห์ฉบับกระเป๋า หรือเรด้าห์-พอคเก็ต คือเครื่องมือชี้เป้าที่ทันสมัยที่สุดในโลก ประสิทธิภาพของมันก็คือสามารถส่งสัญญาณขึ้นไปบนท้องฟ้าได้สูงถึง 50000 ฟิต”
ภารกิจที่หนักอึ้งสำหรับผมก็คือ การนำเอาเครื่องดังกล่าวเล็ดลอดเข้าไปติดตั้งใกล้ๆกับฐานปฏิบัติการของข้าศึก
ภารกิจดังกล่าว เป็นความลับสุดยอดและผู้ที่จะรับหน้าที่จะต้องเป็นคนที่มีความสามารถในการซ่อนเร้นหลบหลีกข้าศึกได้อย่างยอดเยี่ยม และสิ่งที่สำคัญที่สุด จะต้องรักษาความลับตลอดจนเป็นที่ไว้วางใจสำหรับคำคมได้อย่างดี
ผมนึกถึงหมู่สมพรขึ้นมาในบัดดล ผลงานของหมู่สมพรที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า หมู่สมพรเป็นทหารมืออาชีพที่มีฝีมือและความสามารถทัดเทียมหรืออาจจะเหนือกว่าทหารหน่วยกรีนเบเรต์ของสหรัฐเลยทีเดียว
ไม่มีใครเหมาะสมกับงานชิ้นนี้เท่ากับหมู่สมพร
และผมคาดว่า คำคมจะต้องมีความคิดเหมือนกับผมอย่างเด็ดขาด
ประตูบังเกอร์ที่ทำด้วยผ้ากันฝนยวบ คำคม ฝอ.3 หมู่สมพร เดินตามเข้ามาเป็นแถว
อา.... ความคิดของผมกับของคำคมตรงกันจนได้อีกครั้ง ความอึดอัดที่สุมอยู่หนักอึ้งปลิวหายไปโดยฉับพลัน
การวางแผนได้ดำเนินไปอย่างเคร่งเครียดและพร้อมๆกันนั้น แผนการเข้าตี “หยั่งเชิง”ของคำคมก็ได้ถูกกำหนดขึ้นควบคู่พร้อมๆกันไปในเวลาเดียวกันนั่นเอง
หมู่สมพร และ รอง ผบ.หมวดอีกสองคนซึ่งเป็นทหารจากศูนย์สงครามพิเศษทั้งคู่ ถูกมอบหน้าที่ให้นำ เรด้าห์-พ็อคเก็ต ขึ้นไปวางบนแนวข้าศึกในตอน 06.00 น. ของเช้าวันรุ่งขึ้น
“ตั้งแต่ตะวันตกดินเป็นต้นไป ทหารเวียตนามเหนือจะเพิ่มมาตรการในการระมัดระวังฐานปฏิบัติการของมันยิ่งกว่าในตอนกลางวันหลายเท่านัก ยากเหลือเกินที่ทหารมือดีๆของเราจะฝ่าแนวป้องกันมันขึ้นไปได้ อย่างไรก็ดี พวกมันจะต้องมีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่หละหลวม และช่วงเวลาดังกล่าวก็คือตอน 06.00 น. จุดซุ่มโจมตีของมันจะเริ่มถอนตัวออกจากพื้นที่ดังกล่าวเดินทางกลับฐาน ในช่วงเวลานี้ทหารของเราจะเริ่ม “เกาะ”มันเข้าไปทันที ผมจะสั่งให้ทหารออกเดินทางเดี๋ยวนี้ ใจจริงของผม ผมอยากให้คุณออกไปกับทหารเหล่านี้ด้วย เพราะคุณชำนาญภูมิประเทศและเคยปฏิบัติงานพื้นที่นี้มาก่อน”
ผมไม่มีทางเลือกและปฏิเสธ F.A.G. กองพันขณะที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสนาม ผู้บังคับบัญชาโดยตรงก็คือ ผบ.พัน ประจำกองพันนั้นๆ ผบ.พันมีสิทธิ์ที่จะออกคำสั่งให้ F.A.G. ทุกคนปฏิบัติภารกิจที่เห็นว่ามีประโยชน์ต่อกองพันได้อย่างเต็มที่
และอีกประการหนึ่งในกองพัน 617 ก็มีผมเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เคยเห็นภูมิประเทศดังกล่าวและเคยใช้เส้นทางขึ้นลงยอดเนิน ชาร์ลี-กอล์ฟ อยู่เป็นประจำ เท่าที่คำคมไม่กล้าออกคำสั่งให้ผมขึ้นไปโดยตรงก็คงจะเป็นความเห็นอกเห็นใจส่วนตัวของท่านที่มีต่อผมเป็นพิเศษนั่นเอง
ทิฐิมานะของชายชาตินักรบทำให้ผมเผลอตัวออกปากรับงานออกไปอย่างช่วยเหลือไม่ได้
“ครับ...ผู้พัน ใน BC.617 ก็มีผมเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ชำนาญทาง ผมยินดีรับงานชิ้นนี้ร่วมกับหมู่สมพร เราจะเริ่มออกเดินทางเมือไหร่ครับ”
คำคมยกนาฬิกาขึ้นมาดู เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ กิริยาท่าทางดูเหมือนจะยุ่งยากใจต่อแผนการที่นอร์แมนได้สั่งให้กองพันของผมปฏิบัติตามเป็นอย่างยิ่ง
“ขณะนี้ 12.30 อีกชั่วโมงครึ่งเริ่มออกเดินทาง จะให้ไปถึงจุดซุ่มโจมตี จุดแรกของข้าศึกก่อนเวลา 18.30 น. ต่อจากนั้นให้พวกคุณเฝ้าจุดซุ่มโจมตีของมันเอาไว้ทั้งคืน รอจนกระทั่งพวกมันถอนตัวกลับ จึงเริ่มเกาะมันเข้าไป คุณจะต้องผ่านฐานปืนที่ระดมยิงพวกเราเมื่อเช้านี้ด้วย พยายามเล็ดลอดเข้าไปจนกระทั่งอยู่ห่างจากแนวของมันเพียง 1 กม. แล้วเริ่มทำงาน รู้สึกว่ามันเป็นภารกิจที่เสี่ยงเกินไปสำหรับพวกเรา แต่เราไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้...บิ๊กแมน”
คำสั่งก็คือคำสั่ง
13.00 น. ผม,สมพร,และทหารจากศูนย์สงครามพิเศษอีก 2 นาย ก็เคลื่อนลัดเลาะลงไปข้างล่างอย่างระมัดระวัง
เรด้า-พ็อกเก็ต ถูกแบ่งเฉลี่ยออกเป็นสัดส่วนเท่าๆกัน คนละ 2 แท่ง ตามข้อตกลงที่วางไว้ เมื่อทุกคนได้รับอุบัติเหตุจนสูญเสียชีวิตหรือว่าได้รับบาดเจ็บ จะไม่มีการช่วยเหลือกันอย่างเด็ดขาด หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย คือสิ่งสำคัญที่สุดยิ่งกว่าอื่นใด ทุกคนจะต้องช่วยตัวเองพาเจ้าเรด้า-พ็อกเก็ต อันนี้ไปวางบนฐานปฏิบัติการของข้าศึกให้จงได้
พอพวกผมเคลื่อนที่ลงไปถึงตีนเนินเขาเถิดเทิง ก็ได้ยินเสียงอาวุธหนักนานาชนิดบนยอดเนินระดมยิงลงไปบนพื้นที่เบื้องล่างเป็นห่าฝน
ตำบลกระสุนตกก็ไม่ใช่เป็นการยิงรบกวนเหมือนอย่างเช่นเคยอีกแล้ว คราวนี้คำคมสั่งยิงคลุมพื้นที่บนไหล่เขาบริเวณทางขึ้น เนินสกายไลน์-วัน เป็นวงกว้างเสมือนหนึ่งจะเคลียร์พื้นที่ให้พวกผมอยู่ในที
และบัดดลนั้นเอง อาวุธหนักของข้าศึกที่ซุกซ่อนอยู่ที่พิกัด 789942 บนไหล่เขาสกายไลน์ก็ยิงสวนลงมาไม่ยิ่งหย่อนซึ่งกันและกัน
เสียงระเบิดตึงตังโครมครามที่ยิงประสานกันระหว่างศีรษะ สร้างรสชาติในการเดินทางขึ้นอย่างมากมาย หมู่สมพรที่เดินอยู่หน้าสุดหันมายิ้มพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามากระซิบกับผมด้วยท่าทางที่สนุกสนานครื้นเครงปราศจากอาการกริ่งเกรงใดๆทั้งสิ้น
“สนุกดี บิ๊กแมน เจ้านายของผมสั่งยิงแบบนี้ ผมอ่านไต๋ออก ท่านต้องการจะถ่วงเวลารอให้พวกเราเดินทางไปถึงจุดซุ่มโจมตีของพวกมัน ก่อนที่พวกมันจะออกมานั่นเอง ลูกยาวสะเปะสะปะ แบบนี้ พวกมันไม่กล้าออกมาหรอกครับ ป่านนี้คงวิ่งกันหัวซุกหัวซุนลงหลุมหมดแล้ว”
หมู่สมพรอ่านความคิดของคำคมออกและผมเองก็คิดเช่นนั้น
แผนการที่กลั่นกรองออกมาจากสมองที่มีประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมทำให้ผมเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ฐานปืนทุกขณะ
เส้นทางเดินราบเรียบ ร่องรอยของสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะเป็นร่องรอยเท้าทหารรับจ้าง หรือว่าร่องรอยเท้าของทหารเวียตนามเหนือ สับสนเกะกะไปทั่วบริเวณ
กับระเบิดซึ่งส่วนมากเป็นกับระเบิดที่ทหารรับจ้างกองพัน 616 ดักเอาไว้เมื่อครั้งถอนตัวลงมาจากเนินสกายไลน์-วัน ปรากฏอยู่อย่างถี่ยิบ ด้วยความสามารถพิเศษของหมู่สมพรและทหารจากศูนย์สงครามพิเศษ กับระเบิดเหล่านั้นถูกกู้และเก็บซุกซ่อนเอาใว้ข้างๆทางนั่นเอง
17.30 น. ผมก็นำทางหมู่สมพร “เบน” ออกจากหมู่บ้าน 50 หลัง มุ่งหน้าขึ้นไปบนไหล่เขาที่รกรุงรังไปด้วยแมกไม้นานาชนิด
หลุมระเบิดจากอาวุธหนักแทบทุกชนิด เรียงรายกันอยู่บนพื้นดินไม่ขาดระยะ กลิ่นดินขับกลิ่นฟอสฟอรัสที่เพิ่งลุกไหม้ไปอย่างสดๆร้อนๆ ยังอบอวลคละคลุ้งเหม็นหืนไปทั่วอาณาบริเวณ
ดวงตะวันคล้อยลับไปแล้ว ม่านสีเทาอมดำผืนมหึมาเริ่มโรยตัวลงมาครอบคลุมยอดเนินสกยไลน์-วัน จนมัวซัวลงทุกขณะ
จากพิกัดบนแผนที่ ขณะนี้พวกผมอยู่ห่างจากที่ตั้งปืนของพวกมันเพียง 500 เมตรเท่านั้น
และก่อน 18.00 น. เล็กน้อย พวกผมทั้ง 4 คนก็ปีนขึ้นมาหมอบอยู่บนยอดเนินเล็กๆที่สามารถตรวจการณ์เห็นทิศทางเบื้องหน้าได้พอสมควร
เสียงไอเหมือนคนเป็นหวัดลงคอดังแว่วมาจากป่าเสือหมอบเบื้องหน้า
หมู่สมพรฟุบหมอบกับพื้น แล้วคลานสี่ตีนเข้าไปนอนหมอบอยู่ระหว่างกอรวกซึ่งข้นเบียดเสียดเยียดยัดอยู่เบื้องหน้า
ผมและทหารอีก 2 คน คืบคลานแยกย้ายออกเป็นรูปขบวนแถวหน้ากระดาน หมอบเรียงรายด้วยระยะต่อที่ห่างกันพอสมควร จ้องสายตาลงไปเบื้องล่างที่ปรากฏหลุมบุคคลเรียงรายอยู่ 7-8 หลุม ด้วยอากัปกิริยาที่ระมัดระวังตัวเต็มที่
เงาตะคุ่มของทหารลาวแดง 8 คน เดินเรียงเดี่ยวออกมาจากเส้นทางที่ตัดตรงออกมาจากดงเสือหมอบนั้น เครื่องแต่งกายสีทึมๆที่พวกมันสวมใส่อยู่นั้น ทำให้พวกผมเกือบมองไม่เห็น เสียงพูดคุยและเสียงกระติกน้ำแบบโลหะที่เสียดสีกับเข็มขัดสนามทำให้ผมสังเกตเห็นทิศทางการเคลื่อนที่ของพวกมันเข้าอย่างบังเอิญ
เงาตะคุ่มของพวกมันหยุดอยู่ที่หลุมบุคคล ชั่วอึดใจ ปืนกลเบาก็ถูกยกขึ้นตั้งขาทรายอยู่ ณ.บริเวณปากหลุม จรวดอาร์พีจี วางแนบลงกับพื้นในลักษณะหันปากกระบอกมาทางพวกผม ลูกหัวปลีขนาดเขื่องที่สวมติดอยู่ที่ปากลำกล้อง ทำให้ขนหัวของผมลุกชันขึ้นมาด้วยความเสียวสยอง
พวกผมอยู่ห่างจากพวกมันไม่ถึง 15 เมตร ความใกล้ชิดทำให้ผมได้ยินเสียงพูดคุยของพวกมันอย่างถนัดหู เสียงหัวเราะเบาๆที่ประสานกันขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา ทำให้หมู่สมพรกัดกรามหันมากระซิบกระซาบกับผมด้วยท่าทางที่ฉุนเอาการ


วันชโลมเลือด ตอนที่ 12 ผลงานของสยมภู ทศพล
ลักษณะของมันเหมือนกับลูก ค. 61 ที่บริเวณท่อนหัวมีเกลียว ผมลองใช้มือขยับหมุนออก มันคลายออกจากกันอย่างง่ายดาย
คู่มือการใช้งานม้วนเป็นก้อนบรรจุอยู่ในนั้น คำคมหยิบเอาไปอ่านอยู่ชั่วครู่ก็บ่นขึ้นมาด้วยท่าทางฉุนๆ
“ลูกน้องของผมต้องเสี่ยงอีกแล้ว บิ๊กแมน พวกเราจะต้องขนไอ้สากกนระเบือทั้ง 8 อันนี้ ขึ้นไปปักไว้บนแนวของข้าศึก หน้าที่ของสากระเบือพวกนี้คือ คอยส่งสัญญาณขึ้นไปเบื้องบน มิให้เครื่องบินทิ้งระเบิดล้ำแนวออกมา การติดตั้งให้วางเป็นแนวเส้นตรง และควรห่างจากฐานของข้าศึกไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร การเปิดเครื่อง ก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแต่เปิดสวิทช์สีแดงที่อยู่ด้านหัวก็เป็นอันเสร็จพิธี”
ในขณะที่พูด คำคมก็ผลักคู่มือการใช้ “เรด้าห์-พอคเก็ต” ส่งมาให้ผม พร้อมกับพาตัวเองเดินออกไปจากบังเกอร์อย่างรวดเร็ว
ผมหยิบคู่มือออกมาอ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง
“เรด้าห์ฉบับกระเป๋า หรือเรด้าห์-พอคเก็ต คือเครื่องมือชี้เป้าที่ทันสมัยที่สุดในโลก ประสิทธิภาพของมันก็คือสามารถส่งสัญญาณขึ้นไปบนท้องฟ้าได้สูงถึง 50000 ฟิต”
ภารกิจที่หนักอึ้งสำหรับผมก็คือ การนำเอาเครื่องดังกล่าวเล็ดลอดเข้าไปติดตั้งใกล้ๆกับฐานปฏิบัติการของข้าศึก
ภารกิจดังกล่าว เป็นความลับสุดยอดและผู้ที่จะรับหน้าที่จะต้องเป็นคนที่มีความสามารถในการซ่อนเร้นหลบหลีกข้าศึกได้อย่างยอดเยี่ยม และสิ่งที่สำคัญที่สุด จะต้องรักษาความลับตลอดจนเป็นที่ไว้วางใจสำหรับคำคมได้อย่างดี
ผมนึกถึงหมู่สมพรขึ้นมาในบัดดล ผลงานของหมู่สมพรที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า หมู่สมพรเป็นทหารมืออาชีพที่มีฝีมือและความสามารถทัดเทียมหรืออาจจะเหนือกว่าทหารหน่วยกรีนเบเรต์ของสหรัฐเลยทีเดียว
ไม่มีใครเหมาะสมกับงานชิ้นนี้เท่ากับหมู่สมพร
และผมคาดว่า คำคมจะต้องมีความคิดเหมือนกับผมอย่างเด็ดขาด
ประตูบังเกอร์ที่ทำด้วยผ้ากันฝนยวบ คำคม ฝอ.3 หมู่สมพร เดินตามเข้ามาเป็นแถว
อา.... ความคิดของผมกับของคำคมตรงกันจนได้อีกครั้ง ความอึดอัดที่สุมอยู่หนักอึ้งปลิวหายไปโดยฉับพลัน
การวางแผนได้ดำเนินไปอย่างเคร่งเครียดและพร้อมๆกันนั้น แผนการเข้าตี “หยั่งเชิง”ของคำคมก็ได้ถูกกำหนดขึ้นควบคู่พร้อมๆกันไปในเวลาเดียวกันนั่นเอง
หมู่สมพร และ รอง ผบ.หมวดอีกสองคนซึ่งเป็นทหารจากศูนย์สงครามพิเศษทั้งคู่ ถูกมอบหน้าที่ให้นำ เรด้าห์-พ็อคเก็ต ขึ้นไปวางบนแนวข้าศึกในตอน 06.00 น. ของเช้าวันรุ่งขึ้น
“ตั้งแต่ตะวันตกดินเป็นต้นไป ทหารเวียตนามเหนือจะเพิ่มมาตรการในการระมัดระวังฐานปฏิบัติการของมันยิ่งกว่าในตอนกลางวันหลายเท่านัก ยากเหลือเกินที่ทหารมือดีๆของเราจะฝ่าแนวป้องกันมันขึ้นไปได้ อย่างไรก็ดี พวกมันจะต้องมีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่หละหลวม และช่วงเวลาดังกล่าวก็คือตอน 06.00 น. จุดซุ่มโจมตีของมันจะเริ่มถอนตัวออกจากพื้นที่ดังกล่าวเดินทางกลับฐาน ในช่วงเวลานี้ทหารของเราจะเริ่ม “เกาะ”มันเข้าไปทันที ผมจะสั่งให้ทหารออกเดินทางเดี๋ยวนี้ ใจจริงของผม ผมอยากให้คุณออกไปกับทหารเหล่านี้ด้วย เพราะคุณชำนาญภูมิประเทศและเคยปฏิบัติงานพื้นที่นี้มาก่อน”
ผมไม่มีทางเลือกและปฏิเสธ F.A.G. กองพันขณะที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสนาม ผู้บังคับบัญชาโดยตรงก็คือ ผบ.พัน ประจำกองพันนั้นๆ ผบ.พันมีสิทธิ์ที่จะออกคำสั่งให้ F.A.G. ทุกคนปฏิบัติภารกิจที่เห็นว่ามีประโยชน์ต่อกองพันได้อย่างเต็มที่
และอีกประการหนึ่งในกองพัน 617 ก็มีผมเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เคยเห็นภูมิประเทศดังกล่าวและเคยใช้เส้นทางขึ้นลงยอดเนิน ชาร์ลี-กอล์ฟ อยู่เป็นประจำ เท่าที่คำคมไม่กล้าออกคำสั่งให้ผมขึ้นไปโดยตรงก็คงจะเป็นความเห็นอกเห็นใจส่วนตัวของท่านที่มีต่อผมเป็นพิเศษนั่นเอง
ทิฐิมานะของชายชาตินักรบทำให้ผมเผลอตัวออกปากรับงานออกไปอย่างช่วยเหลือไม่ได้
“ครับ...ผู้พัน ใน BC.617 ก็มีผมเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ชำนาญทาง ผมยินดีรับงานชิ้นนี้ร่วมกับหมู่สมพร เราจะเริ่มออกเดินทางเมือไหร่ครับ”
คำคมยกนาฬิกาขึ้นมาดู เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ กิริยาท่าทางดูเหมือนจะยุ่งยากใจต่อแผนการที่นอร์แมนได้สั่งให้กองพันของผมปฏิบัติตามเป็นอย่างยิ่ง
“ขณะนี้ 12.30 อีกชั่วโมงครึ่งเริ่มออกเดินทาง จะให้ไปถึงจุดซุ่มโจมตี จุดแรกของข้าศึกก่อนเวลา 18.30 น. ต่อจากนั้นให้พวกคุณเฝ้าจุดซุ่มโจมตีของมันเอาไว้ทั้งคืน รอจนกระทั่งพวกมันถอนตัวกลับ จึงเริ่มเกาะมันเข้าไป คุณจะต้องผ่านฐานปืนที่ระดมยิงพวกเราเมื่อเช้านี้ด้วย พยายามเล็ดลอดเข้าไปจนกระทั่งอยู่ห่างจากแนวของมันเพียง 1 กม. แล้วเริ่มทำงาน รู้สึกว่ามันเป็นภารกิจที่เสี่ยงเกินไปสำหรับพวกเรา แต่เราไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้...บิ๊กแมน”
คำสั่งก็คือคำสั่ง
13.00 น. ผม,สมพร,และทหารจากศูนย์สงครามพิเศษอีก 2 นาย ก็เคลื่อนลัดเลาะลงไปข้างล่างอย่างระมัดระวัง
เรด้า-พ็อกเก็ต ถูกแบ่งเฉลี่ยออกเป็นสัดส่วนเท่าๆกัน คนละ 2 แท่ง ตามข้อตกลงที่วางไว้ เมื่อทุกคนได้รับอุบัติเหตุจนสูญเสียชีวิตหรือว่าได้รับบาดเจ็บ จะไม่มีการช่วยเหลือกันอย่างเด็ดขาด หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย คือสิ่งสำคัญที่สุดยิ่งกว่าอื่นใด ทุกคนจะต้องช่วยตัวเองพาเจ้าเรด้า-พ็อกเก็ต อันนี้ไปวางบนฐานปฏิบัติการของข้าศึกให้จงได้
พอพวกผมเคลื่อนที่ลงไปถึงตีนเนินเขาเถิดเทิง ก็ได้ยินเสียงอาวุธหนักนานาชนิดบนยอดเนินระดมยิงลงไปบนพื้นที่เบื้องล่างเป็นห่าฝน
ตำบลกระสุนตกก็ไม่ใช่เป็นการยิงรบกวนเหมือนอย่างเช่นเคยอีกแล้ว คราวนี้คำคมสั่งยิงคลุมพื้นที่บนไหล่เขาบริเวณทางขึ้น เนินสกายไลน์-วัน เป็นวงกว้างเสมือนหนึ่งจะเคลียร์พื้นที่ให้พวกผมอยู่ในที
และบัดดลนั้นเอง อาวุธหนักของข้าศึกที่ซุกซ่อนอยู่ที่พิกัด 789942 บนไหล่เขาสกายไลน์ก็ยิงสวนลงมาไม่ยิ่งหย่อนซึ่งกันและกัน
เสียงระเบิดตึงตังโครมครามที่ยิงประสานกันระหว่างศีรษะ สร้างรสชาติในการเดินทางขึ้นอย่างมากมาย หมู่สมพรที่เดินอยู่หน้าสุดหันมายิ้มพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามากระซิบกับผมด้วยท่าทางที่สนุกสนานครื้นเครงปราศจากอาการกริ่งเกรงใดๆทั้งสิ้น
“สนุกดี บิ๊กแมน เจ้านายของผมสั่งยิงแบบนี้ ผมอ่านไต๋ออก ท่านต้องการจะถ่วงเวลารอให้พวกเราเดินทางไปถึงจุดซุ่มโจมตีของพวกมัน ก่อนที่พวกมันจะออกมานั่นเอง ลูกยาวสะเปะสะปะ แบบนี้ พวกมันไม่กล้าออกมาหรอกครับ ป่านนี้คงวิ่งกันหัวซุกหัวซุนลงหลุมหมดแล้ว”
หมู่สมพรอ่านความคิดของคำคมออกและผมเองก็คิดเช่นนั้น
แผนการที่กลั่นกรองออกมาจากสมองที่มีประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมทำให้ผมเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ฐานปืนทุกขณะ
เส้นทางเดินราบเรียบ ร่องรอยของสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะเป็นร่องรอยเท้าทหารรับจ้าง หรือว่าร่องรอยเท้าของทหารเวียตนามเหนือ สับสนเกะกะไปทั่วบริเวณ
กับระเบิดซึ่งส่วนมากเป็นกับระเบิดที่ทหารรับจ้างกองพัน 616 ดักเอาไว้เมื่อครั้งถอนตัวลงมาจากเนินสกายไลน์-วัน ปรากฏอยู่อย่างถี่ยิบ ด้วยความสามารถพิเศษของหมู่สมพรและทหารจากศูนย์สงครามพิเศษ กับระเบิดเหล่านั้นถูกกู้และเก็บซุกซ่อนเอาใว้ข้างๆทางนั่นเอง
17.30 น. ผมก็นำทางหมู่สมพร “เบน” ออกจากหมู่บ้าน 50 หลัง มุ่งหน้าขึ้นไปบนไหล่เขาที่รกรุงรังไปด้วยแมกไม้นานาชนิด
หลุมระเบิดจากอาวุธหนักแทบทุกชนิด เรียงรายกันอยู่บนพื้นดินไม่ขาดระยะ กลิ่นดินขับกลิ่นฟอสฟอรัสที่เพิ่งลุกไหม้ไปอย่างสดๆร้อนๆ ยังอบอวลคละคลุ้งเหม็นหืนไปทั่วอาณาบริเวณ
ดวงตะวันคล้อยลับไปแล้ว ม่านสีเทาอมดำผืนมหึมาเริ่มโรยตัวลงมาครอบคลุมยอดเนินสกยไลน์-วัน จนมัวซัวลงทุกขณะ
จากพิกัดบนแผนที่ ขณะนี้พวกผมอยู่ห่างจากที่ตั้งปืนของพวกมันเพียง 500 เมตรเท่านั้น
และก่อน 18.00 น. เล็กน้อย พวกผมทั้ง 4 คนก็ปีนขึ้นมาหมอบอยู่บนยอดเนินเล็กๆที่สามารถตรวจการณ์เห็นทิศทางเบื้องหน้าได้พอสมควร
เสียงไอเหมือนคนเป็นหวัดลงคอดังแว่วมาจากป่าเสือหมอบเบื้องหน้า
หมู่สมพรฟุบหมอบกับพื้น แล้วคลานสี่ตีนเข้าไปนอนหมอบอยู่ระหว่างกอรวกซึ่งข้นเบียดเสียดเยียดยัดอยู่เบื้องหน้า
ผมและทหารอีก 2 คน คืบคลานแยกย้ายออกเป็นรูปขบวนแถวหน้ากระดาน หมอบเรียงรายด้วยระยะต่อที่ห่างกันพอสมควร จ้องสายตาลงไปเบื้องล่างที่ปรากฏหลุมบุคคลเรียงรายอยู่ 7-8 หลุม ด้วยอากัปกิริยาที่ระมัดระวังตัวเต็มที่
เงาตะคุ่มของทหารลาวแดง 8 คน เดินเรียงเดี่ยวออกมาจากเส้นทางที่ตัดตรงออกมาจากดงเสือหมอบนั้น เครื่องแต่งกายสีทึมๆที่พวกมันสวมใส่อยู่นั้น ทำให้พวกผมเกือบมองไม่เห็น เสียงพูดคุยและเสียงกระติกน้ำแบบโลหะที่เสียดสีกับเข็มขัดสนามทำให้ผมสังเกตเห็นทิศทางการเคลื่อนที่ของพวกมันเข้าอย่างบังเอิญ
เงาตะคุ่มของพวกมันหยุดอยู่ที่หลุมบุคคล ชั่วอึดใจ ปืนกลเบาก็ถูกยกขึ้นตั้งขาทรายอยู่ ณ.บริเวณปากหลุม จรวดอาร์พีจี วางแนบลงกับพื้นในลักษณะหันปากกระบอกมาทางพวกผม ลูกหัวปลีขนาดเขื่องที่สวมติดอยู่ที่ปากลำกล้อง ทำให้ขนหัวของผมลุกชันขึ้นมาด้วยความเสียวสยอง
พวกผมอยู่ห่างจากพวกมันไม่ถึง 15 เมตร ความใกล้ชิดทำให้ผมได้ยินเสียงพูดคุยของพวกมันอย่างถนัดหู เสียงหัวเราะเบาๆที่ประสานกันขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา ทำให้หมู่สมพรกัดกรามหันมากระซิบกระซาบกับผมด้วยท่าทางที่ฉุนเอาการ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 17, 2015, 10:48:55 AM โดย สมิง วังม่วง » บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 69
ออฟไลน์

กระทู้: 7597


tel. 0861810566


« ตอบ #11774 เมื่อ: กันยายน 21, 2015, 09:16:47 AM »

อัพเดต ตลาดปืนมือ 2 วันนี้  http://2013.gun.in.th/index.php?board=6.0  ถ้ายังไม่ได้สมัครสมาชิก ก็ สมัครด้วยครับ
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 782 783 784 [785] 786 787 788 ... 811
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.184 วินาที กับ 22 คำสั่ง