เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 26, 2024, 10:35:16 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พระราชอารมณ์ขันของในหลวงแห่งชาวไทย  (อ่าน 2873 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 9 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ekkawit
รักกันจริง ยิงกันจัง แต่ตังต้องเยอะ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4655


คิดให้ไกล และต้องไปให้ถึง


« เมื่อ: ตุลาคม 25, 2005, 09:14:33 PM »

> พระราชอารมณ์ขัน ในวันทรงงาน...ของพ่อหลวง
> เรื่องดีๆที่อยากให้อ่าน มาจากเนชั่น สุดสัปดาห์ 2-8ธันวาคม
> เรื่องที่ 1
> "ระยะแรกราวปี พ.ศ.2498 เป็นต้นมา
คราใดที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระราชวังไกลกังวลนั้น จะทรงขับรถยนต์พระที่นั่งไปยังท้องที่ห่างไกลทุรกันดารย่านหัวหินหนองพลับ แก่งกระจานด้วย พระองค์เองทำนองเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ห้า โดยที่ราษฎรไม่รู้ตัวล่วงหน้าว่าทรงมาถึงแล้ว"
วันหนึ่งทรงขับรถยนต์พระที่นั่งผ่านไปถึงยังบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านหมู่บ้านห้วยมงคล อำเภอหัวหิน ซึ่งราษฎรกำลังช่วยกันตบแต่งประดับซุ้มรับเสด็จกันอย่างสนุกสนานครื้นเครงและไม่คาดคิดว่าเป็นรถยนต์ พระที่นั่งส่วนพระองค์
"..ต้องให้ในหลวงเสด็จฯก่อนแล้วพรุ่งนี้ถึงจะลอดผ่านซุ้มได้..วันนี้ห้ามลอดผ่านซุ้มนี้ เพราะขอให้ในหลวงผ่านก่อนนะ.."
ทรงขับรถพระที่นั่งเบี่ยงข้างทางไม่ลอดซุ้มดังกล่าว
วันรุ่งขึ้นเมื่อทรงขับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในหมู่บ้านนี้อย่างเป็นทางการพร้อมคณะข้าราชบริพารผู้ติดตามและทรงมีพระดำรัสทักทายกับชายผู้นั้นที่เฝ้าอยู่หน้าซุ้มเมื่อวันวานว่า
"วันนี้ฉันเป็นในหลวง..คงผ่านซุ้มนี้ได้แล้วนะ.."
> ........................................................... ...
> เรื่องที่ 2
> อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสาน
เมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่งที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทูลที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงน เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ดีนี้ จึงมีคำกราบทูลว่า
"ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่า บัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวน พระพุทธเจ้าข้า.."
มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือนตรัสถามว่า
"เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว.." พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า "...มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไปทิ้งพระโอรสไว้สองตัว
ตัวหนึ่งที่ยังเล็กตรัสอ้อแอ้อยู่เลยและทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว"
เรื่องนี้ดร.สุเมธเล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะ
ไม่ยกเว้นแม้ในหลวง
> .......................................................
> เรื่องที่ 3
>
เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวงดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดินเพราะเรียนมาตั้งแต่เล็กแต่ไม่เคยได้ใช้เมื่อออกงานใหญ่จึงตื่นเต้นประหม่า ซึ่งเป็นธรรมดาของคนทั่วไป และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงานหรือกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทในพระราชานุกิจต่างๆนานัปการ ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ
รองราชเลขาธิการเคยเล่าให้ฟังว่า ด้วยพระบุญญาธิการและพระบารมีในพระองค์นั้นมีมากล้นจนบางคนถึงกับไม่อาจระงับอา
การกิริยาประหม่า ยามกราบบังคมทูลจึงมีผิดพลาดเสมอ แม้จะซักซ้อมมาอย่างดีก็ตาม
ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนมีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงานว่า
"ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พลตรีภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตกราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ"
เมื่อคำกราบบังคมทูลจบ ในหลวงทรงแย้มพระสรวลอย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า"เออดี เราชื่อเดียวกัน..."
ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัยเพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้
> .................................................
> มีเรื่องหนึ่งเคยฟังจากผู้ใหญ่เล่าเมื่อนานมาแล้ว มีช่างไปทำฝ้าเพดานในวัง คนหนึ่งกำลังยืนบนบันได ส่วนหัวอยู่ใต้ฝ้า
อีกคนคอยจับบันไดอยู่ด้านล่างพอดีในหลวงเสด็จมา
คนที่อยู่ข้างล่างเห็นในหลวงก็ก้มลงกราบ คนอยู่ด้านบนไม่เห็น ก็บอกว่า เฮ้ยจับดีๆ หน่อยสิอย่าให้แกว่ง ในหลวงทรงจับบันไดให้ เค้าก็บอกว่า เออ ดีๆ เสร็จงานนี้จะให้เป็นช่างจริง (สงสัยคงจะเพิ่งเข้ามาทำงานยังไม่ผ่านโปร)
พอเสร็จก็ก้าว ลง พอเห็นว่าในหลวงเป็นคนจับบันไดให้ ถึงกับเข่าอ่อนจะตกบันไดรีบลงมาก้มกราบ ในหลวงทรงตรัสกับช่าว่า
"แหมดีนะที่ชมว่าใช้ได้ แถมจะปรับตำแหน่งให้เป็นช่างอีกด้วย"


อ้างอิง http://www.1500miles.com/webboard/show.php?Category=1500miles.com&No=59721
บันทึกการเข้า

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
ekkawit
รักกันจริง ยิงกันจัง แต่ตังต้องเยอะ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4655


คิดให้ไกล และต้องไปให้ถึง


« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2005, 09:15:30 PM »

มีเรื่องน่ารัก ๆ ของในหลวงมาเล่าให้พวกเราได้รับทราบ

ในพระจริยาวัตรของท่าน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าพระองค์ท่านจะเสด็จเยี่ยมเยียน
พสกนิกรของพระองค์ท่านอยู่เป็นประจำ โดย
เฉพาะชาวบ้านต่างจังหวัดจะโชคดีกว่าเรานักที่ได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมีของในหลวงได้ใกล้ชิดและบ่อยครั้งกว่าคนในกรุงเทพมากนัก จึงมีเรื่องของในหลวงมาเล่าให้ฟัง ฟังแล้วเชื่อว่าทุกคนจะต้องอมยิ้มกันทุกคนแน่

เรื่องที่ 1
วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด
ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมายพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาท
ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาทแล้วก็เอามือของแกมาจับ
พระหัตถ์ของในหลวง แล้วก็พูดว่ายายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง
แล้วก็พูดว่ายายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรงเฉย ๆ
มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร แต่พวกข้าราชบริภารก็มองหน้ากันใหญ่
กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัยหรือไม่
แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคนนั้น
ก็ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะ พระองค์ทรงตรัสว่า
"เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ ต้องเรียกน้าซิ ถึงจะถูก"

เรื่องที่ 2
พระองค์ท่านเสด็จไปที่จังหวัดสกลนคร เพื่อเยี่ยมเยียนชาวบ้าน
และพระองค์ก็ทรงตรัสถามชายคนหนึ่งที่มาเข้าเฝ้า เพราะแขนเจ็บเข้าเฝือก
ในหลวงทรงรับสั่งถามว่า "แขนเจ็บไปโดนอะไรมา "
ชายคนนั้นตอบว่า "ตกสะพาน"
แล้วในหลวงทรงรับสั่งกลับไปอีกว่า "แล้วแขนอีกข้างหนึ่งละ"
ชายคนนั้นก็ตอบกลับมาอีกว่า "แขนข้างนี้ไม่ได้ตกลงไปด้วยตกข้างเดียว"
ในหลวงของเราก็ทรงพระสรวล

เรื่องที่ 3
พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรที่ ทางภาคใต้
คือจังหวัดนราธิวาส ทางใต้นี้มีปัญหาเรื่องดินเป็นกรดมีความเค็ม
พระองค์จึงทรงรับสั่งถามกับชาวบ้านที่มาเฝ้ารับเสด็จว่า
"ดินหลังบ้านเป็นอย่างไร เค็มไหม" ชาวบ้านก็มองหน้ากันแล้วทำหน้างง
ก่อนตอบกลับมาว่า "ไม่เคยชิมซักที"
ในหลวงก็รับทรงสั่งกับข้าราชบริภารที่ตามเสด็จว่า
"ชาวบ้านแถวนี้เขามีอารมณ์ขันกันดีนะ "

เรื่องที่ 4
ครั้งหนึ่งหลาย ๆ ปีมาแล้ว
พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวีมีพระอาการคัน
มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษาา
คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนัง แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชาศัพท์
ก็กราบบังคมทูลว่า "เอ้อ - ทรง... อ้า- ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ"
พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า "ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่ จะท้องได้ยังไง"
แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่าหมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริง ๆ
ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า "เอ้าพูดภาษาอังกฤษกันเถอะ"
เป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษาอังกฤษไป

เรื่องที่ 5
อีกครั้งหนึ่ง หลายปีมาก ๆ แล้วเหมือนกัน
ตั้งแต่พระเจ้าอยู่หัวยังทรงพระโอสถมวน (สูบบุหรี่) อยู่
คราวหนึ่งพระเจ้าอยู่หัวกำลังจะทรงพระโอสถมวน ยังไม่ได้ทรงจุด
ท่านผู้หนึ่งที่เผอิญได้เข้าเฝ้าอยู่ในขณะนั้น จะเป็นใครผมก็ไม่ทราบลืมไปแล้ว
ก็ปราดเข้าไปคุกเข่า จุดไฟแช็*** แถมกราบบังคมทูลเสียด้วยว่า่
"ถวายพระเพลิง พะยะค่ะ"
พระเจ้าอยู่หัวทรงพระสรวลเสียงดัง ตรัสด้วยพระอารมณ์สนุกว่า
"ยังฉันยังไม่ตาย...."
ผู้ใหญ่ที่มาเล่าเรื่องนี้ต่อให้ผมฟังไม่ได้เล่าว่าตอนนี้สีหน้าผู้ที่จะ "ถวายพระเพลิง" เป็นอย่างไร
บันทึกการเข้า

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
ekkawit
รักกันจริง ยิงกันจัง แต่ตังต้องเยอะ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4655


คิดให้ไกล และต้องไปให้ถึง


« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2005, 09:17:05 PM »

เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น
เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่นเรื่องขออนุญาตนำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษ
ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า "ไปบอกเค้านะ เราไม่ใช่มิกกี้เมาส์"

++++++++++++++++++++++++++++++++++

เหตุการณ์เมื่อปี 2513 วันนั้นท่านทรงเสด็จไปหมู่บ้านท้ายดอยจอมหด พร้าว เชียงใหม่ ผู้ใหญ่บ้าลีซอกราบทูลชวนให้ไปแอ่วบ้านเฮา ท่านก็ทรงเสด็จตามเขาเข้าไปบ้านซึ่งทำด้วยไม้ไผ่และมุงหญ้าแห้ง เขาเอาที่นอนมาปูสำหรับประทับ แล้วรินเหล้าทำเองใส่ถ้วยที่ไม่ค่อยจะได้ล้างจนมีคราบดำ ๆ จับ ทางผู้ติดตามรู้สึกเป็นห่วง เพราะปกติไม่ทรงใช้ถ้วยมีคราบ จึงกระซิบทูลว่าควรจะทรงทำท่าเสวย แล้วส่งถ้วยมาพระราชทานผู้ติดตามจัดการเอง แต่ท่านก็ทรงดวดเอง กร้อบ
เดียวเกลี้ยง ตอนหลังทรงรับสั่งว่า "ไม่เป็นไร แอลกอฮอล์เข้มข้นเชื้อโรคตายหมด" ซึ้งไหมหล่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++
เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งพ่อหลวงทรงเสด็จไปที่ตลาดสด ทรงแวะไปเสวยก๋วยเตี๋ยว แม่ค้าขาก๋วยเตี๋ยว เห็นก็สงสัย จึงทูลถามท่านว่า
"ทำไมหน้า เหมือนในหลวงจัง?"
ท่านไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้ม ๆ ทรงจ่ายเงินค่าก๋วยเตี๋ยวแล้วตรัสชมว่า "ก๋วยเตี๋ยวอร่อย"
ส่วนแม่ค้ามารู้ที่หลังว่าเป็นท่านก็ได้แต่ปลื้ม

++++++++++++++++++++++++++++++++++
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตรให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย ทรงสูงมวนพระโอสถ แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้ ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูลว่า "ถวายพระเพลิงพระเจ้าข้า" ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อย ๆ กับอธิการบดีว่า "เรายังไม่ตาย ถวายพระเพลิงไม่ได้หรอก"
**ขอพระองค์ทรงเกษมสำราญทุกเวลา***

++++++++++++++++++++++++++++++++++
เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้ว
ราษฎรผู้หนึ่งจึงกราบบังคมทูลขอรับพระราชทาน
พระเครื่องว่า "ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์"
ในหลวงทรงตรัสว่า "ขอเดชะ พระหมดแล้ว"

ในคืนวันหนึ่งของปี พ.ศ. ๒๕๑๐( ยศในขณะนั้นพันตำรวจโท )

......หลังจากได้รับพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำแล้ว ในวังไกลกังวล....ผมจำได้ว่า คืนนั้นผู้ที่โชคดีได้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานพระจิตรลดา เป็นนายตำรวจ 8 นาย และนายทหารเรือ 1 นาย

........พระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงมาพร้อมด้วยกล่องใส่พระเครื่องในพระหัตถ์ ทรงอยู่ในฉลองพระองค์ชุดลำลอง.....

.....ขณะที่ทรงวางพระลงบนฝ่ามือที่ผมแบรับอยู่นั้น ผมมีความรู้สึกว่าองค์พระร้อนเหมือนเพิ่งออกจากเตา.....

.....ภายหลัง เมื่อมีโอกาสกราบบังคมทูลถาม จึงได้ทราบว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงสร้างพระเครื่ององค์นั้น ด้วยการนำเอาวัตถุมงคลหลายชนิดผสมกัน เช่น ดินจากปูชนียสถานต่างๆ ทั่วประเทศ ดอกไม้ที่ประชาชนทูลเกล้าถวายในโอกาสต่างๆ และเส้นพระเจ้า(เส้นผม) ของพระองค์เอง เมื่อผสมกันโดยใช้กาวลาเท็กซ์เป็นตัวยึดแล้ว จึงทรงกดลงในพิมพ์ (อ.ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ซึ่งต่อมาเป็นศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้แกะถวาย) โดยไม่ได้เอาเข้าเตาเผา.......

.......หลังจากที่ได้รับพระราชทานแล้ว ทรงพระกรุณาพระราชทานพระบรมราโชวาทมีความว่า.....…

“ พระที่ให้ไปน่ะ ก่อนจะเอาไปบูชา ให้ปิดทองเสียก่อน แต่ให้ปิดเฉพาะข้างหลังพระเท่านั้น ”

........พระราชทานพระบรมราชาธิบายด้วยว่า ที่ให้ปิดทองหลังพระก็เพื่อเตือนตัวเองว่าการทำความดีไม่จำเป็นต้องอวดใคร หรือประกาศให้ใครรู้ ให้ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ และถือว่าความสำเร็จในการทำหน้าที่เป็นบำเหน็จรางวัลที่สมบูรณ์แล้ว.....

.....ผมเอาพระเครื่องพระราชทานไปปิดทองที่หลังพระแล้ว ก็ซื้อกรอบใส่ หลังจากนั้นมา สมเด็จจิตรลดาหรือพระกำลังแผ่นดินองค์นั้น ก็เป็นพระเครื่องเพียงองค์เดียวที่ห้อยคอผม........

.....หลังจากที่ไปเร่ร่อนปฏิบัติหน้าที่อยู่ไกลห่างพระยุคลบาท ผมได้มีโอกาสกลับไปเฝ้าฯที่วังไกลกังวลอีก.....ความรู้สึกเมื่อได้เฝ้าฯ นอกจากจะเป็นความปีติยินดีที่ได้พระยุคลบาทอีกครั้งหนึ่งแล้ว ก็มีความน้อยใจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ ลำบากและเผชิญอันตรายนานาชนิด บางครั้งจนแทบเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ปรากฎว่ากรมตำรวจมิได้ตอบแทนด้วยบำเหน็จใดๆ ทั้งสิ้น........

......ก่อนเสด็จขึ้นคืนนั้น ผมจึงก้มลงกราบบนโต๊ะเสวย แล้วกราบบังคมทูลว่า ใคร่ขอพระราชทานอะไรสักอย่างหนึ่ง..........

........พระเจ้าอยู่หัวตรัสถามว่า “จะเอาอะไร?”

และผมก็กราบบังคมทูลอย่างกล้าหาญชาญชัยว่า จะขอพระบรมราชานุญาต ปิดทองบนหน้าพระ ที่ได้รับพระราชทานไป

พระเจ้าอยู่หัวตรัสถามเหตุผลที่ผมขอปิดทองหน้าพระ...

...ผมกราบบังคมทูลอย่างตรงไปตรงมาว่า......พระสมเด็จจิตรลดาหรือพระกำลังแผ่นดินนั้น นับตั้งแต่ได้รับพระราชทานไปห้อยคอแล้ว
ต้องทำงานหนัก และเหนื่อยเป็นที่สุดเกือบได้รับอันตรายร้ายแรงก็หลายครั้ง มิหนำซ้ำกรมตำรวจยังไม่ให้เงินเดือนขึ้นแม้แต่บาทเดียวอีกด้วย......

.....พระเจ้าอยู่หัวทรงแย้มพระสรวล (ยิ้ม)
ก่อนที่จะมีพระราชดำรัสตอบด้วยพระสุรเสียงที่ส่อพระเมตตาและพระกรุณาว่า

ปิดทองไปข้างหลังพระเรื่อยๆ แล้วทองจะล้นออกมาที่หน้าพระเอง.......
บันทึกการเข้า

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
ekkawit
รักกันจริง ยิงกันจัง แต่ตังต้องเยอะ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4655


คิดให้ไกล และต้องไปให้ถึง


« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2005, 09:19:55 PM »

ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
บันทึกการเข้า

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2005, 09:25:24 PM »

ข้าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ปกเกล้าปกกระหม่อมเหล่าประสกนิกรชาวไทยด้วยเทอญ
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2005, 10:03:58 PM »

ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

อ่าน บทความ เหล่านี้  อดน้ำตา เอ่อ ไม่ได้เลย
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
อิฐแดง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2005, 10:15:50 PM »

เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า
นางสนองพระโอษฐ์ของฟ้าหญิงองค์เล็ก  ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับฟ้าหญิง
ทางนางสนองพระโอษฐ์ก็สอบถามว่าใครจะพูดสายด้วย ..... ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า
"คนที่แบงค์"  นางสนองพระโอษฐ์ก็ งง...งง  ว่าคนที่แบงค์ทำไมโทรมาแต่เช้า  แบงค์ก็ยังไม่เปิด
พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้ว ... ถึงได้รู้ว่า
คนที่แบงค์น่ะ  ก็ที่แบงค์จริง ๆ นะ  ไม่เชื่อเปิด .... กระเป๋าตังค์
แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ ...อิ อิ  ขนลุกเลย

ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
บันทึกการเข้า

--เพราะต่างความคิด ชีวิตจึงต่าง--
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2005, 10:28:20 PM »

ข้าฯใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนยาน

อ่านทีไรน้ำตาซึมทุกรอบครับ
บันทึกการเข้า

Mr_Watt
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2005, 11:34:31 PM »

ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน

ขอบคุณทุกท่านมากครับ ผมเคยได้อ่านมาหลายครั้งแล้วแต่ทุกครั้งที่อ่านจะมีความรู้สึกตื้นตันในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์มีต่อพวกเราชาวไทยทุกคน และถ้าเจอบทความเหล่านี้แม้จะกี่ครั้งกี่หนก็จะอ่านทุกตัวอักษรตลอดไป เพราะเรา  หลงรัก พระเจ้าอยู่หัว
บันทึกการเข้า
เทพ กังฟูแพนด้า รักในหลวง
พร้อมรบทุกสถานการณ์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 37
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4765


หลวงพ่อฤาษีลิงดำ


« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2005, 04:59:51 AM »

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
บันทึกการเข้า

naiyoksot-รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 6
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 316



« ตอบ #10 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2005, 05:34:11 AM »

พสกนิกรชาวไทยมีพ่อหนึ่งเดียวคือในหลวงของเรา     ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
บันทึกการเข้า
ป้อมทอง พรานชุมไพร
ดับบาป ด้วยบุญปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 780
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6885


นรชาติวางวาย สถิตย์ไว้ แต่ความดีประดับไว้โลกา


« ตอบ #11 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2005, 06:41:40 AM »

       ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
บันทึกการเข้า

รักกันไว้เถอะ  เราเกิดร่วมแดนไทย   จะเกิดภาคไหนๆ    ก็ไทยด้วยกัน      
เชื้อสายประเพณีไม่มีขีดคั่น        เกิดเป็นไทยนั้นปวงชนทุกคนคือไทย
โจ ™
สมาชิกลำดับที่: 41
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 219
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8187


รวมเวลาที่อยู่ในระบบ: 555 วัน 5 ชั่วโมง 55 นาที


เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2005, 06:51:28 AM »

พ่อของแผ่นดิน ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
บันทึกการเข้า

บางโพ 5
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2005, 07:24:52 AM »






[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
บันทึกการเข้า
fasty
รักธรรมชาติ ให้เท่ากับรักชีวิต
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 559


« ตอบ #14 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2005, 07:41:17 AM »

ภูมิใจมากๆกับในหลวงของชาวไทย Cheesy Cheesy
........ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ........
บันทึกการเข้า

รักษาธรรมชาติ  รักษาชีวิต
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.064 วินาที กับ 22 คำสั่ง