renold
บุคคลทั่วไป
|
|
« เมื่อ: เมษายน 08, 2010, 09:48:24 PM » |
|
หลายๆท่านเห็นว่า กรมการปกครอง มีคำสั่งห้ามโอนปืนโครงการต่างๆ 5 ปี มันทำให้เกิดปัญหา การซื้อปืนในราคาโครงการ แล้วเอาไปต่อขายในราคาปืนท้องตลาด คิดว่าเหมาะสมหรือไม่ นักนิยมปืนทั้งหลาย น่าจะมาตั้งกติกา ปืนโครงการที่ขายต่อ ราคาไม่น่าจะเทียบเท่ากับปืนท้องตลาด ..แบบว่า น่าจะให้โอกาส ปชช.ทั่วไปที่ไม่มีสิทธิซื้อปืนโครงการ ได้ครอบครองอาวุธปืนในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ruk™-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 643
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 4012
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 08, 2010, 10:02:50 PM » |
|
การซื้อปืนสวัสดิการในราคาถูก เพื่อเก็งกำไรและนำมาขายต่อ ผมไม่เห็นด้วยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ดูเป็นการให้อภิสิทธิ์คนบางกลุ่มมากเกินไป และไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการเปิดโครงการปืนสวัสดิการ แต่ละโครงการ จึงไม่เห็นด้วยหากจะมีการนำมาขายต่อเพื่อทำกำไร หากเป็นเช่นนั้นจริง ประชาชนซึ่งเป็นคนส่วน ใหญ่ของประเทศก็ควรมีสิทธิ์ซื้อปืนสวัสดิการได้ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คุณอาจเผาและทำลายบ้านเมืองเราได้ แต่คุณไม่สามารถทำลายความรักชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ของเราไปได้ HS3JBX ทองพูน นุโยนรัมย์ : (คำขวัญประจำจังหวัด) ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานต์กวี คนดีศรีอยุธยา
|
|
|
renold
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 08, 2010, 10:05:47 PM » |
|
เห็นกันออกบ่อย ในห้องขายปืนของเวป ที่มีที่มาจากกรมการปกครอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Audy452 ♥ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 1180
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 14952
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 08, 2010, 10:09:38 PM » |
|
5 ปีขายเป็นราคาปืนเก่า....ถึงตอนนั้นใครๆก็มีปืนอยู่แล้ว....คงขายไม่ได้ถ้าขายราคาแพงๆครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Sungnoen
ชาว อวป.
Sr. Member
คะแนน 46
ออฟไลน์
กระทู้: 780
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 08, 2010, 10:27:37 PM » |
|
เผื่อภายภาคหน้าจะชอบรุ่นใหม่ๆบ้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CT_Pro4
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 537
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 4869
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 04:02:12 AM » |
|
การซื้อปืนสวัสดิการในราคาถูก เพื่อเก็งกำไรและนำมาขายต่อ ผมไม่เห็นด้วยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ดูเป็นการให้อภิสิทธิ์คนบางกลุ่มมากเกินไป และไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการเปิดโครงการปืนสวัสดิการ แต่ละโครงการ จึงไม่เห็นด้วยหากจะมีการนำมาขายต่อเพื่อทำกำไร หากเป็นเช่นนั้นจริง ประชาชนซึ่งเป็นคนส่วน ใหญ่ของประเทศก็ควรมีสิทธิ์ซื้อปืนสวัสดิการได้ด้วย
...ชัดเจนครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Every problem contains the seeds of its own solution.- Stanley Arnold
|
|
|
rucha
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 07:43:04 AM » |
|
คล้ายๆ เรื่อง เขายายเที่ยง นะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sorrachat - รักในหลวง
HS 7 FVZ
ชาว อวป.
Sr. Member
คะแนน 63
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 577
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 07:51:43 AM » |
|
โหวตแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผึ้งน้อย พเนจร ศรีษะนี้มอบให้พระเจ้าแผ่นดิน
|
|
|
hello9pk
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 09:17:04 AM » |
|
การซื้อขายเป็นการพอใจกันทั้งสองฝ่าย มิได้มีใครไปบังคับมิใช่หรือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kit ๖๗๖๗ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 122
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1484
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 09:28:54 AM » |
|
โหวตแล้วครับ ข้อ ๑
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
มีเพียงสิ่งเดียวในชีวิตที่จะสามารถพิชิตได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายคือความล้มเหลว
|
|
|
kaittisak291
Full Member
คะแนน 15
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 108
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 09:48:55 AM » |
|
พอดีผมก็ได้ปืนสวัสดิการมา 3 กระบอก G 19 ดำ สป.มท. CZ 2075 A สน.อส. โอนไม่ได้เว้นแต่มรดก และ G 26 ดำ สน.สก.โอนได้ภายใน 5 ปี ในส่วนความคิดของผมนะครับ....อยากจะให้โอนได้ภายใน 5 ปี แต่ต้องให้ได้เฉพาะสามี ภรรยา บุตร ฯ เท่านั้น หรือผู้สืบทอดตระกูล...ไม่สามารถนำไปจำหน่ายหรือขายต่อแก่ผู้อื่นที่ไม่ใช่ญาติ...การโอนเราสามารถตรวจเช็คได้ตามหมายเลขทะเบียนปืน...ถ้าไม่ใช่ห้ามซื้อขาย...จะเป็นการป้องกันการซื้อในราคาถูกแล้วนำไปขายต่อในราคาที่แพง..หรือหาผลกำไรจากอาวุธปืนสวัสดิการ...ช่วงที่ผมจองปืน G 26 ดำ ของ สน.สก. ผมอยู่ชุดที่ 3 ลองดูที่ข้อมูลคนที่จองปืนในชุดนั้น..ท่านเชื่อหรือไม่ว่ามีเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง..จองปืนในชุดที่ 3 นี้อยู่ถึง 7 กระบอก..มีขนาดและรุ่นเดียวกันด้วย..คือจอง G 19 ดำ จำนวน 3 กระบอก..G 26 ดำ จำนวน 2 กระบอก...คนเดียวนะครับ..ส่วนปืนในชุดอื่นไม่ทราบว่าท่านจองอีกหรือเปล่า...ก็ลองให้ สมช. ลองพิจารณาดูว่าจองปืนแล้วรับปืนไปแล้ว..จะนำปืนไปเพื่อทำสิ่งใด...แต่ก็งงเหมือนกันว่าทางอำเภอออก ป. 3 ให้ได้อย่างไร 7 กระบอก ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mchaivis
ชาว อวป.
Sr. Member
คะแนน 80
ออฟไลน์
กระทู้: 720
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 10:12:48 AM » |
|
ผมว่าอย่าไปร้อนรุ่มเรื่องทำนองนี้เลยครับ ใครมีสิทธิ์ก็ใช้สิทธิ์ตามที่มี ส่วนใครจะซื้อปืนหวังมาขายต่อ โดยคิดว่าราคาขายต่อจะเท่ากับราคาปืนมือสองทุกวันนี้ อาจคิดผิดก็ได้ ถึงเวลาที่ปืนสวัสดิการโอนได้ คงไหลบ่าออกมาเหมือนสายน้ำ ไหนปืนจากร้านค้าอีก ที่คงไม่ยอมให้ปืนสวัสดิการมาโจมตีแน่นอน และคนที่รู้ว่าต้นทุนในการซื้อกระบอกละเท่าไหร่ จะยอมซื้อในราคาที่แพงเกินความเป็นจริงหรือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yakdee
ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 64
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1146
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 10:30:19 AM » |
|
ขออนุญาตครับ
โหวตแล้วจะมีผลเปลี่ยนแปลงต่อคำสั่งห้ามโอนภายใน 5 ปีอย่างไรหรือไม่ ถ้าไม่..ก็เปล่าประโยชน์
ปืนสวัสดิการ คือปืนที่นำมาให้ผู้มีหน้าที่ที่ต้องใช้อาวุธปืนตามปกติ สามารถซื้อได้ในราคาต่ำ เพราะตัดทอนภาษี และค่าโควต้าออกไปแล้ว...หมายความว่า เป็นกรณีที่รัฐส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่สามารถซื้ออาวุธได้อย่างถูกต้อง ในราคาถูกกว่าชาวบ้าน....เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐมีรายได้ไม่เพียงพอกับการซื้อปืนตามราคาหน้าร้านฯ แสดงว่า รัฐมีความเข้าใจและเข้าถึงความจำเป็นของเจ้าหน้าที่...แต่ละเลยปัญหาความปลอดภัยของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องมีและใช้อาวุธปืนด้วยเช่นกัน เนื่องจากประชาชนธรรมดา ๆ ไม่มีสิทธิซื้ออาวุธปืนในราคาต่ำเท่ากับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จัดสวัสดิการให้มาเช่นนี้
นโยบายเป็นเรื่องนี้ มีช่องว่างให้เกิดกลุ่มหาประโยชน์จากปืนสวัสดิการฯ ในยุคแรก เจ้าหน้าที่ของรัฐทำตัวเป็นตัวแทนในการซื้อหาอาวุธราคาต่ำในโครงการฯ แล้วมาจำหน่ายแก่ประชาชน จากประสบการณ์ที่พบมา ก็ฝากหน้าร้านขายอาวุธปืนให้ช่วยหาลูกค้า หรือแทรกขายเช่นเดียวกับปืนร้านฯ ได้ราคาส่วนต่างเหนาะ ๆ แล้วยังไม่กระเทือนโควต้าของร้านอีกด้วย ยุคต่อมานโยบายมีความเข้มข้น เพราะมีการจำหน่ายแพร่หลาย คนอนุมัติโครงการคิดได้ว่า ประโยชน์ที่เกิดจากผลต่าง ไม่ได้ตกอยู่กับรัฐหรือประชาชน แต่ตกอยู่กับคนกลางหรือตัวแทนที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ยินยอมให้ใช้สิทธิและชื่อของตนเองในการซื้อขาย ก็เลยมีข้อกำหนดห้ามโอนตลอดชีวิต เว้นแต่การตกทอดมรดกเท่านั้น ที่ทราบมาก็เป็นสวัสดิการของตำรวจ เท่ากับตัดโอกาสทำมาหากินกับช่องว่างดังกล่าว คนที่อ้างว่าเสียหายกับนโยบายห้ามโอนเช่นนี้ ก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตัดใจซื้ออาวุธปืนมาแล้ว ใช้ไม่คล่อง ไม่เหมาะมือ ซื้อตามเพื่อน ฯลฯ จำเป็นต้องถือครอบครองอาวุธปืนกระบอกนั้นไปจนตาย....เพราะว่าโอนไม่ได้..
แต่ต่อมา มีการผลัดใบของผู้มีอำนาจ นโยบายก็เปลี่ยน กลายเป็นห้ามโอน 5 ปี เกิดขึ้นมา ซึ่ง การห้ามโอน 5 ปี ก็มีอยู่ในบางโครงการในขณะที่บางโครงการฯ ห้ามโอนตลอดชีวิต.. โดยไม่มีข้อมูลว่า 5 ปีนั้นมาจากการศึกษาผลกระทบและผลได้ผลเสียอย่างไร เนื่องจากกฎหมายบ้านเมืองของเรา การกำหนดระยะเวลาในส่วนที่จะเป็นคุณเป็นโทษกับประชาชน ไม่เคยแสดงให้เห็นได้ในทางวิชาการว่า เกิดขึ้นจากมูลเหตุใด จึงแปลความได้ว่า เป็นไปตามอำเภอใจของผู้กำหนดกฎหมายเท่านั้น
ท้ายนี้ จึงต้องถามว่า นโยบายจำกัดอาวุธปืนของร้านค้าที่ยังดำเนินอยู่ โดยเปิดช่องว่างให้เกิดการจำหน่ายอาวุธปืนอย่างแพร่หลายในโครงการสวัสดิการเช่นนี้ ควรมีอยู่ต่อไปหรือไม่ มากกว่าจะมาถามว่า กี่ปี จึงจะดี...
การเปิดเสรีในการถือครองอาวุธปืนฯ ไม่ได้ทำให้รัฐต้องเกรงกลัวว่าจะเป็นการสนับสนุนให้เกิดอาชญากรรม เพราะอาชญากรรมก็เกิดขึ้นทุกวันอยู่แล้ว เพียงแต่อาวุธปืนเป็นปัจจัยที่ง่ายที่สุดในแง่ของการใช้และเป็นผล การดูแลอย่างมีประสิทธิภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนต่างหากล่ะที่ต้องเข้มแข็ง มีข้อมูล ไม่ยินยอมต่อการร้องขอของผู้ยิ่งใหญ่กว่าหน้าที่ (เส้นใหญ่) ก็จะทำให้การมีและใช้อาวุธปืนสามารถควบคุมไม่ให้ใช้ก่ออาชญากรรมง่ายขึ้น และอาวุธปืนก็จะไม่กลายเป็นผู้ร้ายในเรื่องนี้...
ช่วงนี้การเมืองร้อนระอุ...แต่ยังมีการใช้อาวุธสงครามกันอย่างไม่สะทกสะท้านกลางเมืองหลวง เท่ากับรัฐไม่มีความรู้ในการดูแลเรื่องอาวุธปืน หรือพยายามไม่เรียนรู้ก็อาจเป็นไปได้
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การกล่าวหาอย่างอคติ แต่เป็นเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อประโยชน์ต่อเพื่อสมาชิกด้วยกันที่จะทราบถึงความจริงบางส่วนของโครงการฯ เท่าที่ความรู้เล็กน้อยของผมมีอยู่เท่านั้น สมาชิกท่านอื่นอาจมีความรู้และทราบรายละเอียดดีกว่า โปรดช่วยแนะนำแลกเปลี่ยนกันบ้างก็ได้ครับ ขอบคุณท่านที่กรุณาอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
อย่าไปร้องขอฯจากคนอื่น ถ้าไม่เคยให้อะไรกับใคร ทำทุกอย่างต้องจริงใจ แล้วท่านจะได้..จากใจจริง ทุก ๆ สิ่งที่ว่าแน่แท้ ยังผันแปร..เปลี่ยนเป็นอื่น ธรรมชาติไม่อาจฝืน แต่ควรยืนหยัดอยู่..สู้อธรรม
|
|
|
looknoi
ชาว อวป.
Full Member
คะแนน 35
ออฟไลน์
กระทู้: 180
อย่าอยู่อย่างอยาก
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 10:37:37 AM » |
|
ผมขอแค่โอนมรดกได้ก็พอใจแล้ว ไม่ต้องตายแล้วโอนมันยุ่งยากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คำขอโทษไม่ได้มีไว้ใช้พร่ำเพรือ เพราะทุกครั้งที่ขอโทษก็จะทำให้มิตรลดลง
|
|
|
ธำรง
Hero Member
คะแนน 1727
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 8568
.....รักในหลวง.....
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 10:55:28 AM » |
|
ขออนุญาตครับ
โหวตแล้วจะมีผลเปลี่ยนแปลงต่อคำสั่งห้ามโอนภายใน 5 ปีอย่างไรหรือไม่ ถ้าไม่..ก็เปล่าประโยชน์
ปืนสวัสดิการ คือปืนที่นำมาให้ผู้มีหน้าที่ที่ต้องใช้อาวุธปืนตามปกติ สามารถซื้อได้ในราคาต่ำ เพราะตัดทอนภาษี และค่าโควต้าออกไปแล้ว...หมายความว่า เป็นกรณีที่รัฐส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่สามารถซื้ออาวุธได้อย่างถูกต้อง ในราคาถูกกว่าชาวบ้าน....เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐมีรายได้ไม่เพียงพอกับการซื้อปืนตามราคาหน้าร้านฯ แสดงว่า รัฐมีความเข้าใจและเข้าถึงความจำเป็นของเจ้าหน้าที่...แต่ละเลยปัญหาความปลอดภัยของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องมีและใช้อาวุธปืนด้วยเช่นกัน เนื่องจากประชาชนธรรมดา ๆ ไม่มีสิทธิซื้ออาวุธปืนในราคาต่ำเท่ากับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จัดสวัสดิการให้มาเช่นนี้
นโยบายเป็นเรื่องนี้ มีช่องว่างให้เกิดกลุ่มหาประโยชน์จากปืนสวัสดิการฯ ในยุคแรก เจ้าหน้าที่ของรัฐทำตัวเป็นตัวแทนในการซื้อหาอาวุธราคาต่ำในโครงการฯ แล้วมาจำหน่ายแก่ประชาชน จากประสบการณ์ที่พบมา ก็ฝากหน้าร้านขายอาวุธปืนให้ช่วยหาลูกค้า หรือแทรกขายเช่นเดียวกับปืนร้านฯ ได้ราคาส่วนต่างเหนาะ ๆ แล้วยังไม่กระเทือนโควต้าของร้านอีกด้วย ยุคต่อมานโยบายมีความเข้มข้น เพราะมีการจำหน่ายแพร่หลาย คนอนุมัติโครงการคิดได้ว่า ประโยชน์ที่เกิดจากผลต่าง ไม่ได้ตกอยู่กับรัฐหรือประชาชน แต่ตกอยู่กับคนกลางหรือตัวแทนที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ยินยอมให้ใช้สิทธิและชื่อของตนเองในการซื้อขาย ก็เลยมีข้อกำหนดห้ามโอนตลอดชีวิต เว้นแต่การตกทอดมรดกเท่านั้น ที่ทราบมาก็เป็นสวัสดิการของตำรวจ เท่ากับตัดโอกาสทำมาหากินกับช่องว่างดังกล่าว คนที่อ้างว่าเสียหายกับนโยบายห้ามโอนเช่นนี้ ก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตัดใจซื้ออาวุธปืนมาแล้ว ใช้ไม่คล่อง ไม่เหมาะมือ ซื้อตามเพื่อน ฯลฯ จำเป็นต้องถือครอบครองอาวุธปืนกระบอกนั้นไปจนตาย....เพราะว่าโอนไม่ได้..
แต่ต่อมา มีการผลัดใบของผู้มีอำนาจ นโยบายก็เปลี่ยน กลายเป็นห้ามโอน 5 ปี เกิดขึ้นมา ซึ่ง การห้ามโอน 5 ปี ก็มีอยู่ในบางโครงการในขณะที่บางโครงการฯ ห้ามโอนตลอดชีวิต.. โดยไม่มีข้อมูลว่า 5 ปีนั้นมาจากการศึกษาผลกระทบและผลได้ผลเสียอย่างไร เนื่องจากกฎหมายบ้านเมืองของเรา การกำหนดระยะเวลาในส่วนที่จะเป็นคุณเป็นโทษกับประชาชน ไม่เคยแสดงให้เห็นได้ในทางวิชาการว่า เกิดขึ้นจากมูลเหตุใด จึงแปลความได้ว่า เป็นไปตามอำเภอใจของผู้กำหนดกฎหมายเท่านั้น
ท้ายนี้ จึงต้องถามว่า นโยบายจำกัดอาวุธปืนของร้านค้าที่ยังดำเนินอยู่ โดยเปิดช่องว่างให้เกิดการจำหน่ายอาวุธปืนอย่างแพร่หลายในโครงการสวัสดิการเช่นนี้ ควรมีอยู่ต่อไปหรือไม่ มากกว่าจะมาถามว่า กี่ปี จึงจะดี...
การเปิดเสรีในการถือครองอาวุธปืนฯ ไม่ได้ทำให้รัฐต้องเกรงกลัวว่าจะเป็นการสนับสนุนให้เกิดอาชญากรรม เพราะอาชญากรรมก็เกิดขึ้นทุกวันอยู่แล้ว เพียงแต่อาวุธปืนเป็นปัจจัยที่ง่ายที่สุดในแง่ของการใช้และเป็นผล การดูแลอย่างมีประสิทธิภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนต่างหากล่ะที่ต้องเข้มแข็ง มีข้อมูล ไม่ยินยอมต่อการร้องขอของผู้ยิ่งใหญ่กว่าหน้าที่ (เส้นใหญ่) ก็จะทำให้การมีและใช้อาวุธปืนสามารถควบคุมไม่ให้ใช้ก่ออาชญากรรมง่ายขึ้น และอาวุธปืนก็จะไม่กลายเป็นผู้ร้ายในเรื่องนี้...
ช่วงนี้การเมืองร้อนระอุ...แต่ยังมีการใช้อาวุธสงครามกันอย่างไม่สะทกสะท้านกลางเมืองหลวง เท่ากับรัฐไม่มีความรู้ในการดูแลเรื่องอาวุธปืน หรือพยายามไม่เรียนรู้ก็อาจเป็นไปได้
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การกล่าวหาอย่างอคติ แต่เป็นเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อประโยชน์ต่อเพื่อสมาชิกด้วยกันที่จะทราบถึงความจริงบางส่วนของโครงการฯ เท่าที่ความรู้เล็กน้อยของผมมีอยู่เท่านั้น สมาชิกท่านอื่นอาจมีความรู้และทราบรายละเอียดดีกว่า โปรดช่วยแนะนำแลกเปลี่ยนกันบ้างก็ได้ครับ ขอบคุณท่านที่กรุณาอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้
ต้อง + ให้คุณยักษ์ดีครับ ผมขอแย้งเล็กๆ ตรงที่ทำตัวแดงไว้ ว่าปืนสวัสดิการไม่ใช่ราคาต่ำครับ มันคือราคาปืนที่ควรจะเป็นในการซื้อขายในตลาดปกตินี่แหละ ในความเป็นจริงปืนสวัสดิการเสียภาษีตามปกติ (อาจมากกว่าปืนร้านด้วยซ้ำ เพราะสำแดงเอกสารอันเดอร์แวลลูไม่ได้ครับ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|