พอดีได้ Fwd mail มาจากเพื่อน เลยนำข้อมูลมาแบ่งปันครับ
ประกอบกับข้อมูลและรูปภาพส่วนตัว ที่เก็บไว้อีกนิดหน่อย
หวังว่าคงได้สาระและเข้ากับเหตุการณ์บ้านเมืองช่วงนี้ไม่มากก็น้อยนะครับมารู้จักกับ"ปืนซุ่มยิงระยะไกล" (Sniper) การยิงหวังผลในระยะไกลต้องการอาวุธที่มีความแม่นยำและอำนาจการทำลายสูงและนี่คือปืนสไนเปอร์ที่มีประจำการอยู่ในกองทัพทั่วโลก..
ปืนไรเฟิลซุ่มยิงระยะไกลคือหนึ่งในอาวุธที่มีบทบาทในการปัฎิบัติการรบทางยุทธวิธีและต่อเป้าหมายทีี่มีความสำคัญและส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของ
ฝ่ายตรงกันข้าม มันคืออาวุธที่ถูกออกแบบเพื่อการยิงในระยะไกลด้วยกระสุนความเร็วสูงจากการ ยิงของสไนเปอร์หรือพลซุ่มยิง
Sniperพลซุ่มยิง (Sniper) คือผู้ที่มีความสามารถสูงในเรื่องของการยิงปืนในระยะไกล ซึ่งได้รับการฝึกฝนการยิงเป้าหมาย
ในสถาณการต่างๆที่ต้องใช้ความสามารถในเรื่องของการยิงปืน เรื่องของความอยู่รอด (survivability) ในพื้นที่ต่างๆ
เป็นระยะเวลานาน เช่น ในป่า หรือ ในพื้นที่สิ่งก่อสร้าง หน้าที่ของพลซุ่มยิงคือ การวางวิถีกระสุนอย่างแม่นยำไปยังฝ่ายข้าศึก
ซึ่งทหารในหน่วยต่างๆ ไม่สามารถทำการยิงได้ ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะระยะทาง ขนาดของกำลังข้าศึก ที่ตั้งฝ่ายข้าศึก หรือว่าการมองเห็น
ผู้ที่จะเป็นพลซุ่มยิงได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีลักษณะที่พิเศษอย่างดังตัวอย่างในระเบียบราชการสนาม 23-10 การฝึกพลซุ่มยิง (FM-23-10 Sniper Training)
ของกองทัพบกสหรัฐฯ ได้มีแนวทางในการคัดเลือกกำลังพลเข้าทำการฝึกเป็นพลซุ่มยิงจะมีข้อพิจารณาอยู่ด้วยกัน 6 ประการ คือ
1. แม่นปืน ผู้ที่จะเข้ารับการฝึกเป็นพลซุ่มยิงจะต้องมีความสามารถในการยิงปืนดีเลิศ ถ้าผ่านการแข่งขันทางด้านการยิงปืน
หรือการล่าสัตว์มาก่อนจะเป็นข้อได้เปรียบในการคัดเลือกเข้ารับการฝึก
2. ร่างกายต้องพร้อม ผู้ที่จะเข้ารับการฝึกเป็นพลซุ่มยิง จะต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง และถ้าเคยผ่านการเป็นนักกีฬาในประเภทต่างๆ
ก็จะได้เปรียบในการคัดเลือกเข้ารับการฝึก
3. สายตาและความสามารถในการมอง ผู้ที่จะเข้ารับการฝึกจะต้องเป็นผู้ที่ไม่ใส่แว่นสายตา เพราะจะเป็นการเสี่ยงต่อความล้มเหลว
ของภารกิจเมื่อแว่นสายตาชำรุด หรือสูญหายในพื้นที่ปฏิบัติการ นอกจากนี้จะต้องไม่ตาบอดสี เพราะจะมีปัญหาในการแยกเป้าหมายจากสิ่งแวดล้อม
4. ไม่สูบบุหรี่ ผู้ที่เข้ารับการฝึกจะต้องไปเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่จะเป็นการเปิดเผยที่ตั้งของตนเอง นอกจากนี้การปฏิบัติงานจริง
จะต้องอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถสูบบุหรี่ได้เป็นระยะเวลานาน การที่ไม่สูบบุหรี่เป็นระยะเวลานานของผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำจะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการยิงลดลง
5. มีความมั่นคงทางอารมณ์สูงกว่าคนปกติ ผู้ที่เข้ารับการฝึก จะต้องเป็นผู้ที่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดีในภาวะต่างๆ
เพราะการปฏิบัติงานจริงอาจจะต้องตกอยู่ในภาวะที่มีความกดดันสูง การลั่นไก ณ เวลา และสถานที่ที่เหมาะสม เป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งต่อการปฏิบัติงานของพลซุ่มยิง
6. ความคิดและระดับสติปัญญา ผู้ที่เข้ารับการฝึกนั้นจะต้องเรียนรู้เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับขีปนวิธีของกระสุนในลักษณะต่างๆ การปรับแต่งอุปกรณ์ช่วยเล็ง การใช้วิทยุสื่อสาร การตรวจการณ์ และการปรับการยิง เครื่องยิงลูกระเบิดและปืนใหญ่ การเดินแผนที่และเข็มทิศ การรวบรวมและรายงานข่าวสาร และการพิสูจน์ฝ่ายและอาวุธยุทโธปกรณ์
ในหนึ่งชุดซุ่มยิงลาดตระเวน จะประกอบไปด้วย กำลังพล 2 นาย คือ 1. พลซุ่มยิง (Sniper) เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ในการซุ่มยิง และ 2. พลชี้เป้า (Spotter) เป็นผู้ที่ทำหน้าที่วัดระยะจากที่วางตัวไปยังเป้า หมายแล้วแจ้งให้พลซุ่มยิงทราบ