เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 21, 2024, 01:17:15 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รวมเคล็ดวิธีต่างๆ  (อ่าน 5567 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2010, 08:32:29 PM »

เคยมีปัญหากับขวดหรือแก้วใบใหม่ที่ซื้อมาแล้วมีป้ายติดราคา
ที่สติกเกอร์ป้ายราคาติดแน่นแกะเท่าไหร่ก็แกะไม่ออกใบนั้นหรือปล่าวคะ..

วิธีแกะป้ายสติกเกอร์........

ถ้าอยากจะแกะเจ้าป้ายสติกเกอร์ที่ติดแน่นอันนั้นออกอย่างง่าย ดายละก็..
เรามีวิธีทำให้แกะออกมาแบบง่าย ๆนิดเดียวค่ะ..แล้วไม่ทำให้หัวเสีย เปลืองเวลาอีกด้วย..



เขาทดสอบกันมาอย่างดีแล้วว่า "ครีมทามือ (จะเป็นยี่ห้ออะไรก็ได้) นำครีมทามือ
มาทาที่ป้ายติดราคาหรือสติกเกอร์ที่เราอยากจะแกะออก..
ทาให้ทั่ว ๆ แล้วถ้าใช้มือทาถูกดหรือขูด ให้แรง ๆ หน่อยก็จะดีมากค่ะ

..แล้วดูสิค่ะ..แค่นี้ก็สามารถจะดึงและลอกป้ายสติกเกอร์ออกมาได้อย่างง่ายดาย ..
แต่ถ้ายังคงมีเหลือติดอยู่อีกบางส่วน..ก็ให้เอาเล็บมือสะกิดออกเบา ๆ ก็จะหลุดออก จนหมดค่ะ

แล้วก็ขั้นสุดท้ายค่ะ..เมื่อลอกสติดเกอร์ออกหมดแล้ว...ก็ให้เอากระดาษทิชชู่ เช็ดครีมที่ทาไว้ให้สะอาด..ค่ะ
...เป็นเสร็จพิธี..เห็นไหมคะ..สะอาดหมดจด และไม่มีเศษกาวจากสติกเกอร์ติดให้เหนียวมือตรงไหนเลย..




บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2010, 08:33:38 PM »

วิธีที่ 2 โดยใช้ครีมที่ใช้ทามือเหมือนกัน


วิธีการทำสติกเกอร์ให้ลอกออกแบบง่าย ๆ ติดก็ง่าย(วิธีที่ 2) แล้วยังแถมใช้งานได้หลายครั้งหลายหนอีกด้วยเหมือนกัน

1....ผู้ที่ชอบเก็บสะสมสติกเกอร์ทุกท่านนั้นคงจะต้องชอบวิธีนี้อย่างแน่นอนเลย...
เพราะว่า พวกสติกเกอร์ที่เราหามาอย่างยากเย็นทุกอันนั้น บางอันก็ให้ความทรงจำที่ดี ๆ เป็นที่ระลึก ของเรานะคะ
ดังนั้นจึงอยากเก็บเอาไว้ใช้ให้นาน ๆ แต่มันก็มาเสียอยู่ตรงที่ว่า เมื่อแปะติด ไปที่สมุดแล้วก็จบไปเลย
ครั้งนั้นคือลอกออกมาใช้ไม่ได้อีกแล้วตลอดกาล... บางทีก็อยากจะ นำมาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนนั้นก็หมดหวังจริง ๆนะคะ
น่าเสียดายและก็น่าโมโหอีกต่างหากด้วย เคล็ดลับอันที่จะนำมาเสนอแนะนี้คงจะช่วยแก้ปัญหาอันนั้นได้นะคะ !!
แล้ววิธีนี้ยังสามารถที่จะช่วยพวกคุณแม่ ๆทั้งหลายที่มีพวกคุณลูก ๆ ที่พวกเธอหละก็ชอบที่จะ
นำสติกเกอร์ที่แกะลอกอย่างยากเย็นพวกนี้นั้นไปแปะไว้ตามตู้เสื้อผ้าหรือตามตู้เย็นนะคะ

เคล็ดลับของ ๆที่จะนำมาใช้ในวิธีก็คือครีมที่ใช้ทามือค่ะ
หนทางแก้ใขปัญหานั้นมันอยู่ตรงตอนต้นก่อนที่จะนำมาใช้แค่นั้นเองแหละค่ะ
คือว่าก่อนที่จะนำสติกเกอร์อันนั้นมาแปะลงไปที่สมุด ,ตู้เสื้อผ้าหรือตามตู้เย็นนั้นให้นำครีมที่ใช้ทามือ
มาทาไปตรงที่ด้านหลังของสติกเกอร์เสียก่อนเท่านั้นเอง ก็จะหมด ปัญหาทันที !!

แล้วทีนี้เราก็มาทำการพิสูจน์กันดูดีกว่านะคะ
ขั้นแรกเราได้นำสติกเกอร์ที่ทาครีมด้านหลังกับสติกเกอร์ที่ไม่ได้ทำอะไรมาแปะไปที่สมุด
ผลออกมาว่าสติกเกอร์ที่เราทาครีมลงไปที่ด้านหลังนั้นลอกออกมาได้อย่าง ง่ายดายไม่มีปัญหาว่าฉีกขาดตรงไหนเลยด้วย
แล้วยังแถมอีกด้วยว่าเมื่อนำสติกเกอร์ที่ลอกออกมาจากสมุดเมื่อสักครู่นี้ไปติดอีกที่หนึ่งก็ติดลงไปได้อย่างง่ายดาย
เหมือนของไหม่ ๆ เลยคือกาวด้านหลังก็ยัง คงอยู่ในสภาพใหม่เหมือนเดิมและไม่เสื่อมสภาพลงไปสักนิด

บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2010, 08:34:15 PM »

ทางเราได้ทำการพิสูจน์ว่าสติกเกอร์ที่นำมาทาครีมลงไปด้านหลังนั้นจะใช้การได้นาน เท่าไหร่?
ด้วยการแปะและลอกออกจากสมุดถึง 100ครั้ง ผลปรากฏว่าก็ยังใช้ได้อยู่อย่างเดิม ไม่มีปัญหากาวด้านหลังจะเสื่อมสภาพแต่อย่างใด...

....การที่ทาครีมที่ใช้ทามือลงไปนั้นแล้วทำให้แปะลงไปและลอกออกมาได้แบบง่าย ๆ นั้นเป็นผลมาจาก
ที่ว่า ตัวสารน้ำมันที่อยู่ในครีมทามือนั้นจะซึมเข้าไปผสมผสานกับกาวที่ติดอยู่ที่ด้านหลังของ สติกเกอร์อย่างสมดุล
และคล้องจองกันอย่างน่าทึ่งที่สุดนั่นเอง น้ำมันในครีมที่ใช้ทามือจะเข้าไปผสมผสานกับกาวของสติกเกอร์
และกลายเป็นแป้งที่มีคุณสมบัติแกะและลอกและใช้ได้นานหลายครั้งอย่างที่เห็นนั้นแหละค่ะ

ข้อควรระวัง... สติกเกอร์ที่นำมาทาครีมที่ใช้ทามือลงไปนี้มีผลที่แน่นอนหลังจากที่สำรวจมาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า
สามารถใช้งานได้นานถึง 20 ครั้งเป็นอย่างน้อยโดยไม่ต้องวิตกกังวล ใด ๆ ทั้งสิ้น....ข้อที่ควรระวังก็มีอยู่เหมือนกันค่ะคือว่า...
เคล็ดลับวิธีนี้เมื่อใช้แปะลงไป โดยไม่แกะลอกออกมาเลยภายในเวลา 4วัน น้ำมันที่ใช้ทามือนั้นบางครั้งก็อาจจะ
ระเหยหายไปได้เหมือนกันเพราะในน้ำมันทามือในแต่ละยี่ห้อนั้นมีน้ำมันน้อยน้ำมัน มากอันนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าของสูตรเขา...
ถ้าเกิดน้ำมันของครีมทามือระเหยออกไปบางครั้งก็ อาจจะมีผลให้แกะลอกออกมายากขึ้นเฉย ๆ ก็มีเป็นบางกรณีเหมือนกันค่ะ...
ดังนั้นจึง อยากที่จะให้คอยระวังนิดหน่อยอย่างเช่นสติกเกอร์ที่เรานำมาทำเคล็ดลับอันนี้
แล้วนำไปใช้กับสติกเกอร์ที่ติดกับวีดีโอของโทรทัศน์นั้นก็เหมือนกันถ้ามีปัญหาก็ให้นำกลับมา
ทาครีมที่ใช้ทามือลงไปอีกครั้ง...ก็สามารถที่จะช่วยได้ค่ะ....



บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2010, 08:35:13 PM »

วิธีทำส้มที่มีรสเปรี้ยวให้หวาน

ถ้าเกิดไปซื้อส้มมาแล้วเกิดเป็นส้มเปรี้ยวเข้าหล่ะ !! **วิธีที่จะบอกนี้สามารถทำให้ส้มเปรี้ยวนั้นมีรส หวานขึ้นมาได้ค่ะ..
************************
...ส้มเป็นผลไม้ที่มีวิตามิน c มากใช่ไหม?..ส้มเปรี้ยว บางคนก็อาจชอบ แต่ถ้าเกิดไม่ชอบขึ้นมาหละก็..
เชิญทำส้มเปรี้ยวให้หวานขึ้นมาเองด้วยวิธีนี้ดูสิคะ..


...วิธีทำก็มีอยู่ว่า....ให้เอาไปแช่ในอ่างอาบน้ำที่มีอุณภูม 40 องศา..แช่ไว้ประมาณ 10 นาทีเป็นใช้ได้แล้ว
อะไรจะอย่างนั้น..ส้มเปรี้ยวก็จะหวานขึ้นมาอย่างน่า อัศจรรย์จริง ๆ นิดหนึ่งค่ะ..คือส้มที่แช่อยู่ในน้ำร้อนนั้น
เวลานำขึ้นมาจะยังอุ่นอยู่ ให้วางไว้ให้เย็นก่อนนะคะหรือ จะเอาไปใส่ไว้ในตู้เย็นให้เย็นก่อนค่ะ

ทำไม, เมื่อแช่ในน้ำร้อน 40 องศาแค่ 10 นาที รสจึงเปลี่ยนเป็น หวานขึ้นมาได้???
การทดสอบ..ให้นำส้มลูกเปรี้ยวลูกนั้น มาผ่าแบ่งออกเป็น สองซีก..เอาซีกแรกวางไว้ต่างหาก..
แล้วเอาซีกที่สองไปแช่ในน้ำร้อน 40 องศา ซีกที่แช่ในน้ำร้อนรสจะเปลี่ยนเป็นหวานอย่างประหลาด ..จริง ๆ
แล้ว..ส้มไม่ได้เปลี่ยนรสไปหรอกค่ะ..เพียงแต่ความเปรี้ยว โดนทำลายออกไปเท่านั้น...

เพราะเมื่อนำส้มทั้งสองซีกที่ทดลองนั้นมาวัดระดับความหวานเปรี้ยว แล้วจะมีระดับเท่ากันหมด..
แต่ที่หวานขึ้นมานั้นเพราะเมื่อนำไปแช่ในน้ำร้อน นั้นความร้อนจะใช้อุณภูมนั้นทำลายความเปรี้ยวที่มีผสมปนกับความหวานนั้น
จนหมดความเปรี้ยวค่ะ... ส้มจึงหวานขึ้น ข้อระวังน้ำร้อน40องศา นั้นไม่ใช่น้ำเดือดนะคะ บางคนอาจจะเข้าใจผิด..
เดี๋ยวเอาส้มไปต้มในน้ำเดือด ..ส้มจะกลายเป็นส้มต้มไปค่ะ..
เขาบอกว่าน้ำในอ่างอาบน้ำความร้อน 40 องศา ดีที่สุด..ถ้าไม่มีอ่างน้ำก็ต้มน้ำให้เดือด..
แล้ววางพักไว้สักครู่หนึ่งกะว่าสักประมาณ 40องศาค่ะ..ถ้าไม่มีองศาวัดก็ลองใช้มือแตะ ๆดูมือจุ่มลงไปได้



บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2010, 08:35:56 PM »

วิธีเป่าผมที่เปียกน้ำให้แห้งเร็วกว่าปกติ

วิธีเช็ดเส้นผมที่สระมาใหม่ ๆ ให้แห้งไว ๆ:- ใช้เวลาน้อยที่สุด...
เป่าผมที่เปียกน้ำให้แห้งไว ๆ ด้วยผ้าขนหนูที่แห้งนั้นสามารถอมน้ำได้เป็นอย่างดี
และตามที่เคล็ดลับ วิธีนี้ของเราได้บอกให้ใช้ผ้าขนหนูแห้งอีกผืนวางลงไปบนเส้นผมที่เปียกน้ำ อีกครั้ง
แล้วค่อยให้ใช้ไดร์เป่าผม เป่าลงไปนั้น...ด้วยผ้าขนหนูจะช่วยซับน้ำ ขึ้นมาไว้ที่ตัวผ้า
และไอความร้อนจากไดร์เป่าผมที่อังไปบนตัวผ้านั้นจะช่วยเร่งให้ น้ำที่ซับขึ้นมาอยู่บนผ้านั้นระเหยออกไปได้เร็วกว่าปกติอีกด้วย
จึงมีสามารถที่จะ ทำให้ผมที่เปียกน้ำนั้นแห้งเร็วกว่าปกตินั่นเองค่ะ...
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมเส้นผมจึงไม่ เสียนั้น ก็เป็นด้วยเพราะว่า.....
ไอความร้อนจากไดร์เป่าผม นั้นไม่ผ่านไปถึงตัวเส้นผมแต่โดยตรง
จึงไม่สามารถทำให้เส้นผมเสียแห้งกรอบได้เลยสักนิดว่าอย่างนั้น

... ...มีข้อควรระวังนิดหน่อยก็ตรงที่ว่าเวลาเป่าไดร์ไปบนผ้าขนหนูแล้วจำเป็นที่จะต้องใช้มือคอยขยี้ไปบนผ้าขนหนูให้ทั่วด้วยนั้น
ถ้าไดร์มีความร้อนมากเกินไป อาจเกิดอันตรายได้ ก็ให้ปรับระดับความร้อนให้ต่ำหน่อยก็ดีค่ะ....



บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2010, 08:36:37 PM »

ระงับการจามเมื่อเวลาที่ไม่อยากจะให้จามได้ด้วยนิ้วมือของเราเองก็ได้

การที่คนเราเกิดอาการจามขึ้นมานั้นก็เป็นด้วยว่า ได้มีพวกเศษขี้ฝุ่นหรือขี้ผงเล็ก ๆ
ซึ่งเป็นเสมือนสิ่งแปลกปลอมที่ร่างกายของเราไม่ต้องการได้เกิดหลงเข้าไปอยู่ข้างในรูจมูกของเรามากเกินไป
หรือจะเรียกอีกอย่างให้ง่าย ขึ้นก็ว่าเกิดมีขนาดมากเกินโคต้าอะไรทำนองนั้น...
และทีนี้เมื่อเป็นเช่นนั้น มันสมองของเราตอนนั้นก็จะออกคำสั่งไปที่เส้นประสาท
ที่จมูกให้ทำอาการที่เรียกว่าจาม...นั้นออกมา เพื่อหมายที่จะไล่หรือล้างเศษขี้ฝุ่นหรือ ขี้ผงเล็ก ๆ เหล่านั้นให้กับเรานั่นเอง....
และเส้นประสาทตรงจมูกของเรานี้ก็จะมีความยาวมาจนถึงตรง ขอบปากของเรานั่นเลยทีเดียว
ตรงนี้ที่เราบอกให้ใช้นิ้วสองนิ้ว ยกขึ้นไปสัมผัสตรงจุดที่อยู่ติดปรือใต้จมูกอย่างกระทันหันนั้น...
จึงเป็นผลที่จะทำ ให้มันสมองซึ่งกำลังจะออกคำสั่งหรือบงการอยู่ว่าจงจามออกมา และด้วย แรงกระทบอย่างกระทันหันนี้นี่เอง...
มันสมองจึงเกิดการลังเลและสั่งให้ยกเลิก การจามครั้งนั้นเสียในทันที ว่ามาอย่างนี้นี่เองแหละ...
แต่จะว่าไปการจามออกมานั้นเป็นสิ่งที่ดีเพราะจะได้ช่วยไล่พวก เศษขี้ฝุ่นและขี้ผงเล็ก ๆ ที่หลงเข้ามาอยู่ในรูจมูกให้กับเรานะคะ
ไม่ได้มีผลเสียแต่อย่างใด...พวกเด็ก ๆสมควรที่จะปล่อยให้จาม กันได้อย่างอิสระเสรีนั่นแหละดี อย่าไปฝืนดีกว่า...ว่าไหมเอ่ย??
เคล็ดอันนี้คิดว่าคงจะเหมาะกับผู้ที่กำลังจะทำธุระ หรือพบปะผู้คนที่สำคัญๆ หรือเวลาที่ไม่อยากให้มีอาการจามเกิดขึ้นแล้วละก็
วิธีนี้คงจะสามารถช่วยท่าน ได้อะไรทำนองนั้นนะคะ....



บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2010, 08:37:43 PM »


         ได้มาจาก fwd mail บางส่วนครับ  ท่านใดมีเคล็ดวิธีน่าสนใจ ร่วมเสริมกันได้ ..... ขอบคุณครับ

บันทึกการเข้า

                
sada
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2010, 08:43:50 PM »

เป็นวิธีที่แปลกมาก ครับ 
ถ้าทำทัน จะลองดูครับ
จามทีไร หนอนชาเขียวโผล่ทุกที  คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า
Ferocious
Full Member
***

คะแนน 12
ออฟไลน์

กระทู้: 266


« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2010, 01:38:03 AM »

ระงับการจามไม่อยากรู้เท่าไหร่ครับ แต่เคยเป็นมั้ยจะจามแล้วมันไม่จาม มันรู้สึกขัดน่าลำคานกว่าอีกครับ จามออกมาแล้วรู้สึกโล่งสบาย
บันทึกการเข้า
น้าพงษ์...รักในหลวง
1911ต้อง.โค้ลท์.ที่เหลือคือก๊อปปี้.ลอกพี่.มะขิ่นครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 508
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9922


« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2010, 07:51:02 AM »

 ไหว้..ขอบคุณครับ.ลุงปู... เยี่ยม
บันทึกการเข้า

...ประเทศไทย.ไม่ใช่ที่สำหรับใครที่จะมา.ฝึกงาน...
CT_Pro4
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 537
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4869



« ตอบ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2010, 08:54:10 AM »

...ขอบคุณครับพี่ปู...  เยี่ยม
บันทึกการเข้า

Every problem contains the seeds of its own solution.- Stanley Arnold
khwanphet_NAVY 39
Hero Member
*****

คะแนน 129
ออฟไลน์

กระทู้: 2035


« ตอบ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2010, 09:25:57 AM »

...........................................ดีมากเลยครับ............................... ไหว้
บันทึกการเข้า
sada
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2010, 08:07:55 PM »

กด จมูก ต้องแรงแค่ไหนครับ

เมื่อวาน กินข้างเต็มปาก  จะจาม ลองกด ดู  ข้าวกระจายครับ
 โดน ด่า ยับเลย   แบร่ แบร่ ยี๊ ยี๊
บันทึกการเข้า
Bird
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 600
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1743


Ordinary Man on Earth


« ตอบ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2010, 08:35:15 PM »

ผมใช้นิ้วแตะที่ปลายจมูกแล้วดันขึ้น  ระงับการจามได้ชงัดนัก
อันนี้อ่านหนังสือเจอนานแล้วครับ
บันทึกการเข้า

สู้กับผู้อื่นให้น้อยลง ......สู้กับจิตตนให้มากขึ้น
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2010, 09:35:34 PM »

กด จมูก ต้องแรงแค่ไหนครับ

เมื่อวาน กินข้างเต็มปาก  จะจาม ลองกด ดู  ข้าวกระจายครับ
 โดน ด่า ยับเลย   แบร่ แบร่ ยี๊ ยี๊

ใช้นิ้วกดที่ปลายจมูกแล้วดันขึ้นแรง ๆ ครับ  Wink
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.112 วินาที กับ 22 คำสั่ง