ก็ขอเพื่อการกีฬาสิครับ
แนบสำเนาบัตรสมาชิกชมรมกีฬายิงปืนต่างๆ ไปด้วย
น่าจะของ่ายกว่ากันแยะ
ของผมก็ขอเพื่อการกีฬาแนบหลักฐานครบไม่ว่าจะเป็นบัตรสมาชิกสนามยิงปืน ,วุฒิบัตรผ่านการอบรมยิงปืน,หนังสือรับรองจากสนามยิงปืน ซ้ำปืนก็ขนาด 9 มม.เป็นปืน สวัสดิการ สน.สก นายบอกขอซ้ำขนาดไม่อนุญาต(มี 9 อยู่แล้วหนึ่ง)ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ มท. 1 ผล มท. 1 ยกอุทธรณ์ ว่าจะยื่นต่อศาลปกครองต่อไปแต่ขาดความรู้เรื่องกฏหมาย และวิธีร่างหนังสือคำร้องต่อศาล ยื่นหลักฐานทั้งหมดให้ทาง สพป.แล้วหวังจะเป็นที่พึ่ง จนบัดนี้ใกล้จะครบกำหนดเก้าสิบวันแล้วก็ยังเงียบอยู่เลย ไม่ทราบว่าเพื่อนๆ ท่านใดเคยทำเรื่องยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองมั่งขอคำแนะนำด้วยครับใจอยากลุยและสู้เต็มร้อยแต่ขาดความรู้ด้นกฏหมายเท่านั้นครับ
ถ้ากระบอกที่หนึ่งคุณใช้สิทธิ์สน.สกแล้ว และกระบอกที่สองนี้ขอสิทธิ์ซื้อปืนสน.สกอีก ผมคิดว่าเจ้านายของคุณทำถูกแล้วครับ อาจมีบางคนที่ใช้เส้นขอได้มากกว่า 1 กระบอก อย่างนั้นทำไม่ถูกต้องใช้อภิสิทธิ์ และผู้อนุมัติใช้ดุลยพินิจเกินเลยความชอบธรรม ขาดซึ่งคุณธรรมจริยธรรม อย่าเอามาเป็นตัวอย่าง/อ้างอิง เหมือนคนบางคนที่ใช้ช่องว่างทางกฎหมายหลบเลี่ยงภาษีก้อนมหาศาล ทั้งๆที่อยู่ในสถานะที่ต้องปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีของคนทั้งประเทศและใช้ยึดถือเป็นแบบอย่าง
ราคาปืนสวัสดิการเหตุที่ต่างจากปืนในท้องตลาด(ต่ำกว่าประมาณครึ่งหนึ่ง)เพราะทางราชการยกเว้นภาษีให้
แต่ถ้ากระบอกที่หนึ่งไม่เคยใช้สิทธิ์ก็พอมีความชอบธรรมในการร้องขอครับ ช่องทางยื่นศาลปกครองใช้บริการสำนักทนายความได้ครับ ถ้าไม่รู้จักคน/เพื่อนที่เป็นทนายความ ค่าบริการไม่น่าสูง(ประมาณราคากระสุนจริง 1 กล่อง)
และถ้ากระบอกที่หนึ่งใช้สิทธิ์สน.สกไปแล้วและต้องการกระบอกที่สอง, สาม, .... ใช้ช่องทางปกติขออนุญาตคิดว่าได้มาโดยง่ายครับ เพราะเอกสารรองรับคำร้องที่สำคัญๆ คุณก็มีอยู่ครบถ้วนแล้ว เป็นกำลังใจให้ครับ