เรื่อง
กุมารทองเจ้าปัญญา
ท่านเศรษฐีเปรี้ยวปากอยากกินเหล้า จึงเรียกเจ้าคนใช้ให้ไปซื้อ
จงรีบไปรีบมางานคามือ อย่าได้ถือเอาไปวางไว้เลย
คนใช้เจ้าปัญญาเดินมาคิด ท่านเศรษฐีชักติดเหล้าแล้วเหวย
เมื่อกินเหล้าแล้วคงใช้เราตามเคย ซื้อกับแกล้มเพื่อเสบยในการกิน
ซื้อไก่ย่างไปด้วยจะดีกว่า ไม่ต้องเสียเวลาจัดหาสิ้น
พอเดินกลับนึกได้ด้วยใจจินต์ ถ้าหากกินสุราต้องนารี
ของคู่กันคนขี้เมาเขามักชอบ ควรรอบคอบจัดไปให้นายนี่
จึงเข้าซ่องจองหญิงโสเภณี หน้าตาดีคงหาไม่โรคในตัว
พอพาหญิงดิ่งกลับปุบปับคิด ลองเพ่งพิศวินิจฉัยให้ถ้วนทั่ว
เผื่อหญิงนี้มีโรคที่น่ากลัว ทำเอาตัวเจ้านายต้องตายลง
เพื่อปลอดภัยพาหมอไปด้วยดีกว่า ได้ฉีดยาทำลายฤทธิ์ด้วยพิษสง
แต่บางทีมันไม่หายหากตายลง เราก็คงต้องออกมาหาซื้อโลง
ซื้อไปเลยดีแน่แท้คราวนี้ แม้หายดีไม่ตายไข้อาจตายโหง
เพราะเมาแล้วมักจะร้ายกลายเป็นโกง เห็นเข้าโลงมามากพวกอยากลอง
ถึงเคหาสน์ท่านเศรษฐีมีโมโห เจ้าคนโง่หายไปไหนใช้ซื้อของ
บอกให้รีบไปรีบมาช้าเป็นกอง อยากจะถองเหล้าสักวันนั่นอะไร
เอ๊ะ ! ไก่ย่าง หญิงสวยดี นี่ก็หมอ เอ๊ะ ! นั่นโลงเอาใส่พ่อแกหรือไฉน
เจ้าคนใช้รายงานพลันในทันใด ผมรู้ใจเจ้านายซึ้งจึงเตรียมมา
เมื่อกินเหล้าต้องมีแกล้มแถมผู้หญิง เห็นสุขจริงในเบื้องต้นคนเสาะหา
แต่บั้นปลายไม่พ้นหมอร้องขอยา หมอรักษาหากไม่หายก็ตายลง
จึงได้เตรียมโลงใส่ในที่สุด ผมสมมุติเหตุการณ์ไว้ไม่ใช่หลง
เศรษฐีฟังนั่งตะลึงถึงกับงง สติคงกลับคืนสู่อยู่กับตัว
กินไม่ลงปลงตกยกไปเถิด ตายแล้วเกิดชาติไหนไหน ไม่ขอชั่ว
แต่ส่วนโลงขอเอาไว้เตือนใจตัว กันเมามัวดีแน่แน่ของแท้จริง
เมื่อยามกูเกิดมามาแต่ตัว เพิ่งมามัวเมามายเอาหลายสิ่ง
ยามกูตายเอาอะไรไม่ไหวติง นอนแน่นิ่งทิ้งตัวกูอยู่ในโลง
มีเมตตารักษาศิลอย่าสิ้นสัจจ์ บุญจะตัดความชั่วร้ายไม่ตายโหง
จงทำดีมีศิลไม่กินโกง จิตเชื่อมโยงสู่สุขศานติ์นิพพานเอย.