ในความคิดเห็นส่วนตัวครับ...
ถ้าพิจารณาจากที่เคยเรียน นำมาประยุกต์ เอาแบบทฤษฏีหน่อยๆ
แต่ในความเป็นจริงจะมีใคร? ทดสอบเก็บข้อมูลหรือไม่คงเป็นอีกเรื่องน่ะครับ
ถ้าตามความเข้าใจของผม ผมมองตัวแปร คือ
1. ตัวแปร อย่างที่ "ผู้การ ฯ" กล่าวถึง คือ กระสุน ซึ่งเป็นตัวแปรที่ใช้ทดสอบ
2. ตัวแปรคงที่ คือ อุปกรณ์ส่งกระสุนหรือ อุปกรณ์ที่ใช้ยิง
3. ตัวแปรคงที่ อีกตัว สภาพแวดล้อม ความเร็วลม ระยะทาง ฯลฯ
อยากรู้ค่าเฉลี่ย ( Average ) หรือค่าเบียงเบนมาตรฐาน ( SD ) คงต้องเอากระสุนที่อยากทราบ
มาทดสอบโดยทำการยิง ตามเงือ่นไขที่กำหนด จำนวนนัด จำนวนผลการทดลอง วัดระยะความแม่นยำของกลุ่มกระสุน
( ความห่างของกลุ่มกระสุนแต่ละนัด ) ที่กระทบเป้า ฯลฯ
หลังจากได้ข้อมูล คงต้องนำมาคำนวณ ในสูตรคณิตศาสตร์ เพื่อหาค่ากลาง ( Mean ) ค่าเฉลี่ย ( Average )
และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( SD ) ของกระสุนแต่ละยี่ห้อ จากนั่นค่าที่ได้ก็นำมาวิเคราะห์
ค่ากระสุนที่มีค่า SD น้อยกว่าย่อมมีค่าความแม่นยำโดยรวมของกระสุนกลุ่มนั่นมากกว่ากลุ่มกระสุนที่มีค่า SD มากกว่า
นั่นหมายความว่า ถ้ามาตรฐานของกระสุนแต่ละนัดที่ยิงออกไป กลุ่มกระสุนที่มีค่า SD น้อยกว่า จะมีกระสุนที่เบี่ยงออกจากจุด
มาตรฐานที่กระทบเป้า ( หรือเข้าใจอนุโลมว่า จุดหรือตำแหน่งของนัดแรกที่ยิงโดนเป้า ) ได้น้อยกว่า กลุ่มกระสุนที่มีต่า SD มากกว่า
ข้างต้นเป็นความเข้าใจส่วนตัวน่ะครับ การจะวัด "ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน" ได้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ ตัวแปร ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
และจำนวนของข้อมูลที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ ซึ่งน่าจะเป็นผลจาการทดลองในห้องทดลองมากกว่า และจะเป็นตัวชี้บ่งถึง
คุณภาพของผู้ผลิตด้วยครับ
สิ่งที่สังเกตได้อย่าง ถ้าเอาแบบบ้านๆ สำหรับผู้ที่ชอบยิงปืนแบบจริงๆจังๆ ปืนกระบอกเดิม คนยิงคนเดิม
แต่กระสุน ต่างยี่ห้อ ต่างเกรด จะเห็นความต่างได้ชัดครับ
ผิดถูกช่วยกันแย้งน่ะครับ..