พล.ร.อ.วีรวัฒน์ วงษ์ดนตรี หัวหน้าโครงการสร้างนวัตกรรมยานใต้น้ำไร้คนขับสำหรับการฝึกปราบเรือดำน้ำ กล่าวเพิ่มเติมว่า
กองทัพเรือต้องการสร้างยานใต้น้ำแบบไม่มีคนขับ ที่มีขีดความสามารถเหมือนเรือดำน้ำที่ใช้ในการทหาร
เนื่องจากปัจจุบันกองทัพเรือไม่มีเรือดำน้ำประจำการ หลังจากปลดระวางเรือดำน้ำทั้ง 4 ลำเมื่อปี 2494
ประเทศไทยไม่มีนโยบายจัดซื้อเรือดำน้ำเข้าประจำการอีกเลย ทำให้ขาดเทคโนโลยีในการฝึกทหารเรือให้มีความชำนาญ
การตรวจจับและปราบเรือดำน้ำของข้าศึกในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งการจัดหาเรือดำน้ำจริงต้องใช้งบประมาณสูงมาก
จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างยานใต้น้ำ "เป้าฝึกปราบเรือดำน้ำ" เพื่อใช้ทดแทน
โดยกองทัพเรือเคยศึกษาวิจัยเพื่อสร้างยานใต้น้ำไร้คนขับมาแล้วในปี 2543 แต่ยังมีข้อบกพร่องหลายประการไม่สามารถนำไปใช้ฝึก
ทหารได้อย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นมีโครงการพัฒนาต่อยอด ให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจาก
แบตเตอรี่และใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานทั้งหมด
โดยยานใต้น้ำที่สร้างขึ้นมีจำนวน 3 ลำ ลำแรกชื่อ "ไกรทอง" ได้ผ่านการทดสอบในทะเลแล้ว
ส่วนอีก 2 ลำชื่อว่า "สุดสาคร" และ "วิชุดา" ขณะนี้ได้จัดสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
เตรียมที่จะส่งมอบให้กองเรือยุทธการในเดือนกันยายนนี้
สำหรับวิธีการทำงานของยานใต้น้ำไร้คนขับนี้จะทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวแทนของเรือดำน้ำฝ่ายศัตรู
ซึ่งมักจะซ่อนตัวอยู่ในทะเล ขณะที่เรือผิวน้ำต้องค้นหาเรือดำน้ำให้พบว่าอยู่ตำแหน่งใด ยานใต้น้ำไร้คนขับทั้ง 3 ลำนี้
ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ภายในสามารถอยู่ใต้น้ำได้นาน 4 ชั่วโมง แล่นด้วยความเร็ว 3 นอต ดำน้ำลึกไม่เกิน 30 เมตร
มีระบบเสียงใต้น้ำทำให้เกิดสัญญาณปรากฏบนหน้าจอโซนาร์ของเรือผิวน้ำเมื่อส่งคลื่นเสียงไปกระทบยานใต้น้ำ
อีกหนึ่งความก้าวหน้าของการพึ่งพาตนเองของกองทัพเรือครับ