บังฟีนครับ ลองอ่านอันนี้ดูแล้วจะหายกลัวครับ
“สี่ทุ่มแล้ว ได้เวลาต่อเนตล่ะ” ปี้ ป่อ ปี้ ป่อ ตึด ตึด ตึด ตึด
เสียงต่อเข้า ISP ดังขึ้นหลังจากที่ผมบอกกับตัวเอง ใช่แล้วครับ
มันเป็นเวลาปกติที่ผมจะต้องหมุนโมเด็มเพื่อจะเข้าใช้อินเทอร์เนต
สิ่งมหัศจรรย์พันลึกที่ดึงความสนใจของผมจากทุกสิ่งทุกอย่างได้
สิ่งแรกที่ผมต้องทำหลังจากต่อเข้าได้ ก็คือเช็คแมว
ใช่แล้วครับผมไม่ได้พิมพ์ผิด เช็คเมล์ หรือภาษาไทยไทย
ก็จดหมายอิเลคทรอนิกส์ นั่นล่ะครับ ที่เรียกว่าเช็คแมว
ก็เพราะน้องหนูเจ้าของเรื่องนี้แหละครับ เธอชื่อ “ขวัญ”
เธอชอบถามผมว่า “เช็คแมวรึยังค่ะ?” ครั้งแรกผมก็แปลกใจ “เอ๊ะ อะไรนะ
เช็คแมว” คำตอบที่ได้ก็คือ “อิ อิ ไม่มีอะไร ก็เห็นใช้ของ kittymail น่ะ
ก็เลยถามว่าเข้าไปเช็คแมวรึยัง ก็มันเป็นแมวไม่ใช่เหรอ” เออ ใช่จริง ๆ ด้วย
ผมใช้บริการเมล์ฟรีของ kittymail.com ผมรู้จักคำว่า “เนต” มานานแล้วครับ
ก็ตั้งแต่เรียน ม.1 วิชาพละเค้าให้เรียนปิงปองฮะ
พอถึงชั่วโมงเรียนอาจารย์ก็ต้องให้ผมวิ่งไปหา “เนต” ในห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา
ต่อมาพอผมโตขึ้นจนกระทั่งเรียนระดับมหาวิทยาลัย ก็เพิ่งจะรู้ว่า “เนต”
ที่ผมเคยเข้าใจน่ะ มันไม่ใช่ตาข่ายที่เอาไว้ขึงเล่นกีฬาปิงปอง วอลเลย์บอล
มันมีชื่อเต็มว่า “อินเตอร์เนต”
อ๋อ เป็นเช่นนั้นเอง
ผมเริ่มใช้เนตครั้งแรกก็ตอนได้เข้าห้องแลปเรียนวิชาภาษาคอมพิวเตอร์อะไรสัก อย่างเนี่ยะแหละ
คิดว่าน่าจะเป็นโครงสร้างคอมพิวเตอร์ เป็นวิชาที่ผมอยากเรียนมากที่สุดเลย
แต่การสอนแบบผู้ชำนาญนั่นล่ะที่ทำให้ผมคิดว่าไปอ่านเองที่บ้านก็เหมือนกัน แหละ
ผมเลยคลิก ๆ เล่นในหน้าจอ desktop ลองคลิก 2 ที ที่ไอคอน IE เอ๊ะ
เข้าได้นี่หว่า เป็นจุดเริ่มต้นการใช้เนตครั้งแรกของผม
ส่วนใหญ่แล้วผมจะไปตามเวปต่าง ๆ ของต่างประเทศ
(ดูภาพมากกว่าอ่านตัวหนังสือฮะ เพราะภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรง) หลัง ๆ
จะเน้นไปที่เวปของคนไทย พยายามเข้าข้างตัวเองว่าส่งเสริมคนไทยด้วยกัน น้าน
แล้วเวปที่ผมส่งเสริม สนับสนุนมากที่สุดก็คือ สนุกดอทคอมนั่นเอง
ส่งเสริมกันจนขายได้ไปหลายล้าน
นี่กะว่าโพสต์ข้อความทิ้งไว้ให้เวปมาสเตอร์เค้าแบ่งตังค์ที่ขายเวปได้มาเป็น ค่าชั่วโมงที่ผมซื้อไปเล่นที่บ้านหมดไปหลายสิบแพก
จริง ๆ แล้วอยากจะขอบคุณ หรือจะต่อว่าสนุกดอทคอมดีก็ไม่รู้เหมือนกัน
ที่ทำให้ผมได้รู้จักกับ “ขวัญ” ผมรู้จักขวัญตั้งแต่เดือนสิงหาคม
ผมจำได้เพราะว่าเป็นช่วงหยุดยาวช่วงหนึ่งเพราะมีวันแม่คั่นอยู่
ปีนี้ผมเลยซึ่งในพระคุณของคุณแม่เป็นอย่างมาก ผมเล่นเนตติดต่อกันทุกคืน
ตั้งแต่สี่ทุ่มถึงตีสาม บางทีก็ลามถึงตีสี่ ตีห้า เราเจอกันในห้อง lobby
ของ sanook chatroom จริง ๆ แล้วผมไม่ได้ตั้งใจจะคุยกับเธอคนเดียวหรอกครับ
คุยไปทั่วมั่วไปหมดกับทุกคนที่เข้ามาในห้องนั่นแหละ
มีเจ้าหล่อนนั่นล่ะที่คุยกะผมได้ติดต่อกันหลายคืน
และแล้วในคืนหนึ่งก่อนที่ผมจะ Disconnect ผมตัดสินใจแลกรูปกันผ่านทางเมล์
ผมส่งรูปที่ถ่ายครั้งที่ไปเที่ยวทะเลไปให้ แต่รูปที่เธอส่งให้ผมนี่ซิ
ตอนผมได้รับเมล์ ผมดีใจมาก
รีบดาวน์โหลดไฟล์รูปที่หล่อนส่งมาแล้วเปิดด้วยโปรแกรมดูรูป ผมแทบช็อก
รูปของเธอเป็นรูปถ่ายหน้าบ้านทรงไทยหลังหนึ่งโดยทั่วไปเป็นสีดำ
เธอยืนอยู่ด้านหน้า ชุดที่ใส่อยู่เป็นชุดสีดำไม่มีขา
ดวงตาของเธอเป็นสีดำทั้งลูก จากวันนั้น
ผมไม่แตะต้องเครื่องคอมพิวเตอร์อีกเลย จนผ่านมาได้ 3 วัน
กลางดึกที่ผมกำลังหลับอย่างสบาย เพจของผมดังขึ้น ผมกดอ่านอย่างสลึมสลือ
แต่พออ่านข้อความเสร็จผมต้องตาสว่างเพราะคนที่ลงชื่อคือ “น้องขวัญ”
ข้อความบอกว่า “พี่ขา เข้ามาแชตกันเถอะ”
ผมคิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจที่จะไม่ต่อ “เป็นตายยังไง ฉันก็จะไม่ต่อเด็ดขาด”
ปี๊บ ปี๊บ … ปี๊บ ปี๊บ มันดังอีกแล้ว เอาไงดีวะเนี่ยะ ข้อความใหม่เข้ามา
เนื้อความว่า “เปิดเถอะพี่ หนูล้อเล่น” เอ๊ะ หรือจะจริง
ผมตัดสินใจรีบต่อเนตเพื่อคุยให้รู้เรื่องว่าตกลงมันอะไรกันแน่ ใช่แล้วครับ
เธอรออยู่ที่ห้องเดิมที่เคยคุยกัน ได้ความว่าเธอส่งรูปบ้านเปล่า ๆ มาให้
ด้วยความจริง ผมตาฝาดไปเอง
หลังจากพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยเหมือนเดิม เธอก็บอกผมว่า เธอคงจะต้องไปแล้ว
และคงจะไม่ได้มาเล่นเนตอีก ผมคิดว่าเธอหลอก เลยแกล้งบอกลาเธอ
แล้วก็เหมือนกับเธอสายหลุดไป ตอนนั้นตีห้ากว่าแล้ว ผมเลยล้มตัวลงนอนต่อ
ไม่ได้ปิดเครื่องคอมฯ ตื่นอีกทีตอนแม่มาเรียก แม่ถามผมว่า
“เมื่อคืนร้อนมั้ยลูก หม้อแปลงไฟหมู่บ้านระเบิด ไฟดับ ทั้งคืน
เพิ่งใช้ได้เมื่อกี้นี้เอง” ผมตาสว่างอ้าปากค้าง !!!…
อีกรอบ
ตั้งแต่นั้นมา ผมไม่เคยเล่นเนตกลางคืนอีกเลย และผมยังคิดอีกว่า
ไม่ว่าเทคโนโลยีจะไปได้ไกลสักเพียงไหน วิทยาศาสตร์จะก้าวหนาเพียงใด
ไสยศาสตร์หรือสิ่งที่ลึกลับตรงกันข้ามกับวิทยาศาสตร์
ไร้ซึ่งเหตุผลอธิบายก็ยังคงอยู่คู่กันมาได้ มีใครเคยคุยกับ “น้องขวัญ”
บ้างครับ
หายกลัวไหมครับบัง