เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 27, 2024, 02:38:47 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เคลือบแคลง&สงสัย  (อ่าน 3829 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
kuuga4u
Jr. Member
**

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 87



« เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 07:14:50 AM »

ผมกำลังจะซื้อปืนพกไว้ใช้ส่วนตัว แต่จะการอ่านหลายๆกระทู้โดยเฉพาะปัญหา เรื่องการขอใบ ป.3 ของปืนสวัสดิการข้าราชการขนาด  .357 และ .45 ที่วังไชยานั้น หลายๆท่านที่ซื้อปืนสวัสดิการเมื่อขอใบ ป.3  ที่วังยา กลับถูก จนท. ให้แก้ในใบ ป.1 จาก"เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน" เป็น "เพื่อการกีฬา"  แต่ทำไม มหาดไทยถึงอนุญาตให้นำปืนทั้ง 2 ขนาดเข้ามาจำหน่ายในราคาสวัสดิการให้กับข้าราชการ  แต่กลับจำกัดการออกใบป.3 ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ทำให้ผู้สั่งซื้อหลายคนต้องเปลี่ยนขนาดปืน หรือเลิกซื้อปืน จึงเป็นช่องว่างให้ร้านปืนที่ขอเข้าร่วมโครงการ นำปืนที่สั่งเข้ามาไปขายหน้าร้านรวมทั้งตัดสด+ค่าน้ำร้อนน้ำชา  ซึ่งจะได้ราคาสูงขึ้นกว่าราคาปืนสวัสดิการอีกเท่าตัว  และร้านปืนเองก็ไม่ต้องสนใจในเรื่องของโควต้าปืนที่นำเข้ามาเพราะช่องว่างของโครงการมีอยู่ว่า  ต้องได้รับการตอบรับว่าได้นำเข้าปืนรุ่นที่จองเข้ามาแล้ว และให้ผู้สั่งซื้อไปขอ ป.3 ทีหลัง และที่สำคัญจะต้องนำใบตอบรับจาก สน.สก. หรือ สน.อส. ไปเป็นหลักฐานเพื่อขอใบ ป.3   เท่ากับว่าเมื่อปืนเข้ามาแล้วแต่ จนท. ไม่ออกใบ ป.3  ปืนก็จะอยู่กับร้านที่ร่วมโครงการนั่นๆ  จุดนี้เองหรือป่าวที่เป็นเหตุผลให้ จนท. วังไชยาไม่ค่อยจะยอมออกใบ ป.3 สำหรับปืนขนาด .357 และ .45 ให้กับปืนสวัสดิการที่เข้ามา  แต่กับกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่มีฐานะ...ร่ำรวย กลับสามารถมีและใช้อาวุธทั้งสองขนาดโดยระบุในใบป.3 ว่า "เพื่อป้องกับชีวิตและทรัพย์สิน"  หากว่าโครงการปืนสวัสดิการดังกล่าวทำเพื่อสวัสดิการของข้าราชการจริง  ผมคิดว่าควรเปลี่ยนระบบการสั่งซื้อปืนสวัสดิการใหม่   เป็นขอใบป.3 ก่อนโดยระบุว่าซื้อจากสวัสดิการ แล้วสั่งซื้อ เมื่อปืนเข้ามาซื้อผมคิดว่าการดำเนินการนำเข้าปืนจริงๆ ไม่น่าจะเกิน 3-6 เดือน หากหมดอายุใบป.3 ก็นำใบ ป.3  ้ไปต่ออายุใหม่ เพื่อรับปืนเลยเมื่อปืนมาถึง ไม่ใช่สั่งจอง นำเข้า ขอใบป.3 (ถ้าอนุญาตคนสั่งโชคดีไป ไม่อนุญาตคนสั่งซวยไป ร้านปืน หรือระดับ...ซื้อไป หรือเอาไปทำกำไร ขรก. อย่างเราๆ ก็ซวยไป) จ่ายเงิน รับปืน ป.4     ผมแค่สงสัยเท่านั้นที่เกี่ยวกับช่องว่างแบบนี้หากินโดยใช้สิทธิ์อันพึงมีของ ขรก.  เพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่ม   หรือว่าชีวิตของข้าราชการอย่างพวกเรา .....มีค่าน้อยกว่าเศรษฐีมีรถดีๆ ขับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 01, 2010, 07:32:23 AM โดย kuuga4u » บันทึกการเข้า
ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 1428
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6023



« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 08:47:42 AM »

แค่ราคาหน้าร้านกับราคาโครงการ ก็สองมาตรฐานแล้ว (ศัพท์ฮิตสะกิดใจ)
เอามาตรฐานคนอนุญาต กับมาตรฐานคนซื้อ คูณกันสามระดับ อย่างน้อยก็สองยกกำลังสาม เป็นแปดมาตรฐานครับ
ทางทฤษฎีการผลิตเรียกว่า modular นั่นเองครับ
บันทึกการเข้า

ผมเป็นลูกหลานจีนอพยพ  ทวดแซ่อิ๊ว ตาแซ่เล้า ปู่แซ่อึ๊ง   
เมืองไทยให้โอกาสทุกอย่าง  ไม่มีข้ออ้างเรื่องชนชั้น
ผมได้กราบแทบพระบาทในหลวงเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต
smitxx2005'รักในหลวง'
Full Member
***

คะแนน 17
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 250



« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 08:51:38 AM »

ปูเสื่อรอฟัง
 แต่ก็ยังดีที่เจ้าหน้าที่หาทางออกให้ ดีกว่าบางที่ ไม่ให้บ้างละ(อาวุธร้ายแรง)ให้บริจาคค่าไฟค่าน้ำ
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 08:55:21 AM »

มีหลายเรื่อง ให้ความเห็นแยกย่อยไปมันก็ไม่จบในกระทู้นี้หรอกครับ เพราะมันแย่จริงๆ และคนมีอำนาจเขาไม่มาตอบข้อข้องใจหรอกครับ... สรุปเรื่องได้ว่า"สองมาตรฐาน"ครับ เพราะเงื่อนไขไม่เป็นธรรมแบบนี้แหละ หนึ่งในสาเหตุที่คนเสื้อแดงเจ็บแค้นใจถึงขั้นเผาเมืองฯ...

เรื่องแบบนี้แก้ยากครับ เพราะถ้าดูให้ลึกลงไปถึงต้นตอของปัญหาคือการบังคับใช้กฎหมาย กฎระเบียบในสังคม... โดยเหตุผลที่ไม่อนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนได้ง่ายๆ ก็เพราะกลัวคนไม่มีวุฒิภาวะเอามาไล่ยิงกันตามอารมณ์ และป้องกันไม่ให้คนร้ายมีอาวุธแล้วคนดีเดือดร้อน...

ก็เพราะคนเลวมันไม่เกรงกฎหมาย ทำผิดแล้วไม่โดนจับ หรือโดนจับแล้วก็มีเส้นสายหลุดไม่ติดคุก คุกมีไว้ขังคนจนไม่มีเส้น คนไม่มีพวกมากกว่าคนรวย คนมีเส้นสาย... แต่ทีนี้มันบอกไม่ได้ว่าใครเจ้าอารมณ์ ใครเป็นคนเลวเอาอาวุธปืนไปประกอบคดี มันเลยโดนเหวี่ยงแหหมด พอโดนเหวี่ยงแหเข้าให้ คนรวย+คนมีเส้นสายฯ ก็เลยมีช่องทาง มีอิทธิพลความเกรงใจมากกว่า เลยสะดวกกว่า เป็นงูกินหางเข้าไปอีก... เฮ้อ...

แล้วมันก็วนเวียนอยู่อย่างนี้แหละ... ในที่สุดชาวบ้านเหนือ+อิสานก็หลุด หลุด ลุแก่ความแค้น บุกเข้ามาเผาเมือง, ส่วนชาวบ้านภาคใต้ จชต. มันไม่เข้ากรุง แต่มันระเบิดเมืองเอาแถวนั้นเลย... ฮา...

วิธีแก้ไข ระยะยาว แต่ไม่นานเกินรอคือต้องแก้ที่องค์กรบังคับใช้กฎหมาย กฎระเบียบให้เป็นธรรม... ส่วนระยะสั้นคือทำตามระเบียบแล้ว ตามทวง ตามทวง หากทวงแล้วไม่ให้ก็พึ่งศาลปกครองครับ...

บันทึกการเข้า
ไก่เฮง รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 169
ออฟไลน์

กระทู้: 1826


รักเธอประเทศไทย


« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 09:42:48 AM »

...เป็นปัญหาที่หลายคนได้แต่คิดโดยไม่ได้แสดงออก..+1ให้ครับสำหรับความระแวงและสงสัย
บันทึกการเข้า

...ชีวิตทุกชีวิตมีคุณค่า    ใช่รอชะตาวาสนานำไป
ความรู้ทุกคนเรียนทันกันได้  สุดแต่สนใจ  ทุนทรัพย์ สติปัญญา
kuuga4u
Jr. Member
**

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 87



« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 10:19:03 AM »

ผมว่าเพราะนิสัยคนไทยมีอะไรแล้วเฉยๆ เนี่ยแหละทำให้เสียสิทธิ  ช่างมัน ไม่เป็นไร เราได้ปืนก้พอ คนอื่นช่างเค้า อะไรประมาณนี้
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 10:55:00 AM »

ผมว่าเพราะนิสัยคนไทยมีอะไรแล้วเฉยๆ เนี่ยแหละทำให้เสียสิทธิ  ช่างมัน ไม่เป็นไร เราได้ปืนก้พอ คนอื่นช่างเค้า อะไรประมาณนี้

ไม่ใช่หรอกครับ อย่างนี้ก็แสดงว่าเมื่อ จขกท. ได้ปืนแล้วก็จะนิ่งหรือครับ... ก็ต้องมีคำถามว่า จขกท. มีหน้าที่ทำอะไรเล่าครับ ถ้าไม่มีหน้าที่ต้องทำแล้วนิ่งเฉยเมื่อได้ปืนแล้ว อย่างดีก็โวยวายหน่อยตามหน้าที่พลเมืองดี แต่ไม่ได้ไปต่อสู้รบปรบมือกับใคร, อย่างนี้ถือว่าทำตามหน้าที่แล้วครับ...

ถ้าคนที่มีหน้าที่บังคับใช้กฏหมาย บังคับใช้กฎระเบียบ แต่ไม่ทำหน้าที่ของตนเอง... อย่างนี้ซิครับถึงได้เกิดเรื่องแย่ๆขึ้นในประเทศ, เริ่มตั้งแต่นายทะเบียนไม่ศึกษาระเบียบฯทั้งที่เป็นหน้าที่, แล้วก็เชื่อเรื่องสั้นหนึ่งยาวหนึ่ง เรื่อง .45 เป็นอาวุธร้ายแรง โดยไม่ได้ศึกษาระเบียบทั้งที่เป็นหน้าที่, นายทะเบียนไม่ได้บังคับใช้ระเบียบกับ ไม่ได้อธิบายระเบียบฯ แก่ลูกน้อง หน้าห้อง หรือคนในสำนักงาน จนเกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง, เมื่อเกิดเรื่องไม่รับหนังสือร้องทุกข์ ไม่ยอมรับ ป.1 ไม่ลงทะเบียนรับเอกสาร แล้วแจ้งตำรวจก็ไม่รับแจ้งความ... ฯลฯ...

มันถึงได้เกิดเรื่องอะไรต่อมิอะไรไปแยะ เพราะคนมีหน้าที่แล้วไม่ทำตามหน้าที่นี่แหละครับ... กทม. ถึงได้โดนเผา เพราะคำว่า"สองมาตรฐาน"ที่บ้านนอก โดยตำรวจส่วนน้อยที่เลว ข้าราชการส่วนน้อยที่เลว, แล้วตำรวจส่วนน้อยที่เลวใน กทม. มันก็ไม่ทำหน้าที่ปล่อยให้โดนเผา ทั้งที่พวกตัวเองส่วนน้อยที่เลว เป็นต้นเหตุรังแกชาวบ้านจากต่างจังหวัดนั่นแหละครับ...

คุณ kuuga4u บ่นในเว็บบอร์ดแล้วไปทำหน้าที่อย่างไรบ้างเล่าครับ... หน้าที่ ที่ว่าคือ 1) เตรียมเอกสารให้ครบ 2) ยื่นเรื่องให้ได้ 3) ตามทวงให้ได้คำตอบ 4) หากโดนปฎิเสธก็อุทธรณ์ 5) อุทธรณ์ไม่ได้ก็ฟ้องศาลฯ...

หากโดนโยกโย้แล้วใจฝ่อ... ต้องพิจารณาตนเองว่าได้ทำหน้าที่หรือไม่ครับ...
บันทึกการเข้า
kuuga4u
Jr. Member
**

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 87



« ตอบ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 10:56:58 AM »

ผมไม่คิดเช่นนั้นหรอกครับ  เอาง่ายๆ หละของซื้อปืนอธิบดีอนุญาตกรมการปกครองมีหนังสือตอบรับกลับมาแล้ว แต่ไปขอใบ ป.3 กลับไม่ได้ ทั้งๆ ที่มีเอกสารหลักฐานครบถ้วน ไม่เคยมีความผิดทางอาญาใดๆ แบบนี้ผู้ที่มีอำนาจในการออกใบ ป.3 เข้าข่ายขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาหรือป่าว ตกลงนายทะเบียนกับอธิบดีใครใหญ่กว่ากัน อืมถ้าเป็นกรณีบุคคลที่ขอ ป.3 มีคดีติดตัวแล้วไม่ได้ใบ ป.3 อันนี้ไม่เป็นไรแน่นอน   กลุ่มคนที่มีเงิน หาปืนที่นายทะเบียนบอกว่าร้ายแรงได้หลายๆกระบอกเอาไว้อวดไว้โชว์ ไว้ใช้   เพราะกำลังภายในอะไรก็แล้วแต่มันเหมาะสมหรือ กับคนอีกกลุ่มนึงที่มีหน้าที่การงานมีใช้คำว่า "ข้าราชการ"  ทำตามระเบียบแต่ไม่ได้รับการพิจารณาเหมือนกลุ่มคนมีเงิน 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 01, 2010, 11:05:55 AM โดย kuuga4u » บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 10:59:50 AM »

ผมรับราชการทหารหน่วยรบ พอได้ไหมหละครับกับคำปฏิเสธ

แล้วโดนปฎิเสธหรือเปล่าครับ...
บันทึกการเข้า
ppk/s7.65
Sr. Member
****

คะแนน 48
ออฟไลน์

กระทู้: 678


« ตอบ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 11:05:08 AM »

 รอฟังอยู่ครับ  แต่คงอีกยาวแน่ๆ อาการของกระทู้นี้........เฮ้อ  Shocked
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 11:18:01 AM »

ผมไม่คิดเช่นนั้นหรอกครับ  เอาง่ายๆ หละของซื้อปืนอธิบดีอนุญาตกรมการปกครองมีหนังสือตอบรับกลับมาแล้ว แต่ไปขอใบ ป.3 กลับไม่ได้ ทั้งๆ ที่มีเอกสารหลักฐานครบถ้วน ไม่เคยมีความผิดทางอาญาใดๆ แบบนี้ผู้ที่มีอำนาจในการออกใบ ป.3 เข้าข่ายขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาหรือป่าว ตกลงนายทะเบียนกับอธิบดีใครใหญ่กว่ากัน อืมถ้าเป็นกรณีบุคคลที่ขอ ป.3 มีคดีติดตัวแล้วไม่ได้ใบ ป.3 อันนี้ไม่เป็นไรแน่นอน   กลุ่มคนที่มีเงิน หาปืนที่นายทะเบียนบอกว่าร้ายแรงได้หลายๆกระบอกเอาไว้อวดไว้โชว์ ไว้ใช้   เพราะกำลังภายในอะไรก็แล้วแต่มันเหมาะสมหรือ กับคนอีกกลุ่มนึงที่มีหน้าที่การงานมีใช้คำว่า "ข้าราชการ"  ทำตามระเบียบแต่ไม่ได้รับการพิจารณาเหมือนกลุ่มคนมีเงิน 

ประการแรก คุณ kuuga4u ควรจะ Post ใหม่ ไม่ใช่แก้ไข Post เดิม ซึ่งจะทำให้ท่านอื่นเข้ามาอ่านแล้วต่อเรื่องไม่ติดนะครับ...

ลบความเห็นตนเอง... เพราะ จขกท. แค่อยากบอกคนอื่นให้รับทราบครับ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 01, 2010, 12:45:13 PM โดย นายสมชาย(ฮา) - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 11:44:41 AM »

ผมกำลังจะซื้อปืนพกไว้ใช้ส่วนตัว แต่จะการอ่านหลายๆกระทู้โดยเฉพาะปัญหา เรื่องการขอใบ ป.3 ของปืนสวัสดิการข้าราชการขนาด  .357 และ .45 ที่วังไชยานั้น หลายๆท่านที่ซื้อปืนสวัสดิการเมื่อขอใบ ป.3  ที่วังยา กลับถูก จนท. ให้แก้ในใบ ป.1 จาก"เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน" เป็น "เพื่อการกีฬาแต่ทำไม มหาดไทยถึงอนุญาตให้นำปืนทั้ง 2 ขนาดเข้ามาจำหน่ายในราคาสวัสดิการให้กับข้าราชการ  แต่กลับจำกัดการออกใบป.3 ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ทำให้ผู้สั่งซื้อหลายคนต้องเปลี่ยนขนาดปืน หรือเลิกซื้อปืน จึงเป็นช่องว่างให้ร้านปืนที่ขอเข้าร่วมโครงการ นำปืนที่สั่งเข้ามาไปขายหน้าร้านรวมทั้งตัดสด+ค่าน้ำร้อนน้ำชา  ซึ่งจะได้ราคาสูงขึ้นกว่าราคาปืนสวัสดิการอีกเท่าตัว  และร้านปืนเองก็ไม่ต้องสนใจในเรื่องของโควต้าปืนที่นำเข้ามาเพราะช่องว่างของโครงการมีอยู่ว่า  ต้องได้รับการตอบรับว่าได้นำเข้าปืนรุ่นที่จองเข้ามาแล้ว และให้ผู้สั่งซื้อไปขอ ป.3 ทีหลัง และที่สำคัญจะต้องนำใบตอบรับจาก สน.สก. หรือ สน.อส. ไปเป็นหลักฐานเพื่อขอใบ ป.3   เท่ากับว่าเมื่อปืนเข้ามาแล้วแต่ จนท. ไม่ออกใบ ป.3  ปืนก็จะอยู่กับร้านที่ร่วมโครงการนั่นๆ  จุดนี้เองหรือป่าวที่เป็นเหตุผลให้ จนท. วังไชยาไม่ค่อยจะยอมออกใบ ป.3 สำหรับปืนขนาด .357 และ .45 ให้กับปืนสวัสดิการที่เข้ามา  แต่กับกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่มีฐานะ...ร่ำรวย กลับสามารถมีและใช้อาวุธทั้งสองขนาดโดยระบุในใบป.3 ว่า "เพื่อป้องกับชีวิตและทรัพย์สิน"  หากว่าโครงการปืนสวัสดิการดังกล่าวทำเพื่อสวัสดิการของข้าราชการจริง  ผมคิดว่าควรเปลี่ยนระบบการสั่งซื้อปืนสวัสดิการใหม่   เป็นขอใบป.3 ก่อนโดยระบุว่าซื้อจากสวัสดิการ แล้วสั่งซื้อ เมื่อปืนเข้ามาซื้อผมคิดว่าการดำเนินการนำเข้าปืนจริงๆ ไม่น่าจะเกิน 3-6 เดือน หากหมดอายุใบป.3 ก็นำใบ ป.3  ้ไปต่ออายุใหม่ เพื่อรับปืนเลยเมื่อปืนมาถึง ไม่ใช่สั่งจอง นำเข้า ขอใบป.3 (ถ้าอนุญาตคนสั่งโชคดีไป ไม่อนุญาตคนสั่งซวยไป ร้านปืน หรือระดับ...ซื้อไป หรือเอาไปทำกำไร ขรก. อย่างเราๆ ก็ซวยไป) จ่ายเงิน รับปืน ป.4     ผมแค่สงสัยเท่านั้นที่เกี่ยวกับช่องว่างแบบนี้หากินโดยใช้สิทธิ์อันพึงมีของ ขรก.  เพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่ม   หรือว่าชีวิตของข้าราชการอย่างพวกเรา .....มีค่าน้อยกว่าเศรษฐีมีรถดีๆ ขับ 

...
บันทึกการเข้า
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 03:02:33 PM »

.............   หรือว่าชีวิตของข้าราชการอย่างพวกเรา .....มีค่าน้อยกว่าเศรษฐีมีรถดีๆ ขับ 

ผมไม่คิดเช่นนั้นหรอกครับ  เอาง่ายๆ หละของซื้อปืนอธิบดีอนุญาตกรมการปกครองมีหนังสือตอบรับกลับมาแล้ว แต่ไปขอใบ ป.3 กลับไม่ได้ ทั้งๆ ที่มีเอกสารหลักฐานครบถ้วน ไม่เคยมีความผิดทางอาญาใดๆ แบบนี้ผู้ที่มีอำนาจในการออกใบ ป.3 เข้าข่ายขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาหรือป่าว ตกลงนายทะเบียนกับอธิบดีใครใหญ่กว่ากัน อืมถ้าเป็นกรณีบุคคลที่ขอ ป.3 มีคดีติดตัวแล้วไม่ได้ใบ ป.3 อันนี้ไม่เป็นไรแน่นอน   กลุ่มคนที่มีเงิน หาปืนที่นายทะเบียนบอกว่าร้ายแรงได้หลายๆกระบอกเอาไว้อวดไว้โชว์ ไว้ใช้   เพราะกำลังภายในอะไรก็แล้วแต่มันเหมาะสมหรือ กับคนอีกกลุ่มนึงที่มีหน้าที่การงานมีใช้คำว่า "ข้าราชการ"  ทำตามระเบียบแต่ไม่ได้รับการพิจารณาเหมือนกลุ่มคนมีเงิน 

ผมว่าท่าน จขกท. อย่าพาลไปเที่ยบกะสุจริตชนคนอาชีพอื่นเลยครับ 
เพราะคำว่าสองมาตรฐานนี้แหละ มันบาดแทงใจดำ คนสีตาสา ชาวสวนชาวนา คนประกอบอาชีพอิสระ  ไม่มีสิทธิซื้อสินค้าสวัสดิการ ทั้งๆที่เสียภาษีเป็นเจ้าของประเทศเหมือนกัน  ถ้าจะซื้อปืนก็ต้องซื้อแพงกว่าสองสามเท่าของราคาสวัสดิการข้าราชการ  คุณค่าชีวิตของคนทุกคนมันเท่าเทียมกันครับ 

อย่างเกษตรกรที่ แสร้งชื่นชมว่า เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ทำไมไม่ได้รับสิทธิ์ซื้อปืนราคาถูกแบบนี้บ้าง

แล้วโดยทั่วไปเท่าที่เห็นเวลาพิจารณาใบอนุญาต กลุ่มข้าราชการกลับได้รับการพิจารณารวดเร็วกว่ากลุ่มอาชีพอื่น

หลายคนมีเงินแต่นายทะเบียบก็พยายามจำกัดการออกใบอนุญาตซื้อไม่ได้หรือซื้อได้ยาก บ่นๆกันให้ฟังเสมอ ว่าข้าราชการมักขอได้ง่ายกว่า

ส่วนอีกกลุ่มที่มีเงินมากแต่ยอมเสียเงินใต้โต๊ะ ทุกคนก็บ่นแบบอายๆครับ ว่าถูกรีดไถหนักข้อขึ้นทุกวัน ทำไมเขาไม่ได้รัยสิทธิ์เหมือนข้าราชการบ้างน๊า คุยไปคุยมาก็พบคำตอบว่าไม่มีใครอย่าเสียเงินตรงนี้หรอกครับ แต่เพราะเขาถูกสอนให้กลัวเขาถึงยอม

จขกท. มีปัญหากับระบบงานทะเบียน ก็ว่าเฉพาะปัญหาไปดีกว่าครับ อย่ามาพาลใส่กลุ่มคนอื่น
เพราะเรื่องราคาปืนที่ต่างกัน การพิจารณาที่ต่างกัน มันก็แสลงใจชาวบ้านตาสีตาสาอยู่แล้ว




 

บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
smitxx2005'รักในหลวง'
Full Member
***

คะแนน 17
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 250



« ตอบ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 03:45:59 PM »

แต่บางทีก็น่าเห็นใจนายทะเบียน กับคำสั่งบันทึกภายในของเบื่องบน จะไม่ปฎิบัติตามก็กะไรอยู่ แต่น่าจะยกเลิกคำสั่งหลังหมดวาระ
บันทึกการเข้า
วายุ - รักในหลวง
เย็นศิระ เพราะพระบริบาล
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 335
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9149


พระเจ้าสร้างมนุษย์ แต่โคลท์ทำให้มนุษย์เท่าเทียมกัน


« ตอบ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2010, 05:07:24 PM »

ผมขอมองต่างมุมนะครับ...

ดูเหมือนว่า จขกท.จะพูดถึง การขอซื้อปืน กับ เรื่องของปืนสวัสดิการ โยงเข้าด้วยกัน

กรณีว่าขอซื้อปืน .45 กับ .357 จะสวัสดิการ หรือไม่ใช่สวัสดิการ มีค่าเท่ากัน การที่นายทะเบียนฯ จะอนุญาต หรือไม่ ก็มีค่าไม่ต่างกัน ในการใช้ดุลยพินิจ ... ผมลองมาแล้ว และเคยให้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องซื้อปืนสวัสดิการ ตอนไปขอ ป.3 นายทะเบียนฯ ท่านไม่ใส่ใจหรอกครับว่า คุณจะซื้อจากที่ไหน ... ถ้าเป็น 2 ขนาดนี้ จะใช้ดุลยพินิจมากหน่อย เหมือนกับชาวบ้านตาสีตาสา ที่มาขอ ป.3 ใน 2 ขนาดนี้เหมือนกัน...

ทีนี้มาดูว่า... เราเป็นข้าราชการ ได้จองปืนขนาด .45 หรือ .357 ไว้กับ โครงการจัดหาอาวุธปืนฯ ทางโครงการก็เอาชื่อเราไปขอนำเข้า อวป. อย่างที่ทราบ ๆ กัน....  จนกระทั่งปืนได้ถูกนำเข้ามาแล้ว  ปรากฎว่า เราไปขอใบ ป.3 ที่อำเภอ แต่กลับถูกปฏิเสธ หรือถูกอะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้เราไม่ได้ใบ ป.3 จนเราถอดใจ ไม่เอาขนาดนี้ก็ได้ หรือยกเลิก ไม่ซื้อก็ได้ ...เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า แล้วเราก็มาบอกว่า อย่างนี้ไม่ถูกต้องเป็นธรรม ไม่ได้รับความยุติธรรม มีการสวมสิทธิ์ เอาชื่อเราไปหากิน เอาปืนเราไปขายให้คนอื่น...

ทำไม....

เราไม่มาดูว่าจะแก้ปัญหา แต่แรก ...ยังไง
 
1. เราจองปืนขนาดนี้ทำไม อยากได้ใช่ไม๊ ...ใช่  แต่ถ้าเราไม่จองปืนขนาดนี้ จะเกิดปัญหาหรือไม่ ?
2. เมื่อปืนที่จองเข้ามาแล้ว เขาให้เราไปขอ ป.3 แล้วกลับถูกปฏิเสธ จะต่อสู้อย่างไร เพื่อให้ได้ ป.3 พร้อมหรือไม่ที่จะต่อสู้ ?
3. เรื่อง ป.4 จะระบุว่า เพื่อการกีฬา หรือป้องกันทรัพย์สิน มันไม่ใช่ปัญหาในการครองครองปืนเลย มันเป็นเพียงทางออก... ที่ทุกฝ่ายพอใจ

ขอแสดงความเห็นเท่านี้นะครับ Cheesy

บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป...
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.059 วินาที กับ 22 คำสั่ง