เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 16, 2024, 07:34:36 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง  (อ่าน 2413 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #15 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2010, 03:37:19 PM »

แนวที่เราเผา จะเป็นแนวใหม่ครับ แนวเก่าไล่มาหาแล้วดับ แต่แนวของเราจะไหม้ต่อ

บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

นายรัก-รักในหลวง-
เลือด สี น้ำ เงิน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1646


จงภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเอง


« ตอบ #16 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2010, 03:42:28 PM »

แนวที่เราเผา จะเป็นแนวใหม่ครับ แนวเก่าไล่มาหาแล้วดับ แต่แนวของเราจะไหม้ต่อ


หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน  ทำไงล่ะครับพี่ซับ รอพี่ๆ ท่านอื่นๆ มาแนะกว่า
บันทึกการเข้า

"สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่งแคร่ สองคนพาไป"
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #17 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2010, 03:47:23 PM »

ที่พรุโต๊ะแดงดับด้วยฝนจริงและฝนเทียมกระหน่ำครับ ถ้าจำไม่ผิด
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #18 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2010, 03:54:25 PM »

ที่พรุโต๊ะแดงดับด้วยฝนจริงและฝนเทียมกระหน่ำครับ ถ้าจำไม่ผิด

นี่แหละครับ  ที่ผมบอกว่าต้องให้ภาครัฐจัดงบสนับสนุน  ไม่อย่างนั้นคงดับยากครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #19 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2010, 03:55:51 PM »

ที่พรุโต๊ะแดงดับด้วยฝนจริงและฝนเทียมกระหน่ำครับ ถ้าจำไม่ผิด

                   อย่าเครียดครับน้า .....  พื้นทีไม่ใช่ ๕๐ ไร่ / ร้อยไร่  นี่มันกินพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตร เดินเท้าเป็นเดือนๆยังไม่ทั่ว

                   ภาวะโลกร้อนถูกเร่งเร้าด้วยความโลภของมนุษย์  ป่าไฟไหม้ ฝนแล้ง พายุรุนแรง ฝนไม่ตก น้ำไม่มี ..... เหลือกี่ปีแล้วนี่ครับ


                   (รอฟังคำตอบเสาร์หน้าก็แล้วกัน ..... อิอิ  วันนั้นฤกษดีน้ำเยอะ  ขำก๊าก )   คิก คิก คิก คิก

บันทึกการเข้า

                
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2010, 05:56:30 PM »

สมมุติถ้าน้ำในอ่างอาบน้ำหนึ่งอ่างเท่ากับ200ลิตร  ถ้าเราช่วยกันนำน้ำตามอาบอบนวดต่างๆๆไปดับไฟป่า  ผมว่าน่าจะพอนะครับ  เพียงช่วยกันคนละไม้คนละมือ หนีทางบ้านไปเที่ยวคนละรอบสองรอบ  เราก็สามารถมีน้ำที่จะใช้ดับไฟได้สบายๆๆแล้ว  น้ำลายหก น้ำลายหก น้ำลายหก น้ำลายหก  เหมือนผมจะเป็นคนดีเลยนะครับ
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #21 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2010, 06:27:13 PM »

ป่าพรุ ไม่เหมือนป่าประเภทอื่นครับ น้ำดับไฟไม่ได้ เพราะมันไหม้ใต้กองใบไม้ที่ทับถมกันหนาๆ และยังคุระอุอยู่เรื่อยๆ

แนวทางป้องกัน ต้องศึกษาระบบนิเวศก่อนครับ ไม่ใช่จะเอาอะไรมาเทมาทิ้งเพื่อดับไฟ  ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้คือ ไขน้ำเข้าพื้นที่บริเวณใกล้ถนนให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุอื่นตามมา และคอยควมคุมไม่ให้มีการวางเพลิงบริเวณอื่นๆเพิ่มขึ้นอีก ส่วนที่ใหม้ก็ต้องคอยควบคุมกันไป จะเข้าไปดับเลยคงไม่ได้

ป่าพรุนี้ ไม่ว่ายังไงก็จะไม่มีไฟป่า ครับ เพราะมันชุ่มไปด้วยน้ำอยู่แล้ว (เหมือนป่าดิบชื้น)  แต่ที่เกิดขึ้นมานี้แสดงว่าระบบนิเวศของ "พรุ" ได้เปลียนสภาพไป ซากพืชที่ทับถมกันแห้งลง พอแห้งก็กลายไปเชื้อไฟดีๆนี้เอง

สาเหตุเกิดจากการบุกรุกพื้นที่รอบชายขอบ การขวางทางเดินน้ำ ฯลฯ ทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ป่าพรุที่ชุ่มชื้นแห้ง  ที่นี้อะไรๆมันก็ติดไฟง่ายขึ้น 

การแก้ไข ต้องทำให้สภาพป่าคืนคงเดิมให้มากที่สุด เริ่มจกาการจัดแนวป้องกันชายขอบโดย การกันพื้นที่แล้วปล่อยให้เกิดต้นไม้ พืชอื่นๆ ตามธรรมชาติ แนววงนี้จะเป็นแนวรักษาความชุ่มชื้นของพื้นที่ไว้ได้

ดูทางเดินน้ำ ศึกษา ผังเมือง ถนน คลองชลประทาน และอาจจะร่วมถึงอ่างเก็บน้ำ ฯลฯ  ตรงจุดนี้สำคัญ เพราะบ้านเรา ไม่เคยศึกษาอะไรให้รอบด้าน คนทำถนนก็จะทำให้ดีที่สุด แต่ไม่ดูว่าขวางทางเดินน้ำ คนทำชลประทานก็ทำไป ไม่ดูว่าจะทำให้พื้นที่ปลายน้ำเสียหายหรือไม่
ยกตัวอย่างเช่น น้ำท่วมฉับพลันในตัวเมืองอุดร และหาดใหญ่  สาเหตุที่เกิดเพราะผังเมืองไม่เคยศึกษาทางเดินน้ำ คิดว่าถ้าน้ำไหลมาก็เจาะช่องขุดคลองให้น้ำมันไหลไปก็จบ แต่จริงๆมันไม่ใช่อย่างนั้น  ระบบความสูงของสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ก็ทำให้ทิศทางน้ำเปลี่ยน

ป่าพรุ เกิดขึ้นเพราะมีน้ำ แต่น้ำหายไป ต้องค้นหาคำตอบให้ได้ว่าน้ำหายไปไหน
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #22 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2010, 06:33:35 PM »


                                               
บันทึกการเข้า

                
Bird
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 600
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1743


Ordinary Man on Earth


« ตอบ #23 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2010, 02:38:42 AM »

+ คุณโทน73  ครับ
บันทึกการเข้า

สู้กับผู้อื่นให้น้อยลง ......สู้กับจิตตนให้มากขึ้น
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #24 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2010, 09:36:52 AM »

ป่าพรุ ไม่เหมือนป่าประเภทอื่นครับ น้ำดับไฟไม่ได้ เพราะมันไหม้ใต้กองใบไม้ที่ทับถมกันหนาๆ และยังคุระอุอยู่เรื่อยๆ

แนวทางป้องกัน ต้องศึกษาระบบนิเวศก่อนครับ ไม่ใช่จะเอาอะไรมาเทมาทิ้งเพื่อดับไฟ  ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้คือ ไขน้ำเข้าพื้นที่บริเวณใกล้ถนนให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุอื่นตามมา และคอยควมคุมไม่ให้มีการวางเพลิงบริเวณอื่นๆเพิ่มขึ้นอีก ส่วนที่ใหม้ก็ต้องคอยควบคุมกันไป จะเข้าไปดับเลยคงไม่ได้

ป่าพรุนี้ ไม่ว่ายังไงก็จะไม่มีไฟป่า ครับ เพราะมันชุ่มไปด้วยน้ำอยู่แล้ว (เหมือนป่าดิบชื้น)  แต่ที่เกิดขึ้นมานี้แสดงว่าระบบนิเวศของ "พรุ" ได้เปลียนสภาพไป ซากพืชที่ทับถมกันแห้งลง พอแห้งก็กลายไปเชื้อไฟดีๆนี้เอง

สาเหตุเกิดจากการบุกรุกพื้นที่รอบชายขอบ การขวางทางเดินน้ำ ฯลฯ ทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ป่าพรุที่ชุ่มชื้นแห้ง  ที่นี้อะไรๆมันก็ติดไฟง่ายขึ้น 

การแก้ไข ต้องทำให้สภาพป่าคืนคงเดิมให้มากที่สุด เริ่มจกาการจัดแนวป้องกันชายขอบโดย การกันพื้นที่แล้วปล่อยให้เกิดต้นไม้ พืชอื่นๆ ตามธรรมชาติ แนววงนี้จะเป็นแนวรักษาความชุ่มชื้นของพื้นที่ไว้ได้

ดูทางเดินน้ำ ศึกษา ผังเมือง ถนน คลองชลประทาน และอาจจะร่วมถึงอ่างเก็บน้ำ ฯลฯ  ตรงจุดนี้สำคัญ เพราะบ้านเรา ไม่เคยศึกษาอะไรให้รอบด้าน คนทำถนนก็จะทำให้ดีที่สุด แต่ไม่ดูว่าขวางทางเดินน้ำ คนทำชลประทานก็ทำไป ไม่ดูว่าจะทำให้พื้นที่ปลายน้ำเสียหายหรือไม่
ยกตัวอย่างเช่น น้ำท่วมฉับพลันในตัวเมืองอุดร และหาดใหญ่  สาเหตุที่เกิดเพราะผังเมืองไม่เคยศึกษาทางเดินน้ำ คิดว่าถ้าน้ำไหลมาก็เจาะช่องขุดคลองให้น้ำมันไหลไปก็จบ แต่จริงๆมันไม่ใช่อย่างนั้น  ระบบความสูงของสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ก็ทำให้ทิศทางน้ำเปลี่ยน

ป่าพรุ เกิดขึ้นเพราะมีน้ำ แต่น้ำหายไป ต้องค้นหาคำตอบให้ได้ว่าน้ำหายไปไหน

นี่แหละครับ... วิธีการแก้ปัญหาไฟป่าแบบยั่งยืน... เยี่ยม

+๑ แต้มครับ...

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.115 วินาที กับ 22 คำสั่ง