ขอบพระคุณพี่ธำรงครับ...
นายสมชายใช้กระเป๋าคาดเอวเวลาอยู่ในบ้าน เวลาเดินไปอยู่มุมไหนของบ้านก็หิ้วเอาไปวางไว้ใกล้มือทุกที่ ทุกเวลาแม้เวลากลางวันครับ เพราะสะดวกเวลาจะหยิบของที่เราจะใช้งานเป็นประจำ เช่นรีโมตประตูบ้าน(เวลาใครมาหน้าบ้าน), โทร.มือถือ(จะได้ไม่ต้องวิ่งมารับมือถือ), กระเป๋าสตางค์(เวลาจะจ่ายค่าแมคโดนัลด์) ฯลฯ... แล้วเวลานอนก็เอาวางข้างตัวด้วยเลยครับ ในนั้นมีม้าแก่+แม็กสั้น 7 นัด 3ตัว+แม็กยาว 10 นัด 2ตัว+ไฟฉาย+เอียมัฟ+กล้องถ่ายรูป...
ตามรูป, หนักอึ๋งเลยครับ... แฮ่ๆ...
กระทู้นี้ทำให้นายสมชายคิดถึงเลเซอร์กริปแล้วครับ... คือเมื่อสมัยก่อนแค่ไม่กี่ปีผ่านมานี่เอง นายสมชายยังเชื่อศูนย์เรืองแสง+ทรงด้ามกับแนวลำกล้องคุ้นมือของ 1911, แต่อ่านตามกระทู้แล้วนายสมชายว่าถ้าอาศัยแค่แนวลำกล้อง+ทรงด้ามฯ แล้วแว่บโป้งใส่ขโมยนี่คงเกิดคดีแน่ครับ, เพราะมันเล็งละเอียดไม่ได้ คนยิงจะคะเนเอาแถวกลางตัว ซึ่งเป็นเรื่องแน่ๆ...
ผมมาอัพเดท และขอบคุณนายสมชาย(ฮา) - รักในหลวง ครับ ว่าได้ลอกเลียนแบบ และปรับเติมกระเป๋าข้างเตียง เพื่อให้พร้อมรับเหตุการณ์ดียิ่งขึ้นแล้ว
กระเป๋าพร้อม..... ต้องฝึกคิดว่าคว้าลูกโม่ใต้หมอนแล้วต้องคว้าใบนี้ไปด้วย
คืนนั้น ยิงไปสองนัด แล้วตามคนร้ายออกไป....... คนร้ายมีสาม ..... เหลือกระสุน .38+P ในปืนอยู่สามเหมือนกัน... แป๋วววว
ตอนแรกคิดว่าจะใช้สปีดโหลด คิดไปคิดมา ปืนสำรองย่อมดีกว่ากระสุนสำรอง กล็อก 30 + ซองกระสุน จะทำให้ผมมี .45ACP 20 นัด ไปด้วย
ความผิดพลาดสำคัญคือไม่มีไฟฉาย ผมเปิดกรุเอาชัวร์ไฟร์มาประจำการ
ความผิดพลาดจากการขาดการสื่อสารและกล้อง เอาสมาร์ทโฟนใส่เข้าไป แถมด้วยกระเป๋าสตางค์
เอียมัฟ ผมไม่ใช้
.... ในความเป็นจริงกับหูเปล่าๆ ผมรู้สึกว่าเสียงปืนดังน้อยกว่าที่คิด