ไปมา 3 รอบ ตะคริวเล่นงานตรงที่เดียวกับพี่ Ro@d ทุกรอบ
ต้องยืนนวดน่องตัวเองตรงละแวกโขดหินทุกที
ไปครั้งหลังสุดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่งถึงหลังแป (แต่เดินตัวเปล่านะ)
วิธีเดินขึ้น ต้องปล่อยใจเดินไปเรื่อยๆ ไม่เร่ง ไม่รอ หยุดเมื่อไม่ไหว ไม่หยุดตามเพื่อนถ้าเรายังไหว .. จังหวะใครจังหวะมัน
ถ้าหยุด อย่าหยุดนาน
ถึงหลังแปแล้ว เดินอีก 3 กม. จึงจะถึงที่พัก .. จากนั้นต้องเดินอีก 20 กม.เป็นเส้นทางมาตรฐานในการท่องภูกระดึง เพราะจุดที่น่าสนใจ มันกระจายอยู่บนที่ราบยอดเขานั้น..
สรุป ภูกระดึง คือ เดิน เดิน เดิน ... รสชาติมันอยู่ตรงนั้น
ไม่ถามว่าสร้างกระเช้าทำไม แต่ถามผู้ที่รอกระเช้าไฟฟ้า ว่าคาดหวังอะไรครับ .. กระเช้าส่งถึงหลังแป ก็ต้องเดินอยู่ดี
คนเฒ่าคนแก่ คนหนุ่มสาวที่ใจไม่สู้ หมดสิทธิโดยปริยาย ..
ไม่คิดว่ากระเช้าจะไปขึ้นแถวผาหล่มสักครับ .. มันจะเกิด ทัศนวิสัยอุบาทว์ ที่มาจาก วิสัยทัศน์อุบาทว์
ผมคิดว่า การจัดการขยะ และเสบียง ขึ้นอยู่ที่ว่า จัดการ "คน" ได้ดีขนาดไหน .. มากคน มากปัญหา
ปัจจุบัน จำกัดการขึ้นวันละ 5,000 คน ก็จัดการ 5,000 คนนั้นให้อยู่
มีกระเช้าไฟฟ้า จะจัดการให้ขึ้นแค่ 5,000 คนได้หรือเปล่า .. จิตสำนึกคนที่ได้ขึ้นไป จะยังคงเหมือนเดิมไหม ?
การที่ต้องตั้งใจลำบากเดินขึ้น ก็เป็นการคัดกรองค่านิยมและจิตสำนึกของผู้มาเยือนได้ระดับหนึ่ง ครับ ...