เอาล่ะ ไหนๆก็ไหนแล้ว ผมจะเล่าเหตุการณ์ จริงให้ฟังบ้าง
เรื่องมีอยู่ว่า...
ก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี พ่อผมเพิ่งเสียไป ด้วยโรค เส้นเลือดหัวใจตีบ ไต สาเหตุก็คือ พ่อผม สูบบุหรี่วันละ4 ซอง กินเหล้าวันละแบน
วันหนึ่ง ขณะที่พ่อนั้งกินข้าวอยู่นั้น พ่อบ่นว่าเจ็บหน้าอก ผมก็เลยไปซื้อยาให้ ผลสุดท้ายก็ต้องไปโรงบาลบาลอยู่ดี
พอถึงโรงพยาบาล พ่อเกิดอาการช๊อคกระทันหัน และรักษาอยู่หลายอาทิตย์ ก่อนท่านเสีย
หลังจากที่พ่อเสีย ก็จัดงานศพ ตามประเภณี ตั้งศพ 7วันที่ ในตัวอำเภอเมือง(มูนิธิหน้าโอเดียนสมัยนั้น)
หลังจากทำการเผาเสร็จ ผมกับลูกเลี้ยงของพ่อ(แม่เลี้ยงเป็นแม่หม้ายลูกติด) เด็กคนนี้ชื่อ เบริด์ แต่ผมเรียก ไอ้เบลอ
ผมกับไอ้เบลอ ก็กลับมาอยู่ที่อำเภอ กาญจนดิษฐ์ ตอนนั้นผมเปิดร้านซ่อมมือถือของตัวเองอยู่ ซักพัก ผมก็ใช้เบลอ ไปซื้อ ของในตลาด
ไอ้เบลอมันเดินออกจากบ้าน ไป แล้วเดินกลับมา บอกกับผมว่า "พี่หลวงรู้สึกอะไรมั้ย" ผมก็บอกว่า" รู้สึกอะไรของมึงว่ะ"
เท่านั้นไอ้เบลอก็ไม่พูดอะไรอีก ช่วงหัวค่ำผมกับไอ้เบลอนั้นอยู่ในบ้าน ก็ได้กลิ่น เหมือน อะไรซักอย่างที่ตาย(กลิ่นเน่า)
ผมกับไอ้เบลอก็มองหน้ากัน แต่ไม่พูด อะไร
ด้วยความที่ไอ้เบลอ มันกลัว (ไอ้เบลอมันเรียกพ่อผมว่า ลุงเล็ก) มันก็บอกผมว่า เดี๋ยวจุดธูปบอกลุงเล็กหน่อยว่าไม่ต้องเป็นห่วงพวกเรา
พวกเราดูแลกันได้ เบลอว่าอย่างนั้น
วันรุ่งขึ้น ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ ตาหลวงฟัง ตาหลวงท่านว่า" สงสัยแกมาเยี่ยมมั้ง ไอ้เจ้าศัก มึงก็มั่นทำบุญกรวดน้ำให้แก บ่อยๆล่ะ"
ผมก็รับปาก พอมาถึงที่บ้าน ก็เหมือนเหตุการณ์ปกติ เป็นช่วงกลางวัน ผมก็ไม่ได้กลิ่นแบบนี้อีกเลย
พอวันรุ่งขึ้น ผมก็ทำงานปกติ แต่ทีนี้กลิ่นที่ว่าก็เริ่มมา อีก พอดีที่ลูกค้ายืนอยู่ด้วย ผมเลยถามลูกค้าว่า พี่ได้กลิ่นอะไรมั้ยครับ
ลูกค้าตอบแบบไม่ลังเล ว่า "ไม่ได้กลิ่นนี่ กลิ่นอะไรหรือ" ผมก็ไม่ได้พูดอะไร พอตกกลางคืน พอได้กลิ่น ไอ้เบลอรีบจุดธูปทันที
ผมก็ เฉยๆ นึกในใจว่า พ่อครับ ผมดูแลตัวเองได้พ่อไม่ต้องเป็นห่วงครับ .....
อยากฟังต่อมั้ยครับ.........