เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 29, 2024, 03:49:05 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4] 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ท่านใดอ่านเพชรพระอุมาบ้าง ครับ  (อ่าน 13927 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #45 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2010, 11:51:05 PM »

ผมชอบพรานชด (ม.ร.ว.อนุชา วราฤทธิ์) จากบทกวีที่เขียนทิ้งไว้ในถ้ำบทนี้

ณ ที่ซึ่งดวงใจไม่ไหวหวั่น          ขอฝ่าฟันอุปสรรคและขวากหนาม
แม้นสิ้นญาติวาสนาชะตาทราม   ขอฝากนามให้โลกรู้กูก็ชาย
 


 ณ.ที่นี่ไร้ญาติและขาดมิตร                       

ยังก็แต่บ่าวสนิทพิศมัย

เสมือนเพื่อนเสมือนญาติไม่คลาดไกล         

เป็นเพื่อนตายเคียงกูคู่ชีวา






จำได้แม่นตั้งแต่อายุ12ครับ  Cheesy

แล้วตำราเรียนพี่จ้าวจำได้บ้างไหมครับ...ฮา... ขำก๊าก
บันทึกการเข้า
Tืa์M๊ ┇รัnใuxaวJ
T็a๋kํk็y็l๊i็v์e์
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 64
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 721


2341E51F


« ตอบ #46 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 12:56:37 AM »

รพินทร์  เป็นตัวละครที่จินตนาการจากบุคคลจริงๆหรือไม่ครับ  ผมคุ้นๆว่า คนๆนั้นเป็นคนเขื่อนบางลาง
บันทึกการเข้า


www.gunsandgames.com

-๊S็a๊F๋e์T๋Y์   A๋c๊c๋u๊r๋aํt๋Eื   S๊m์o๊o่TัH์   F๊a๋s๋T๊-๊
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #47 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 01:03:08 AM »

ผมชอบพรานชด (ม.ร.ว.อนุชา วราฤทธิ์) จากบทกวีที่เขียนทิ้งไว้ในถ้ำบทนี้

ณ ที่ซึ่งดวงใจไม่ไหวหวั่น          ขอฝ่าฟันอุปสรรคและขวากหนาม
แม้นสิ้นญาติวาสนาชะตาทราม   ขอฝากนามให้โลกรู้กูก็ชาย
 


 ณ.ที่นี่ไร้ญาติและขาดมิตร                       

ยังก็แต่บ่าวสนิทพิศมัย

เสมือนเพื่อนเสมือนญาติไม่คลาดไกล         

เป็นเพื่อนตายเคียงกูคู่ชีวา






จำได้แม่นตั้งแต่อายุ12ครับ  Cheesy

แล้วตำราเรียนพี่จ้าวจำได้บ้างไหมครับ...ฮา... ขำก๊าก

ฮึ  งอน


จำไม่ได้เลยอ่ะ  คิก คิก

บันทึกการเข้า
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #48 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 01:06:10 AM »

รพินทร์  เป็นตัวละครที่จินตนาการจากบุคคลจริงๆหรือไม่ครับ  ผมคุ้นๆว่า คนๆนั้นเป็นคนเขื่อนบางลาง

ผมเชื่อว่าอ.ฉัตรชัยจำลอง"ตัวเอง"ลงไปเป็นรพินทร์ครับ สังเกตุจากที่บรรยายลักษณะของรพินทร์ในบทแรกๆ ว่าออกแนวตัวเล็กตูดปอด ไม่ได้สูงใหญ่

ส่วนบุคลิก,ลักษณะความเป็นพราน น่าจะเอามาจากพรานในปัตตานี/ยะลา
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #49 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 02:10:51 AM »

รพินทร์  เป็นตัวละครที่จินตนาการจากบุคคลจริงๆหรือไม่ครับ  ผมคุ้นๆว่า คนๆนั้นเป็นคนเขื่อนบางลาง

ที่จริงเพชรพระอุมาทั้งเรื่องใช้เค้าโครง King Solomon's mine ของ Ryder Haggard นักเขียนอังกฤษยุคศตวรรษที่ ๑๙ อยู่แล้วครับ

เซอร์เฮนรี่ เคอรติส (คุณชายเชษฐา) กัปตันกู๊ด (ไชยยันต์) อัมโบปา (แงซาย) กะกูล (แม่มด)

เดินทางไปตามหาน้องชาย โดยอัมโบปาเป็นทายาทเจ้าเมืองที่ต้องหนีออกมา

ส่วน รพินทร์ มาจากตัวละคร อลัน ควอเตอร์เมน พรานผิวขาวมีชื่อในอัฟริกา

นอกจากเรื่องนี้แฮกการ์ดยนังเขียนหนังสือโดยมี อลันฯ เป็นพรานตัวเอกอีกหลายเรื่อง และมีซีรีย์ที่มีตัเอกเป็นนักรบซูลูชื่อ อัมสโลโปกัส ใช้ขวานเป็นอาวุธประจำตัว

หนังสือเรื่องสุดท้ายที่มี อลัน ชื่อ อลัน คลอเตอร์เมน เอง เซอร์เฮนรี่ พร้อม อลัน (ซึ่งชีวิตกำลังว่างเปล่าเพราะลูกชายที่เรียนหมอในอังกฤษติดโรคตาย) และ อัมสโลโปกัส เดินทางไปหาอาณาจักรที่สูญหาย ไปช่วยรบรักษาบัลลังค์ของเจ้าหญิง และในที่สุดเซอณ์ เฮนรี่ อยู่แต่งงานครองเมืองต่อไป

แฮกการ์ด ยังเขียนเรื่องผจญภันในอัฟริกาอีกหลายเรื่อง ที่เด่นอีกเรื่องคือ "สาว ๒ พันปี" เรื่องผจญภัยที่ใช้ฉากอื่นก็มี เช่น "สร้อยคอนักพเนจร" เป็นเรื่องไวกิ้งที่ไปเป็นทหารรับจ้างวารังเจี้ยนในราชสำนักคอนสแตนติโนเปิ้ล

แฮกการ์ด เป็นเพื่อนกับ อาเธอร์ โคแนน ดอยด์ นักเขียนผู้เขียนซีรีย์ เชอร์ล๊อกโฮล์ม ฯลฯ

ทั้งคู่ได้เครื่องราชฯ ชั้นอัศวิน เป็นเซอร์ จากการเขียนหนังสือ และทั้งคู่ยังสนใจเรื่องวิญญาณ ชีวิตหลังความตายอีกด้วย
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #50 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 02:15:03 AM »

ตอบกระทู้

ผมอ่านภาค ๑ เวอร์ชั่นปกแข็ง ๒๔ เล่ม ตอนประถมปลายครับ ภาค ๒ เวอร์ชั่นปกแข็ง ๑๐ เล่ม ก็อ่านตอนเขียนจบ ภาค ๓ ไม่ได้อ่าน

ตัวละครที่ชอบ ไชยยันต์ เพราะเจ๋งจริง ใครมีเพื่อนแบบนี้เป็นคนโชคดีมาก

คุณพ่อผมรู้จักกับลุงฉัตรชัยบ้าง แต่ไม่ได้ติดต่อกันสมาเสมอครับ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #51 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 10:45:17 AM »

ถ้าใครเคยอ่านทั้งสองเรื่อง  ฉากแรก ๆ ที่หนองน้ำแห้ง ตอนพรานรพินทร์ไม่ให้คุณหญิงร่วมเดินทางไปด้วยนั้น

จนคุณหญิงต้องสำแดงเดช จะเห็นว่า สองเรื่องนี้ แทบจะเป็นเรื่องเดียวกันเลย ประมาณ สี่ห้าหน้า......

ผมชอบโซโลม่อนน้อยกว่าเพชรพระอุมา เพราะ สั้น ไม่ยาวสะใจแบบเพชรพระอุมา
บันทึกการเข้า
_RANGER_
ENGINEER FIRST NCO.7/46
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1219


สงครามมีวันจบ สหายร่วมรบคงอยู่ตลอดไป


« ตอบ #52 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 01:24:40 PM »

เพรชพระอุมา นี่มีทั้งหมด กี่ภาครับ และถ้าเป็นเล่มปกแข็งที่เห็นๆขายกันในร้านหนังสือ ไม่ทราบว่ามีทั้งหมดกี่เล่มครับ  Huh
บันทึกการเข้า

ต้นไม้แห่งเสรีภาพ ต้องรดด้วยเลือดของทรราช และผู้รักชาติเป็นครั้งคราว
นายรัก-รักในหลวง-
เลือด สี น้ำ เงิน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1646


จงภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเอง


« ตอบ #53 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 01:33:13 PM »

เพรชพระอุมา นี่มีทั้งหมด กี่ภาครับ และถ้าเป็นเล่มปกแข็งที่เห็นๆขายกันในร้านหนังสือ ไม่ทราบว่ามีทั้งหมดกี่เล่มครับ  Huh
ขอตอบเฉพาะ เล่มใหม่ที่นำเอามาปรับปรุง แล้วจัดพิมพ์ใหม่นะครับ ส่วนเล่มเก่าๆ เกิดทันเหมือนกัน แต่ไม่ทันได้อ่าน  Grin Grin Grin Grin
มี 2 ภาค ครับ
ภาคแรก มี 24 เล่ม (เล่ม 1 - 24 ตามหาคุณชายกลาง และมีเจ้าชายพลัดถิ่นอยู่ในคณะเดินป่า)
ภาคสอง มี 24 เล่ม (เล่ม 25 - 48 ตามหา ระเบิดนิวเคลียร์ ของไอ้กัน สนุกเหมือนเดิม )
ลองหามาอ่านครับ รับรองจะติดใจ  เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า

"สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่งแคร่ สองคนพาไป"
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #54 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 01:35:48 PM »

บันทึกการเข้า
HoroHoro
Jr. Member
**

คะแนน 11
ออฟไลน์

กระทู้: 64



« ตอบ #55 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 08:49:32 PM »

สรุปเนื้อหาคร่าวๆนะครับ   จาก  http://www.petprauma.com/map/brief01.html

วันแรกที่ออกเดินทาง


ออกแต่เช้า บ่ายก็ถึงเขาโล้น กะพักที่นี่ 2 คืน
ดารินยิงนกเหยี่ยวด้วย .270 ติดกล้อง
เชษฐายิงกวางด้วยลูกซอง FN
ไชยยันต์ได้หมูป่า ด้วย .30-06 ที่เปลี่ยนกับรพินทร์
เจอจงอาง รพินทร์ซัดด้วย FN แต่ไม่อยู่ แงซายช่วยยิงจากเกวียนด้วยซองแฝดของไชยยันต์
ไล่ราวเลียงผา
กลางดึกทราบว่าไอ้กุดมาเยี่ยม
วันที่สองยังอยู่เขาโล้น

ดารินยิงหมวกรพินทร์ (ไพร1 , 228)
ช่วงเช้านายจ้างพักผ่อน รพินทร์ไปขัดห้าง ดารินไปยิงไก่กับบุญคำ เชษฐาเล่นหมากรุกกับไชยยันต์ (ไพร1 , 230)
เที่ยงดารินไปอาบน้ำ เจอช้างแม่ลูกอ่อน ล่อนจ้อนต่อหน้าพราน (ไพร1 , 247)
บ่าย นั่งห้าง ดารินกับเชษฐานั่งห้าง ไชยยันต์เดินตามรอยวัวแดง แต่กลับได้ยิงหมี
ระหว่างพาเชษฐาไปนั่งห้าง แงซายขว้างมีดตัดคองูเหลือม (ไพร1 , 263)
เชษฐาล่อวัวแดงจากห้างด้วย .30-06 มัลลิเคอร์
คืนนี้ไอ้กุดลากลูกหาบไปหนึ่งคน (เอิ้น) (ไพร1 , 285)
เชษฐาเฝ้าซากกับรพินทร์
วันที่สามยังอยู่เขาโล้น พิชิตไอ้กุด
- ผลัดกันเฝ้าซาก
- เชษฐาคู่แงซายยิงด้วยลูกซอง FN สองนัด เป็นเสือลำบาก
- รพินทร์ออกตตามแล้วซ้ำด้วย .375

วันที่สี่ มุ่งโป่งกระทิง
ช่วงนี้มีการแยกทาง รพินทร์พาไชยยันต์กับดารินไปยิงวัวแดง ส่วนเชษฐา ไปกับเกวียน กะพบกันที่โป่งกระทิงเวลาค่ำ
- คณะเชษฐาปะทะกับโขลงช้าง
- ช่วงค่ำ รพินทร์เอายาแก้เมื่อยขบมาให้กิน
- เห็นภาพกวางเสียบเสือดาว
- ซุปสันวัวแดง
- ดารินยิงเม่น เป็ดป่า
- เจ้าแหว่งมาเยี่ยมที่หนองน้ำ

วันที่ห้า ที่โป่งกระทิงวันที่สอง
- วันนี้พาแกะรอยกระทิง
- จันโดนงูหลามรัด
- รพินทร์ช่วยชีวิตแงซายจากการโดนเสือตะปบขณะตามฝูงกระทิง
- กลับถึงแค้มป์ตอนค่ำ ได้ทราบข่าว อิน..ลูกหาบโดนไอ้แหว่งเหยียบเละ
- คืนนี้ที่ดารินแสดงหนังใหญ่ จนรพินทร์โดนตบ

วันที่หก ที่โป่งกระทิงวันที่สาม
- ย้อนไปตรวจซากอินที่พุบอน
- รพินทร์พาเชษฐาไปลุยกลางฝูงไอ้แหว่ง และได้ปะทะกับโขลงไอ้แหว่งเป็นครั้งแรก

วันที่เจ็ด ที่โป่งกระทิงวันที่สี่
- พักหนึ่งวันเพื่อเตรียมไปนั่งห้างกลางคืน
- บ่ายดารินทำอาหารให้กิน

วันที่แปด ที่โป่งกระทิงวันที่ห้า
- นั่งห้างครั้งแรก
- ผึ้งเจ้าชู้
- ดารินถูกพงไพรหลอกหลอนจนต้องสมานางไม้

วันที่เก้า ที่โป่งกระทิงวันที่หก
- ไชยยันต์ออกตามกระทิงลำบาก
- รพินทร์เจ็บจากกระทิง
- ค่ำ แงซายบอกเคยตามนายขด

วันที่สิบ ที่โป่งกระทิงวันที่เจ็ด
- ทราบข่าวฝรั่งโดนไอ้แหว่งถล่ม
- บ่ายรพินทร์พาเชษฐาไปยิงเสือ ได้งาช้างกำจัดมาอันหนึ่ง
- พาเชษฐาไปดูช้างตกมัน
- ค่ำนั้น ช้างตกมันตัวนั้นบุกแค้มป์ โดนแงซายยิง
- กลางดึก โขมดดงมาเยี่ยมพร้อมกับการตายของของลูกหาบ...เลิน (ศพที่ 3)

วันที่ 11 (สงครามลิง, พักโป่งน้ำร้อน)
- มุ่งป่าหวาย
- สงครามลิง
- ระหว่างทางพบรอยไอ้แหว่ง รพินทร์กับบุญคำแยกไปสำรวจ
- ค่ำพักที่โป่งน้ำร้อน
- รพินทร์กลับมาพร้อมข่าวมีมหิงษาตามตูดเจ้าแหว่ง

วันที่ 12 (คืนแรก ที่แยกจากกองเกวียน)
- เที่ยงถึงหุบชะมด ให้ขบวนเกวียนไปรอที่ป่าหวาย
- ค่ำ เห็นภาพงูเหลือมวิดน้ำ
- ใกล้รุ่ง โขมดดงมาเยี่ยม

วันที่ 13 (คืนที่2 ที่แยกจากกองเกวียน, พิชิตโขมดดง)
- พิชิตโขมดดง
- พบแหล่งอัญมณี บ่อพลอย
- ช่วงบ่ายได้เห็นภาพเสือดาวถูกงูเหลือมรัดจนตาย
- ก่อนค่ำพบรอยมหิงสา เชษฐายิงโดนขาหลังซ้าย
- ค่ำพักที่ลำธาร และนี่คือเขตห้วยยายทอง ที่มีเสือชุม
- (เป็นครั้งแรกที่นายจ้างอยู่เวรยามด้วย)
- หัวรุ่งเชษฐายิงเสือที่แอบเข้ามาที่พัก

วันที่ 14 (คืนที่3 ที่แยกจากกองเกวียน พิชิตมหิงสา, น้ำป่าทะลัก)
- ออกตามมหิงสา
- พิชิตมหิงสาที่ข้างลำธาร โดยฝีมือดาริน ด้วยปืน .470
- กระซู่ตัวนั้นก็ล้มด้วยฝีมือแงซาย
- คืนนี้พักที่ลำธาร กะพรุ่งนี้ไปพบขบวนเกวียนที่ป่าหวาย (ซึ่งขณะนี้น่าจะพักที่ทุ่งช้าง)
- กองทัพหมาในมากินซากมหิงสา (กล่าวถึงครั้งแรก)
- น้ำป่าทะลัก

วันที่ 15 (คืนที่4 ที่แยกจากกองเกวียน, เพลงหนิงหน่อง, เสือกินคน)
- น้ำป่าซัดดารินกับรพินทร์มาใกล้กัน
- รพินทร์ร้องเพลงนิ๊งหน่อง !…
- เจอกองทัพหมาใน หนีขึ้นต้นไทร (เจอเองครั้งที่1)
- ดารินจับลูกเสือสามตัว
- ดารินเห็นคนนั่งสือมาชี้ให้เสือดูว่าคนฆ่าลูกมันอยู่บนต้นตะเคียน

วันที่ 16 (คืนที่5 ที่แยกจากกองเกวียน, พี่น้องพบกัน, ยิงเสือ)
- ดารินถูกงูเหลือมรัด ยกทรงทำผ้าพันแผล
- กลางคืนช่วยกะเหรี่ยงแม่เลิงยิงเสือได้เสือ 16 ตัว

วันที่ 17 ทะเลสาบบนภูเขา (คืนที่6 ที่แยกจากกองเกวียน, ตอกทอย,)
- ออกจากห้วยแม่เลิง
- แงซายตอกทอย จุดที่ออกนอกประเทศไทย
- ระหว่างอยู่บนสันเขา เห็นภาพฝูงเสือรุมโขลงช้าง
- บนเขาลูกนี้มีทะเลสาบ
- คืนนี้ที่ดารินยืนซบพิงอกรพินทร์ และแงซายพูดถึงการเวก

วันที่ 18 (คืนที่7 ที่แยกจากกองเกวียน, ลุยป่าพรุ, หมูหัน, ตาฝาดเห็นเสือ)
- เกิดได้เต่ามาตัวหนึ่ง แต่ดารินสั่งแงซายเอาไปปล่อย
- ลุยป่าพรุ เจอดงทาก ดงจรเข้ ดารินกลัวมาก ไม่ยอมลุยไปด้วย


(จบไพรมหากาฬเล่ม 4 ที่นี่)
- ข้ามคลองที่มีจรเข้ชุม ใช้สมเสร็จเป็นเหยื่อล่อความสนใจ
- พักในหุบเขากลางดงกล้วย อาหารเย็นเป็นลูกหมูหันบ้านป่า
- ไชยยันต์ตาฝาดเห็นเสือเป็นผู้หญิงเกาะเถาวัลย์
เชษฐาก็โดนด้วย รพินทร์เป็นคนยิงเสือตาย

บันทึกการเข้า

HoroHoro
Jr. Member
**

คะแนน 11
ออฟไลน์

กระทู้: 64



« ตอบ #56 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 08:50:53 PM »

วันที่ 19 (พบกองเกวียน ปะทะแหว่ง ดารินแก้บน เชษฐาเจ็บ)
- ลงจากเขาดอยนาง สู่ป่าหวาย
- บ่ายพบรอยเกวียน ควายตาย
- ได้ปะทะกับไอ้แหว่ง รพินทร์ได้โอกาสยิงแต่เจ้ากรรม กระสุนหมดพอดี
- สังเวยลูกหาบ 3 ศพ (ศพที่ 4-5-6 ) เกวียน 3 เล่มพังไปด้วย
- เอาไรเฟิลออกมาแจกจ่ายลูกหาบ
- ดารินเปลี่ยนมาใช้ บีเว่อร์ .300 แม็กนั่ม แทน .470 ที่เคยใช้
- คืนนี้เองที่ดารินแก้บนเจ้าป่าหนวดยาวนุ่งขาวห่มขาวมาทวง
- ตีสอง โขลงไอ้แหว่งล้อมแค้มป์อีกครั้ง ลูกหาบสังเวยอีกหนึ่งศพ... ศพที่ 7
- เชษฐาได้รับอุบัติเหตุแผลฉกรรจ์ที่ขาอ่อนเหนือเข่าซ้าย


วันที่ 20 (ผ่าตัดเชษฐา )
- ผ่าตัด เชษฐากับแงซายมีเลือดกรุ๊ป เอบี เนกกาถีบ
- ช่วงย่ำค่ำ เชษฐารู้สึกตัว แต่กำลังใจยังดี เตรียมแผนล่าไอ้แหว่งต่อ

วันที่ 21 (ย้ายแค้มป์, พัก, เปลี่ยนผ้าพันแผลเป็นผ้าพันคอ )
- ย้ายแค้มป์ขึ้นไปอีก 5 กิโลเมตร
- รพินทร์พบว่าขาหลังซ้ายของไอ้แหว่งหัก และกลับไปเขานาง
- ดารินเปลี่ยนผ้าพันแผลจากบราเซียเก่ามาเป็นผ้าพันคอ

วันที่ 22
- หกคนออกไปล่าไอ้แหว่ง
- ช่วงค่ำดารินแสดงอาการพิรุธให้เชษฐาจับได้ว่าสนใจพรานนำทาง
- คืนนี้เองที่ดารินล้วงตับบุญคำ รู้เรื่องรพินทร์อกหักจากแสงโสม
(ถ้าไม่สนใจเค้า....สนใจเรื่องเค้ามทามมาย....)

วันที่ 23 - 26
- รอคอย

วันที่ 27
- รพินทร์กลับมาเพราะรอยไอ้แหว่งย้อนกลับมาที่แค้มป์

วันที่ 28
- ออกตามต่อ คราวนี้ดารินไปด้วย
- ดารินเป็นคนยิงไอ้แหว่งบาดเจ็บด้วยปืน .300 ถูกที่ท้อง
- ค้นพบด่านลับเข้าหุบหมาหอน อยู่หลังน้ำตก

วันที่ 29
- ตามรอยไอ้แหว่งไปตามถ้ำหลังน้ำตก
- พบซากไอ้แหว่งตายอย่างสมศักดิ์ศรีในถ้ำหลังน้ำตก

วันที่ 30
- พักหนึ่งวัน

วันที่ 31 - 32
- เดินทางต่อ

วันที่ 33
- หมู่บ้านร้างพุเตย
- เส่ยทำเรื่อง หนียามไปพรอดรักกับผียะขิ่น

วันที่ 34
- คืนนี้เองที่งูยักษ์(ตัวผู้)มาปรากฏ และควายหายไปหนึ่งตัว

วันที่ 35
- ช่วงสายๆ พบเจ้ามุถูกหมูขวิดไส้ไหล
- หลังเที่ยงถึงหล่มช้าง
- ดารินยิงมะขวิดข่มขวัญคะหยิ่น จนคะหยิ่นนับถือเป็นแม่มด
- พบเกวียนของนายชด ที่ฝากไว้กับคะหยิ่น

วันที่ 36
- คะหยิ่นเกณฑ์ลูกบ้านออกไปตัดไม้ทำบ้านให้คณะเดินทาง
- สายๆแงซายทำธนูยักษ์เสร็จ
- คืนนี้รพินทร์จับไข้สั่นครั้งแรกให้นายจ้างเห็น

วันที่ 37
พิชิตงูยักษ์ทั้ง 2 ตัว

วันที่ 38
- นายเมยกับลูกหาบลากลับ
- คะหยิ่นตัดสินใจไปด้วย


ช่วงหล่มช้าง เนินพระจันทร์

วันที่ 1
- มุ่งเขาหัวแร้ง
- ช่วงเย็น รพินทร์ค้นพบหลักฐานของชด ประชากร คือซองบุหรี่ลักกี้สไตรค์เก่าๆ กับลูกปืน .450
- ตี 2 ฝนตกหนัก

วันที่ 2
- บุญคำกับคะหยิ่นพบรอยเท้าสางเขียว
- เจอรังมะราบรี และรอยถูกสางเขียวฆ่า
- พบตำแหน่งที่พักของนายชด แผ่นหินเรียบมีรอยเขียนด้วยถ่าน พร้อมลงชื่อ และวันเวลาที่นายชดมาพัก
- พบภาพสางเขียวกำลังกินนางเที๊ยะลูกเจ้าเกอะ
- ช่วยชีวิตมะราบรีได้คนหนึ่ง ชื่อเจ้าเกอะ
- พบส่างปา ผู้มาตามเสียงปืน

วันที่ 3
- ดร.ฮ๊อฟมันถูกสางเขียวฆ่าด้วยหอกที่ลำธาร
- มาเรียถูกสางเขียวจับตัวไป
- ส่างปาถูกธนูอาบยาพิษ คะหยิ่นช่วยแก้พิษให้
- กลางดึกซ้อนกลจับเจ้าลูได้

วันที่ 4
- เจ้าลูนำทาง
- ไปถึงถิ่นสางเขียวเย็นมากแล้ว
- แงซายตอกทอย
- มุมบาโดนหอกเจ้าเกอะ
- รพินทร์กับดารินติดฝั่งนี้
- รพินทร์จับไข้สั่น

วันที่ 5
- หัวรุ่งแงซาย ไชยยันต์กับคะหยิ่นข้ามมาถล่มหมู่บ้านสางเขียวด้วยธนูติดระเบิด
- ซูซูโดนระเบิดตายด้วย เป็นการตัดศึกสางเขียว
- เดินทางกลับฐานที่มั่นที่เขาหัวแร้ง ถึงย่ำค่ำ
- มาเรียปวดประจำเดือน
- แงซายใช้ปืน .460 เวเธอร์บีแม๊กนั่ม
ส่วน .375 ของดาริน ให้ส่างปาแบกไปแทน
- คืนนี้ที่มาเรียเล่าประสบการณ์ชีวิตของตัวเองให้ไชยยันต์ฟัง

วันที่ 6
- พัก 1 วัน
- แงซายลองปืนกับต้นตะเคียนใหญ่
- มาเรียให้เชษฐาตัดผมสั้นด้วย


(จบดงมรณะเล่ม 4 ที่นี่)
- เกิดอาเภทกับนางตะเคียน ที่ชื่อ อรัญญานี (ฉบับปรับปรุง ชื่อนี้โดนตัดออก)

วันที่ 7 (วันแรกที่ออกจากเขาหัวแร้ง มุ่งตะวันอออกเฉียงเหนือ)
- เดินทางต่อไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ (จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3487)
- ขณะนี้น่าจะอยู่เหนือรัฐกะยาขึ้นมาแล้ว และน่าจะอยู่ตอนใต้ของรัฐไทยใหญ่ ถ้าตั้งเข็มไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ - ก็จะพบกับพรมแดนไทยส่วนใดส่วนหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ (จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3489)
- ช่วงคำพัก เจอคราบงูใหญ่ (จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3499)
- เขาที่พักนี้เรียกว่า เขาก็องกอย ขาดน้ำ
- ตี 2 ก็องกอย ปรากฏตัว ยิงกวางดาวได้ แต่ไม่ตาม รุ่งเช้าเหลือแต่ซาก (จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3600)


วันที่ 8 (ยังไต่สันเขาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่สองบนเขากองกอย)
- รพินทร์วางเข็มขึ้นตะวันออกเฉียงเหนือ หาน้ำ
- ก่อนค่ำกระทิง(ตาซ้ายบอดด้วยรอยเล็บเสือ)บุก ถูกมาเรียยิงคว่ำ (จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3555)
- ค่ำนี้จับก็องกอยได้ มันบอกให้ช่วย จงบ่ายหน้าไปทางตะวันตกของเขาลูกนี้ สองคืนสองวัน ท่านจะพบกับนครแห่งความหลับ ซ่อนอยู่กลางป่าลึก (จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3642)

วันที่ 9 (มุ่งตะวันตก เริ่มผ่านทุ่งมรณะบางส่วน)
- ตื่นตอนสายพบว่าแงซายหายพร้อมแผนที่เดินทาง จึงต้องออกตามรอย
- พบต้นขี้หนูยักษ์ต้นแรก ตะขาบยักษ์ = เรือบก
- ช่วงก่อนค่ำไชยยันต์โดนตะขาบกัด รักษาด้วยเนื้อตะขาบผสมพริกขี้หนูยักษ์



จบจอมผีดิบมันตรัยเล่ม 1 ตรงที่ไชยยันต์โดนกัดเหมือนตายแล้ว
- ระหว่างที่ไชยยันต์เหมือนตาย ถูกค้างคาวยักษ์โจมตี ตอนแรกจะมาคาบตะขาบ เมื่อเจอการต่อต้านก็หันไปโจมตีพวกที่ไปเอาพริกขี้หนู

วันที่ 10
- ตามรอยแงซายต่อ ท่ามกลางภาวะขาดน้ำ
- พบรอยเสือโคร่งดำตัวเท่าม้า = เสือแมลงภู่
- ขณะนี้อยู่ในนรกดำแล้ว
- บ่ายสี่โมงป่าเริ่มโปร่ง พบละมั่งที่ตายเพราะค้างคาวดูดเลือด เป็นอาหาร
- คืนนี้ไชยยันต์ละลายในมือมาเรีย พร้อมๆที่คะหยิ่นได้กลิ่นเสน่ห์จันทร์
- กลางคืนค้างคาวบุกในขณะที่รพินทร์หลับด้วยยานอนหลับ

วันที่ 11
- ทุ่งมาเรียล้ม มาเรียทรุดแล้วทรุดอีก
- พบศพตายซากของมันนอนแช่น้ำ
- เข้าดงเถาวัลย์กินคน พบบันทึกแจน เครเมอร์
- พบเสือหินในถ้ำ
- คืนนี้เองที่เชษฐาได้ยินเสียงมโหรี ส่วนรพินทร์ได้ยินเสียงฆ้องใหญ่
- ดารินฝันถึงเรื่องนิทรานคร

วันที่ 12
- เสือโคร่งดำแอบผลักหินกลิ้งลงมาถูกปืนของเชษฐาพัง เชษฐาจึงเปลี่ยนมาใช้ปืน .460ของฮอฟแมน
- มีช่วงหนึ่งที่พบซากผีตายซาก กำลังหาฟืนมาเผา ก็โดนโคร่งดำกระโจนเข้ามาคาบซากนั้นหนีไปได้
- เกิดไฟป่าล้อม ต้องดิ้นรนวิ่งกลับมาที่ถ้ำ สุดท้ายโขลงช้างก็หนีไฟเข้ามาในถ้ำด้วย
- แต่ละคนตกลงในเหว รพินทร์กับดารินไปคู่หนึ่ง ไชยยันต์กับเมย์คู่หนึ่ง
- ส่วนเชษฐากับลูกหาบที่เหลือตกลงในปล่องตื้นๆจึงคลานขึ้นมาเก็บสัมภาระทั้งหมดไว้ได้

- ฝ่ายไชยยันต์ตื่นกับมาเรียสลบไปไม่เกินชั่วโมงก็ฟื้นในวันนั้น
- งมกันอยู่ในถ้ำใต้ภูเขา พบปล่องลาวา สุดท้ายมาเจอเสือหิน แล้วก็พบทางออกสู่โลกภายนอก ในตะวันบ่าย
- ทั้งคู่ก็หลับอยู่แถวนั้นนั่นเอง มาเรียยิงได้เลียงผาเป็นอาหารในช่วงโพล้เพล้
- แล้วทั้งคู่ก็เล่นยิมนาสติกลีลาใต้น้ำกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง
- กลางดึกค้างคาวยักษก็มาเยือน ถูกยิงบาดเจ็บหนีเข้าถ้ำไปอาบไฟเย็น

วันที่ 13
- รุ่งขึ้นทั้งคู่ตามรอยค้างคาวเข้าไปในถ้ำ พบไฟเย็น
- เก็งกองช่วยนำทางจนออกมานอกถ้ำได้ในตอนบ่ายราวสี่โมงเศษๆพบป่าดงดิบ
- ทั้งคู่จับปลาในลำธารมาปิ้ง ปรากฏว่าไปปิ้งบนหลังงูยักษ์
- แล้วทั้งคู่ก็พบซากกำแพงเมืองโบราณ
- แล้วคืนนั้นมาเรียก็เป็นประจำเดือนอีกครั้ง

รพินทร์กับดารินตกลงไปในถ้ำสลบเหมือดตั้งแต่บ่ายวานจนบ่ายวันนี้จึงรู้สึกตัว
- เดินตามลำธารใต้ภูเขาออกมาได้ในช่วงหัวค่ำ รพินทร์ร้องเพลงหนิงหน่องอีก
- ออกมาได้ ดารินเป็นตะคริวทั้งตัว
- ช่วงดึกมันตรัยในซากคนและซากเสือมากวน
- รพินทร์ถอดสร้อยคอให้ดารินใส่กันผี

วันที่ 14
- แงซายปรากฏตัวนำมาพบบุญคำที่ปีนต้นไม้หนีโขลงช้าง
- รพินทร์ต้องตอกทอยขึ้นไปรับบุญคำลงมาจากต้นกร่างใหญ่
- บ่ายแก่ๆก็มาพบกับรอยงูยักษ์ ซากกำแพง และร่องรอยที่พักของไชยยันต์กับมาเรีย
- บุญคำเก็บผ้ายันต์ของดีของมาเรียไว้
- ช่วงใกล้ค่ำก็พบต้นพริกยักษ์ และปะทะกับตะขาบยักษ์ที่ดงสัก
- ค้างคาวยักษ์โดนหอกโมกศักดิ์หักติดอกค้างคาวไป

- ฝ่ายไชยยยันต์กับมาเรีย เดินตลอด 10 ขั่วโมง และในวันนี้ช่วงเย็นนั้นเองที่ถูกมันตรัยหลอกล่อให้ยิงกันเอง
(และนั่นเองเป็นที่เกิดวาทะ "ขอบคุณ ต่อฝีมืออันบรมห่วยของคุณ" )

วันที่ 15
- รุ่งขึ้น ไชยยันต์กับมาเรียออกเดินทางต่อ ช่วงบ่ายก็มาพบสุสานนิทรานคร
- ในขณะที่ฝนกำลังตกหนักและทั้งคู่ก็ติดกับมันตรัยถูกขังตายไว้ในสุสานนั้น

- รพินทร์-ดารินตามรอยไชยยันต์ต่อ
- ก่อนเที่ยงฝนตกหนัก ช่วงบ่ายฝนหยุดตก
- รพินทร์พบปลอกกระสุนลูกซองของลูกหาบและก้นซิการ์ฮาวาน่าของเชษฐา


วันที่ 16
บ่ายสองโมงรพินทร์ก็เจอร่องรอยพักแรมของเชษฐา
- ช่วงบ่ายคล้อยก็พบนิทรานครและโลงแก้วพันธุมวดี


(จบตอนจอมผีดิบมันตรัยที่นี่)

อาถรรพณ์นิทรานครเริ่มตรงนี้

- ดารินถอนกริชออกจากคัมภีร์ วิญญาณต้องสาปได้รับการปลดปล่อย
- พบกันพร้อมหน้าทุกคนมาช่วยไชยยันต์กับมาเรียออกจากสุสาน ด้วยการระเบิดปากถ้ำ
- ระเบิดปราสาทพันธุมวดี
- คืนนี้ดารินถอดพระเครื่องและไถ้ที่แขวนคอคืนให้รพินทร์
- และคืนนี้เช่นกันที่รพินทร์ตกเป็นเหยื่อสมิงสาว ถูกรีดความเป็นชายออกมาจนเขื่อนแตก
- แต่เขาก็ฝากฝ่ามืออรหันต์ไว้ที่กลางอกของนางสมิงเช่นกัน
- กลางดึก ดารินหายตัว ไม่มีอาวุธใดๆติดตัวไป
- ต่อรองกับมันตรัย จะนำคัมภีร์อุบาทว์ไปวางไว้ที่ซากปราสาทพันธุมวดีก่อนตะวันตกดินเป็นการแลกเปลี่ยนกัน
บันทึกการเข้า

HoroHoro
Jr. Member
**

คะแนน 11
ออฟไลน์

กระทู้: 64



« ตอบ #57 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 08:51:31 PM »

วันที่ 17
- นำคัมภีร์ไปวางพร้อมดักซุ่ม
- ช่วงบ่ายวรมันต์พาดารินมาส่งถึงแคมป์
- แผนการณ์เปลี่ยน ไชยยันต์เอาระเบิดผูกคอเสือ
- ตกดึกรพินทร์กับคะหยิ่นไล่ปล้ำกับมันตรัย
- มันตรัยหนีขึ้นหน้าผาเจดีย์

วันที่ 18
- อวสานมันตรัยและเสือโคร่งดำ
- ฌาปณกิจมันตรัยพร้อมทั้งคำภีร์และกริช
- ดารินหลับและฝันเห็นประวัตินิทรานคร
- ไชยยันต์ละเมอใส่รพินทร์ "เมย์ ยู อาร์ เวรี่ ไท๊ท์ ! ! ค์ว็อท อะ แดม กู๊ด ! !"
- ดารินเร่งเร้าให้ไปตามแงซาย แต่คนอื่นไม่เห็นด้วย ก็เลยได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับ สมิง สาง สางห่า

วันที่ 19
- แงซายโดนแมลงมุมหกขากัด ส่างปาช่วยถอนพิษ
- ช่วงเย็น ปะทะกับช้างโบราณ ไดโนเทเรี่ยม
- ช่วงค่ำหลังอาหาร ได้เอาแผนที่เดินทางมาพิจารณา
- วันนี้คือวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม และวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 12 คือวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน
- รพินทร์บอกขณะนี้ผ่านเขตเหนือสุดของรัฐว้าแล้ว
- คืนนี้ที่ไชยยันต์ล่มปากอ่าว

วันที่ 20 (วันที่ 12 ตุลา)
- ช่วงเช้ารพินทร์อารมณ์เสียกับดาริน
- รพินทร์ก็จู๋จี๋กับดาริน มีรายการขโมยปลาด้วย
- นายจ้างทั้งสามกับรพินทร์และแงซายไปตรวจซากไดโนเทเรี่ยม
- มาเรียชวนดารินอาบน้ำที่ลำธาร บุญคำกับรพินทร์ช่วยยิงเสือเขี้ยวดาบ
- และแงซายก็ช่วยชีวิตรพินทร์โดยยิงเสือเขี้ยวดาบอีกตัวที่กำลังจะกระโจนใส่รพินทร์กับบุญคำ
-รพินทร์พูดคุยกับแงซาย , ถามเรื่องเวรยาม, ดาริน-บุญคำ ตะบันไฟ
- คืนนี้ไชยยันต์สกัมมาเรีย ทั้งตบทั้งอึ๊บ จนกรรมการต้องมาแยก

วันที่ 21 (วันที่ 13 ตุลา)
- เดินทางต่อมุ่งเขาเกือกม้าซึ่งอยู่ทางตะวันออกของนิทรานคร
- พบแรดอาร์สินอยตัวแรก ตัวนี้ตายด้วยฝีมือไชยยันต์
- พบใบตะบองเพชรถูกรอยมีดเฉือน
- ยามโพล้เพล้พบกระโหลกเสือเขี้ยวดาบที่โดนกระสุนปืน
- ในดงแคคตัสนี้เองทีรพินทร์พบร่องรอยของนายชด
- ช่วงค่ำปะทะไทรัน เพราะส่างปาทำปืนลั่น
- รพินทร์สลบติดในถ้ำมีดาริน เกิด จัน รวม 4คน ช่วงนี้แหละที่รพินทร์กับดารินบอกรักกัน
- ในอีกฟากหนึ่งมาเรียกับไชยยันต์อีกคู่ที่ตกลงจะอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยา ทั้งๆที่ไม่มีต้นเสน่ห์จันทร์ส่งกลิ่น
- ดารินยิงตาซ้ายของไทรันด้วย .300
- คืนนี้พักที่ป่าหิน

วันที่ 22 (วันที่ 14 ตุลา)
- ระหว่างทางออกหาน้ำเจอแอ่งน้ำแต่ใช้ไม่ได้เพราะเจ้าไทรันขวางอยู่ที่นั่น
- มาเรียบ้าเลือดวิ่งหาไทรัน รพินทร์ก็เลยต้องวิ่งตามไปช่วย จวนเจียนโดนไดโนเสาร์คาบ ก็เกิดแผ่นดินไหว
- รพินทร์กับมาเรียติดในถ้ำ และในถ้ำนี้เองที่รพินทร์เสียตัวให้มาเรียจนได้

วันที่ 23 (วันที่ 15 ตุลา)
- เจอรังนกโกลเด้น อีเกิ้ล
- แงซายตอกทอยขึ้นมาช่วย (สงสัยรพินทร์เข่าอ่อนปีนลงไม่ไหว...คุณว่าไหม)
- พักที่โอเอซีส ตกดึกไทรันย่องเข้ามา แต่ก็กระสากลิ่นควันไฟจึงถอยหนี
- คืนนี้ที่รพินทร์จับไข้สั่นอีกครั้ง นับเป็นครั้งที่ 3 (ครั้งแรกที่หล่มช้าง ครั้งที่สองที่ดงสางเขียว)

วันที่ 24 (วันที่ 16 ตุลา)
- เจอหลักฐานอนุชา รอยมีดที่สลักบนซากเก่าแก่ของต้นปาล์ม ข้อความว่า "เกาะแห่งชีวิต - อนุชา วราฤทธิ์ - หนานอิน 30/9/25..."

- เกือบโพล้เพล้ก็ถึงป่าหินใกล้ๆช่องเขาขาด
- เห็นไทรันนอนขวางอยู่ที่ช่องเขาขาดซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 2.5 - 3 กิโลเมตร


(จบอาถรรณพ์นิทรานครเล่ม 4 ที่นี่)
- ตั้งแค้มพักที่ป่าหินตรงนี้น กลางคืนฝนตกหนัก
- ตัวแทร็คโคด่อนคู่หนึ่งออกหากิน เดินไปที่ช่องเขาขาด ถูกไทรันขย้ำ

วันที่ 25 (วันที่ 17 ตุลา)
- พิชิตไทรันได้
- มาเรียสบักสะบอมมาก จึงพักที่นี่อีกหนึ่งคืน
- คืนนี้ที่แงซายเล่าเรื่องมรกตนครให้รพินทร์ฟัง

วันที่ 26 (วันที่ 18 ตุลา)
- มุ่งช่องเขาขาด ลงขอบทะเลสาบมรณะ
- มีเสียงบรอนโตเซารัส ผจญเทอราโนดอน (เทโรซอร์)
- พบบึงมรณะที่มีพืชกินคน พบกระโหลกสองหัว
- รพินทร์กับแงซายพบปลอกกระสุนปืน .450 ของอนุชา
- พักที่เนินหิน สร้างกระท่อมกันฝน มีไม้หนามมุงรอบกันค้างคาวผี
- โป่งค่างบนต้นกระบากโดนรพินทร์สอยร่วงลงมาด้วย .458
- กลับมาก็พบว่าสัมภาระและอุปกรณ์เดินทางหายไป
- คืนนี้คณะเดินทางถูกลิงปลดอาวุธ ควบคุมไว้ในกระท่อม เป็นเชลยลิง

วันที่ 27 (วันที่ 19 ตุลา)
- เป็นเชลยลิง ถูกกวาดต้อนมายังเขานิลกาญจน์
- ช่วยชีวิตวายา
- นมัสการฤาษีโกฑัญญะ
- ปราบตัวสามเขา
- แงซายโดนหินทับ ปืนหัก
- รพินทร์โดนไอ้ตัว 6 ขากัด

วันที่ 28 (วันที่ 20 ตุลา)
- รพินทร์พักฟื้น
- คณะนายจ้างไปนมัสการฤาษี
- ไชยยันต์แต่งงานกับมาเรียที่ลำธาร

วันที่ 32 (วันที่ 24 ตุลา)
- มุ่งแอ่งการเวก
- เจอพายุลูกเห็บ
- เส่ยกับส่างปา เป็นตะคริว ได้ยาร้อนบุญคำช่วยไว้ได้
- พบโอเอซีสที่เป็นป่าเกิดใหม่ไม่เกิน 300 ปี
- แงซายบอกอ่านภาษาพม่าโบราณออก
- คืนนี้ที่มาเรียโอกอาก

วันที่ 33 (วันที่ 25 ตุลา)
- ไชยยันต์สารภาพ ยอมรับเด็กในท้องมาเรียเป็นลูกตน
- เที่ยงแล้วยังหาช่องประตูผาไม่เจอ
- วันนี้ที่รพินทร์ให้แงซายถือลายแทงตัวจริงชั่วคราว
- รพินทร์ออกอุบายแยกเดี่ยวไปหาช่องประตูผา
- เย็นแล้วรพินทร์ยังไม่กลับมา เชษฐากับแงซายออกตาม

วันที่ 34 (วันที่ 26 ตุลา)
- แงซายพาเชษฐาไปรอที่หลุมอุกาบาตที่ 1
- รพินทร์เข้าใจผิด เกือบฆ่ากัน
- บ่ายฝนตกต้องมานอนในถ้ำ
- ค่ำฝนหยุด รพินทร์เจอเหมืองทองคำ
- ตกดึกมาเรีย แอบย่องมาขอยาร้อนบุญคำ
-แงซายบอกรพินทร์ว่าอาจต้องแยกตัวที่เนินพระจันทร์และเล่าเรื่องที่มาของตนเองว่าต้องกลับไปเพื่อทำหน้าที่ "ทศพิธราชธรรม"

วันที่ 35 (วันที่ 27 ตุลา)
- ก่อนค่ำพบหลุมอุกาบาตที่สอง ทุกคนหลับเป็นตาย

วันที่ 36 (วันที่ 28 ตุลา)
- เสบียงจากเขานิลกาญจน์หมด

วันที่ 37 (วันที่ 29 ตุลา)
- ช่วงตะวันกำลังลับฟ้า มาถึงป่าหินและภูเขาเตี้ยๆ อันเป็นบริเวณเชิงทิว
- ฝนตกหนัก แงซายต้องยิงธนูติดระเบิดเพื่อเปิดโพรงถ้ำ เพื่ออาศัยหลบพายุฝน
- ตกดึกทุกคนหิวและหนาวจนต้องพึ่งยาร้อนบุญคำ


วันที่ 38 (วันที่ 30 ตุลา)
- พบหลุมอุกาบาตที่ 3
- เดินทางต่อ คะหยิ่นพบแหล่งนอนที่เป็นบ่อน้ำร้อน
- คืนนี้เป็นคืนแรกที่หิมะตกบนเขาพระศิวะ
- รพินทร์ยิงหมีตัวโต9ฟุตได้ เอาหนังกับน้ำมันมาใช้ประโยชน์

วันที่ 39 (วันที่ 31 ตุลา)
- เดินทางได้ไม่เท่าไหร่ ดารินก็เป็นง่อย จากโรคเก่า รูมาตอยด์
- ช่วงนี้เองที่รพินทร์พบร่องรอยของอนุชาและหนานอิน
- แงซายยิงสัตว์ประเภทเลียงผาใช้น้ำมันของมันผสมกับรากไม้บางชนิดเคี่ยวให้เข้ากัน (โดยต้องกินดีของมันด้วย) รักษาดาริน
- ตอนค่ำมาเรียเป็นคนชโลมน้ำมันและนวดให้ดาริน อาการดารินดีขึ้นอย่างมาก

(จบป่าโลกล้านปีเล่ม 4 ที่นี่)
วันที่ 40 (วันที่ 1 พฤศจิกายน ขึ้น 3 ค่ำเดือน 12)
- รุ่งเช้า ดารินหายเป็นปกติ ออกเดินทางได้
- บรรลุถึงบริเวณเนินจันทร์ ช่วงบ่ายของวันนี้

วันที่ 41 (วันที่ 2 พฤศจิกายน ขึ้น 4 ค่ำเดือน 12)
- สำรวจลู่ทางและร่องรอยคนหาย
- ปะทะหมาป่า
- พบหลักฐานการมาถึงเนินจันทร์ของคนสูญหาย
- ตกกลางคืน ฝีปอบอาละวาด

วันที่ 42 (วันที่ 3 พฤศจิกายน ขึ้น 5 ค่ำเดือน 12)
- กลางวันออกตรวจตราไปทุกที่ ก็ไม่เกิดปัญญาใดๆให้ตีปริศนาลายแทงได้
- และแล้วเมื่อพระจันทร์เสี้ยวของคืน5ค่ำแตะเขาศิวะเทพ ปรากฏการณ์ก็สว่างไสว ถันพระอุมาก็ปรากฏ เป็นเวลา 12 นาที 35 วินาที
- เวลา 03.25 น. พักที่เวิ้งถ้ำเล็กๆ (ถ้ำเล็กๆทางด้านเหนือของเต้านมด้านใต้สุดของภูเขาสองลูก)
- เจ้าของลายแทงมาเข้าฝันดาริน แล้วก็พบโครงกระดูกของเจ้าของลายแทงในถ้ำนั้นเอง


ช่วงเข้ามรกตนคร
วันที่ 1 (วันพุธ ที่ 4 พฤศจิกายน ขึ้น6 ค่ำ เดือน 12)
- ตื่นเที่ยง (เวลาในมรกตนครช้ากว่าเวลาจริง 7 ชั่วโมง)
- 3 ชั่วโมงเศษของการไต่เขา ก็พบพระศิวะแอดเวนิว
- ทันทีที่เหยียบหัวถนน นาฬิกาของเชษฐาก็หยุดเดิน เวลา 15.35 น.กับ 22 วินาทีของวันที่ 4 พฤศจิกายน
- เดินตามถนนที่ลาดต่ำลงมาราว 4 ชั่วโมงเศษทุกคนก็เหนื่อยล้า เป็นมาเรียที่สังเกตเห็นเงาตะวันว่าเพิ่งเที่ยงหรือเลยเที่ยง
- ทุกคนหยุดพักใต้ร่มต้นไม้ข้างลำธาร จับปลามาย่างกินแล้วทุกคนก็หลับเป็นตายจนเกือบรุ่งเข้า

วันที่ 2 (วันที่ 5 พฤศจิกายน ขึ้น7 ค่ำ เดือน 12)
- แงซายหาย
- ถูกกองทัพรหัสยะล้อม
- ไปกับกองทัพมรกตนคร
- หลังพักเที่ยง กุตะมะโดนธนูอาบยาพิษ
- ช่วยรักษานักโทษ ก็เลยได้ข้อมูลต่างๆมากมาย
- ค่ำเสือร้ายเมยานีปล้นค่าย

วันที่ 3 (วันที่ 6 พฤศจิกายน)
- แงซายส่งสัญญาณมอร์สเมื่อเชลยผ่าน "ประตูปิศาจ"
- กลางดึกดารินออกเลียบค่าย เจอเมยานี
- เมยานีเล่าเรื่องของตนเองและจักราช

วันที่ 4 (วันที่ 7 พฤศจิกายน)
- เฝ้ากษัตริย์สิงหรา
- หลงกลสิงหราลงมาดูคนหายในคุก ก็เลยโดนขังไปด้วย
- กุตะมะเปิดทางลับ
- ออกเดินทางมุ่งเขาวงพระจันทร์

วันที่ 5 (วันที่ 8 พฤศจิกายน)
- มาพบจักราชและขุนพลอรชุน
- กินอาหารแล้วนอน
- ช่วงเย็นทุกคนตื่นมาเพาะเสียงม้าศึกหน้าถ้ำ เมยานีโชว์เพลงดาบดับเทียน 19 เล่ม

วันที่ 6 (วันที่ 9 พฤศจิกายน)
- เปิดศึกกับสิงหราและรหัสยะ
- เป็นไปตามแผน รหัสยะหลงกลพาทหารมาตายในหุบเขา
- แต่กุตะมะก็ต้องหอกเสียชีวิต
- บ่ายใช้ธนูติดระเบิดถล่มประตูเมือง
- พิชิตสิงหราและรหัสยะอย่างง่ายดายที่สนามชัย
- เผาแม่มดวาชิกา

วันที่ 7 (วันที่ 10 พฤศจิกายน)
- ศพกุตะมะเก็บไว้ที่สุสานอุมาเทวี
- ทุกคนก็ได้ยลโฉมเพชรพระอุมาของจริง

วันที่ 8 (วันที่ 11 พฤศจิกายน)
(วันนี้ไม่มีบรรยายเหตุการณ์)

วันที่ 9 (วันที่ 12 พฤศจิกายน)
- แงซายขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ
- ข้าราชบริพารและลูกเมีย ญาติทรราชได้รับโทษตามโทษานุโทษ

วันที่ 13 (วันที่ 16 พฤศจิกายน)
- ( ในย่ำสนธยาของวันที่ 4 )
- แงซายจัดงาน Thank you Party ในชุดเดิมของแงซายสมัยเดินป่า
- แงซายขอส่างปาอยู่มรกตนครในฐานะแพทย์หลวงและพระสหาย

วันที่ 17 (วันศุกร ที่ 20 พฤศจิกายน)
- วันกลับ จักราชมาส่ง
- พักระหว่างทางหนึ่งคืน (ระยะทาง 9 ใน 10 ส่วน)
- จักราชให้แหวนดารินเป็นที่ระลึก
- ให้แหวนกับมาเรียเช่นกัน

วันที่ 18 (วันเสาร์ ที่ 21 พฤศจิกายน)
- ณ ปลายถนน ต่างร่ำลากันทั่วทุกคน
- จักราธิราชทรงมอบตราของราชวงศ์เทพแก่รพินทร์
- เส่ยและหนานอินได้ดาบของมรกตนครจากสุกรีคนละเล่ม
- เมื่อลงมาถึงป่าสน นาฬิกาของเชษฐาก็เริ่มเดินอีกครั้ง
- รพินทร์กะจะตัดตรงไปหมู่เขานิลกาญจน์โดยไม่ผ่านหลุมอุกาบาต แล้วมุ่งตรงสู่หล่มช้าง

***** จบภาคแรก ครับ *****
บันทึกการเข้า

nick357 "รักในหลวง"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 197
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1843


no!!! conflict.let'sit and talk!!!!


« ตอบ #58 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2010, 01:22:19 AM »

ผมชอบ ม.ร.ว ดาริน.. ในเรื่องชอบตอน เอาผึ่งออกจากอกเสื่อ.......อ่านเเล้วนั่งเเกร็งงงงงง...........กลัวโดนผึ่งต่อยย Grin
บันทึกการเข้า
บ้านชายหาด
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 284
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7435



« ตอบ #59 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2010, 01:37:16 AM »

คุณHoroเยี่ยมเลยครับ...

ผมอ่านจบไปตั้งแต่ปี32แล้วไม่ได้อ่านอีกเลย...หนังสือหายไปเกือบหมด...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.109 วินาที กับ 22 คำสั่ง